ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 549 มหาจักรพรรดิเหยาจี
บทที่ 549 มหาจักรพรรดิเหยาจี
บทที่ 549 มหาจักรพรรดิเหยาจี
ลู่หยวนกับซ่งชิงยืนประจันหน้ากัน แม้เสียงหัวใจเต้นยังคงดังก้องตลอดเวลา แต่ไม่มีใครคนใดตั้งใจจะหยุดมือ!
พลังของทั้งสองแผ่ซ่านออกมา โดยเบื้องหลังทั้งสองมีพลังนับไม่ถ้วนรวมตัวกันก่อจะกลายเป็นดวงอาทิตย์สีแดงสองดวง ซึ่งยังคงแผ่ขยายออกไป!
สรรพสิ่งรอบข้างเริ่มถูกกดดันและกลืนกินโดยพลังมหาศาลทั้งสองนี้อย่างต่อเนื่อง!
“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!”
เสียงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงดังกึกก้องอย่างต่อเนื่องทั่วหล้าราวกับฟ้าจะถล่มดินจะทลาย!
อาณาบริเวณทั้งหลายตกอยู่ภายใต้การสั่นสะเทือนนี้!
ผู้คนที่ยังคงกระจัดกระจายทุกหนแห่งสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือน แล้วแรงกดดันมหาศาลก็แผ่กระจายเข้าหาทีละคนขณะกำราบทุกทิศทาง!
กู้ชิงหรันกับชายชราถูกกำราบด้วยกลิ่นอายของทั้งสองจนยากที่จะฟื้นคืนได้!
หลังจากผ่านไปสองชั่วยาม ลู่หยวนกับซ่งชิงยังคงยืนประจันหน้ากัน!
ซ่งชิงเป็นคนแรกที่เอ่ย “ลู่หยวน เจ้ากับข้าต่างไม่สามารถเอาชนะกันเองได้! ต่อให้เจ้ากับข้าต่อสู้กันเองก็มิอาจมีใครชิงความได้เปรียบ!”
ลู่หยวนไม่ตอบแต่ยังคงเพิ่มพลังในมือ จากนั้นแรงกดดันทั้งหลายก็เคลื่อนลงมา!
ซ่งชิงยังคงใช้โอกาสถอยออกมาเล็กน้อยเพื่อปล่อยให้การโจมตีของลู่หยวนเคลื่อนผ่านไป!
ในตอนนี้ ทั้งสองต่างมีร่างขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง โดยแต่ละร่างครอบครองท้องนภาไปกว่าครึ่ง
ลู่หยวนไม่คิดปกปิดอีกต่อไปขณะกลิ่นอายมารถูกกวาดออกไป แล้วกลิ่นอายแห่งวิถีคุณธรรมก็ถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายเช่นกัน!
ร่างสูงตระหง่านยืนอยู่ระหว่างฟ้าดิน! มันถือง้าวเช่นเดียวกับลู่หยวน!
ลู่หยวนยืนอยู่หน้าร่างดังกล่าวขณะเนตรเทวะปรากฏขึ้นบริเวณหน้าผาก แล้วอำนาจมังกรกับอำนาจจักรพรรดิก็กระจายออกไป!
อีกด้านหนึ่ง ซ่งชิงไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน พลังวิถีสวรรค์เคลื่อนเข้าสู่ร่างกายของเขา แล้วร่างขนาดใหญ่ประหนึ่งแม่ทัพถือดาบยาวก็ปรากฏ ทุกกลิ่นอายและปราณวิญญาณไหลเวียนวนไปมา!
ดวงตาของซ่งชิงกลายเป็นสีขาว แล้วกลิ่นอายกว้างใหญ่ก็กระจายออกไปเป็นระลอกคลื่นทุกทิศทาง!
ยามเผชิญหน้ากับพลังของลู่หยวน! จะพลาดไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว!
…
ภายในส่วนลึกของแดนเซียน ผู้คนนับไม่ถ้วนจากตระกูลโบราณกำลังคุกเข่าอยู่ในห้องโถงโบราณ พวกเขาเหล่านี้ต่างเป็นอัจฉริยะระดับกลางในแดนเซียน!
อัจฉริยะระดับกลางในแดนเซียนเหล่านี้ต่างสร้างชื่อให้กับตระกูลตั้งแต่อายุยังน้อย!
พวกเขากำลังคุกเข่าอยู่กลางห้องโถง โดยร่างกายแต่ละคนมีจุดแสงสีทองเล็ดลอดออกมาขณะพุ่งตรงสู่ท้องนภา จากนั้นรวมตัวกันเป็นบอลน้ำบริสุทธิ์ที่มีขนาดเท่ากับกำปั้น
บอลน้ำกลืนกินพลังทั้งหมดเข้าไป แต่ผ่านไปสักพัก คนผู้หนึ่งในห้องโถงก็ทนไม่ไหวก่อนจะล้มลงกับพื้น
สตรีสวมผ้าคลุมสีขาวค่อยก้าวออกจากความมืดในห้องโถงโบราณ แต่ละย่างก้าวเผยท่วงท่าอันมีเสน่ห์ออกมา
หลังจากเดินไปสองก้าว ห้วงอากาศก็เกิดความผันผวน เพียงพริบตาก็มาอยู่ด้านหน้าชายหนุ่มที่ล้มลงกับพื้น
นิ้วเรียวยาวสีขาวราวกับหยกเหยียดออกเล็กน้อยเพื่อยกชายหนุ่มขึ้น จากนั้นก็ลากเขาออกจากห้องโถง
ชายหญิงทั้งหลายเต็มไปด้วยเหงื่อไคลบนหน้าผากต่างสั่นคลอนเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนี้ พวกเขายืดตัวตรงทันทีขณะฝืนยกระดับจิตวิญญาณให้แน่วแน่!
เสียงหญิงสาวเย็นชาและจริงจังค่อยดังขึ้นจากความมืดขณะกระจายไปทั่วทั้งห้องโถง!
“การที่สามารถแบ่งปันพลังอันน้อยนิดของพวกเจ้าให้กับเทพสงครามได้คือความหมายของการคุกเข่าที่นี่! มันคือจุดประสงค์ที่ตระกูลส่งพวกเจ้ามาที่นี่! ใครก็ตามที่สามารถแบ่งปันพลังให้กับการตื่นของเทพสงครามได้ก็จะมีโอกาสเข้าสู่ดินแดนเบื้องบน!”
หนุ่มสาวเหล่านี้ต่างมีกำลังใจทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ แล้วพลังสีทองก็ถูกดึงออกจากร่างมากขึ้น!
ใบหน้าของคนเหล่านี้ยิ่งเศร้าหมอง ถึงกระนั้นก็ยังคงสนับสนุนกันขณะบังคับให้ตัวเองไม่หมดสติ!
สตรีในชุดขาวงามงดพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นภาพนี้ท่ามกลางความมืด นางเต็มไปด้วยความสูงศักดิ์ขณะดูแคลนโลกด้วยความเหยียดหยัน
“ท่านจักรพรรดินี ชายหญิงอีกสามร้อยคนถูกส่งมาทางนี้แล้ว”
น้ำเสียงเย็นชาและจริงจังที่เพิ่งกระจายไปทั่วห้องโถงเมื่อครู่กลายเป็นคำพูดอันนุ่มนวลของบุคคลต่ำต้อย
ผู้ที่ถูกเรียกว่า “ท่านจักรพรรดินี” คือจักรพรรดินีเพียงผู้เดียวในบรรดามหาจักรพรรดิแห่งแดนเซียน… เหยาจี!
มหาจักรพรรดิเหยาจีเผยสีหน้าเหยียดหยันก่อนจะเอ่ยคำอย่างเนิบช้า “ไม่พอ”
กลุ่มสตรีผู้อยู่ข้างกายจักรพรรดินีตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้ แล้วพวกนางก็ก้มลงคุกเข่าพื้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก!
จักรพรรดินีหัวเราะแผ่วเบาขณะลุกขึ้น ดวงตาของนางซึ่งอยู่ในความมืดกวาดมองไปทั่วห้องโถง “พวกเจ้าจะใช้วิธีการไหนก็ได้ แต่พรุ่งนี้ข้าต้องเห็นสามพันคน”
ทันทีที่สิ้นคำ หัวใจของหญิงสาวทั้งหลายผู้กำลังคุกเข่ากับพื้นก็เต้นรัว
ชายหญิงผู้ถูกพามาที่นี่ล้วนผ่านกระบวนการคัดเลือกอันโหดร้าย!
ภายใต้เขตอำนาจของมหาจักรพรรดิเหยาจี ชายหญิงทั้งหลายผู้ผ่านเงื่อนไขเหล่านี้ต่างมาอยู่ที่นี่!
ถึงอย่างไร มันก็เป็นเช่นนี้มาหลายแสนปีแล้ว ผู้คนถูกพาเข้ามาวันแล้ววันเล่าเพื่อถ่ายทอดพลังเข้าสู่ก้อนกลมน้ำโปร่งใสนั่น!
ขนาดสามร้อยคนซึ่งอยู่ที่นี่ยังหามาได้อย่างยากลำบาก!
แล้วพวกเขาจะไปหาคนจากไหนเพื่อรวบรวมให้ได้สามพันคนก่อนวันพรุ่งนี้!
ชายเสื้อหรูหราของจักรพรรดินีขยับเล็กน้อยเพื่อเตรียมจะจากไป แต่ทันใดนั้นนางก็สัมผัสบางอย่างได้!
ก้อนกลมน้ำบนท้องนภาเหนือห้องโถงที่เดิมรวมตัวกันพลันกระจายออก แล้วกระแสน้ำก็หลอมรวมอีกครั้งก่อนจะค่อยก่อตัวเป็นรูปทรงของกระบี่หัก!
“นี่มัน?”
จักรพรรดินีหรี่ตา เพียงพริบตาก็มาอยู่ตรงหน้ากระบี่หักที่เกิดจากก้อนกลมน้ำ!
เมื่อก้อนกลมน้ำสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังเข้าใกล้ มันก็ปลดปล่อยพลังที่คล้ายกับมาจากสวรรค์ทั้งเก้าออกมาทันที ซึ่งมันทัดเทียมกับพลังของมหาจักรพรรดิเหยาจีขณะซ้อนทับกันบางส่วน!
ลวดลายกระบี่กระจายออกไป เพียงชั่วพริบตา ทั่วทั้งห้องโถงก็เต็มไปด้วยเจตจำนงกระบี่ที่สามารถตัดผ่านฟ้าดินได้!
หากเจตจำนงนี้ปรากฏในสายตาของผู้ใช้กระบี่ เกรงว่ามันจะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าไม่ผิดแน่!
เจตจำนงดังกล่าวเทียบได้กับวิถีสวรรค์หรืออาจถึงขั้นเป็นเทพกระบี่!
เพียงกวาดมองครู่เดียวก็อาจตระหนักได้ถึงเจตจำนงของมัน!
ผู้คนที่อยู่ห้องโถงเบื้องล่างย่อมมีหลายคนที่เป็นผู้ใช้กระบี่ แต่ไม่มีใครสามารถดูลวดลายของมันได้!
พลังที่เกิดจากกระบี่หักดังกล่าวทำให้ผู้คนทั้งหลายเข้าใจถึงความหมายของคำว่า “ตับไตไส้พุงถูกตัดเป็นชิ้น”!
“พรวด! พรวด! พรวด!”
เพียงหนึ่งอึดใจ ครึ่งหนึ่งของผู้คนหลายร้อยชีวิตก็กระอักโลหิตออกมาก่อนจะหมดสติ!
มหาจักรพรรดิเหยาจีไม่สนใจสิ่งนี้ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความร้อนแรง!
นางเพียงสะบัดมือก่อนก้อนกลมน้ำจะกลับคืนสู่สภาพเดิม!
ผ่านไปสักพัก อำนาจของมันก็สลายไป!
ดวงตาของมหาจักรพรรดิเหยาจีเต็มไปด้วยความถวิลหาขณะมือสีขาวราวกับหยกสัมผัสหยดน้ำอย่างนุ่มนวล จากนั้นก็พึมพำกับตัวเอง “ศิษย์พี่ ในที่สุดเจ้าก็จะได้กลับมาแล้ว…”
“อย่าห่วงไปเลย ข้าจะรีบปลุกท่านโดยไว ส่วนกระบี่ของท่าน ข้าจะให้คนออกไปตามหา เวลาที่ท่านตื่นขึ้นก็คือเวลาที่จะได้จับกระบี่และปกครองโลกอีกครั้ง!”
ทันทีที่สิ้นคำ มหาจักรพรรดิเหยาจีก็หันไปมองด้านข้างด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “เมื่อครู่พวกเจ้าสัมผัสกลิ่นอายได้แล้วใช่หรือไม่ จงไปนำกระบี่ไท่อีกลับมา! วิญญาณกระบี่ก็ต้องกลับไปยังที่ของมันเช่นกัน!”
“ขอรับ! น้อมรับคำสั่งมหาจักรพรรดิ!”