CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 140

  1. Home
  2. ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก
  3. ตอนที่ 140
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 140 เดินหน้าต่อไป

โรงเรียนไม่ผิด ชื่อเสียงของศาสตราจารย์ฉินนั้นไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนแพทย์หรือมหาวิทยาลัย และแม้แต่กรมการแพทย์เฟคต้าเองต่างให้ความนับถืออย่างสุดหัวใจ เรียกได้ว่าเขาเป็นอาจารย์ในความฝันของใครหลายคน

  ฮ่า ฮ่า กู้จวินเขาเป็นเด็กที่เรียนรู้เร็วเป็นพิเศษ  ศาสตราจารย์ฉันยังคงรู้สึกขอบคุณมากที่ตอนนั้นเขาตัดสินใจชวนกู้จวินให้เข้าร่วมเฟคต้า   แต่แท้จริงแล้วแผนฝึกอบรมเขาทั้งหมดก็คือการเข้าหน่วยปฏิบัติการณ์เคลื่อนที่

 ถ้าอิงตามความสามารถของเจ้าหนุ่มนั่นมันก็ควรเป็นแบบนั้น…  เหยาซีเหนียนพยักหน้าทว่าในใจของเขากลับมีความคิดที่ซับซ้อนแอบซ่อนอยู่

ถ้าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้มาจากภูมิหลังที่ซับซ้อนและดูยังไงก็อันตรายเช่นนี้พวกเขาก็คงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆกับเด็กหนุ่ม อีกทั้งไม่ต้องเสี่ยงทําตัวเสียมารยาทกับคนมีความสามารถขนาดนี้

พูดตามตรงที่กู้จวินถูกปฏิบัติแย่ๆ เสมอมาตั้งแต่ตอนที่ถูกจับตัวยันมาถึงที่นี่ล้วนเป็ นการบังคับฝ่ายเดียวจากฝ่ายบัญชาการเบื้องบนทั้งนั้น ส่วนสาเหตุก็คือภูมิหลังที่น่าสงสัยและต้องขอบคุณความมีประโยชน์ของเด็กหนุ่มไม่อย่างนั้นอิสระภาพของเขาอาจจะถูกพรากไปก็ได้หรือแม้แต่ชีวิตก็อาจจะอยู่ในความเสี่ยง

แต่สําหรับตอนนี้มันยากที่จะบอกได้ว่ากู้จวินจะเป็นทรัพย์สินของเฟคต้าจริงหรือไม่? แต่เหยาซีเหนียนหวังว่าเขาจะเป็น

เพราะเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ความสามารถและจิตใจที่กล้าแกร่ง อีกทั้งเปี่ยมไปด้วยความสามารถทางการแพทย์ที่ล้นเหลือ…คนแบบนี้ไม่ได้หาได้จากที่ไหนก็ได้บนโลกง่ายๆเรียกได้ว่าเป็นคนที่พันปีจะโผล่มาแค่ครั้งเดียว…. ใช่! เด็กหนุ่มจัดเป็นพวกหายาก และถ้าต้องสูญเสียเขาไปมันคงเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวด

รองผู้บัญชาการหยางได้ยินเรื่องราวของกู้จวินมาก่อนถึงยังไงเขาก็สังกัดกร มการแพทย์เช่นกัน ฉันเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับกู้จวินจากศาสตราจารย์ฉินและหัวหน้าชิวแล้วกู้จวินเคยฝึกอบรมที่กลุ่มคลินิกของเรามาก่อนแต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าพวกคุณอาจจะประเมินพรส วรรค์ของชายหนุ่มคนนี้ต่ําเกินไป 

ขนาดหัวหน้าเพิ่งจากแผนกสืบสวนที่ไม่เกี่ยวข้องการแพทย์….บอกตรงๆว่าเขาเองก็ประทับใจในความสามารถของเด็กหนุ่มนามกู้จวิน แต่! เขาก็เป็นฝ่ายสืบสวนที่มีหน้าที่สอดส่องให้องค์กรปลอดภัย ดังนั้นเขาจําต้องอธิบายและประเมินในทางร้ายไว้ก่อน

  เดี๋ยวก่อนทุกคน ผมมีความคิดหนึ่งอยากจะเสนอ…. ตามหลักของการสืบสวนแล้ว ผมสงสัยว่านี่อาจจะเป็นแผนการของกู้จวิน เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะวางแผนแบบนี้มาโดยตลอด…อย่างเช่นการผ่าตัดของหลินม่อที่เพิ่งเกิดขึ้นไปนี้ เราไม่เห็นการผ่าตัดก็เลยไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างแถมกู้จวินนั้นก็ยังมีทักษะการแพทย์ที่สูงส่งและเขาอาจจะตบตาเราก็ได้ ดังนั้นการเสนอวิธีการแก้ปัญหาแบบนี้อาจจะดูยากและน่าเหลือเชื่อจนเกินไป จริงๆถ้าตัดขาหลินต่อไปเสียเลยสองข้างทุกอย่างก็จบสิ้นไปแล้ว ตัวหลินมอเองก็จะปลอดภัยด้วย แต่การที่เขายืนยันที่จะทําแบบนี้เขาอาจจะแอบวางปรสิตเอาไว้ในขาอีกข้างของหลินม่อหรือเปล่า….และในระหว่างที่ทุกคนกําลังรอผลการ ผ่าตัดปรสิตวันถัดไป ปรสิตนั่นก็ได้เข้าไปในสมองจากนั้นเขาก็จะแพร่เชื้อไปยังคนอื่นสุดท้ายหน่วยนักล่าอสูรก็ต้องตายกันจนหมด 

  ใจเย็นก่อนรองผู้บัญชาการเพิ่ง  เมื่อได้ยินว่ารองผู้บัญชาเพิ่งเริ่มสงสัยอย่างไร้มูลเหตุ ศาสตราจารย์ฉินก็ขมวดคิ้วทันที ไม่ใช่เขาว่าตัวเขาไว้ใจกู้จวินแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เขาก็เป็นหมอเหมือนกัน เขาเป็นหมอผู้มีหน้าที่ช่วยชีวิตคน เป็นอาชีพที่ต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งแรงกายและแรงใจเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่หมดทางสู้ต่อโรคร้ายแบบเดียวกับกู้จวิน

ทว่าสิ่งที่รออยู่หลังจากหมอคนนั้นได้ช่วยผู้คนก็คือความสงสัยอย่างไร้ที่สิ้นสุด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเองก็ยอมรับไม่ได้เช่นกัน และถึงขนาดสงสัยว่าหมอที่ช่วยชีวิตคนกําลังวางแผนร้ายนี่มันเป็นอะไรที่เหลวไหลสิ้นดี ศาสตราจารย์ฉินสายหัวอย่างเบาๆจากนั้นก็มองรองผู้บัญชาการเม งก่อนที่จะกล่าวด้วยความจริงใจ

  ฉันเองก็พูดอะไรไม่ได้มาก แต่พวกเราล้วนเป็นคนวงนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสํารวจอย่างแท้จริงดังนั้นพวกเราไม่ควรเดาสุ่มสี่สุ่มห้า และคนที่เข้าใจเรื่องสถานการณ์แบบนี้ได้ดีที่สุดก็คือคนใกล้ตัวอย่างหัวหน้าเสวี่ย พวกเราเองก็อาศัยคําบอกจากเขามาตัดสินเช่นกัน ดังนั้นหัวหน้าเสวี่ยเลือกที่จะเชื่อกู้จวิน ดังนั้นเราก็ควรเชื่อด้วย เพราะมันคงมีอะไรบางอย่างที่ดลใจให้เขาทําเช่นนั้นอาจเป็นไปได้ว่าหัวหน้าเสวี่ยอาจจะเชื่อมั่นในความน่าเชื่อถือของชายหนุ่มที่ชื่อกู้จวิน… 

  อืม…  หัวหน้าเพิ่งเงียบ ตัวเขาเป็นคนที่ฝึกฝนเสวี่ยป้ามากับมือ ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับสายตาของเสวี่ยป้าเป็นอย่างดี และสัญชาตญาณอันเฉียบคมที่อธิบายไม่ได้ของเขาก็แม่นยําด้วยเช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตาม..หัวหน้าเพิ่งก็มีสัญชาตญาณของตัวเองที่จะปฏิบัติตามและเลือกที่จะเชื่อด้วยเช่นกัน เขาไม่สามารถสลัดความสงสัยในใจออกไปได้ แต่เมื่อมองสถานการณ์ทั้งหมดเขาก็ได้แต่ถอนหายใจ

  ผู้อาวุโสฉิน คุณต้องรู้ว่าเด็กหนุ่มกู้จวินคนนี้ต่างจากเด็กคนอื่นๆแค่ไหน สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือเขาไม่ได้ทําทั้งหมดนี้โดยมีจุดประสงค์ที่ไม่ดี สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ําว่ากําลังทําอะไรอยู่ตอนนี้เขาอาจจะเป็นคนดีอย่างที่เราเห็น แต่… 

ผู้อาวุโสฉิน เหยาซีเหนียนและทุกคนจมอยู่ในความเงียบทันที ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผลกระทบนั้นจะร้ายแรงเกินคาดมาก แต่สิ่งที่พวกเขาทําได้ในตอนนี้คือรอ – รอการส่งข้อมูลจากสํานักงานใหญ่รอการอัปเดตข่าวสารจากกลุ่มสืบสวนพลังงานผิดปกติและรอการเคลื่อนไหวต่อไปของหน่วยนักล่าอสูร …

ในขณะนี้ศูนย์บัญชาการได้จําลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเสร็จสิ้นแล้ว

แม้จะสื่อสารไปหาอีกฝ่ายไม่ได้ แต่พวกเขาก็สามารถรู้ถึงความเคลื่อนไหวต่อไปแบบคร่าวๆได้ ดี ตอนนี้ความเคลื่อนไหวของหน่วยนักล่าอสูรขึ้นอยู่กับเสบียงที่มี

ภายใน 2 วันข้างหน้าถ้าอุโมงค์ยังไม่กลับม ดีเหมือนเดิม อาจจะเป็นไปได้ว่าเสี่ยป้าจะต้องใช้ระเบิด 4C ในการระเบิดกําแพง แต่ถึงจะระเบิดก็ยังมีความเสี่ยงอีกมหาศาล

ไม่มีใครรู้ว่าหนอนยักษ์ใต้ดินตัวนั้นจะเข้ามาโจมตีอีกตอนไหน และเท่านั้นยังไม่พอ อุโมงค์ใต้ดินที่เต็มไปด้วยบันไดนั้น มันจะมีอะไรต่อไป พวกเขาไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลย บันไดมันจะยาวขนาดไหนมีแต่ต้องสํารวจไปเท่านั้นถึงจะรู้ พวกเขาลองคิดถึงในกรณีที่ระเบิดผนัง พวกเขารู้ดีว่าผนังนั้นหนาและเป็นไปไม่ได้ที่จะพังทลาย พวกเขาอาจจะต้องใช้ทรัพยากรทั้งหมดในการระเบิด

ตอนที่อุโมงค์ภายในโพรงต้นไม้พังทลาย ท้องฟ้าที่อยู่ในใต้ดินนั้นก็ถูกเปิดกว้างออก ทว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นก็มีแต่ท้องฟ้าสีหม่นที่ไม่มีคําว่ากลางวันและกลางคืน มันผิดปกติและน่าพิศวงอย่างมาก…แต่สิ่งนี้ก็ทําให้กู้จวินได้ลองนั่งนอนสันนิษฐานมันดู มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าเขาก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะการหมุนตัวของดาวเคราะห์โดยแต่ละดาวเคราะห์ก็คงจะมีการหมุนที่ไม่เหมือนกัน และเป็นไปได้ว่าพื้นที่ที่เขาเหยียบอยู่อาจจะไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่าโลก

หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น เขาก็ไปพักผ่อนและพูดคุยล้อเล่นกับลุงต้านเพื่อคลายเครียดแต่เมื่อถึงเวลาอาหาร เขาก็ได้รับบิสกิตอัดแท่งมาอันหนึ่ง รูปลักษณ์และรสชาติของมันทําให้เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเมนูรายชื่อยาวๆ ของโรงอาหารที่กรมการแพทย์

เวลานี้หากเขาได้รับน้ําซุปร้อนๆของไปฉีซวนสักหนึ่งชาม มันก็คงเป็นอาหารที่ไม่ต่างจากถูกส่งลงมาจากสวรรค์แน่นอน เขาไม่ปราถนาอะไรไปมากกว่าการได้กินอาหารดีๆ และน้ําอุ่นๆแล้วแต่สิ่งที่เขาพอจะกินได้ก็มีแต่เสบียงทหารหน้าตาเหมือนบิสกิตราคาแพงล้ําแต่รสชาติสวนทางกันแท่งนี้เท่านั้นเอง

และคนคิดเหมือนกันคงมีเยอะ ดังนั้นบิสกิตเลยเหลือมากจนแทบไม่มีใครอยากจะมองดังนั้นบิสกิตจึงถูกเก็บไปและทุกคนก็กินเพื่อให้มีชีวิตอยู่เท่านั้นเอง หลังจากนั้นทุกคนก็พักผ่อนโดยมีคน บางส่วนนั่งเฝ้าและผัดเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง

นที่สองผ่านไปอย่างพร่าเลือน หลินม่อเริ่มมีอาการไข้และนั่นทําให้ทุกคนในหน่วยต้องกังวลจนแทบคลั่ง แต่หลังจากให้ยาแก้ไข้ไปหลินต่อก็กลับมาเป็นปกติ ดังนั้นกู้จวินและลุงต้านจึงได้ ถอนหายใจอย่างโล่งอกอีกครั้ง จากนั้นในเช้าของวันที่สามก็มาถึง หน่วยนักล่าอสูรยังคงไม่ไปไหน พวกเขานั่งอยู่ที่ฐานชั่วคราวหน้าอุโมงค์และคิดแผนการณ์ต่อไปอย่างไม่เร่งรีบ

ระหว่างวันที่ผ่านมาเสวี่ยป้าก็ยังคงรายงานกลับไปที่ศูนย์บัญชาการอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้ออกไปจากค่ายชั่วคราวไปไหนมากนัก แต่เขาก็ใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อสังเกตสถานการณ์ด้านนอกอย่างต่อเนื่องด้วยความระมัดระวังอย่างสูงอยู่ดี เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้หากไม่ระวัง

และต่อให้ตรวจสอบแค่ไหน…สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงมีความเงียบสนิทคล้ายกับไม่มีใครอยู่

ภายในพื้นที่ผิดปกติที่ล้อมรอบด้วยกําแพง ต้นไม้ตรงกลางยังคงหักเหมือนเดิมแสงในทางเดินก็หายไปนานแล้วและหนอนยักษ์ใต้ดินยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใต้ดินโดยที่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงดินส่วนไหน

ตอนนี้เสบียงของทีมเริ่มเหลือน้อยโดยเฉพาะน้ํา การผ่าตัดหลินม่อนั้นได้ใช้น้ําสํารองที่พวกเขาอุตส่าห์วางแผนว่าน่าจะอยู่ได้เป็นเวลาสองวันไปหมดสิ้น

ดังนั้นจึงหมายความว่าพวกเขาสามารถพักต่อไปได้อีกสามวัน นอกจากนั้นยังมีถุงยาและถุงเลือด แพ็คสีดําเป็นเลือดกรุ๊ป O ที่ทุกคนสามารถใช้ได้ แต่ปริมาณไม่เพียงพอที่จะรองรับการบาดเจ็บอย่างหนักอีกครั้งในทีมได้แน่นอน

นี่เป็นเรื่องน่ากังวลดังนั้นเสวี่ยป้าจึงได้พูดคุยกับรองหัวหน้าทั้งสามคนของเขา ได้แก่ หยางเฮอหนานลู่เสี่ยวหนิงและลุงต้าน จากนั้นหลังจากคุยกันอยู่นานพวกเขาทั้งหมดบรรลุมติเอกฉันท์ร่ วมกัน โดยทุกคนตกลงที่จะสํารวจลึกลงไปในอุโมงค์ใต้ดิน

เสวี่ยป้าหันไปหาลูกทีมทั้งหมดที่เหลือและประกาศอย่างจริงจัง

  ถ้าแผ่นหินก่อนหน้านี้มีกลไกบางอย่างที่ทําให้เปิดได้ดังนั้นก็น่าจะมีกลไกอื่นซ่อนอยู่ที่นี่เช่นกัน เราไม่รู้ว่าจะมีอะไรอยู่ที่ปลายอุโมงค์และเราไม่รู้ว่าจะต้องเดินทางต่อไปอีกเท่าไร อาจจะเป็นชั่วโมง มันอาจจะเป็นวัน อาจใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ แม้ว่าเราจะประหยัดการใช้น้ําของเรา แต่เราก็อยู่ได้อีกเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นดังนั้นเราจึงต้องหาทางรอดและเดินหน้าสํารวจต่อไป 

การตัดสินใจได้เกิดขึ้นแล้ว คําถามต่อไปคือตอนนี้พวกเขาควรแยกทางกันหรือไม่? ไม่ว่าการตัดสินใจจะเป็นอย่างไร แต่ทีมสํารวจสักทีมก็ควรจะมีกู้จวินอยู่ เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่เข้าใจภาษาต่างโลกได้ และดูเหมือนว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถกระตุ้นกลไกการทํางานของประตู

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ " ตอนที่ 140"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์