ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 513 เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์
บทที่ 513 เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์
บทที่ 513 เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์
ขณะนั้นอู๋เต้าก็เอ่ยออกมา
“นายท่าน แม้ภูตผีน้อยนี้จะรับมือได้ยาก แต่มันก็ยังอยู่ภายใต้วิถีสวรรค์! หากท่านใช้พลังที่เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์ก็อาจจะสามารถสังหารมันได้!”
“พลังที่เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์หรือ?”
ลู่หยวนตกตะลึงเล็กน้อย
อู๋เต้าเอ่ยต่อ “ทันทีที่ข้าพบนายท่าน ข้าก็รู้ว่าท่านมีทั้งวิถีคุณธรรมกับวิถีมาร ด้วยร่างกายเช่นนั้น หากได้รับวาสนาก็สามารถบรรลุวิถีสวรรค์ด้วยตัวเองได้! วาสนานี้คือการใช้บางสิ่งที่เหนือกว่าวิถีสวรรค์เป็นตัวชี้นำ!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ อู๋เต้าพลันแย้มยิ้ม
“สิ่งที่อยู่เหนือวิถีสวรรค์เป็นเพียงภาพมายา คนอื่นอาจไม่สามารถเผชิญกับวาสนานี้ได้ตลอดชั่วชีวิต แต่นายท่านมีวาสนานี้อยู่ในร่างกาย! เพียงแต่ตัวท่านเองยังไม่ทราบ!”
“ด้วยสภาพวิญญาณในตอนนี้ ข้าทำได้เพียงดึงวาสนาที่อ่อนแอยิ่งมาให้ท่าน แต่วาสนานี้สามารถทำให้หยดโลหิตของท่านเข้าสู่มหาวิถีซึ่งคล้ายกับวิถีสวรรค์ได้!”
สิ้นคำ วงแสงสีน้ำเงินเข้มพลันปรากฏรอบตัวลู่หยวน!
พลังของอู๋เต้าห่อหุ้มรอบลู่หยวนทันที!
หลังจากผ่านไปหนึ่งอึดใจ พลังของอู๋เต้าพลันหมองหม่น แล้วพลังมหาศาลยิ่งประหนึ่งคลื่นยักษ์ก็ออกมาจากจิตเทวะของลู่หยวน!
เพียงพริบตา ทั่วทั้งแผ่นดินหยวนหงก็สั่นสะเทือน!
ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนทะยานออกมาพลางมองออกไปไกลเพื่อสัมผัสถึงตัวตนของพลังนี้!
ผู้เฒ่าเก็บตัวเหล่านั้นต่างเกิดความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย
แต่ก่อนจะทันได้สำรวจ กลิ่นอายก็หายไปทันที!
กลิ่นอายของลู่หยวนถูกทำลายโดยพลังนั้น!
มันถูกแทนที่ด้วยพลังที่ลู่หยวนไม่เคยสังเกตมาก่อน ในใจของเขาคล้ายกับมีสามร่างยืนอยู่ตรงหน้า
ในบรรดาร่างทั้งสาม มีสองร่างยืนอยู่ทั้งซ้ายขวา ร่างหนึ่งถือขวานยักษ์ในสภาพเปลือยเปล่า ส่วนอีกร่างประหนึ่งเจ้าแม่กวนอิมผู้อ่อนโยน
แต่ใบหน้าของคนที่อยู่ตรงกลางกลับไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน มีเพียงคำพูดครวญครางดังออกมาอย่างคลุมเครือ
“วิถีสวรรค์เอย.. พลังเอย.. เบี้ยเอย..”
ลู่หยวนอยากฟังอย่างละเอียด แต่เขาก็ได้ยินไม่ชัดเจน
ภาพดังกล่าวค่อยสูญสลาย ลู่หยวนจึงกลับมามีสติพร้อมกับสูดหายใจเข้า
เสียงของอู๋เต้าอ่อนแรงเช่นกัน “นายท่าน ข้าขอตัวไปพักก่อน”
ทันทีที่สิ้นเสียง ลู่หยวนก็รู้สึกได้ว่าพลังอันแก่กล้ามหาศาลเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ
ราวกับมันจะทะยานสู่ท้องนภาเพื่อทำลายหมู่เมฆทุกเมื่อ!
พลังดังกล่าววนเวียนในร่างของลู่หยวนสักพัก จากนั้นจึงหลอมรวมเข้ากับหยดโลหิต
ลู่หยวนยกมือขึ้นกรีด แล้วโลหิตก็ไหลออกจากผิวหนัง
โลหิตนี้ยิ่งแปลกประหลาด กลายเป็นว่ามันมีสีทอง!
ทันทีที่โลหิตปรากฏ เจตจำนงอันน่าตกตะลึงก็ระเบิดไปทุกทิศทาง!
แม้แต่กู้ชิงหรันก็หันมามอง ปราณกระบี่ของนางเริ่มหยุดนิ่งตรงหน้าโลหิต พวกมันส่งเสียงร้องต่ำเพื่อแสดงท่าทียอมจำนน!
ยามโลหิตปรากฏ เฝยเฝยกับมังกรเจินหลงของลู่หยวนต่างขดตัวในอ้อมแขนของเขาโดยไม่กล้าขยับไปไหน
แม้ไม่ทราบว่าโลหิตนี้คืออะไร แต่พวกมันสัมผัสได้ว่าพลังซึ่งอยู่ในโลหิตนี้มีอำนาจกำราบไร้ที่สิ้นสุด!
ราวกับพลังดังกล่าวอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง พวกมันจึงไม่กล้าเงยหน้ามอง แม้แต่คิดก็ยังไม่กล้า! ทำได้เพียงยอมจำนนแต่โดยดี!
ฉินเซียวผู้อยู่นอกชั้นค่ายกลคิ้วขมวด เขาย่อมสัมผัสได้ถึงพลังแปลกประหลาดเมื่อครู่
ความจริง เขาพอจะสัมผัสได้ว่าพลังดังกล่าวไม่ด้อยไปกว่าวิถีสวรรค์!
หัวใจของฉินเซียวยิ่งหนักอึ้ง
หรือว่าลู่หยวนยังมีอุบายที่สามารถเทียบเคียงกับวิถีสวรรค์ได้?!
เป็นไปไม่ได้!
ฉินเซียวรีบปฏิเสธความคิดดังกล่าว
แผ่นดินหยวนหงนี้ถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้วิถีสวรรค์ สรรพสิ่งทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน หาได้มีข้อยกเว้นไม่!
หากลู่หยวนสามารถเทียบเคียงกับวิถีสวรรค์ได้ก็คงอยู่เหนือโลกหล้าไปแล้ว เขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?!
แม้ความคิดของฉินเซียวจะมุ่งมั่น แต่ก็ยังแฝงด้วยความกังวล
หากล่าช้าจะเกิดการแปรเปลี่ยน!
เขาอยากให้ลู่หยวนตายเดี๋ยวนี้!
ฉินเซียวกุมหอกยาวไว้มั่นก่อนจะเริ่มสร้างผนึกที่มือซ้าย
“ร้อยภูตผี กระจาย!”
สิ้นเสียงของฉินเซียว ภูตผีน้อยทั้งหลายซึ่งอยู่นอกอาณาเขตของลู่หยวนต่างสั่นสะท้าน จากนั้นจึงเคลื่อนมาทางตำแหน่งของฉินเซียวในหนึ่งอึดใจ!
ฉินเซียวกุมมือขวาไว้มั่นขณะจิตสังหารเริ่มพลุ่งพล่านออกจากร่างกายประหนึ่งแม่น้ำเชี่ยวกราก ปราณวิญญาณรอบข้างก็เริ่มหมุนวนเช่นกัน!
วิญญาณที่ถูกจองจำในหอกยาวคล้ายกับถูกกระตุ้นโดยบางอย่าง ทำให้แต่ละดวงเกรี้ยวกราดและเริ่มขัดขืนอย่างรุนแรง!
มือขวาของฉินเซียวพลันพลิกไปมา แล้วกลิ่นอายสีดำก็ออกมาจากฝ่ามือ
“วิ้ง!”
สิ้นเสียง วิญญาณที่กำลังขัดขืนก็ถูกห่อหุ้มทันที!
พวกมันค่อย ๆ หายไป แล้วกลิ่นอายของฉินเซียวก็เริ่มพรั่งพรูอย่างรวดเร็ว!
หลังจากวิญญาณเหล่านั้นถึงแก่ความตาย พลังของเขาก็มุ่งสู่จุดสูงสุด!
ฉินเซียวเงยหน้าขึ้นขณะเล็งปลายหอกไปทางที่ภูตผีน้อยเหล่านั้นเปิดทางให้
“การโจมตีของหอกจองจำวิญญาณสามารถไปได้ไกลหนึ่งพันลี้…”
ฉินเซียวดึงมือขวาออก พลังไร้ที่สิ้นสุดเริ่มถูกถ่ายทอดจากร่างกายเข้าสู่หอกยาว
หอกเกิดการสั่นไหวขณะทั่วร่างถูกย้อมจนเป็นสีดำ พลังไร้ที่สิ้นสุดก็กระจายออกไปจนห้วงอากาศสั่นสะเทือน!
“ล่าวิญญาณ!”
ทันทีที่สิ้นคำของฉินเซียว พลังของหอกจองจำวิญญาณก็มุ่งสู่จุดสูงสุด!
มัดกล้ามบนแขนของเขาปูดโปนขณะเส้นโลหิตขดไปมาประหนึ่งเจี่ยวหลง!
“ตูม!”
ฉินเซียวฉวยโอกาสจากสถานการณ์เพื่อขว้างมันเข้าใส่ลู่หยวน!
“ตูม! ตูม! ตูม!”
หอกจองจำวิญญาณเคลื่อนไปตามทางจนห้วงอากาศแตกสลาย!
แน่นอนว่าภูตผีน้อยเหล่านั้นไม่กลัวเกรงหอกยาว หลังจากหลีกทางให้เล็กน้อย พวกมันก็พุ่งตามเข้าไปด้วยหมายจะใช้ประโยชน์จากโอกาสดังกล่าวทะลวงเข้าไป!
หอกยาวมาถึงในพริบตา หลังจากปะทะกับอาณาเขตของลู่หยวน กลิ่นอายของมันก็กระจายออกไปอย่างรุนแรง ทำให้เนตรเทวะของลู่หยวนพังทลายทันที
ร่างของลู่หยวนกับกู้ชิงหรันผู้ได้รับการปกป้องจากอาณาเขตก็ปรากฏเช่นกัน!
ในตอนนี้ พวกเขากลับไม่ประหลาดใจเมื่อเห็นหอกยาวตรงมาจากท้องนภา หนำซ้ำยังมีท่าทีสงบ! ราวกับว่าเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว!
กู้ชิงหรันก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พลังมหาศาลของกระบี่ก็กระจายออกจากปลายเท้าก่อนจะครอบคลุมทั่วทั้งราชวงศ์อู๋ซวง!
พื้นที่นับพันลี้ถูกห้อมล้อมและกำราบโดยปราณกระบี่ในพริบตา หอกจองจำวิญญาณที่ตรงเข้ามาก็ถูกฟาดฟันจนความเร็วลดลงเล็กน้อย
ทว่ามันเพียงทำให้ความเร็วลดลงเท่านั้น!
ลู่หยวนแทงง้าวในมือลงกับพื้น แล้วดาบสามคมฉิวหลงก็ปรากฏในมือขวา
ลู่หยวนจับจ้องฉินเซียวพลางเอ่ยอย่างสงบ “ฝากเจ้าจัดการภูตผีน้อยพวกนี้ด้วย ข้าจะไปจัดการตัวใหญ่เอง!”
“อื้ม”
กู้ชิงหรันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ดาบสามคมฉิวหลงในมือของลู่หยวนปาดไปบนหยดโลหิตสีทอง
คมดาบซึ่งถูกย้อมด้วยโลหิตสีทองครึ่งหยดก่อนจะกระจายไปทั่ว จากนั้นลู่หยวนก้าวไปข้างหน้า เปลวเพลิงไร้ที่สิ้นสุดเริ่มพลุ่งพล่านออกจากร่างกาย!
ดาบสามคมฉิวหลงสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน!
ลู่หยวนถือดาบด้วยสองมือขณะคิ้วขมวด แล้วจิตสังหารก็ปรากฏ
“ฉินเซียว ยื่นหัวสุนัขของเจ้าออกมา ข้าพร้อมจะตัดมันแล้ว!”
————————————-