ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 562 ยึดครองแดนมัชฌิม
บทที่ 562 ยึดครองแดนมัชฌิม
บทที่ 562 ยึดครองแดนมัชฌิม
“ซากศพของทวยเทพหรือ?”
ลู่หยวนคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเช่นนี้
ในแผ่นดินหยวนหง ผู้คนทั้งหลายต่างมุ่งหน้าไปเกาะสังหารเซียน ซึ่งตระกูลลู่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำของกลุ่มเวิ้งทะเลแดนเหนือ
แน่นอนว่าแดนมัชฌิมมีกลุ่มเป็นของตัวเอง ซึ่งพวกเขามีคนจากตระกูลฮ่วนมาเข้าร่วมเช่นกัน
ทางด้านตระกูลลู่ นอกจากข่าวคราวที่ออกมาเมื่อคราวที่แล้วก็ไม่มีอะไรอีก
คาดไม่ถึงว่าฝั่งของฮ่วนซิงไป๋ยังคงมีข่าวกลับมา!
ทว่าซากศพของทวยเทพที่กล่าวมาข้างต้นคงไม่ใช่แค่ศพของคนจากแดนเซียนหรอกใช่ไหม?
ฮ่วนซิงไป๋เห็นความสงสัยของลู่หยวนก่อนจะเอ่ย “บุตรศักดิ์สิทธิ์ ซากศพของทวยเทพนี้ไม่ใช่คนจากแดนเซียน แต่เป็นทวยเทพที่แท้จริง!”
“ตามข่าว พื้นที่ห่างไกลของเกาะสังหารเซียนในตอนนี้ยิ่งแปลกประหลาด มันไม่เหมือนอย่างที่พวกเราจินตนาการเอาไว้ นอกจากซากศพของทวยเทพแล้ว ยังมีของอย่างอื่นอีก”
“เพียงแต่ข่าวคราวที่ได้รับมามีไม่มากและยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่นัก บรรพชนของข้าบอกเอาไว้ว่าคราวนี้พวกเราต้องเตรียมตัวให้มาก เพราะไม่มีใครทราบว่าอะไรอยู่ภายในพื้นที่ห่างไกลนั่น”
ลู่หยวนพยักหน้า
เดิมทีเกาะสังหารเซียนนี้เป็นเส้นทางสู่แดนเซียนมันน่าจะเคยมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่นั่น
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันอาจจะมีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่
“ยังไม่ถึงเวลาเดินทาง บอกข้ามา เจ้าอยากพาใครไปบ้าง?”
ฮ่วนซิงไป๋พยักหน้า “ข้าบอกเรื่องพวกนี้ให้ท่านจักรพรรดินีทราบแล้ว ความคิดของนางเหมือนกับข้า นั่นก็คือนำกลุ่มของแดนมัชฌิมที่อยู่ใต้อาณัติของบุตรศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย!”
กลายเป็นว่าลู่หยวนเคยทำข้อตกลงกับฮ่วนซิงไป๋ว่าจะพาไปด้วย เนื่องจากเขามีแผนที่ของเกาะสังหารเซียนอยู่ในมือ
คราวนี้ฮ่วนซิงไป๋เพียงอยากพาคนไปด้วยสองสามคน
เมื่อมองท่าทางของฮ่วนซิงไป๋ที่เคร่งขรึมยิ่งแล้ว ดูเหมือนว่าการเดินทางไปเกาะสังหารเซียนครั้งนี้คือสิ่งที่พิเศษยิ่งสำหรับอีกฝ่ายใช่หรือไม่?
ลู่หยวนพลันครุ่นคิดบางอย่างขณะมองฮ่วนซิงไป๋แล้วเอ่ย “ตระกูลฮ่วนของเจ้ามาที่แผ่นดินหยวนหงจากแดนเซียนแล้วไม่ได้กลับไป มันเป็นเพราะอะไรหรือ?”
หากลู่หยวนจำไม่ผิด ตอนบรรพชนของตระกูลฮ่วนมา เส้นทางระหว่างแดนเซียนกับแผ่นดินหยวนหงยังไม่ถูกปิด
เช่นเดียวกับพวกตี้อู่เหอซ่าน พวกเขาถูกบังคับให้อยู่ที่นี่เพราะเส้นทางถูกปิดจนไม่สามารถกลับไปได้
บรรพชนของตระกูลฮ่วนมีทางเลือกมากมาย แต่พวกเขายังคงอยู่บนแผ่นดินหยวนหงซึ่งเป็นสถานที่ด้อยกว่าแดนเซียนในทุกด้าน
หากบอกว่าไม่มีการวางแผน ลู่หยวนย่อมไม่เชื่อ
ฮ่วนซิงไป๋ตกตะลึงชั่วขณะราวกับคาดไม่ถึงว่าลู่หยวนจะถามแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงแบมือแล้วเอ่ย “ข้าไม่ทราบเหมือนกัน”
ลู่หยวนเพียงส่งเสียงอืมขณะเอ่ยกับฮ่วนซิงไป๋สักพัก จากนั้นอีกฝ่ายจึงจากไป
ลู่หยวนเรียกไป๋ชิวเอ๋อร์เพื่อขอให้เตรียมของในการสร้างร่างกายใหม่ขึ้นมา หากแดนมัชฌิมไม่สามารถทำได้ เขาคงต้องปล่อยให้ตระกูลลู่กับสำนักอักขระสวรรค์จัดการ!
หลังจากถ่ายทอดคำสั่งเหล่านี้แล้ว ลู่หยวนก็อยู่คนเดียวในลานวัง
แม้ค่าโชคชะตาวายร้ายในตอนนี้จะเท่ากับศูนย์ แต่เขายังมีราชวงศ์อู๋ซวงคอยหนุนหลังอยู่!
ซึ่งค่าโชคชะตาจำนวนมากถึงเก้าแสนแต้มมากพอที่ลู่หยวนจะทำหลายสิ่งหลายอย่าง!
ยิ่งไปกว่านั้น ลู่หยวนสอบถามระบบว่าหากขอให้จักรพรรดิราชวงศ์อื่นยอมจำนนเหมือนกับฉินอี่หาน พละกำลังของราชวงศ์เหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นค่าโชคชะตาวายร้ายหรือไม่
คำตอบของระบบคือได้!
ยิ่งไปกว่านั้น ระบบยังระบุว่าไม่เพียงแค่ราชวงศ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงตระกูลกับสำนักอีกด้วย ขอเพียงลู่หยวนสามารถทำให้อยู่ใต้อาณัติหรือสามารถวางผู้ติดตามไว้ภายในนั้นได้ กองกำลังนี้ก็จะสามารถกลายเป็นค่าโชคชะตาวายร้ายไว้ให้เขาใช้ได้
ลู่หยวนยิ้มหยันอยู่ในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ แล้วระบบนี้กับระบบของซ่งชิงมันต่างกันตรงไหน?!
แม้กระทั่งการตั้งค่ายังเหมือนกันทุกประการ
ทว่ามันเป็นการเปิดเส้นทางใหม่สำหรับลู่หยวน
ลู่หยวนเกียจคร้านเกินกว่าจะจัดการกับกองกำลังขนาดเล็กเหล่านี้ เขาอยากจัดการกับกองกำลังขนาดใหญ่มากกว่า!
ยกตัวอย่างเช่น… แดนมัชฌิม!
จักรพรรดินีแดนมัชฌิมกู่จินเจาถือว่าอยู่ภายใต้การควบคุมของลู่หยวน
แม้เส้นชีพจรจักรพรรดิอยู่ภายใต้การควบคุมของลู่หยวน แต่สุดท้ายแล้วจักรพรรดินียังไม่ถือว่าเป็นผู้ติดตามของเขา
สำหรับลู่หยวนนับว่าเป็นเรื่องง่าย เขาเพียงต้องเพิ่มยันต์ให้กู่จินเจาเท่านั้น
ถึงตอนนั้น ทั่วทั้งแดนมัชฌิมจะสามารถเปลี่ยนเป็นค่าโชคชะตาที่มีเพียงลู่หยวนใช้ได้!
“ระบบ แดนมัชฌิมในตอนนี้สามารถแปลงเป็นค่าโชคชะตาได้มากเท่าไหร่?”
[ค่าโชคชะตาประมาณสิบล้านแต้ม!]
“ค่าโชคชะตาสิบล้านแต้มหรือ?”
ลู่หยวนประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้
ราชวงศ์อู๋ซวงมีค่าโชคชะตาเพียงเก้าแสนแต้ม
[สถานการณ์ในแดนมัชฌิมตอนนี้ยังคงดีขึ้น ดังนั้นค่าโชคชะตาจึงยังเพิ่มขึ้น!]
มุมปากของลู่หยวนยกยิ้มเล็กน้อย
เพียงแต่ค่าโชคชะตาของแดนมัชฌิมมากกว่าที่ซ่งชิงหาได้หลายเท่า!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ลู่หยวนก็พุ่งตรงไปไปหากู่จินเจาทันที
กู่จินเจาตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นลู่หยวนมา เมื่อเขานำยันต์ออกมา นางก็ไม่ขัดขืน
นางถูกผูกมัดกับลู่หยวนแล้ว ตอนนี้ทั่วทั้งแผ่นดินหยวนหงทราบว่าแดนมัชฌิมหลังจากนี้มีจักรพรรดิผู้หนึ่งซึ่งไม่ได้อ้างสิทธิ์ในตำแหน่งดังกล่าว คนผู้นั้นก็คือลู่หยวน!
ยิ่งไปกว่านั้น กู่จินเจาทราบดีว่าหากติดตามลู่หยวน แดนมัชฌิมย่อมพัฒนาได้มาก แล้วตระกูลกู่จะยืนหยัดได้อย่างภาคภูมิเหนือตระกูลทั้งหลายในแผ่นดินหลัก!
“ชิ้ง!”
เมื่อยันต์ผสานเข้ากับคิ้วของกู่จินเจา เสียงท่องคาถาอย่างแผ่วเบาจึงดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงของระบบ
[กู่จินเจาจะกลายเป็นผู้ติดตามของท่าน แล้วแดนมัชฌิมจะกลายเป็นกองกำลังของท่าน! ค่าโชคชะตาเท่ากับสิบล้านแต้ม ท่านสามารถนำมาใช้เมื่อใดก็ได้!]
[แจ้งเตือนจากระบบ: เมื่อค่าโชคชะตาของท่านมากกว่าที่กำหนด มันจะทำให้พลังตกอยู่ในหายนะ! ทันทีที่ค่าโชคชะตาถูกระดมเสร็จสิ้น แม้กระทั่งเส้นชีพจรจักรพรรดิก็จะหายไป!]
ลู่หยวนไม่สนใจขณะกลับไปที่ลานบ้านของเขาเพื่อเตรียมเก็บตัวในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า
เขาในตอนนี้มีทักษะเทวะมากมายที่ยังรอการพัฒนาอยู่!
ในห้องโถงโอ่อ่ายิ่งของลู่หยวน เขาเป็นคนเดียวที่นั่งขัดสมาธิก่อนจะหลับตา “ระบบ พัฒนาทักษะเทวะทั้งหมด!”
[ระบบรับทราบ! แจ้งเตือนจากระบบ: การพัฒนาทักษะเทวะของท่านในครั้งนี้มาพร้อมกับการพัฒนาการบ่มเพาะ! ขอให้ท่านโปรดให้ความสนใจ!]
หลังจากเสียงของระบบดังขึ้น ทั่วทั้งห้องโถงจึงตกอยู่ในความเงียบ
ส่วนท้องนภาเหนือห้องโถงใหญ่ราวกับถูกเจาะทะลวงภายใต้สายลมแรงกล้า หมู่เมฆอยู่ในส่วนลึกขณะเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง
ฟ้าร้องดังอย่างแผ่วเบาราวกับใครบางคนกำลังจะทะลวง!
บริเวณด้านนอกห้องโถงหลักของลู่หยวนมีผู้คนจำนวนมากที่มีระดับการบ่มเพาะค่อนข้างสูงจากตระกูลเสวียนยืนคุ้มกันทุกทิศทาง
หลังจากนั้น แม้แต่กู้ชิงหรันยังมาคุ้มกันลู่หยวนด้วยกระบี่ของตนเอง
ผ่านไปเพียงหนึ่งวัน ชายชราผู้หนึ่งถือหอกยาวได้มาถึงนอกตระกูลเสวียนด้วยสีหน้าจริงจัง
เสวียนเทียนชวนออกไปทักทายด้วยตัวเอง เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบรรพชนตระกูลหลิง!
เสวียนเทียนชวนประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน ถึงกระนั้นยังคงเอ่ยถามอย่างสุภาพ “เหตุใดท่านถึงมาที่นี่?”
ขอเพียงหลิงอวิ๋นยังอยู่ ตระกูลหลิงย่อมถือว่าอยู่ภายใต้อิทธิพลของลู่หยวน
เสวียนเทียนชวนทราบดีว่าหลิงอวิ๋นไปที่อื่น ทำให้ช่วงนี้บรรพชนตระกูลหลิงรับหน้าที่ดูแลสถานการณ์โดยรวมแทน
ทว่าบรรพชนตระกูลหลิงไม่ได้เลวร้ายอะไร เขาช่วยตระกูลเสวียนอย่างสุดกำลังไม่ต่างจากตอนที่หลิงอวิ๋นยังอยู่ที่นั่น