ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 17
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กู้จวินรู้สึกผิดทุกครั้งที่เขาระลึกถึงศาสตราจารย์กู้ ฝ่ายหลังได้ใช้ความพยายามและความปรารถนาดีอย่างมากในการดูเเลเขา แต่เขาก็ทำให้อาจารย์ผิดหวัง ตอนนี้กู้จวินถูกมองว่าเขาไร้ความรับผิดชอบเเละหนีหายไป เขาอยากจะพูดเพื่ออธิบายเเต่มันก็คงจะไร้ผล เขาต้องพิสูจน์ว่าเขาเปลี่ยนไปเเล้วด้วยการกระทำเท่านั้น
“ ทุกคนฉันขอบอกตรงๆ กู้จวินเป็นคนที่มีความสามารถมาก” เสียงของศาสตราจารย์กู้ดังก้องไปทั่วห้องทดลองราวกับว่าเขากำลังพูดทางอ้อมกับกู้จวินซึ่งยังอยู่ระหว่างทางออก เเละยังเดินไปไม่ไกลนัก
“ แต่เขาก็ดื้อดึง! เขาปฏิเสธพรสวรรค์ของตนเองเเละมัวเเต่ยึดติดกับสิ่งไร้สาระ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนแพทย์ไม่ใช่ความฉลาด แต่เป็นความแน่วแน่ ความรอบคอบและความยืดหยุ่น เเละการที่จะประสบความสำเร็จได้มีเพียงต้องเรียนรู้ มุ่งมั่นเเละทำงานให้หนัก!”
“เเละก็…ฉันเพิ่งได้รับข่าวบางอย่าง” ศาสตราจารย์กู้พูดอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวดว่า “ กระทรวงสาธารณสุขจังหวัดให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มันเป็นเรื่องในการแข่งขันชิงถ้วยฟรอนเทียร์ ครั้งนี้พวกเขาหวังว่าจะคัดเลือกทีมที่มีความสามารถทางการแพทย์ได้ในระดับสูง สำหรับเกณฑ์และเป้าหมายของพวกเขา ฉันเองก็ไม่ทราบมากนัก อย่างไรก็ตามงานนี้สำคัญมาก พวกเธอทุกคนจะต้องใส่ใจกับมัน!”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ห้องปฏิบัติการทั้งหมดก็ตกอยู่ในความเงียบ
‘ไม่มีข่าวเกี่ยวกับเป้าหมายเเละเกณฑ์มาก่อนเหรอ มันเกิดอะไรขึ้น?’
ในทางกลับกันกู้จวินเคาะประตูอีกบานซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวหลังจากออกจากห้องทดลอง
เมื่อประตูเปิดออก ชายหนุ่มรูปร่างท้วมและสวมแว่นไร้กรอบก็ต้อนรับเขาอย่างดี เมื่อมองชายหนุ่มคนนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ดูเป็นเด็กวิชาการเล็กน้อยและตัวเขาก็มีบุคลิกที่ซับซ้อน
ดูจากทรงผมเเปลกประหลาดที่เหมือนกับโคนันยอดนักสืบชื่อดังก็รู้เเล้ว ชายคนนี้คือ จางหลิน หรือจะเรียกว่า พี่ชายจางก็ได้!
พี่ชายจางเป็นรุ่นพี่ของกู้จวิน 2 ปี หลังจากที่เขาเรียนจบหลักสูตร 5 ปี เขาก็เรียนต่อระดับปริญญาเอกและตอนนี้เขาก็กำลังเรียนอยู่ปีแรก
พวกเขาสองคนเคยพบกันในชมรมบาสเก็ตบอลและกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เมื่อกู้จวินหายตัวไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จางหลินก็รู้สึกงุนงงเเละเป็นห่วงอย่างมาก กู้จวินไม่ได้ติดต่อเขาเลยจนกระทั่งเมื่อวานนี้จู่ๆ กู้จวินก็โทรมาหาเขาอย่างกะทันหัน
เมื่อกู้จวินเดินเข้าไปในห้องทดลอง จางหลินก็รีบปิดประตูของห้องทันที กู้จวินที่เดินเข้ามาเเล้วก็เอ่ยถาม “ พี่ชายจาง คุณเอาของที่ฉันขอไปมาหรือเปล่าครับ?”
เขาต้องรีบเเล้ว! ตอนนี้ตัวเขามีความรู้สึกอึดอัด เเถมสังหรณ์ใจไม่ดี จิตใจของเขากำลังปั่นป่วน มันคล้ายกับว่าเวลาของเขากำลังเหลือน้อยลงทุกทีๆ
“เเน่นอน! ฉันเอามันมา” ในขณะที่ตอบสายตาของเขาจับจ้องไปที่กู้จวิน จางหลินพูดจบเขาก็ไม่ปล่อยให้การแสดงออกที่เปลี่ยนไปแม้แต่ครั้งเดียวรอดพ้นสายตาของเขา “ กู้จวิน นายแค่ทำการทดลองจริงๆหรือ?”
“ แน่นอน! ฉันจะทำอะไรได้อีก? ฆาตกรรมเหรอ?” กู้จวินขึ้นเสียงตะคอกด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ พี่ชายจางวางใจเถอะ ฉันจะไม่ล้อเล่นกับเรื่องนี้หรอก นี่พี่เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”
เชื่อฉัน!! ถ้าฉันวางแผนที่จะฆ่าใครจริงๆ ฉันรับรองว่าฉันมีอย่างน้อย 100 วิธีที่โหดร้ายและตรงไปตรงมามากกว่านี้ เเละถ้าฉันจะเอาคืนใคร ฉันก็จะไม่ปล่อยให้รอดได้เเม้เเต่รายเดียว!
กู้จวินหัวเราะดังลั่นอย่างไม่อดกลั้นอีกต่อไป…เเต้เเท้จริงเเล้วการหัวเราะของเขามันก็เเค่ปิดบังความสิ้นหวัง
“ ฉันเคยอ่านหนังสือของ [เคย์โกะ ฮิกะชิโนะ] เรื่องที่ว่า..จงศึกษาขีดจำกัดของตนเอง”
“ หืม…” เมื่อได้ยินคำรับรองอย่างต่อเนื่องเเละหนักเเน่น ในที่สุดจางหลินก็พยักหน้า “ ได้เลย ฉันจะยอมให้นายทำก็ได้”
ความจริงเขาคงจะวางใจได้เร็วกว่านี้ถ้าเป็นคนอื่น อย่างไรก็ตามชายคนนี้คือ เสี่ยกู้! เขาต้องแน่ใจจริงๆ! ว่าชายคนนี้จะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายให้เขาอีก
ห้องปฏิบัติการวิจัยเซลล์มีขนาดไม่ใหญ่นัก ด้านหนึ่งมีพื้นที่ทำงานที่สะอาดหมดจด มันถูกขัดจนเป็นประกายเงาวับอีก 2 แถว
อีกด้านหนึ่งมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ อ่างน้ำปรับอุณหภูมิเเบบอุ่นด้วยไฟฟ้า เครื่องหมุนเหวี่ยงและอุปกรณ์อื่น ๆ มากมายที่วางเอาไว้เต็มพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีตู้อบเซลล์สองตู้วางพิงผนังด้านหน้า
รถเข็นสแตนเลสวางอยู่ข้างพื้นที่ทำงาน บนนั้นคือถังไนโตรเจนเหลวขนาดเล็กชนิดพกพาสะดวกเเละมันก็ถูกหุ้มด้วยปลอกสีเขียวเข้ม
“ เซลล์ของเมดูล ‘โลบลาสโตมา’ นั้นหายากมากและมีราคาแพงเฉียดฟ้า ถ้าไม่ใช่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์น นายคงมีปัญหามากในการพยายามซื้อมัน” เขากล่าวในขณะชี้ไปที่ถังไนโตรเจนเหลว “ นี่คือเซลล์จากห้องแล็บ ฉันเอามาให้นายแล้ว”
กู้จวินเดินไปดูถังไนโตรเจนเหลวแล้วหายใจเข้าปอดลึก ๆ
เพื่อทดสอบ “ ยารักษาโรคเนื้องอกในสมองมนุษย์” เขาวางแผนที่จะทำการทดลองในสัตว์แทนการวิเคราะห์ยา
จริงๆ มันก็ยังจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ยา! แต่ไม่ใช่ตอนนี้!! การวิเคราะห์ต้องใช้ยา ต้องใช้ยาจำนวนหนึ่งที่มากเพียงพอเพื่อให้ผลนั้นออกมาถูกต้อง แม้ว่าตอนนี้เขาจะเสียสละทุกอย่างภายในยาทุกๆแคปซูล แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นต้องใช้เวลานานมากและผลลัพธ์ก็ไม่ได้บอกถึงความแรงของยาโดยตรง ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือ ‘ห่วงโซ่เคมี’ ของยารักษาตัวนี้ ซึ่งมันเป็นรายการสารเคมีที่ซับซ้อนมาก
เเละนั่นไม่สามารถให้คำตอบที่เขาต้องการได้ มีเพียงการทดลองเท่านั้นที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของยาได้อย่างเหมาะสม!
แผนการทดลองของเขาก็คล้ายๆ กับวิธีการของหวังรั่วเซียงในการปลูกเนื้องอกในสัตว์ก่อนที่จะรักษาด้วยยา
อย่างไรก็ตามหวังรั่วเซียงได้รักษาเนื้องอกในหนู สำหรับการทดลองของเขานั้น เขาต้องการที่จะปลูกฝังเนื้องอกในสมองของมนุษย์!!
ดังนั้นหนูธรรมดาจึงไม่เหมาะ ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์และหนูต่างก็มาจากต่างสายพันธ์กัน ระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดของหนูพวกนั้นอาจจะทำลายเซลล์รักษาที่เขาฉีดมันเข้าไป ดังนั้นเพื่อให้ผลการทดลองดีที่สุด เขาจะใช้หนูป่วยๆที่มีภูมิคุ้มที่บกพร่องมาทดลอง!
เซลล์ไขกระดูกของมนุษย์ทั้งหมดอยู่ในถังไนโตรเจนเหลว เขาต้องทำการฟื้นฟูก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้
“ หมอยาจีนโบราณที่คุณพูดถึงนั้น…เขาเก่งเหมือนเทพเจ้าจริงๆหรือ?” จางหลินถามในขณะที่เขาสวมถุงมือและหน้ากากแบบใช้แล้วทิ้ง
“ เขาสามารถรักษาเนื้องอกในเซลล์ด้วยสมุนไพรจีนชนิดผงเหล่านี้ได้จริงน่ะหรือ?” แว่นตาของเขาเปล่งประกายด้วยความระแวดระวังและเต็มไปด้วยความสงสัยลึก ๆ เอาจริงๆ เเท้จริงแล้วเขาไม่เชื่อคนพวกนี้เลย “ฉันคิดว่าไอ้หมอนั่นอาจจะเป็นพวกหลอกลวง”
อย่างไรก็ตามเสี่ยกู้ก็ขลุกอยู่กับการทดลองที่ไร้สาระเหล่านี้ จางหลินไม่ได้รับคำตอบใดๆจากกู้จวิน เขาได้เเต่ส่ายหัวเเล้วยืนนิ่งตรงนั้น เเล้วรอคำตอบเเบบเงียบๆ
“ ไม่ว่าเขาจะเป็นหมอปาฏิหาริย์หรือนักมายากลปลอม เราต้องพยายามพิสูจน์ก่อนที่จะกล่าวหาเขา” กู้จวินยังคงสวมถุงมือและหน้ากากเเบบใช้ครั้งเดียวเเล้วทิ้ง
เขารู้ว่าพี่ชายจางสงสัยในเรื่องนี้เเล้ว เขาจึงเบี่ยงประเด็นไปยังประเด็นอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องทันที
“ ชายชราคนนี้จริงๆก็เก่งมากนะ เขาฝังเข็มได้ ดูดวงเป็น เเละนวดคลายเส้นได้ ไว้วันไหนพวกเราว่างๆค่อยไปหาเขาพร้อมกันดีไหม? จากนั้นก็พักผ่อนสบายๆกันสักวัน”
“ ฮ่า ฮ่า ขอบคุณมาก นี่สิพี่น้อง!!” จางหลินพูดเยินยอและเปิดฝาถังไนโตรเจนเหลวทันที ทันใดนั้นหมอกเย็นก็พ่นออกมาจากปากภาชนะ
เขาถือตะขอยกเข้ามาใกล้กับปากถัง แล้วค่อยๆยกถังเล็กๆ ภายในถังภายนอกออกมา เขายกด้วยความระมัดระวังอย่างมาก…เเละในทันทีที่ยกออกมาได้ หมอกควันสีขาวเย็นยะเยือกก็ลอยออกมาทันที ชั่วขณะนั้นทั้งห้องเต็มไปด้วยไปน้ำเเปลกประหลาด
หมายเหตุเพิ่มเติม
[เคย์โกะ ฮิกะชิโนะ] คือนักเขียนนวนิยายลึกลับที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น