ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 503 แข่งขัน
บทที่ 503 แข่งขัน
บทที่ 503 แข่งขัน
ร่างของเฝยเฝยที่กำลังก้าวไปข้างหน้านิ่งงัน
ทันใดนั้นมันก็ทรุดตัว ศีรษะหลุบต่ำ
สายตามองไปทางจิ้งจอกโลหิตตัวอื่นที่ยังคงหวาดกลัวลู่หยวน
ลู่หยวนมองน้ำลายที่ไหลออกจากมุมปากของเฝยเฝยด้วยสายตารังเกียจ ก่อนจะเอ่ยว่า
“เหลือไว้เก้าตัว”
หลังจากได้รับคำสั่งของลู่หยวน
เฝยเฝยก็หลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งก่อนจะพุ่งเข้าหาจิ้งจอกโลหิต!
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป ในที่สุดเฝยเฝยก็กองกับพื้นในสภาพพุงป่องและสะอึกอย่างต่อเนื่อง
กินไม่ไหว ข้ากินไม่ไหวแล้ว…
ดวงตาของเฝยเฝยเต็มไปด้วยความสับสนราวกับสูญสิ้นความปรารถนาทางโลกแล้ว
จิ้งจอกโลหิตที่เหลือกองอยู่กับพื้นด้วยอาการสั่นสะท้านขณะขาของพวกมันอ่อนแรงยิ่ง
สิ่งที่ดูเหมือนจิ้งจอกขนาดเล็กถึงกับกลืนกินพี่น้องของมันเข้าไป
แถมสิ่งที่กินเข้าไปยังเป็นเลือดอีก!
จิ้งจอกโลหิตเหล่านี้เกรงว่าเจ้าตัวน้อยจะหันมามอง
เพราะด้วยพละกำลังของเฝยเฝยย่อมสามารถกลืนกินพวกมันได้อีกสักตัวสองตัว
หาไม่แล้ว จากหลายสิบตัวในวันนี้คงได้เหลือเก้าตัว
เมื่อเห็นว่าเฝยเฝยกินเสร็จแล้ว ลู่หยวนก็มองด้านข้างก่อนจะพบว่าแรงกดดันมหาศาลได้กดทับบนจิ้งจอกโลหิตหลายตัว
“ข้าจะให้สองทางเลือกกับพวกเจ้า หนึ่งคือตาย สองคือกลับไปกับข้าพร้อมเชื่อฟังคำสั่ง ใครที่ขัดขืนจะต้องถูกฆ่า!”
แน่นอนว่าพวกมันเลือกทางที่สอง
หลังจากรับจิ้งจอกโลหิตเหล่านั้นมาอยู่ใต้อาณัติแล้ว ลู่หยวนก็ลงมือกดประตูค่ายกลของคฤหาสน์จิ้งจอกโลหิต!
จิ้งจอกโลหิตบอกลู่หยวนว่ายังมีพวกมันอยู่ข้างในอีก
แต่กลุ่มดังกล่าวอ่อนแอและไม่แข็งแกร่งเท่า หน้าที่เพียงอย่างเดียวคือสืบพันธุ์และให้กำเนิดลูกหลานเท่านั้น
ราชาจิ้งจอกโลหิตเองก็เกิดจากการสืบพันธุ์ในกลุ่มนั้น แต่เขาต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่การเป็นราชา เพราะงั้นจิ้งจอกโลหิตตัวอื่นจึงต้องเชื่อฟังคำสั่ง!
ลู่หยวนไม่ได้ตั้งใจจะนำจิ้งจอกโลหิตทั้งหมดมาอยู่ใต้อาณัติ
ถึงอย่างไรการควบคุมพวกที่ไม่แข็งแกร่งพอก็ไม่มีประโยชน์
สู้ใช้ค่ายกลเพื่อปิดประตูของคฤหาสน์จิ้งจอกโลหิตแล้วให้จิ้งจอกโลหิตเหล่านี้ทำการเพิ่มจำนวนต่อไปยังดีเสียกว่า
เมื่อถึงเวลาแล้วทำการเปิดอีกครั้ง
เขาค่อยมาเลือกพวกมันบางส่วน ก่อนค่อยปิดอีกรอบก็ยังได้
ด้วยวิธีนี้ถือเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน
แน่นอนว่าจิ้งจอกโลหิตไม่ทราบถึงความคิดของลู่หยวน
ดังนั้นพวกมันจึงเพียงยืนอยู่ข้างกายด้วยสภาพสั่นสะท้าน
ขณะลู่หยวนดูแลพื้นที่นี้
เขาก็กวาดสายตาออกไปก่อนจะเห็นเขตใจกลางของจิ้งจอกสวรรค์ซึ่งอยู่ไกลออกไป
เจ้าสุนัขเฒ่าซู่เฟิงยังไม่จัดการให้เรียบร้อย
สายตาลู่หยวนปรากฏแววหมายมั่น ก่อนเนตรเทวะจะปรากฏ
แล้วสรรพสิ่งตรงหน้าก็เริ่มกลายเป็นภาพมายาก่อนร่างของซู่เฟิงจะปรากฏในดวงตาเขา
ลู่หยวนจับตำแหน่งของอีกฝ่ายไว้ ก่อนหันมามองกู้ชิงหรัน
“ในเมื่อที่นี่ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว ทำไมพวกเราไม่มาแข่งขันกันเสียหน่อยล่ะ?”
เปลือกตาของกู้ชิงหรันกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ “แข่งขันอะไร?”
“แข่งขันกันว่าใครจะได้ศีรษะของซู่เฟิงก่อน!”
“รางวัลเป็นอะไรหรือ?”
เนื่องจากเป็นการแข่งขันก็ต้องมีรางวัล!
สายตาของลู่หยวนจับจ้องไปยังกระบี่หักในมือของกู้ชิงหรันทันที
“ถ้าเจ้าแพ้ กระบี่เล่มนี้จะต้องเป็นของข้า”
“ถ้าเจ้าชนะ…”
ลู่หยวนหยิบดาบสามคมฉิวหลงออกมา
“สิ่งนี้จะเป็นของเจ้า”
กู้ชิงหรันเหลือบมองดาบสามคมฉิวหลง
“ไม่เอา ของชิ้นนี้ไม่มีประโยชน์กับข้า ทั้งเพลิงขุนพลสวรรค์ในมือของเจ้าค่อนข้างเหมาะกับมันด้วย”
“เอาแบบนี้ ถ้าข้าชนะ เจ้าต้องให้สัญญาหนึ่งเรื่อง ทว่าตอนนี้ข้ายังคิดไม่ออก ดังนั้นจะขอติดไว้ก่อนแล้วกัน” ลู่หยวนกล่าว
“ได้!”
หลังจากทั้งสองทำข้อตกลงกันได้แล้ว
พวกเขาก็มองหน้ากันก่อนจะหายไปพร้อมกัน!
เทียนเม่ยเอ๋อร์กับพวกจิ้งจอกโลหิตถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เนื่องจากทั้งสองอยากชนะ ดังนั้นพวกเขาจึงทุ่มพละกำลังเกือบทั้งหมด!
เพียงหนึ่งอึดใจ พวกเขาก็ข้ามทะยานจนเข้าสู่ส่วนลึกของเขตใจกลาง!
แม้ซู่เฟิงจะดึงจิตเทวะกลับมาและเพิ่งตัดสินใจออกจากที่นี่
แต่เขาเพิ่งมาถึงพรมแดนของดินแดนจิ้งจอกสวรรค์เท่านั้น
ทางเข้าและทางออกของบริเวณพรมแดนนี้ถูกเขาผนึกเอาไว้
มีเพียงแผ่นป้ายเท่านั้นที่สามารถเปิดได้!
ตอนนี้มีจิ้งจอกสวรรค์จำนวนมากรวมอยู่ที่นี่
หลังจากจิ้งจอกโลหิตอาละวาด โฉวโยวก็นำคนมาที่นี่
แม่ทัพกับองครักษ์จิ้งจอกโลหิตทั้งหลายต่างส่งสมาชิกเผ่าจิ้งจอกสวรรค์มาที่นี่
ทำให้พวกเขาถูกขังเอาไว้จนออกไปไหนไม่ได้
เมื่อซู่เฟิงมาถึง
แม่ทัพเหล่านั้นต่างใช้วิธีการมากมายเพื่อจะทำการทะลวงออกมา แต่ก็ไม่อาจทำได้
โฉวโยวเองก็ถูกแม่ทัพกบฏหลายคนหยุดเอาไว้ ทำให้ไม่อาจมาถึงที่นี่ได้สักพัก!
หลังจากซู่เฟิงกับซู่เปียวมาถึงที่นี่
เผ่าจิ้งจอกสวรรค์ที่เดิมวุ่นวายก็เงียบลงทันตา
สมาชิกเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ธรรมดาเหล่านี้หวาดกลัวซู่เฟิงเล็กน้อยเนื่องจากก่อนหน้านี้มีพวกเขาจำนวนมากต้องตายภายใต้คำสั่งของอีกฝ่าย!
ซู่เฟิงบอกว่าจะฆ่าพวกเขาทั้งสิ้นสามร้อยคน!
ช่างน่าสะพรึงนัก!
แม่ทัพและองครักษ์ทั้งหลายมองซู่เฟิงด้วยความระมัดระวังขณะถืออาวุธไว้ในมือเพื่อเตรียมต่อสู้
ซู่เฟิงหลุบตาด้วยความเหยียดหยัน
แต่เขาทราบเช่นกันว่าไม่สมควรจะอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน เมื่อกำลังจะทะลวงค่ายกล ก็พลันรู้สึกว่าปฐพีเริ่มสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง!
ลางสังหรณ์ไม่ดีก่อตัวขึ้นภายใน
เขารีบรวบรวมพละกำลังเพื่ออยากเปิดค่ายกล
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พลังวิญญาณรอบข้างปั่นป่วนราวกับถูกรบกวนโดยพลังอื่น!
ความรู้สึกของแรงกดดันยิ่งแข็งแกร่ง
จนมีเหงื่อไหลซึมบนหน้าผากของซู่เฟิง
ซู่เปียวสังเกตเห็นเช่นกัน
เนื่องจากเขาไวต่อความรู้สึกจึงสามารถสัมผัสพลังที่กำลังมาจากด้านหลังได้ เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังงานอันโหดร้าย ทันใดนั้นเขาวูบไหวมาอยู่ด้านหลังซู่เฟิงก่อนจะใช้มืออันใหญ่โตดึงอาวุธวิเศษทุกชิ้นออกมา
เกราะป้องกันจำนวนมากถูกใช้งานเพื่อปกป้องซู่เฟิงกับซู่เปียวเอาไว้
“เคร้ง!”
“เคร้ง!”
เสียงคมปลาบสองเสียงทะลวงผ่านอากาศประหนึ่งกระบี่ถูกชักออกจากฝัก
ห้วงอากาศแตกสลายชั้นแล้วชั้นเล่า
แล้วพลังก็ปรากฏตรงหน้าโล่ของซู่เปียว!
ง้าวตรงเข้ามาก่อนเพื่อทะลวงโล่อย่างรุนแรง
พลังอันแก่กล้าพลันพวยพุ่งขณะบดขยี้โล่เหล่านั้น!
ค่ายกลที่ก่อตัวบนโล่ในตอนนี้ก็ระเบิดออกมา!
คราวนี้เป็นกระบี่หักที่ตรงเข้ามา มันเคลื่อนผ่านห้วงอากาศอย่างแผ่วเบาจนกลายเป็นภาพติดตาเวียนวน
แล้วศีรษะกับร่างของซู่เปียวก็แยกออกจากกันก่อนจะทันได้เคลื่อนไหวอะไรอีก
โล่เมื่อครู่ไม่อาจขวางกั้นลู่หยวนกับกู้ชิงหรันได้
ทั้งสองยังคงพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าโจมตีซู่เฟิง
ในตอนนี้ขาของซู่เฟิงสั่นเทาขณะถูกทั้งสองผู้ไม่ต่างกับพยัคฆ์หิวกระหายในถิ่นทุรกันดารหมายตาเอาไว้!
ร่างดังกล่าวเคลื่อนตัวไปตามคลื่น
แล้วซู่เฟิงก็ทราบว่าการกระทำเมื่อครู่ของซู่เปียวไม่อาจหยุดยั้งทั้งสองได้แม้แต่น้อย
หากต้องเผชิญซึ่งหน้า เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!
เขาพลันหันหลังแล้วดึงสมาชิกเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ธรรมดาที่อยู่ข้างกาย เพื่อขวางคมดาบที่ตรงเข้ามา
“ขืนพวกเจ้าเข้ามาอีก ข้าจะฆ่า…”
ก่อนจะทันเอ่ยจบประโยค
ทั้งสองก็ตรงเข้ามาด้วยความเร็วมหาศาล
พวกเขาคิ้วขมวดขณะมุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มหยันประหนึ่งเทพแห่งความตายจุติลงมา!
ร่างทั้งสองพลันหายไป
จากนั้นก็ปรากฏที่ด้านหลังซู่เฟิงพร้อมกัน
ง้าวกับกระบี่หักก็แทงเข้าที่คอของอีกฝ่ายพร้อมกัน!
“พรวด!”
ง้าวและกระบี่หักถูกสอดเข้าไปที่กลางคอของซู่เฟิงทั้งซ้ายขวา พวกมันทะลวงผ่านเลือดเนื้อจนกระทั่งชนเข้าหากัน โดยพลังทั้งสองต่างไม่มีใครเหนือกว่าใคร