CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 143

  1. Home
  2. ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก
  3. ตอนที่ 143
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 143 เชื่อใจ??

หน่วยนักล่าแต่ละคนพากันบ่นพึมพํา บางคนก็หันมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พวกเขาแต่คนมีใครบ้างที่ไม่รู้จักเวทมนต์คาถา อย่างน้อย  สาวน้อยจอมเวทย์  และ เซียนกระบี่พิชิตมาร ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาเคยดูกัน….แม้จะไม่ได้ใช้จริง แต่พวกเขาก็รู้จัก มันก็ราวๆ กับมุสลิมที่ไม่กินหมู แต่เคยเห็นหมูนั่นแหละ

สมาชิกหลายคนพูดถึงเรื่องเวทมนต์และคาถา แน่นอนว่าถ้าบอกว่าภาษานั้นเป็น  คาถา  พวกเขาคงจะพอเข้าใจได้อย่างง่ายดาย ท้ายที่สุดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ก็เคยมีบันทึกเกี่ยวกับเวทมนตร์วิเศษและตํานานเทพเจ้ามาก่อน

 กู้จวิน เธอหมายถึงว่าหินก้อนนั้นและอุโมงค์ทั้งหมดนี้มีชีวิตอยู่…งั้นเหรอ?  เสวี่ยป้าถามอีกครั้งเพื่อยืนยันและสรุปคําอธิบายของกู้จวินที่พูดมาทั้งหมด

จากข้อมูลที่กู้จวินพูดมายืดยาวราวรายงานสามหน้า… แต่โชคยังดีที่แต่ละข้อความนั้นล้วนมีประโยคเชื่อม และมีความหมายในตัวของตัวเอง ทําให้ผู้เป็นหัวหน้าอย่างเสวี่ยป้าสามารถจับได้ว่าเขากําลังพูดอะไรอยู่และนําทุกอย่างมาเชื่อมโยงกันจนกลายเป็นบทสรุปที่ชัดเจนเพียงไม่กี่บรรทัด…และเพื่อให้ลูกน้องทุกคนเข้าใจในสิ่งที่กู้จวินพูดเขาก็พูดสรุปออกมา

 ในทางหนึ่งก็นับว่าใช่  กู้จวินพยักหน้าตอบด้วยน้ําเสียงราบเรียบ จากนั้นก็อธิบายต่อ แต่มันอาจจะไม่ใช่พลังจากมนุษย์…เพราะท้ายที่สุดแล้วทุกสิ่งล้วนมีชีวิตและจิตวิญญาณ 

 งั้นเจ้าหนุ่มน้อย เธอเป็นคนใช้คาถาทําให้ลมหยุดเหรอ?  ลู่เสี่ยวหนิงยังคงไม่วางใจกู้จวิน…เธอจะวางใจ เขาได้ยังไงในเมื่อเธอเพิ่งเห็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ไป

 เปล่าครับ! ผมไม่ได้บอกว่าผมใช้คาถาเลยสักคํานะ ผมแค่พูดคําสั่งว่า  หยุด  ก็แค่นั้นเอง  กู้จวินตอบอย่างตรงไปตรงมา เขาไม่ได้โกหกในจุดนี้…จากนั้นเขาก็ลองอธิบายต่อ

 ตอนนี้ผมคิดว่าผมเริ่มจะเข้าใจเงื่อนไขของกลไกการสะกดคําบางอย่างบ้างแล้ว ผมคิดว่ากลไกทางภาษาเหล่านั้นจากสามารถสร้างเงื่อนไขบางอย่างออกมาควบคุมบางสิ่งได้ พวกเราต้องเข้าใจพลังของภาษา การรับรู้ ของภาษา รูปแบบของภาษาและชีวิตที่รวมเข้ากับพลังในรูปแบบคาถาแล้วเปล่งเสียงสะกดออกมาพูดง่ายๆ แม้จะเป็นเพียงแค่คําพูดสั้นๆ แต่มันก็สามารถส่งสัญญาณบางอย่างไปกระทบพลังแห่งชีวิตของสิ่งปริศนาด้วย เช่นกัน 

หน่วนนักล่าอสูรส่วนใหญ่สับสนกับคําพูดของกู้จวิน มันเหมือนพวกเขากําลังนั่งเรียนวิชาแคลคูลัสทั้งๆที่จริงๆแล้วพวกเขาอยู่แค่ชั้นอนุบาลที่เพิ่งเรียนนับเลขเสร็จ มันมึนงงและไม่เรื่องอย่างสิ้นเชิง และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไรด้วยเพราะเขาไม่เข้าใจตั้งแต่ต้นเลยไม่มีอะไรจะถาม เอาจริงๆ ถ้าจะถามหัวข้อ…พวกเขาก็ไม่รู้ว่า ควรจะเขียนอะไรลงไปดีเลย

แต่อย่างที่เขาว่าไว้ว่าในห้องยังไงก็ต้องมีนักเรียนดีเด่นระดับหัวกะทิ…เช่น เสวี่ยป้า! เขาฟังกู้จวินเข้าใจได้ถึงแปดส่วน

 กู้จวิน…เธอหมายความว่าต้องมีสามเงื่อนไขในการใช้ใช่ไหม? หนึ่งบุคคลต้องสามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ สอง…พวกเขาต้องสามารถสื่อสารกับวัตถุที่มีพลังเป็นสื่อกลางของคาถาได้ สาม…ต้องท่องคาถา จากนั้นมันจะสร้างการเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณได้สําเร็จและจะกระตุ้นกลไกที่วางไว้ในตอนแรก 

 ใช่!  ดวงตาของกู้จวินเปล่งประกายด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เสวี่ยป้าคนนี้ไม่ได้จับสลากมาเป็นหัวหน้าอย่างแท้จริง เขามีฝีมือและทักษะการคิดที่ดีอยู่พอตัวเลย…แม้รูปร่างของเขาจะเหมือนไอ้นั่ง แต่เขาก็นับว่าฉลาดมากกว่าหน่วยนักล่าอสูรทั่วไปที่นั่งเอามือเขี่ยหินแถวนี้โดยสิ้นเชิง

เขาจัดเป็นนักวิชาการอย่างแท้จริง เขาสรุปความคิดที่สับสนในใจของกู้จวินได้อย่างรวบรัด นอกจากนี้ยังช่วยกู้จวินจัดเรียงความคิดของเขาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ข้อได้เปรียบในการรู้ลักษณะของเอกลักษณ์ภาษาต่างโลกคือ สามารถใช้พลังแห่งชีวิตของผู้อื่นเพื่อสร้างมนต์สะกดและคําสาปได้ นี่ไม่ใช่ลักษณะของภาษามนุษย์โลกอย่างแน่นอน นี่อาจเป็นวิธีที่อารยธรรมต่างโลกสามารถพัฒนาความรู้ทางการแพทย์ขั้นสูงได้แม้ว่าเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาจะล้าหลังมากก็ตาม

 แต่ทุกคน ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทฤษฎีเบื้องหลังมันคืออะไร คลื่นสมอง? คลื่นเสียง? ต้นเหตุฉัน ไม่รู้หรอก ดังนั้นข้อนี้ฉันอธิบายไม่ได้  กู้จวินส่ายหัวระวิง ถึงเขารู้เขาก็ไม่บอกหรอก…นับแต่นี้เขาจะทําอะไรหรือบอกอะไรก็ต่อเมื่อถึงคราวอันตรายเท่านั้น เขาจะบอกคนพวกนี้ว่าเขานั้นสําคัญแค่ไหน ไม่ใช่คนที่นึกจะจ่อยิง ก็ยิงได้ตามใจ ถ้าปืนลั่นขึ้นมาพวกเขาแบกรับความเสียเปรียบนี้ไหวเหรอ

 ฉันแค่กระตุ้นกลไก ใครก็ตามที่เข้าใจภาษาต่างประเทศและมีจิตวิญญาณสูงก็สามารถทําได้เช่นเดียวกัน สําหรับวิธีการปรับแต่งภาษาในการสร้างหรือใช้การสะกดนั้น ฉันไม่เข้าใจเลย 

ลุงต้าน หลินม่อและคนอื่น ๆ ฟังคําอธิบายของกู้จวิน แม้ว่าพวกเขาจะพบกับเรื่องราวของพลังงานที่ผิดปกติมามากมายและประกอบกับคําอธิบายจากกู้จวิน แต่พวกเขาก็ยังพบว่ามันยากที่จะเชื่อ แต่ความจริงก็คือพวกเขาได้เห็นคําอธิบายของกู้จวินสองครั้งแล้ว

ในขณะเดียวกันลู่เสี่ยวหนิงก็ยังคงคิด…และเธอก็เล็งปืนใส่กู้จวินไปด้วย!

 ฉันรู้ว่ามันทําใจเชื่อลําบากแต่ฉันกําลังพูดความจริง  คิ้วของกู้จวินพับเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ มีใครในโลกนี้บ้างที่ชอบให้คนอื่นชักปืนจ่อหัวตัวเอง โดยเฉพาะปืนจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า  พวกเดียวกัน  ส่วนเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น 

พอได้ยินคําพูดนี้จากกู้จวินและได้เห็นใบหน้าที่ไม่ค่อยจะชอบใจของเขา ในที่สุดเสวี่ยป้าที่เป็นหัวหน้าก็พยักหน้าและตัดสินใจทันที

 เสี่ยวหนิงวางปืนลงซะ ฉันเชื่อว่าอาจขึ้นเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาพูดความจริง! อย่างน้อยฉันก็มีสัญชาตญาณและลางสังหรณ์แบบนั้น เขาไม่ใช่คนไม่ดีอย่างที่เธอคิดหรอกเธอเองก็เชื่อในลางสังหรณ์ของฉันมาตลอดนี่ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เชื่อฉันสักหน! 

 ตกลง  ลู่เสี่ยวหนิงตอบตกลงและลดปืนลงทันทีตามคําสั่งของหัวหน้า จากนั้นในระหว่างที่เอาปืนลงเธอก็แอบสังเกตท่าทางของกู้จวิน

ปฏิกิริยาแรกของเขาคือความโล่งใจ ตามด้วยความเงียบสงบเยือกเย็นอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา

ปฏิกิริยาของเขาทําให้เธอหงุดหงิดอย่างที่สุด… การจับตามองของเธอไม่เกิดประโยชน์อะไร เด็กหนุ่มคนนี้ ไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาเลย เหมือนเขากําลังควบคุมพฤติกรรมของตัวเองอย่างแม่นยํา ไม่เปิดช่องว่างให้เธอสังเกตเลยแม้แต่นิด… และดูเหมือนว่าเขาจะรู้ดีว่าเธอกําลังจับตามองเขาอยู่ นั่นทําให้ลู่เสี่ยวหนิงเริ่มโมโหและ หงุดหงิดอย่างไร้ที่ระบาย

แต่ก็…นั่นเป็นปฏิกิริยาปกติของเขาที่ตอบสนองหลังเหตุการณ์การถูกสงสัย ท่าทางของเขาแลดูเป็นปกติ… ไม่ได้เหมือนจัดฉากหรือเตรียมตัวมาก่อน แต่เธอเองก็ไม่รู้เพราะเธอเป็นนักแม่นปืน ไม่ใช่นักสังคมวิทยาหรือนักจิตวิทยาแต่เพียงอย่างใด เธอจึงทําได้แค่มองและมองและสังเกตต่อไปเรื่อยๆ

แต่ลึกๆแล้ว…เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะไปขอโทษเขา

 อันที่จริงฉันค่อนข้างชื่นชมเธอนะ…  ลู่เสี่ยวหนิงเดินเข้าไปใกล้ๆกู้จวินด้วยท่าทีที่ค่อนข้างสํานึกผิดและยื่นมือของเธอออกมา  การทําแบบนั้น มันเป็นเพียงขั้นตอนมาตรฐานของการสอบสวนเวลาเจอสิ่งผิดปกติ ถ้าเธอไม่พอใจฉันก็ขอโทษด้วย 

 ผมไม่ถือหรอก…คุณมันก็แค่ผู้หญิงไม่รู้เรื่องที่ชอบโวยวายไปเอง  ในสถานการณ์ที่ทุกคนอาวุธครบมือยกเว้นแต่กู้จวิน…จริงๆเขาก็มีอาวุธนั่นก็คือไรเฟิลอันหนึ่งที่ไม่เคยยิงมาก่อน…แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะยิงสู้นักแม่นปืนทั้งทีมได้ ดังนั้นแม้จะไม่พอใจแค่ไหนแต่เขาก็ทําได้แค่บ่นแบบเหน็บๆในขณะจับมือลู่เสี่ยวหนิงคล้ายจะยอมให้อภัย  ทําไมหัวหน้าถึงไม่ลงโทษคุณที่กล้าล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและชักปืนใส่ผมกันนะ? 

 อัยโยววว…  หัวหน้าหวังที่อุตส่าห์โล่งใจหลังงานเสร็จก็สะดุ้งทันที เขากลายเป็นจุดสนใจของทั้งทีมอีกครั้ง และจากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจัง

 อาจวิ้นเอ๊ย…เราทุกคนรู้ว่าเธอเคยเป็น [เด็กทดลอง] ที่ได้รับการปลูกฝังโดย บริษัทไล่เฉิงมาก่อน เธอยังจําเหตุกาณ์เลวร้ายที่เกิดกับฝ่ายปฏิบัติการก่อนหน้านี้ได้ไหม แล้วก็…อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ เสี่ยวหนิงจะทําแบบเดียวกันถ้าฉันมีปฏิกิริยาแบบที่เธอทํา 

โจวเฮ่อหนาน จางฮ่าวฮ่าว และคนอื่น ๆ พยักหน้าทันที พวกเขาทุกคนเข้าใจถึงความสําคัญของความสามัคคีอย่างมาก และความจริงก็คือพวกเขาไม่ได้มีความสงสัยต่อกู้จวินเท่าไหร่ตั้งแรกอยู่แล้ว พวกเขาแค่ต้องการเวลาในการประมวลผลทฤษฎีทั้งหมดที่กู้จวินพูดเกี่ยวกับคาถาและภาษาต่างประเทศก็เท่านั้น

 เอาล่ะ! โอเคๆ ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว  ลุงต้านเดินเข้าไปเป็นผู้สร้างสันติทันที เขาพูดติดตลกกับกู้จวินที่กําลังทําสีหน้าไม่ค่อยชอบใจ

 ฉันแก่แล้วถึงจะมีอะไรไม่ดีแต่ฉันก็ดูคนเก่ง อาจวิ้นเอ๋ยอย่าโกรธเลย เธอต้องเข้าใจสิ่งนี้ เมื่อเธอคิดที่จะเล็งปืนไปที่คนอื่นแล้วก็เป็นเรื่องยุติธรรมที่เธอควรให้โอกาสคนอื่นหันปืนกลับมาที่เธอบ้าง 

ลุงต้านพูดด้วยน้ําเสียงที่ค่อนข้างสุภาพ ทุกคนจึงเข้าใจว่าเขากําลังพูดอะไรอยู่ แต่สําเนียงที่เขาพูดออกมา รวมถึงความหมาย มันก็ทําให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

กู้จวินที่ว่านั้นเขาถือปืนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขาแค่ตะโกนใส่อุโมงค์เองไม่ใช่เหรอ แม้แต่ตัวของกู้จวินเองก็อด หัวเราะเพื่อนๆ ตบมุกแป้กๆ ไม่ได้ ทําให้บรรยากาศเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากขึ้นเล็กน้อย… แต่อย่างไรก็ดีกู้จวินก็ สัมผัสได้ว่าลู่เสี่ยวหนิงจ้องมองเขาบ่อยขึ้น

 อาจขึ้น…เธอคิดว่าเธอสามารถกระตุ้นกลไกหินนั้นอีกครั้งเพื่อกู้คืนอุโมงค์ได้หรือไม่?  เสวี่ยป้าถามด้วยน้ําเสียงที่เคร่งเครียด… เพราะถ้าหากกู้คืนอุโมงค์ได้มันก็หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องเข้าไปภายในอุโมงค์ที่อยู่ด้านในนี้อีก

พวกเขาสามารถไปหาอุโมงค์ทางเดิมและกลับไปยังที่เดิมได้อย่างปลอดภัย แบบนี้ทุกคนก็จะได้ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตกันอีก ใครจะรู้ล่ะว่าหลังอุโมงค์ที่น่าสงสัยนั้นจะมีสิ่งที่น่ากลัวกว่ารอคอยอยู่หรือไม่… ในฐานะหัวหน้าทีมเขาไม่อยากจะให้ลูกน้องทุกคนจะต้องเสี่ยงไปมากกว่านี้ การตัดแขนตัดขามันไม่ใช่เรื่องดีสําหรับทุกคน

แต่ความหวังของเขาก็ดับลงทันที!

 ฉันรู้สึกว่ากลไกนี้สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว…ขอโทษด้วย! มันคงกู้คืนมาไม่ได้แล้ว  กู้จวินส่ายหัวปฏิเสธและอธิบายต่อ  ฉันเคยพยายามอีกรอบหนึ่งตอนก่อนหน้านี้ แต่มันไม่ตอบสนองต่อฉันแต่อย่างใด..ฉันคิดว่ามันน่าจะใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ " ตอนที่ 143"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์