ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 604 สิ่งตอบแทนจากเพื่อนร่วมทาง
บทที่ 604 สิ่งตอบแทนจากเพื่อนร่วมทาง
บทที่ 604 สิ่งตอบแทนจากเพื่อนร่วมทาง
สายตาของลู่หยวนเบนไปทางฟางฉง “เอ่ยวาจาที่เจ้าเพิ่งกล่าวไปเมื่อครู่อีกรอบ”
น้ำเสียงแผ่วเบา แต่จิตสังหารกลับแฝงเร้นอยู่ในนั้น
ฟางฉงที่เพิ่งจะตั้งคอผงาดได้ไม่ทันไรก็เหี่ยวเฉาลงในทันที
แม้ว่าปราณจากลู่หยวนจะยังเป็นเช่นเดิมไปเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย แต่ฟางฉงกลับสัมผัสได้ชัดเจนว่าคราวนี้เขาคิดผิดแล้ว เขาประเมินการบ่มเพาะของเด็กหนุ่มผู้นี้ต่ำเกินไป!
ครึ่งก้าวสู่ขั้นอมตยุทธ์จะสามารถฆ่าขั้นจ้าวยุทธ์ภายในพริบตาโดยไม่มีแม้แต่เศษฝุ่นหลงเหลืออยู่ได้อย่างไร!
และฟางฉงเองยังอยู่ในสถานการณ์นี้ด้วยแต่กลับไม่สามารถรับรู้ได้แม้แต่น้อย!
เด็กหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งกว่าขั้นอมตยุทธ์!
ฟางฉงหลงตัวเองว่าสามารถต่อสู้กับครึ่งก้าวสู่ขั้นอมตยุทธ์ได้ แต่หลังจากผ่านขั้นอมตยุทธ์ไปแล้วเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย!
ลู่หยวนคนนี้ หากโกรธขึ้นมาก็สามารถทำให้ฟางฉงกลายเป็นเถ้าธุลีได้ในพริบตา!
ฟางฉงพยายามยกมุมปากขึ้น “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์เอ๋ย คำกล่าวเมื่อครู่ของข้าล้วนเป็นเรื่องตลก ข้าและท่านพอจะปรึกษาหารือกันได้ ไม่จำเป็นต้องฟาดฟันกันเช่นนี้มิใช่หรือ”
“ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ว่ามาเถิดว่าการมาเยือนในครั้งนี้ท่านมีความประสงค์ใด ถ้าหากพวกข้าสามารถช่วยเหลือท่านได้ก็เชิญสั่งมา”
เหล่าผู้ติดตามฟางฉงล้วนแต่มีความสามารถทั้งสิ้น การบ่มเพาะและสายตาของพวกเขาไม่ธรรมดา
ตั้งแต่ช่วงเวลาที่พวกพ้องของตนเองหายไปในพริบตา พวกเขาก็รู้แล้วว่าวันนี้พวกเขาได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง จึงพากันทำหน้าตายิ้มแย้มพร้อมๆ กับฟางฉง
“ใช่แล้วๆๆ มีเรื่องใดก็สั่งมาเถิด ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
ลู่หยวนหัวเราะเสียงเย็นยะเยือก “ข้าต้องการฐานที่มั่นแห่งนี้”
ฟางฉงรีบเอ่ยแทรกขึ้นทันที “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์วางใจเถิด ท่านและผู้ติดตามของท่านสามารถพักอาศัยที่นี่ได้โดยไม่มีปัญหา ข้าจะสั่งให้คนไปทำความสะอาดห้องด้านหลังเดี๋ยวนี้ ส่วนข้าจะเก็บห้องเอาไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ!”
“ข้าจะเฝ้าอยู่ด้านหน้าเพื่อคอยระวังให้ท่าน ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์มีบัญชาใดก็สั่งมาได้เลย ข้าจะจัดการให้!”
ถ้อยคำของฟางฉงเต็มไปด้วยความประจบสอพลอ ผู้ติดตามของเขาก็พากันเห็นด้วย
พวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่บนเกาะสังหารเซียนแห่งนี้ได้นานขนาดนี้ ไม่เพียงแต่พึ่งพาความแข็งแกร่ง แต่ยังพึ่งพาทักษะในการอ่านสถานการณ์อีกด้วย!
เฟยซิงที่ยืนอยู่หลังคนอื่นๆ เงียบปาก เปลือกตาหลุบต่ำลงจนมองไม่เห็นแววตา
ผู้คนเหล่านี้ที่ขอร้องและประจบสอพลอจนน่าเกลียด เมื่อเทียบกับความโอหังในตอนแรก ราวกับเป็นคนละคน ในตอนนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงไปเสียแล้ว
ลู่หยวนหัวเราะเยาะ “เจ้าอยากมีชีวิตอยู่งั้นรึ?”
ฟางฉงพยักหน้าในทันที
แน่นอนว่าเขาต้องการมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้นเขาจะลำบากยากเย็นอยู่บนเกาะร้างที่ไม่มีความสุขแห่งนี้ ไล่ล่าธงและทำตัวเย่อหยิ่งไปเพื่ออะไร หากไม่ใช่เพื่อหวังให้ตนเองมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นและพบกับจุดเปลี่ยนบางอย่าง!
ทันใดนั้น ลู่หยวนก็ก้าวออกไปหนึ่งก้าว อากาศโดยรอบสั่นไหวไปทั่ว จากนั้นร่างของลู่หยวนก็หายลับไปจากจุดเดิมในทันที!
ผ่านไปหนึ่งลมหายใจ ร่างของลู่หยวนก็ปรากฏอยู่ถัดจากฟางฉง
รูม่านตาของฟางฉงหดลงทันที แววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ความเร็วระดับนี้ มองไม่เห็นแม้แต่เงา กระทั่งการเคลื่อนไหวของลมก็ยังรับรู้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!
ลู่หยวนมีวิทยายุทธเช่นนี้ หากต้องการปลิดชีพเขา ก็เพียงการคว้าของจากกระเป๋าเฉกเช่นเป็นเรื่องง่ายดาย!
“ท่านเป็นคนแรกที่กล้าหมายปองสตรีของข้า”
เสียงของลู่หยวนดังก้องข้างหูของฟางฉง เสียงนั้นทุ้มต่ำ เสมือนปีศาจแห่งนรกกำลังขับขานเพลงอย่างแผ่วเบา
ทันใดนั้น ฟางฉงก็กำลังจะอ้าปากเอ่ยเพื่อปกป้องตนเอง “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้า…”
เสียงเพิ่งจะเปล่งออกไปไม่นาน ร่างของเขาก็กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยแล้วหายไปจากที่ตรงนั้น!
รอจนร่างของฟางฉงหายไปสิ้นซากแล้ว ทั่วบริเวณที่ว่างเปล่าก็ไม่มีแม้แต่เศษฝุ่นหลงเหลือ!
เหล่าผู้คนยิ่งหวาดกลัวหนักเข้าไปอีก ฟางฉงอาจจะสามารถกลายมาเป็นผู้นำของพวกเขาได้ด้วยพละกำลังที่เหนือกว่าย่อมเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนนี้ เขากลับสลายกลายเป็นผุยผงไปต่อหน้าต่อตาอย่างง่ายดาย!
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
ยิ่งไปกว่านั้น ขาของบางคนก็อ่อนแรงจนทรุดลงนั่งกับพื้นคารวะลู่หยวนไม่หยุดปาก “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์โปรดเมตตา พวกข้าทำตามคำสั่งของเจ้าสุนัขจิ้งจอกฟางฉงเท่านั้น ไม่กล้าต่อกรกับท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์เป็นอันขาด!”
คนอื่นๆ ก็รีบก้มลงคารวะทันที “จริงแท้แน่นอน ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ ที่พวกข้าทำไปทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเจ้าฟางฉง ท่านได้สังหารเขาไปแล้ว นั่นเท่ากับช่วยชีวิตพวกข้าไว้ หากท่านไม่รังเกียจ ได้โปรดรับพวกข้าไว้เป็นผู้รับใช้เถิด ขอให้พวกข้าได้ทดแทนบุญคุณท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
ลู่หยวนไม่สนใจผู้คนที่คุกเข่าขอความเมตตาเหล่านั้น แต่กลับหันเหสายตาไปยังเฟยซิง
เห็นได้ชัดว่าเฟยซิงเป็นคนเดียวที่ยังยืนอยู่ได้ เขาไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจมากนัก และไม่เหมือนคนอื่นๆ สายตาคู่นั้นแฝงไปด้วยความเฉยชา
เมื่อเห็นลู่หยวนมองมา เฟยซิงก็กัดฟันคล้ายจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้ เขาเดินขึ้นไปหนึ่งก้าวในทันที และยกมือทำความเคารพลู่หยวน “ได้ยินผู้อื่นเรียกท่านว่าท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้าก็ขอเรียกท่านเช่นนี้เช่นกัน”
“ขอเอ่ยเพียงสั้นๆ ข้าปรารถนาจะอยู่ต่อไป คำต้องห้ามของท่านเมื่อครู่ ข้ามิได้ล่วงเกิน ข้าสามารถอธิบายและนำทางให้ท่านได้เข้าใจเกี่ยวกับเกาะสังหารเซียนแห่งนี้ได้! ขอเพียงท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์เมตตาไว้ชีวิตข้า!”
คนอื่นๆ ได้ยินเฟยซิงเอ่ยเช่นนั้น ต่างก็เข้าไปคารวะพร้อมทั้งเอ่ยว่า “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้าก็ทำได้เช่นกัน ข้ายังสามารถล่าสัตว์ให้ท่านได้ด้วย!”
“ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้าก็ทำได้เช่นกัน เลือกข้าเถิด!”
“ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ โปรดมองข้า ข้าซื่อสัตย์ที่สุด แน่นอนว่าจะไม่ทรยศ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลู่หยวนก็เอียงศีรษะเล็กน้อย “ช่างน่ารำคาญสิ้นดี!”
เมื่อวาจานี้เพิ่งจะจบลง เฟยซิงก็ชักกระบี่ออกอย่างรุนแรงจนได้ยินเสียง “ชิ้ง” สองสามครั้ง คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็ถูกบั่นคอจนสิ้น
เมื่อหัวของคนทั้งสามกลิ้งอยู่บนพื้น เฟยซิงก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง “ข้าได้ประหารชีวิตคนเหล่านี้ตามคำสั่งของท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์แล้ว!”
มุมปากของลู่หยวนยกขึ้น เขามิได้มองเฟยซิงผิด คนผู้นี้มีอะไรบางอย่างในตัวอยู่จริงๆ
“เฟยซิง เจ้ามาจากดินแดนใด?”
ลู่หยวนเอ่ยถาม
เฟยซิงตอบทันที “เดิมทีตระกูลข้าเป็นตระกูลเล็กๆ ไร้ชื่อเสียงในอาณาจักรประจิม ข้าได้เข้ามาในเกาะสังหารเซียนเนื่องจากมีพรสวรรค์ และได้เป็นผู้ติดตามของลูกหลานตระกูลใหญ่ คนเหล่านั้นได้รับเลือกให้เข้ามาในเกาะสังหารเซียน ข้าจึงได้ติดตามพวกเขามาเช่นกัน”
“อ้อ”
ลู่หยวนเลิกคิ้วขึ้น
บนแผ่นดินหยวนหงนั้น การมีผู้ติดตามนั้นพบได้น้อยมาก เพราะการมีผู้ติดตามหมายถึงการต้องแบ่งปันเสบียง
อีกอย่าง โดยทั่วไปแล้ว มีผู้ติดตามก็เหมือนกับการเลี้ยงสุนัขไว้ข้างกาย หากเลี้ยงดีก็จะเป็นสุนัขที่ดี สามารถปกป้องเจ้านายได้ หากเลี้ยงไม่ดีก็จะเป็นหมาป่าแว้งกัดเจ้าของเอาได้!
คนที่มีพรสวรรค์ที่คนในตระกูลใหญ่เล็งเห็น จึงได้รับการฝึกฝนให้เป็นผู้ติดตามของลูกหลานตระกูลใหญ่เช่นนี้ นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ!
พรสวรรค์เช่นนี้ อาจจะหาได้ยากยิ่งมาตั้งแต่โบราณ
ลู่หยวนเอ่ยถามต่อ “แล้วเจ้าปกป้องคุณชายผู้นั้นมิใช่หรือ?”
คนผู้นี้มีกิริยารุ่มร่าม หาใช่บุตรหลานตระกูลใหญ่ไม่ เพียงแค่มีลักษณะคล้ายพวกศิษย์จากสำนักใดสำนักหนึ่งเสียมากกว่า
แม้ว่าเฟยซิงจะเป็นเพียงสหายร่วมสำนัก แต่เมื่อมาถึงเกาะสังหารเซียนแล้ว ก็ยังคงต้องเฝ้าติดตามคุณชายผู้นั้นมิใช่หรือ
“ข้าสังหารเขาแล้ว”
เฟยซิงเปล่งเสียงเรียบเฉย คิ้วกระตุกขึ้นเล็กน้อย สบสายตากับลู่หยวนอย่างไม่ลดละ “ข้ามีกระบี่โครงกระดูก พวกเขาเลี้ยงดูข้าเพียงเพราะต้องการจะควักกระบี่โครงกระดูกของข้าไป”
“แม้ว่ากระบี่โครงกระดูกจะถูกควักออกไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังเลี้ยงดูข้าอยู่ โดยหวังจะใช้เลือดของข้าไปหล่อเลี้ยงเจ้าสุนัขตัวนั้น อีกทั้งข้ายังหาโอกาสลงมือมิได้ ทว่าเมื่อมาถึงเกาะสังหารเซียนแล้ว แผ่นดินหยวนหงและชนชั้นสูงทั้งหลายล้วนเป็นเพียงหมอกควัน ข้าจึงได้โอกาสสังหารเจ้าสุนัขตัวนั้นเสีย”