ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 514 ผู้ติดตามของซ่งชิง
บทที่ 514 ผู้ติดตามของซ่งชิง
บทที่ 514 ผู้ติดตามของซ่งชิง
ร่างของลู่หยวนพลุ่งพล่านก่อนจะมุ่งเข้าหาฉินเซียว!
ภูตผีน้อยซึ่งรวมตัวอยู่รอบข้างพุ่งเข้าหาลู่หยวนเพื่อหมายจะสังหารทันที!
แต่ละตนกรีดร้องขณะขยับนิ้วอย่างมุ่งร้าย!
“เหอะ…”
ลู่หยวนยิ้มหยันขณะเปลวเพลิงบนร่างปกคลุมทั่วทั้งดาบสามคมฉิวหลงอย่างรวดเร็ว!
กลิ่นอายโลหิตครึ่งหยดที่เปื้อนอยู่บนคมดาบกระจายออกไปเช่นกัน!
แรงกดดันไร้ใครเทียบระเบิดออกทันที!
พลังดังกล่าวไม่ใช่วิถีสวรรค์ แต่เป็นสิ่งที่เหนือกว่านั้น!
ภูตผีน้อยเหล่านั้นหวาดกลัวแรงกดดันนี้ก่อนพบว่าเป็นการยากที่จะก้าวไปข้างหน้าได้!
ลู่หยวนขยับปลายเท้าแล้วพุ่งไปทางฉินเซียวผู้อยู่กลางอากาศ!
ฉินเซียวตอบสนองในพริบตา!
เขาโคจรพลังในมือก่อนจะส่งความคิดสังหารออกไป “หอกจองจำวิญญาณ ฆ่ามัน!”
หอกจองจำวิญญาณหลุดจากพันธนาการเพื่อตอบโต้ แล้วแทงไปทางลู่หยวนด้วยความเร็วสูง!
ดาบสามคมฉิวหลงในมือของลู่หยวนซึ่งถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงกลายเป็นดาบเพลิงทันที!
ทันทีที่หอกยาวมาถึงตรงหน้า ลู่หยวนก็กำมือแล้วฟาดฟันออกไป!
“ฟู่!”
เปลวเพลิงกวาดผ่านท้องนภาขณะกลืนกินปราณวิญญาณตามทางจนสิ้น!
จากนั้นจึงเข้าปะทะกับหอกยาวอย่างรุนแรง!
“ตูม!”
คลื่นอันคลุ้มคลั่งซัดเข้ามาชั้นแล้วชั้นเล่า!
ห้วงอากาศรอบข้างผันผวนอย่างผิดปกติราวกับกำลังดิ้นรนเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้แตกสลาย!
“ร้อยวิญญาณ ออกมา!”
หลังจากฉินเซียวถ่ายทอดคำสั่ง วิญญาณที่หมดสภาพในหอกจองจำวิญญาณก็ถูกขับออกไปอีกครั้ง!
วิญญาณเหล่านี้ที่ถูกพันธนาการประหนึ่งทาส ถูกขับออกไปทางลู่หยวนเพื่อทำการสังหาร!
แต่เปลวเพลิงบนร่างของลู่หยวนทรงพลังยิ่ง ทำให้ไม่สามารถก้าวข้ามมาได้ในทันที พวกมันทำได้เพียงใช้ร่างกายเพื่อพยายามดิ้นรนไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย!
ฉินเซียวทราบเช่นกันว่าอุบายของลู่หยวนในครั้งนี้ทรงพลังเกินไป อีกทั้งพลังดังกล่าวยังเทียบเคียงกับวิถีสวรรค์
หากปล่อยให้ลู่หยวนเข้าใกล้ เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!
ฉินเซียวหันศีรษะไปมองขุนนางที่อยู่ข้างกาย
ฉินเซียวผู้เดิมเต็มไปด้วยจิตสังหารและแผนการ เริ่มวิตกกังวลเล็กน้อย
“พวกเจ้ามัวทำอะไรอยู่? เหตุใดถึงยังไม่ออกมาปกป้องข้า?!”
อู่กังเป็นคนแรกที่ตอบสนองก่อนจะกุมขวานยักษ์ไว้มั่น มัดกล้ามทั้งหมดบนร่างกายเริ่มปูดโปนจนพละกำลังเพิ่มพูน!
เขาเพียงขยับหนึ่งก้าวก็มุ่งตรงเข้าหาลู่หยวน!
คนที่เหลือกลับมามีสติคนแล้วคนเล่าขณะจับอาวุธขึ้นมา จากนั้นจึงกระหน่ำโจมตีออกไป
พวกเขาล้วนเป็นคนที่ประสบกับความขัดแย้งภายในของราชวงศ์ ทุกคนทราบดีว่าความหมายของจักรพรรดิกับข้าราชบริพารหมายถึงอะไร!
หากฉินเซียวยังไม่ตาย พวกเขาย่อมเป็นเหมือนเมื่อก่อน แต่ถ้าอีกฝ่ายตาย เกรงว่าลู่หยวนผู้เปรียบเสมือนราชาแห่งนรกจะกวาดล้างทั่วทั้งราชวงศ์!
ลู่หยวนยิ้มหยันก่อนจะหรี่ตาทันที
ภูตผีนับร้อยกับขุนนางซึ่งอยู่รอบข้างทำการโอบล้อมเพื่อโจมตีใส่อีกฝ่าย!
เขาเงยหน้าเล็กน้อย “ฉินเซียว ข้าไม่เคยใช้ท่านี้มาก่อน ดังนั้นข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นในวันนี้”
สิ้นคำ ลู่หยวนออกแรงที่มือแล้วฟาดฟันดาบสามคมฉิวหลงออกไป มันพลาดไปโดนหอกยาวเล็กน้อย
เสียงแหลมดังขึ้นทันที!
ลู่หยวนหันไปด้านข้าง ดาบสามคมฉิวหลงในมือของเขาเคลื่อนไปตามตัวหอกยาวก่อนจะมาถึงบริเวณตรงกลางในทันที!
แล้วผู้คนที่อยู่ภายใต้ค่ายกลของฉินเซียวก็ถูกสังหาร!
ภูตผีนับร้อยลุกเป็นไฟ ขุนนางถูกสังหาร
มุมปากของลู่หยวนค่อย ๆ ขยับ
เพียงพริบตา เขาพลันปลดปล่อยพลังที่มือก่อนจะเงยหน้าขึ้น!
“วิ้ง!”
อำนาจจักรพรรดิผสานเข้ากับพลังวิถีสวรรค์เล็ดลอดออกมาจากลู่หยวน จากนั้นจึงกวาดไปทั่วราชวงศ์อู๋ซวงในทันที!
ทั่วทั้งราชวงศ์อู๋ซวงคล้ายกับตกอยู่ภายใต้การหยุดเวลา!
พวกอู่กังที่กำลังโจมตีอยู่กลางอากาศ รวมถึงภูตผีนับร้อยล้วนหยุดนิ่ง
ไอเย็นเยือกบนร่างกายหายไป ใบหน้าของพวกเขาก็ไม่มั่นคงอีกต่อไป
คลื่นแห่งความยอมจำนนและหวาดกลัวก่อตัวขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนจะปกคลุมทั่วร่าง
แม้แต่ฉินเซียวผู้อยู่กลางอากาศก็สัมผัสสิ่งนี้ได้
ลู่หยวนในตอนนี้ราวกับราชาทั่วหล้า!
กลับกัน พวกเขาไม่ต่างกับสิ่งมีชีวิตธรรมดาที่อยู่ใต้การปกครองของอีกฝ่าย!
พวกฉินเซียวรู้สึกขาอ่อนแรงเล็กน้อย
ส่วนทั่วทั้งราชวงศ์อู๋ซวง ผู้คนหรือทหารยามธรรมดาต่างหมอบคลานให้ลู่หยวนยามตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของราชา
ราตรีในราชวงศ์อู๋ซวงเต็มไปด้วยความมืด แม้ตอนนี้จะเป็นช่วงโฉ่วจื่อ แต่กลับไม่เงียบสงบเหมือนช่วงที่ผ่านมา
ในตอนนี้ แสงไฟจากบ้านนับหมื่นสว่างไสว ผู้คนนับไม่ถ้วนคุกเข่าไปในทิศทางเดียวกันด้วยความเคารพนับถือ
ท่ามกลางฝูงชนมีร่างที่ไม่เข้ากันอยู่สองร่าง
คนหนึ่งเปลือยเปล่าท่อนบน ร่างสูงโปร่ง กลิ่นอายรอบข้างผันผวนและมีใบหน้าจริงจัง
ส่วนอีกคนสวมชุดสีขาว รูปลักษณ์ของเขาเหมือนกับสมาชิกของตระกูลขุนนาง
หากพวกลู่หยวนมาเห็นสองคนนี้เข้า พวกเขาจะต้องจำได้อย่างแน่นอน
คนเหล่านี้คือผู้ติดตามของซ่งชิงซึ่งเป็นบุตรแห่งโชคชะตา!
ชายชุดขาวสัมผัสได้ถึงอำนาจจักรพรรดิซึ่งอยู่ไกลออกไป เขาใช้การบ่มเพาะเกือบทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องคุกเข่า!
“พี่จ้าวเยี่ยน เจ้าคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?”
สิ้นเสียงของชายชุดขาว เข่าของจ้าวเยี่ยนก็เริ่มงอเล็กน้อยราวกับกำลังจะคุกเข่าได้ทุกเมื่อ
เขาเหลือบมองชายชุดขาวผู้หลั่งเหงื่อเย็นออกมา ถึงกระนั้นก็ยังยืนหยัดอยู่ได้
“ลู่หยวนผู้นี้ไม่ธรรมดา ไม่แปลกใจเลยที่คุณชายถึงขอให้พวกเรามาอยู่ที่นี่”
จ้าวเยี่ยนได้ข้อสรุป “ฉือเซ่า ข้าคิดมาตลอดว่าลู่หยวนคนนี้จะต้องต่อสู้แลกชีวิตกับคุณชายของพวกเรา! ยิ่งกว่านั้น เวลาก็ใกล้เข้ามาแล้ว”
ฉือเซ่าพยักหน้า “มันแน่อยู่แล้ว พวกเขาทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันมากในบางแง่มุม”
“พรสวรรค์เหมือนกัน ภูมิหลังตระกูลเหมือนกัน ความสำเร็จที่สามารถหลงเหลือไว้ในประวัติศาสตร์ของแผ่นดินหยวนหงเหมือนกัน! บางครั้งมันก็ทำให้ข้าคิดว่าลู่หยวนผู้นี้อาจเป็นร่างจำแลงของคุณชายพวกเรา!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉือเซ่าก็สูดหายใจเข้า “ข้าเคยทำนายลู่หยวนมาครั้งหนึ่ง”
ดวงตาของจ้าวเยี่ยนสั่นไหวด้วยความประหลาดใจ “เป็นอย่างไรบ้าง?”
ฉือเซ่าผู้นี้เป็นคนของวิถีลึกลับ แม้จะไม่ใช่การบ่มเพาะหลัก แต่ก็ยังนับว่ามีพรสวรรค์ยิ่ง เขาได้เรียนรู้การทำนายทั้งหลายในวิถีลึกลับเพื่อทำการคาดเดาเกี่ยวกับวิถีสวรรค์ด้วยตัวเอง!
นับตั้งแต่ติดตามคุณชาย การบ่มเพาะวิถีลึกลับของฉือเซ่าได้รับการพัฒนาเช่นกันจนถึงจุดที่ไม่มีใครสามารถทำนายได้!
มีเพียงคุณชายเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น ฉือเซ่าเคยเริ่มทำนายเป็นเวลาสามเดือนพร้อมกับใช้พลังนับไม่ถ้วน ถึงกระนั้นก็ได้เพียงข้อสรุปว่า ไม่ได้อยู่ในวิถีสวรรค์ ไม่สามารถทำนายได้!
จ้าวเยี่ยนสงสัยเช่นกันว่าจะได้อะไรจากการทำนายลู่หยวนบ้าง
ฉือเซ่าเงียบสักพักก่อนจะเอ่ย “ไม่ได้อยู่ในวิถีสวรรค์ ไม่สามารถทำนายได้”
คำพูดเช่นนี้ช่างคุ้นหูจ้าวเยี่ยนยิ่งนัก!
เห็นได้ชัดว่ามันเหมือนกับตอนทำนายคุณชายซ่งชิง!
ฉือเซ่ายังคงเอ่ยต่อ “ข้าบอกคุณชายเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาดูจริงจังกับมันมาก เพราะอย่างนั้นถึงให้พวกเรามาที่นี่”
“ถ้าเป็นแต่ก่อน ข้าคงไม่เชื่อว่าจะมีอะไรผิดปกติกับลู่หยวน แต่ตอนนี้ข้าเชื่อแล้ว”
พลังของฉือเซ่าถูกทำลายทีละน้อยด้วยอำนาจของจักรพรรดิที่เล็ดลอดออกมาจากลู่หยวน
ฉือเซ่าไม่อาจยืนหยัดไหวอีกต่อไปก่อนจะคุกเข่าไปทางที่ลู่หยวนอยู่!
“ลู่หยวนผู้นี้ระเบิดพลังที่เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์ได้! ตอนนี้เขาเป็นอิสระจากข้อจำกัดวิถีสวรรค์แล้ว!”