ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 502 ราชาจิ้งจอกโลหิตถึงแก่ความตาย!
บทที่ 502 ราชาจิ้งจอกโลหิตถึงแก่ความตาย!
บทที่ 502 ราชาจิ้งจอกโลหิตถึงแก่ความตาย!
ราชาจิ้งจอกโลหิตไม่แม้แต่ชายตามองจิ้งจอกโลหิตที่กรงเล็บหักแม้แต่น้อย ปล่อยให้ตายในสภาพที่ถูกบั่นศีรษะ!
จิ้งจอกโลหิตที่เหลือผู้ติดตามราชาจิ้งจอกโลหิต ก้มศีรษะร่างแล้วร่างเล่าราวกับเกรงว่าอีกฝ่ายจะบันดาลโทสะ
สายตาของราชาจิ้งจอกโลหิตจับจ้องไปยังลู่หยวน สีหน้าของเขาขยับขึ้นลงเล็กน้อยราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง
เปลวเพลิงที่ลู่หยวนใช้เมื่อครู่พิเศษมาก ไม่เพียงแต่มีกลิ่นอายของเพลิงวิญญาณเท่านั้น แต่ยังถึงขั้นมีกลิ่นอายของเพลิงสวรรค์อยู่เล็กน้อยอีกด้วย
แม้จิ้งจอกโลหิตที่กรงเล็บหักเมื่อครู่จะด้อยกว่าจิ้งจอกโลหิตตัวอื่น แต่มันกลับไม่ได้ดิ้นรนจนกลายเป็นควันธุลี!
หากต้องเผชิญหน้ากับเด็กมนุษย์ผู้นี้ พวกมันอาจจะไม่ได้รับประโยชน์มากนัก!
ยิ่งกว่านั้น เด็กคนนี้อาจจะมีอุบายซ่อนอยู่อีกก็เป็นได้!
ถ้าเป็นแบบนี้ การต่อสู้จึงเป็นทางเลือกสุดท้าย!
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ในที่สุดราชาจิ้งจอกโลหิตก็เอ่ย “เจ้ามนุษย์ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้อ่อนแอ”
“หากเจ้าสู้กับข้าในวันนี้ก็อาจได้รับประโยชน์ไม่มากนัก”
“เจ้ากับข้าไม่ได้มีความจงเกลียดจงชังต่อกัน เหตุใดจึงต้องสู้กันจนตัวตายด้วยเล่า?”
ราชาจิ้งจอกโลหิตชี้ไปที่ศีรษะของเฝยเฝยซึ่งกำลังเคี้ยวอย่างมีความสุขขณะเอ่ย “เจ้านี่อาจหาญจนเกือบทำร้ายหญิงนางนั้น ตอนนี้ข้าฆ่ามันให้แล้ว ระหว่างเจ้ากับข้าถือว่าหายกัน เหตุใดจึงไม่ลืมเรื่องอดีตแล้วคบหาเป็นมิตรสหายล่ะ”
ลู่หยวนยิ้มบางเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นจึงเอ่ย “วิญญาณชั่วร้ายหัดเรียนรู้ลูกไม้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เจ้าที่ยอมเป็นมิตรสหายคงไม่ได้วางแผนจะก่อตั้งราชวงศ์ในแผ่นดินหยวนหงหรอกใช่หรือไม่?”
สิ้นคำถากถางของลู่หยวน จิ้งจอกโลหิตไม่โกรธ แต่กลับมองอีกฝ่ายแล้วเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าเป็นไปได้ ข้าย่อมหวังว่าจะมีที่ยืนอยู่ในโลกภายนอก”
ทันทีที่จิ้งจอกโลหิตเหลือบมองลู่หยวน เขาก็รู้สึกว่าเด็กมนุษย์ผู้นี้ไม่ธรรมดา เกรงว่าอีกฝ่ายคงได้รับการสนับสนุนจากตระกูลใหญ่หรือสำนักไม่ผิดแน่
หลังจากนิ่งไปสักพัก เขาก็เอ่ยตามตรง “ข้าอยากจะสร้างราชวงศ์ขึ้นมาจริง หากให้การช่วยเหลือ เจ้าจะได้ปกครองร่วมกับข้าเมื่อเวลานั้นมาถึง!”
ลู่หยวนกุมง้าวพลางเอียงศีรษะครุ่นคิด
แม้วิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้จะเป็นเพียงสัตว์ร้าย แต่พวกมันยังมีความสามารถในการต่อสู้ หากอยู่ภายใต้การควบคุมขึ้นมาก็ใช่ว่าจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
ที่สำคัญ ลู่หยวนนับจำนวนดูก่อนจะพบว่าตอนนี้มีจิ้งจอกโลหิตราวสิบตัว พวกมันทั้งหมดแผ่แสงสีแดงโลหิตออกมาขณะคลื่นกลิ่นอายผันผวนอยู่รอบข้าง
ถ้าเอาพวกมันทั้งเก้าตัวมาลากรถล้อคงจะดีไม่น้อยใช่หรือไม่?!
“เจ้ามีทายาทหรือยัง?”
ลู่หยวนพลันเอ่ยถาม
ราชาจิ้งจอกโลหิตไม่เข้าใจว่าเหตุใดลู่หยวนถึงถามเรื่องนี้ แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาฆ่า ในที่สุดเขาก็ตอบออกมา
“ไม่มี”
ลู่หยวนพยักหน้า “ตกลง”
ราชาจิ้งจอกโลหิตคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลง เขาจึงผ่อนคลายและรู้สึกยินดีเล็กน้อย
เหอะ… เผ่ามนุษย์นี่ช่างหลอกง่ายเสียจริง
แม้เผ่ามนุษย์นี้จะคล้ายกับทรงพลัง แต่มันสมองยังไม่ดีเท่าไหร่นัก หากถูกเกลี้ยกล่อมก่อน เผ่าจิ้งจอกโลหิตอาจจะสามารถตั้งรกรากบนแผ่นดินหลักในภายภาคหน้าได้!
ราชาจิ้งจอกโลหิตรวบรวมความคิดขณะเงยหน้าขึ้น เขายิ้มเล็กน้อยและกำลังจะเอ่ยคำ แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นลู่หยวนกระชับง้าวไว้มั่นก่อนร่างจะหายไป!
ก่อนราชาจิ้งจอกโลหิตจะทันตอบสนอง เขาก็สัมผัสได้ว่าพื้นที่รอบข้างเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย!
ลำแสงคมปลาบสาดส่องออกมา ไอเย็นเยือกกวาดผ่านมาที่ด้านหน้าของราชาจิ้งจอกโลหิต!
เขายกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว แสงทรงกลมที่ดูเหมือนดวงอาทิตย์สีแดงก็สาดแสงออกมา ก่อนจะก่อตัวเป็นโล่เพื่อหยุดแสงอันคมปลาบที่พุ่งเข้ามาบริเวณด้านหน้า
ราชาจิ้งจอกโลหิตมองดูอย่างละเอียดก่อนจะพบว่าห้วงอากาศเบื้องหน้าเกิดการผันผวนอย่างรุนแรง แล้วร่างของลู่หยวนก็ค่อยปรากฏตัว!
ง้าวยาวซึ่งอยู่ในมือขวาของอีกฝ่ายถูกแทงออกไป ก่อนจะโดนโล่ของจิ้งจอกโลหิตปัดป้องเอาไว้!
“เจ้า?!”
เมื่อราชาจิ้งจอกโลหิตเห็นว่าลู่หยวนต้องการพรากชีวิต เขาก็พลันเดือดดาลทันที!
“แค่รักษาคำพูดก็ยังทำไม่ได้ เจ้ามันช่างเป็นเผ่ามนุษย์ที่ไร้ค่านัก!”
“เหอะ…”
ลู่หยวนยิ้มหยันหลังจากได้ยินคำพูดที่ไม่ต่างจากเรื่องเหลวไหลไร้สาระ
“รักษาคำพูดหรือ? ข้าไปทำข้อตกลงกับเจ้าเมื่อไหร่ไม่ทราบ? อีกอย่าง มีประโยชน์อันใดที่ต้องรักษาคำพูดกับสัตว์ร้ายด้วย?”
ทันทีที่สิ้นคำของลู่หยวน เพลิงขุนพลสวรรค์ก็ระเบิดออกจากร่างของเขาอย่างรุนแรงก่อนจะถาโถมเข้าใส่โล่ของราชาจิ้งจอกโลหิต!
โล่เริ่มหลอมละลายหลังจากสัมผัสกับเปลวเพลิง!
เมื่อเห็นว่าเปลวเพลิงกำลังจะลุกลาม ราชาจิ้งจอกโลหิตก็ทะยานออกไปเพื่อโจมตีใส่ลู่หยวนทันที
ลู่หยวนเหลือบมองพลางเดินหลบมาด้านข้าง เขาคิ้วขมวดก่อนกลิ่นอายพิเศษจากเผ่ามังกรกับตระกูลราชวงศ์จะระเบิดออกมา!
จิ้งจอกโลหิตเหล่านั้นไม่มีเวลาให้คำรามก่อนจะถูกกำราบ! พวกมันนอนคว่ำอยู่บนพื้นด้วยอาการสั่นสะท้านและขยับไปไหนไม่ได้!
กลิ่นอายนี้ปะทุออกมาจากร่างของลู่หยวนจนทำให้เขาดูเหมือนบุตรแห่งจักรพรรดิผู้กำลังจะปกครองโลก!
ลู่หยวนเหลือบมองด้านข้างก่อนจะหันสายตามาที่ราชาจิ้งจอกโลหิตอีกครั้ง
ในตอนนี้ ราชาจิ้งจอกโลหิตทราบดีว่าต่อให้ทุ่มพละกำลังทั้งหมดก็ไม่สามารถเทียบลู่หยวนได้!
“อย่า… อย่าฆ่าข้า! ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร ข้าก็จะมอบให้! ขอเพียงแค่เจ้าไว้ชีวิตข้าเท่านั้น!”
“สิ่งที่ข้าต้องการก็คือชีวิตของเจ้า!”
ทันทีที่สิ้นคำของลู่หยวน ง้าวก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นแสงสว่างจนดูเหมือนกับสายฟ้าฟาด!
“เคร้ง!”
ง้าวพลันแทงออกไปจนเกิดเสียงคมปลาบตัดผ่านท้องนภา จากนั้นเสียง “พรวด” ก็ดังขึ้นก่อนง้าวจะทะลวงเนื้อหนังบริเวณหน้าอกของราชาจิ้งจอกโลหิต
ลู่หยวนยกมือขึ้นขณะขวดใสขนาดเล็กปรากฏ ทันทีที่ปากขวดเปิดออก พลังลึกลับก็ห้อมล้อมราชาจิ้งจอกโลหิตเอาไว้พร้อมกับบรรจุโลหิตทั้งหมดที่ไหลออกมาเข้าไป
ในตอนนั้นราชาจิ้งจอกโลหิตยังไม่ตาย เขายังคงสัมผัสได้ถึงเลือดที่ไหลออกจากร่างกาย แม้จะอยากขัดขืนแต่ก็คล้ายกับถูกบางสิ่งพันธนาการเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย
ลู่หยวนขยับมือขวาขณะยืดง้าวออกไป ทำให้ราชาจิ้งจอกโลหิตลอยอยู่กลางอากาศขณะโลหิตไหลรินลงสู่ขวด
ทันใดนั้นเอง ร่างของราชาจิ้งจอกโลหิตคุณชายผิวขาวราวกับหยกก็หายไปก่อนจะกลับสู่รูปลักษณ์เดิมที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ
ลู่หยวนยังคงป้อนโอสถเพื่อให้อีกฝ่ายได้มีเวลาพักหายใจ ถึงอย่างไรการได้อาบโลหิตที่ยังมีชีวิตย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่า!
ราชาจิ้งจอกโลหิตถูกยื้อเอาไว้หนึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงแก่ความตาย
แล้วโลหิตในร่างกายก็ถูกสูบออกไปจนสิ้น
ร่างที่เหลือติดอยู่บนง้าวขณะเคลื่อนไปตามสายลม
เฝยเฝยผู้กลืนกินจิ้งจอกโลหิตอยู่ข้างกายจนอิ่มหนำ เหลือบมองสถานการณ์ของลู่หยวน
แน่นอนว่ามันเห็นถึงความแตกต่างของราชาจิ้งจอกโลหิต
มันครุ่นคิดสักพัก ลู่หยวนดึงโลหิตจนหมดสิ้นแล้ว แสดงว่าไม่ต้องการร่างกายนั่นใช่หรือไม่!
แบบนี้มันก็สามารถฉวยโอกาสได้!
เฝยเฝยยืนขึ้นตบท้องกลมพลางยิ้มกว้างจนเห็นฟัน จากนั้นจึงวิ่งเข้าหาราชาจิ้งจอกโลหิต
เมื่อกำลังจะเข้าถึงตัว เสียงอันแผ่วเบาของลู่หยวนก็ดังขึ้น “ถ้าเจ้ากัดแม้แต่คำเดียว ข้าจะตุ๋นเจ้าให้ดู”