ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 499 ปล่อยนางไป
บทที่ 499 ปล่อยนางไป
บทที่ 499 ปล่อยนางไป
ณ สถานที่ตั้งของจิ้งจอกโลหิต เทียนเม่ยเอ๋อร์กับจิ้งจอกโลหิตกำลังห้ำหั่นกัน
เมื่อมองเห็นโอกาส ร่างมายาของจิ้งจอกสวรรค์ซึ่งอยู่ด้านหลังนางจะปรากฏแล้วทำการโจมตีในทันที!
ในที่สุด ทางออกบางแห่งก็เปิดออกเพื่อการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสอง!
เทียนเม่ยเอ๋อร์กับจิ้งจอกโลหิตร่นถอยพร้อมกัน จากนั้นทะยานขึ้นไปในอากาศธาตุ
นางยังคงถือกระบี่ด้วยสองมือ แต่ปลายกระบี่กลับสั่นไหวเล็กน้อยยามสัมผัสกับพื้นดิน
การกระทำนี้ไม่อาจเล็ดรอดสายตาของจิ้งจอกโลหิตไปได้
มันยิ้มหยันอยู่ภายใน ร่างของเทียนเม่ยเอ๋อร์ถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่มันยังคงเพิ่มพูน!
กระบี่ของเทียนเม่ยเอ๋อร์ลดต่ำลง หากยกขึ้นอีกครั้ง พลังของมันย่อมไม่อาจเท่าดังเดิม ถึงตอนนั้นนางก็จะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ!
ดวงตาของจิ้งจอกโลหิตเหลือบมอง จากนั้นร่างขนาดใหญ่ก็หายไปจนมองไม่เห็น!
เทียนเม่ยเอ๋อร์กุมกระบี่ไว้มั่น โดยจิตเทวะของนางแผ่ขยายเพื่อทำการตรวจจับร่องรอยของจิ้งจอกโลหิตบริเวณพื้นที่รอบข้างอย่างต่อเนื่อง!
“ไม่ต้องหา ข้ามาแล้ว”
เสียงแปลกประหลาดดังขึ้นจากด้านหลังเทียนเม่ยเอ๋อร์ เมื่อนางหันไปก็พบกับใบหน้าขนาดใหญ่ของจิ้งจอกโลหิต โดยลูกตาสีโลหิตของมันเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
“ทายาทจิ้งจอกสวรรค์เอ๋ย ตายซะ!”
จิ้งจอกโลหิตคำรามอย่างเกรี้ยวกราดขณะแรงกดดันไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออกมาราวกับฟ้าถล่มดินทลาย!
เทียนเม่ยเอ๋อร์ตวัดกระบี่ออกไปแล้ว แต่พลังของมันไม่แก่กล้าเหมือนก่อนหน้า
แรงกดดันของจิ้งจอกโลหิตในครั้งนี้ยิ่งเพิ่มพูนขณะกลิ่นอายที่พลุ่งพล่านประหนึ่งคลื่นยักษ์แผ่ออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า!
“ตูม!”
เพียงพริบตา ร่างมายาของจิ้งจอกสวรรค์ซึ่งอยู่ไม่ไกลก็ถูกบดขยี้ก่อนจะกลายเป็นควัน
ทันทีที่ร่างมายาของจิ้งจอกสวรรค์แตกสลาย เส้นแนวตั้งบนหน้าผากของนางก็หายไป แล้วพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของจักรพรรดิจิ้งจอกสวรรค์ในร่างก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เทียนเม่ยเอ๋อร์พยุงร่างด้วยการคุกเข่าอย่างยากลำบาก แต่นางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนแล้ว
จิ้งจอกโลหิตอ้าปากกว้างและกำลังจะกลืนกินเทียนเม่ยเอ๋อร์เข้าไปในท้อง
แต่เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นไม่ไกลนัก “จิ้งจอกโลหิต ข้าอยากทำข้อตกลงกับเจ้า อยากฟังหรือไม่?”
จิ้งจอกโลหิตเหลือบมองด้านข้างก่อนจะพบว่าผู้มาใหม่เป็นเพียงร่างมายาที่เกิดจากจิตเทวะ ร่างดังกล่าวแก่ชราคล้ายกับใกล้ถึงแก่ความตาย แต่ในตอนนี้ ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อและเต็มไปด้วยความภาคภูมิ
“อยากพล่ามอะไรก็ว่ามา”
จิ้งจอกโลหิตพบว่าร่างมายาดังกล่าวคือคนของจิ้งจอกสวรรค์
ผู้มาเยือนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซู่เฟิง เขาฉวยโอกาสที่แม่ทัพทั้งหลายกำลังต่อสู้กับโฉวโยวเพื่อส่งจิตเทวะส่วนหนึ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
ดังที่คาดเอาไว้ เทียนเม่ยเอ๋อร์ถูกกำราบสิ้น
แต่ว่า ยังไม่ถูกฆ่า
ซู่เฟิงไม่พูดจาอ้อมค้อมก่อนจะเผยความตั้งใจทันที “จิ้งจอกโลหิต ถ้าเจ้าฆ่าผู้หญิงคนนี้ เจ้าก็จะได้เพียงความสุขชั่วครู่ แล้วมันมีประโยชน์อันใดเล่า?”
“หากเจ้าเมตตาไว้ชีวิตนาง เจ้าสามารถกินทุกสิ่งในดินแดนของข้าได้มากเท่าที่ต้องการ!”
คำพูดของซู่เฟิงเต็มไปด้วยความเฉยชา
คำพูดเหล่านี้ทำให้สมาชิกเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ทั้งหมดในดินแดนตกอยู่ในอันตราย!
ราวกับกลัวว่าจิ้งจอกโลหิตจะไม่เชื่อ ซู่เฟิงยื่นมือออกไปแล้วสร้างผนึก แล้วแสงสีทองกระจายไปทุกทิศทางของดินแดน จากนั้นจึงรวมตัวกันที่ด้านบนแล้วปิดกั้นทั่วทั้งดินแดนเอาไว้ รูปทรงของมันไม่ต่างจากกรงนก
“ข้ารู้ว่าเจ้าชอบเลือดเนื้อ ข้ารู้อีกด้วยว่าเจ้าชอบเผ่ามนุษย์เป็นที่สุด”
“ขอเพียงเจ้าปล่อยหญิงผู้นั้นไป ข้าจะเปิดคุกนี้เพื่อให้เจ้าเข้าไปกินได้มากเท่าที่ต้องการทันที!”
จิ้งจอกโลหิตเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังครุ่นคิด ผ่านไปสักพัก มันก็บังเกิดความคิดบางอย่าง
“ถ้าเจ้ากล้าโกหก ข้าจะจับเจ้ากินให้ดู!”
ซู่เฟิงยิ้มบาง “ไม่แน่นอน แม้กระทั่งผนึกนี้ก็ถูกเปิดออกโดยข้า! ข้าไม่โกหกเจ้าหรอก”
จิ้งจอกโลหิตยิ้มหยัน ชายชราผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา
เพียงมองปราดเดียว จิ้งจอกโลหิตก็ทราบว่าค่ายกลที่ติดตั้งเอาไว้ค่อนข้างพิเศษ หากชายชราไม่เป็นผู้เปิดด้วยตัวเองก็ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการเปิดออกมา
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จิ้งจอกโลหิตจะออกมา แถมพลังงานที่สั่งสมไว้ก็มีจำกัด หากยังมัวเสียเวลากับเรื่องอื่น มันจะกลายเป็นผลเสียโดยไม่จำเป็น
ทว่าระดับการฝึกยุทธ์ของชายชราไม่อาจเอาชนะมันได้
แม้กระทั่งชายชราก็ไม่กล้าทำอะไร
จิ้งจอกโลหิตคลายพันธนาการบางส่วนเล็กน้อยและกำลังจะปล่อยให้ซู่เฟิงพาออกไป
ขณะเดียวกัน!
แสงกระบี่พลันทะยานสู่ท้องนภาขณะเต็มไปด้วยจิตสังหารไร้ที่สิ้นสุด!
จิ้งจอกโลหิตสามารถหลบเลี่ยงได้ แต่เมื่อก้มมองลงไปก็พบกับสายตาของเทียนเม่ยเอ๋อร์โดยไม่รู้ตัว
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยสีชมพู ทำให้มันตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ
เพียงแค่ชั่วขณะนี้ก็ทำให้เทียนเม่ยเอ๋อร์ลงมือได้สำเร็จ
แสงกระบี่กวาดผ่านออกไป แม้ไม่อาจบั่นศีรษะได้ แต่ก็โดนเข้ากับกรงเล็บที่อยู่ใกล้กับนางมากที่สุด!
“เคร้ง!”
กระบี่ส่งเสียงกรีดร้องขณะโลหิตทะยานสู่ท้องนภา แล้วหนึ่งในกรงเล็บของจิ้งจอกโลหิตก็ขาดสะบั้นทันที!
พละกำลังของเทียนเม่ยเอ๋อร์หมดสิ้นทันที!
อำนาจจักรพรรดิจิ้งจอกสวรรค์ที่เป็นของนางเริ่มหายไปอย่างรวดเร็วคล้ายกับจะหายไปในไม่ช้า
การโจมตีเมื่อครู่ได้รับมาจากการแผดเผาอำนาจจักรพรรดิ ทำให้พลังทั้งหมดในร่างกายถูกใช้ มันคือการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด!
ก่อนเทียนเม่ยเอ๋อร์จะทันได้ถอย กรงเล็บอีกข้างของจิ้งจอกสวรรค์ก็เคลื่อนมาข้างหน้าแล้วกดทั่วร่างของนางลงกับพื้นทันที
ในบริเวณที่กรงเล็บถูกสะบั้นยังคงมีโลหิตไหลออกมา ไม่ช้าทั่วพื้นดินก็ถูกย้อมด้วยสีแดง
ตอนนี้จิ้งจอกโลหิตวิตกกังวลเล็กน้อยขณะเหลือบมองซู่เฟิง “พวกเจ้ารวมหัวกันหรือ?!”
เป็นเพราะการมาถึงของซู่เฟิงที่ทำให้มันตัดใจจากการสังหารเทียนเม่ยเอ๋อร์จนถึงขั้นลดแรงกดดันอีกฝ่ายลงด้วย!
เมื่อเทียนเม่ยเอ๋อร์ได้โอกาส นางก็โจมตีด้วยกระบี่จนทำให้มันเสียกรงเล็บไปหนึ่งข้าง!
สำหรับจิ้งจอกโลหิต ร่างกายคือสิ่งสำคัญมาก
แม้จะเป็นวิญญาณชั่วร้าย แต่มันไม่สามารถเกิดใหม่หรือซ่อมแซมข้อบกพร่องของตัวเองได้
หากวันนี้ยังโดนสะบั้นกรงเล็บจนไม่สามารถรักษาให้หายได้ แล้วภายภาคหน้าต้องก้าวเดินเพียงสามขาขึ้นมา เกรงว่าการฝึกยุทธ์ของมันจะลดลงไปมากเพราะการสูญเสียดังกล่าว!
จิ้งจอกโลหิตจะไม่โมโหร้ายได้อย่างไร?!
ซู่เฟิงผู้อยู่ไม่ไกลดึงจิตเทวะกลับเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจิ้งจอกโลหิตฟาดจนตาย
เขาเพิ่งสูญเสียจิตเทวะไปเมื่อครู่ หากเกิดเหตุซ้ำสองอีก มันย่อมส่งผลกระทบกับเขา
ซู่เฟิงไร้คำตอบต่อคำถามของจิ้งจอกโลหิตเช่นกัน
จิ้งจอกโลหิตโง่ไม่ต่างกัน มันคิดหรือว่าเขาจะปล่อยมันไปหลังจากเล่นงานเทียนเม่ยเอ๋อร์จนตายไปเกือบครึ่งแล้ว?!
ผู้ที่จองจำจิ้งจอกโลหิตเอาไว้ในตอนนั้นใช้อำนาจจักรพรรดิ แต่ตอนนี้มันไม่เหลือความทรงจำในนั้นอีกแล้ว
การจองจำหลายปีมานี้ช่างเปล่าประโยชน์!
เมื่อมองย้อนกลับไป ซู่เฟิงก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่อำนาจจักรพรรดิจิ้งจอกสวรรค์ต้องมาแผดเผาจนตายเพราะเทียนเม่ยเอ๋อร์
ตอนนี้ต่อให้ซู่เฟิงต้องการ อำนาจจักรพรรดิจิ้งจอกสวรรค์อันน้อยนิดนี้ก็ไม่อาจสืบทอดได้อีกแล้ว ต่อให้ได้มาครองก็ไม่สามารถใช้งานได้อีก
“ชิ… น่าเสียดาย”
ซู่เฟิงถอนหายใจก่อนจะจากไป
จิ้งจอกโลหิตเสียกรงเล็บไปแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ทางที่ดีอย่าไปอยู่ภายใต้โทสะอันยาวนานของมันจะดีกว่า
ดวงตาของจิ้งจอกโลหิตจับจ้องเทียนเม่ยเอ๋อร์ “สาวน้อย เจ้ารนหาที่ตายเอง!”
สิ้นคำ มันก็กำลังจะกระทืบเทียนเม่ยเอ๋อร์ให้ตาย
ตอนนี้เองเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ปล่อยนางซะ!”