ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 515 อยู่ภายใต้การควบคุม
บทที่ 515 อยู่ภายใต้การควบคุม
บทที่ 515 อยู่ภายใต้การควบคุม
เพียงไม่กี่คำกลับทำให้หัวใจของจ้าวเยี่ยนสั่นสะท้าน!
เข่าของเขาอ่อนลงขณะร่างกำยำคุกเข่าไปทางลู่หยวน!
“เช่นนั้นคุณชายเล่า?”
จ้าวเยี่ยนไม่สนว่าเขาคุกเข่าได้อย่างไร แต่กลับถามด้วยเสียงสั่นเทาเล็กน้อย
ทางฝั่งของลู่หยวนได้ก้าวข้ามวิถีสวรรค์ขณะครอบครองพลังไร้ใครเทียบ แล้วคุณชายของพวกเขาเล่า?
หากเป็นวาสนาอื่น จ้าวเยี่ยนย่อมไม่ประหลาดใจ
ก่อนจะมาพบกับซ่งชิง เขาเป็นเพียงเศษเสี้ยววิญญาณที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ ในช่วงชีวิตหนึ่งของเขาเคยเป็นปรมาจารย์ดาบผู้ทำให้เกิดพายุโลหิตไปทั่วทั้งแผ่นดินหยวนหง
เพียงแต่ช่วงเวลานั้นได้ผันผ่านไปแล้ว ตำนานของเขาบนแผ่นดินหลักจึงถูกผู้อื่นแทนที่
ฉือเซ่ามีประสบการณ์มากมายทั้งตอนมีชีวิตและตอนที่เป็นเศษเสี้ยววิญญาณ เขาถามกับตัวเองว่ายังมีสิ่งใดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอีกหรือ
ทว่าสิ่งที่ลู่หยวนทำในวันนี้สร้างความตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
พลังที่เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์ร้ายกาจเพียงใดกัน?!
พวกเขาเคยใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินหยวนหง นับตั้งแต่เกิดมา พวกตนใช้ทุกสิ่งในโลกนี้เพื่อความอยู่รอด ฝึกฝนและต่อสู้
ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรก็อยู่ภายในวิถีสวรรค์ ไม่มีทางก้าวออกนอกเส้นแบ่งนี้ได้!
พวกเขาต้องปฏิบัติตามวิถีสวรรค์ ถูกควบคุม ชี้นำหรือแม้กระทั่งถูกสังหารโดยวิถีสวรรค์!
อาจกล่าวได้ว่าทุกสิ่งที่พวกเขามีตอนนี้คือเจตจำนงของวิถีสวรรค์ หากวิถีสวรรค์ปล่อยให้ได้รับพรสวรรค์ พวกตนก็จะได้รับ
หากวิถีสวรรค์ต้องการให้อาหารประหนึ่งสุนัข พวกเขาก็ต้องยอมรับ!
วิถีสวรรค์คือพ่อทุกสถาบัน!
แต่ลู่หยวนได้รับพลังที่เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์ หาใช่พลังจากวิถีสวรรค์ไม่
มันถึงขั้นแทนที่วิถีสวรรค์จนสร้างกฎเกณฑ์ของตัวเองขึ้นมา!
อย่าว่าแต่สรรพสิ่งทั้งหลายเลย แม้แต่ทั่วทั้งแผ่นดินหยวนหงก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่นี้
ถึงตอนนั้น ลู่หยวนจะกลายเป็นผู้ปกครองทั้งแผ่นดินหยวนหงอย่างแท้จริง!
เขา ‘ลู่หยวน’ คือพ่อทุกสถาบัน!
พอจ้าวเยี่ยนคิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย หากลู่หยวนกลายเป็นวิถีสวรรค์ใหม่ เช่นนั้นจะไปทำอะไรได้?
มีแต่ต้องยอมจำนนแล้วกลับบ้านไปทำนา ไม่ก็ฝึกการใช้ค้อนหรอกหรือ?
ฉือเซ่าส่ายหน้า “เจ้าเคยเห็นสิ่งที่คุณชายทำในแต่ละวันแล้ว อุบายของเขาไร้ที่สิ้นสุด เจ้ายังจะคาดเดาอะไรได้อีก?”
“ไม่ว่าคุณชายจะมีพลังเช่นนั้นหรือไม่ แต่มันก็ทำให้ข้าค่อนข้างรู้สึกสะเทือนใจ แผ่นดินแห่งนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในช่วงหลายปี เมื่อมองดูประวัติศาสตร์ของแผ่นดินในช่วงที่ผ่านมา ดูท่าว่าพรสวรรค์ก็ไม่ต่างกับผักกาดขาวที่ทุกคนต่างมีครอบครอง!”
“ด้วยการเพิ่มขึ้นของอัจฉริยะเหล่านี้ แผ่นดินก็กระโจนเข้าสู่การต่อสู้ครั้งใหม่ แผ่นดินหยวนหงที่เดิมมีเผ่าพันธุ์มากมาย แต่หลังจากเกิดสงครามเลื่องชื่อหลายครั้ง เผ่าพันธุ์ก็ยิ่งลดน้อยลง!”
“ปราณวิญญาณก็ลดลงไปมากราวกับทั่วทั้งแผ่นดินแห้งเหือด ข้ามีลางสังหรณ์ว่าหากลู่หยวนกับคุณชายต้องสู้กัน มันจะกลายเป็นช่วงเวลาที่โชคชะตาของทั่วทั้งแผ่นดินจะถูกตัดสิน!”
“ถึงตอนนั้น แผ่นดินจะอยู่หรือไป คงถูกตัดสินโดยผู้ชนะในหมู่พวกเขา!”
ฉือเซ่าปิดท้ายหลังจากเอ่ยคำมาเนิ่นนาน “สิ่งที่พวกเราควรเห็นก็ได้เห็นมาแล้ว กลับกันเถอะ”
จ้าวเยี่ยนพยักหน้าแล้วเริ่มใช้พลังของตัวเอง เมื่ออำนาจจักรพรรดิของลู่หยวนผ่อนคลายเล็กน้อย เขาก็หลบหนีออกไปไกล!
…
อำนาจจักรพรรดิของลู่หยวนภายในวังยังคงคลุ้มคลั่ง ขุนนางและวิญญาณต่างยอมจำนนขณะคุกเข่ารอบตัวเขา
ฉินเซียวเริ่มไม่สามารถต้านทานอำนาจจักรพรรดิของลู่หยวนได้จนอยากคุกเข่าทันที แต่ในใจของเขายังคงไม่ยินยอม
เขาทราบดีว่าหากถูกอำนาจจักรพรรดิในวันนี้ควบคุม วันเวลาของตนเองก็เป็นอันสิ้นสุด!
ฉินเซียวเงียบสักพักก่อนจะพลันสั่นสะท้าน แล้วอำนาจจักรพรรดิก็ปะทุออกมา
ราชวงศ์อู๋ซวงนี้คือราชวงศ์เส้นชีพจรจักรพรรดิเช่นกัน ผู้ครอบครองเส้นชีพจรจักรพรรดิก็จะกลายเป็นจักรพรรดิ!
ในระหว่างเกิดการต่อสู้ภายใน ฉินเซียวสังหารพี่ชายเพื่อสืบทอดเส้นชีพจรจักรพรรดิ!
ฉินเซียวดึงเส้นชีพจรจักรพรรดิออกมาเพียงเพื่อให้ได้มีโอกาสรอดชีวิต!
แต่ทันทีที่เส้นชีพจรจักรพรรดิบนร่างของฉินเซียวถูกนำออกมา เขาก็รู้สึกว่ามันกลายเป็นข้อจำกัดในทันที! ตนเองถูกกักขังกับพื้นไว้มั่นจนไม่สามารถขยับได้!
เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?!
ฉินเซียวไม่อยากเชื่อตาตัวเอง
แม้อำนาจจักรพรรดิของลู่หยวนจะรวมเข้ากับเจตจำนงอันแก่กล้าของมหาวิถี
แต่ตอนนี้ฉินเซียวอาศัยอยู่ภายใต้วิถีสวรรค์ หาได้อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์มหาวิถีที่ถูกหลอมโดยลู่หยวนไม่!
เส้นชีพจรจักรพรรดิจะมากักขังเขาได้อย่างไร?!
ลู่หยวนยิ้มหยัน ด้วยเรี่ยวแรงที่เพิ่มขึ้นในมือของเขา ทำให้ด้านหลังของดาบสามคมฉิวหลงถูกพลิกก่อนจะทำการฟาดฟันออกไป!
สิ้นเสียง “ควับ” หอกจองจำวิญญาณก็ถูกสะบั้นในทันที!
ลู่หยวนยืนเอาดาบไพล่หลังขณะย่างก้าวเข้าหาฉินเซียวกลางอากาศท่ามกลางการสักการะของผู้คนทั้งหลาย
แม้ลู่หยวนในตอนนี้จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่า แต่กลับต้องเงยหน้ามอง ในสายตาของฉินเซียว อีกฝ่ายเหมือนกับราชาผู้กำลังก้มมองลงมาด้วยสายตาเย็นชา!
ลู่หยวนหยุดอยู่ตรงหน้าฉินเซียว แล้วยกเท้าขวาขึ้นเหยียบไหล่ซ้ายของฉินเซียวเล็กน้อย
“อำนาจจักรพรรดิหรือ? เหอะ…”
ลู่หยวนยิ้มหยัน “ข้ากำลังรออำนาจจักรพรรดิของเจ้าอยู่ ไม่อย่างนั้นข้าคงฆ่าไปนานแล้ว!”
ฉินเซียวตกตะลึงชั่วขณะ เขาเพียงได้ยินเสียงของลู่หยวนเอ่ยต่อ “ทุกวันนี้ เส้นชีพจรจักรพรรดิถูกแจกจ่ายไปทั่วแผ่นดิน ผู้พิชิตมันก็จะสามารถครอบครองหนึ่งจักรวรรดิได้”
“แต่เส้นชีพจรจักรพรรดินี้มาจากไหน? ใช่ผู้ที่กล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นจักรพรรดิใช่หรือไม่?”
“เส้นชีพจรจักรพรรดิที่เจ้าครอบครองคือส่วนหนึ่งของโชคชะตาจักรพรรดิที่จักรพรรดิมนุษย์หลอมรวมมันขึ้นมา ส่วนสิ่งที่ข้าครอบครองคือโชคชะตาแท้จริงของมหาจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์!”
ลู่หยวนสะบัดมือ แล้วชั้นหมู่เมฆม่านหมอกในห้วงอากาศก็กระจัดกระจาย เผยให้เห็นแสงจันทร์เจิดจ้า
“ข้าจะฆ่าเจ้าต่อหน้าผู้คนในราชวงศ์อู๋ซวงเพื่อเป็นธงผืนแรกในการเปลี่ยนบัลลังก์ เมื่อนั้นพวกเขาก็จะได้อยู่อย่างสงบ!”
ฉินเซียวฟังทุกคำพูดของลู่หยวนราวกับกำลังถูกตัดสิน
ลู่หยวนยกมือขึ้นแล้วสลักค่ายกลกลางอากาศ
เขายกเท้าขึ้นเพื่อส่งร่างของฉินเซียวเข้าไปในค่ายกล
“ศิษย์พี่ฉิน!”
สิ้นเสียงตะโกนของลู่หยวน ฉินอี่หานผู้รออยู่ในเงามืดก็ปรากฏตัว!
อำนาจจักรพรรดิบนร่างของลู่หยวนค่อย ๆ กระจายออกไป ถึงแม้ทั่วทั้งราชวงศ์อู๋ซวงต่างรับรู้ถึงอำนาจจักรพรรดิที่ปะทุออกมาจากฉินเซียว ทว่ามันไม่ได้ทรงพลังเหมือนในอดีต แต่กลับถูกแรงกดดันมหาศาลกำราบเอาไว้
ในตอนนี้มันไม่ต่างกับแกะตัวหนึ่ง แล้วพลังที่ปล่อยออกมาเพียงรู้สึกคันเท่านั้น!
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองก่อนจะพบว่าแสงของค่ายกลสาดส่องภายใต้แสงจันทร์ แล้วร่างทั้งสามก็ปรากฏ
ผู้คนในราชวงศ์อู๋ซวงมองเห็นชัดเจนว่าร่างที่กองอยู่กับพื้นราวกับถูกพันธนาการด้วยบางอย่างไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจักรพรรดิของพวกเขา… ฉินเซียว!
ส่วนอีกสองคนที่ยืนเคียงข้างกัน พวกเขาหาได้รู้จักไม่
แต่เมื่อมองอย่างละเอียด สตรีผู้นั้นช่างคล้ายกับจักรพรรดิคนก่อนหน้านัก!
————————————-