ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 60
ทุกพื้นที่ในสนามการเเข่งขันมีการติดตั้งกล้องวิดีโอพร้อมกับโคมไฟไร้เงาอย่างถ้วนทั่ว มันสามารถแสดงความคืบหน้าของการผ่าตัดของทุกๆกลุ่มบนหน้าจอขนาดยักษ์ในสนามกีฬาแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ชมได้รับชมวิดีโอกันเเบบชิดติดขอบสนาม
เเน่นอนว่าจะไม่ส่องเเค่กลุ่มใดกลุ่มเดียว เเต่จะวนเวียนส่องไปส่องมาสลับกันไปจนถ้วนทั่ว โดยกลุ่มหนึ่งจะมีกล้องจับครั้งละ 10 วินาทีเเละจะสลับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะจบการเเข่งขัน เเละขณะนี้หน้าจอกำลังฉายสถานะทีมของกู้จวินให้คนทั้งสนามได้เห็น
เเละสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในตอนนี้ ฝูงชนทั้งหมดไม่สามารถเข้าใจจุดประสงค์ของการกระทำของพวกเขาได้อย่างสิ้นเชิง ในความคิดของผู้ชมมีเพียงอย่างเดียว….พวกเขามาที่นี่เพื่อทำให้มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นขายหน้ายับเยินหรือไม่?
ในขณะนี้ฟอร์มาลีนได้เเตกกระจายเเละกระฉอกออกมาจากศพ น้ำยาฟอร์มาลีนนั้นได้ส่งกลิ่นอย่างรุนแรงจนทำให้ดวงตาของทั้งสามคนเเทบจะบอดไปจนสิ้น พวกเขาเเสบตามาก ดวงตาของพวกเขาค่อยๆเป็นสีแดง และรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ดวงตา เเละเมื่อมองนานๆ เข้าพวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวด ในขณะที่น้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เเต่ถึงจะเป็นเเบบนั้นเเต่มือของพวกเขาก็ไม่เคยหยุด
พวกเขายุ่งอยู่กับการเอาหนังที่หนาเหมือนคอนกรีตสามชั้นออก และมันก็ค่อยๆเผยให้เห็นกระดูกที่คล้ายกับซี่โครงที่อยู่ข้างใต้ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มขูดกล้ามเนื้อระหว่างซี่โครงออก นอกจากนี้ยังมีเกล็ดอะไรบางอย่างอยู่ระหว่างซี่โครงด้วย พวกเขาลงมือผ่าตามด้วยรอยบากที่ถูกขีดเอาไว้อย่างแม่นยำเเละสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกระดูกสันอก [เเมนูเบรียม] ก็ค่อยเผยออกมาอย่างเชื่องช้า
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการผ่าตัดเบื้องต้น น้ำตาของพวกเขาก็ไหลพรั่งพรูออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ความอดทนต่อกลิ่นของฟอร์มาลีนและความแสบตานั้นทำให้ต่อมน้ำตาที่ถูกกลั้นเอาไว้เป็นเวลานานระเบิดประทุออกมาอย่างน่าหวาดผวา ดวงตาของพวกเขาตอนนี้เหมือนคนที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมากกว่า 10 วัน เเถมด้วยจ้องอยู่หน้าจอคอมตลอด
เส้นเลือดในดวงตาของเขาแดงก่ำคล้ายกับจะแตกได้ทุกเวลา ซึ่งดวงตาประเภทนี้จะพบได้ในเฉพาะภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ที่ตัวเอกเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งและใช้เวลาวิจัยยาเป็นเวลากว่า 1 อาทิตย์จนดวงตาของเขาใกล้เคียงกับสัตว์ประหลาด กลุ่มของกู้จวินก็เช่นกันดวงตาของพวกเขาไม่ต่างอะไรกับอสูรกาย
กู้จวินไม่ชักช้า เขารีบสัมผัสไปบนโครงกระดูกและลองขยับเพื่อจับกระดูกซี่โครงไปจนทั่ว จนกระทั่งเขาเจอจุดระหว่างซี่โครงที่เต็มไปด้วยความเเหลมคน เขายิ้มออกมาทัน เเละจากนั้นเขาก็เตรียมที่จะผ่าตัดมัน
“….ย้ากกกกก!” ใบหน้าของกู้จวินแดงระเรื่อจนคล้ายกับลูกตำลึงสุกในทันทีที่เขาออกแรงทั้งหมดเพื่อตัดกระดูก ทว่า…ความจริงนั้นโหดร้ายสำหรับชายที่อ่อนเเอดุจสตรีเช่นเขา แม้ว่าเขาจะกดน้ำหนักตัวของตัวเองลงไปทั้งหมดจนตัวลอย แต่กระดูกก็ไม่เเม้เเต่จะขยับเขยื้อน
“ โอ้? สุดยอดเลยเสี่ย…ดูสิ กระดูกไม่กระดิกเลย ม่ะ ตาฉันบ้าง” เมื่อเห็นความพยายามที่ไร้ผลของกู้จวิน หวังรั่วเซียงที่เพิ่งผ่าจุดของตนเองเสร็จจึงอาสาทำเเทนกู้จวิน หวังรั่วเซียงส่งมีดของเธอเเละไฟฉายส่องของเธอให้กู้จวินไปทำจุดอื่นเเทนด้วยรอยยิ้มที่น่าหวาดผวา คล้ายกับเธอกำลังจะสื่อว่า ‘ม่ะ! เจ้าหนูน้อย! นายเหนื่อยก็ไปพักซะ พี่สาวคาราเต้สายดำคนนี้จะเเสดงพลังที่เเท้จริงให้ดู’
เเต่ความจริงมันช่างน่าเศร้า!
แม้ว่าหวังรั่วเซียงจะพยายามเบ่งกล้ามของเธอสุดกำลังจนเส้นเลือดขึ้นโก่ง และกดด้วยกำลังทั้งหมดของเธอจนกระดูกตนเองเเทบจะฉีกออกจากกันเเต่เธอก็ทำไม่ไหว….
“เเฮ่กๆ” เสียงดังก้องกังวานคล้ายกระดูกหักที่พวกเขาโหยหาก็ไม่เกิดขึ้น หวังรั่วเซียงปาดเหงื่อเเละพูดติดตลกเเก้เก้อออกมา
“ สัตว์ร้ายตัวนี้เติบโตขึ้นโดยการกินแคลเซียมหรือไม่!?”
“ เอาล่ะ ต่อไปก็คือตาของฉันเเล้วสินะ?” ไช่ฉีซวนถามอย่างงุนงง เพราะเขาคือคนสุดท้ายของทีมเเล้ว คงเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ถูกไหม!?
“ช่างเถอะ! ต่อให้พวกนายเป็นนักยกน้ำหนักก็ทุบมันไม่เเตกหรอก! มันน่าจะเเข็งกว่าหินด้วยซ้ำ!” กู้จวินหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ถอดโครงกระดูกที่ขยับง่ายออก แล้วหยิบเลื่อยกระดูกออกมาต่อหน้าต่อตาของคนทุกคน
“ ถ้าอย่างนั้นฉันจะใช้สิ่งนี้!” กู้จวินงัดซี่โครงเล็กน้อยและดึงด้วยแรงทั้งหมดของเขา ทันใดนั้นเสียงเลื่อยกระดูกที่ทำให้หูเเทบระเบิดก็ดังก้องไปทั่วสนามกีฬา
ครืดดดด! เเครกกก! ครีดดดด!
เสียงที่สดใสเเต่ปลายกลับโหยหวนดังขึ้น และเสียงนั้นได้ดังทิ่มแทงหูของทุกผู้ทุกคน
เสียงเลื่อยกระดูกส่งความสั่นสะเทือนไปตามเงี่ยงคอของผู้ชมที่อยู่รอบๆ ทำให้ทุกคนที่กำลังเชียร์ทีมของตนเองจำต้องหันหน้ามามองกลุ่มของกู้จวินอย่างเลี่ยงไม่ได้
รู้หรือไม่!? เลื่อยที่กู้จวินใช้มีไว้ทำอะไร!?
คำตอบก็คือ เลื่อยอันนี้มีไว้สำหรับการผ่ากะโหลกศีรษะโดยเฉพาะ แต่การที่กู้จวินใช้มันเพื่อหั่นกระดูกซี่โครง…เเน่นอนว่ามันผิดเเบบเต็มประตู เพราะมันจะทำให้ทุกๆส่วนเสียหายจากเเรงสั่นสะเทือนไปด้วย
เเต่กู้จวินหาสนใจไม่! เขาละทิ้งกฎเดิมๆของการเเพทย์ตั้งเเต่ได้พบกับระบบ…
ด้วยหน้ากากของเขาที่ปกปิดใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง และผมบางส่วนปิดบังใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเอาไว้ การกระทำที่เฉยเมยและคลุ้มคลั่งของเขาทำให้ทุกคนเกิดความประหลาดใจอย่างที่อธิบายไม่ได้
เนื่องจากความสำเร็จที่ดังกึกก้องชนิดถล่มทลายในรอบแรก ทำให้ผู้ผ่านเข้ารอบคนอื่น ๆ หลายคนให้ความสนใจกับเขา
มันก็เหมือนกับการสอบในห้องเรียน ทุกคนล้วนจะสนใจเด็กที่เคยสอบได้คะแนนเต็มและได้อันดับสูงสุดอยู่ตลอด ส่วนเด็กที่สอบได้เกณฑ์ปานกลางถึงแย่นั้น พวกเขาไม่แม้แต่จะแลด้วยซ้ำ
สถานการณ์นี้ก็เหมือนกัน คณะกรรมการจะสังเกตผู้เข้าแข่งขันที่ได้คะแนนในอันดับสูงๆจากรอบก่อนๆ เเละจับตามองเป็นพิเศษ เพราะยังไงการมองผู้เข้าแข่งขันที่มีคะแนนธรรมดาก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาตื่นตกใจหรือหายจากความน่าเบื่ออันไร้สิ้นสุดนี่หรอก
ทว่า!! พวกเขาไม่คิดเลย! ว่าผู้สมัครที่มีศักยภาพสูงสุดเบื้องหน้าคนนี้จะทำการวาดรูปเล่นในขณะที่คนอื่นเริ่มผ่าตัด เเละก่อนเริ่มเขาก็ยังยืนอึ้งอยู่นานด้วย เเละตอนนี้เขาก็เริ่มวาดมุมเเปลกๆอีกครั้ง….ก่อนที่จะเลื่อกระดูกอย่างเมามันดั่งคนเสียสติ!
เมื่อเห็นการกระทำที่บ้าคลั่งและไร้ความคิด นักศึกษาที่ผ่านเข้ารอบบางคนก็หยุดมือเเล้วหันมามองด้วยเเววตาดูถูกดูเเคลนออกมา ในอีกด้านหนึ่งนักศึกษาตัวเต็งจากทีมพิเศษของมหาลัยชิงหยุนก็ไม่สามารถคาดเดาการกระทำของเขาได้
ดูเจ้านั่นสิ! เขาไม่ได้เริ่มจากการผ่าผ่านพื้นที่เเบบหน้าตัด แต่พยายามผ่าจากกระดูกจากด้านข้าง?! คุณจะรับประกันได้อย่างไรว่าอวัยวะภายในไม่เสียหาย? นี่มันไม่ป่าเถื่อนเกินไปเหรอ?
ขณะนี้ผู้ชมที่อยู่รอบๆ อย่าว่าแต่เหล่านักศึกษาที่ตกรอบและอาจารย์มหาลัยเลย แม้แต่นักศึกษาที่ผ่านเข้ารอบบางคนยังแทบมองกลุ่มของกู้จวินด้วยสายตาแบบเหยียดหยาม
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปฏิกิริยาของเหล่าคณะกรรมการ พวกเขารู้สึกผิดทันทีที่จับจ้องกลุ่มของกู้จวิน ความประทับใจเมื่อแรกพบตั้งแต่การแข่งขันรอบแรกนั้นได้ค่อยๆเลือนหายไปจนสิ้น ในสายตาของพวกเขากลุ่มของกู้จวินไม่แตกต่างอะไรจากฝูงสุนัขป่าที่หิวโหยกำลังมองไปที่เหยื่อของมัน เเละเข้ามาสวาปามกันอย่างไร้มนุษยธรรมอย่างที่สุด เหล่าคณะกรรมการเเทบจากจะวางมือจากตัวเขา เเละไม่อยากได้มาเข้าสังกัดอีกต่อไป
“เฮ้! เเม่พจนานุกรม! เลิกยืนนิ่ง…เธอจะเริ่มลงมือเเบบไหน ตัดสินใจมาเลย พวกเราต้องรีบสนับสนุนนะ” ไช่ฉีซวนเอ่ยปากถาม เขาเป็นผู้ช่วยคนที่สอง ดังนั้นจึงต้องทำต่อจากคนที่หนึ่ง
“โอ้ใช่! โทษที งั้นฉันจะผ่าข้างนี้ก็เเล้วกัน”
“ เฮ้! เสี่ยกู้ ฉันจะผลัดกันผ่าด้านนี้กับเเม่พจนานุกรมนะ”
เเกรก! เเกรก! เเกรก! เเกรก!
ทั้งสามคนประสานงานกันอย่างดีเยี่ยม หลังจากนั้นไม่นาน ‘การชำเเหละ’ ของพวกเขาก็เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาได้เลาะกระดูกซี่โครงทั้งหมดของศพตัวอย่างออก
กู้จวินหยิบตะขอเกี่ยวหนังขึ้นมา ตะขออันนี้มันมีความยาว 21 ซม. เป็นหัวเเบบมนขนาด 85 x 15 มม.
ในการผ่าตัดจริง เครื่องมือนี้จะใช้สำหรับดึงผิวหนังภายนอก เเต่เมื่อกู้จวินถือมัน เขารู้สึกเหมือนกำลังถือชะแลงงัดฝาท่ออยู่เลย เขาหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะขยับมืออย่างรวดเร็วเข้าไปประชิดรอยผ่า…เขาดันตะขอเข้าไปในรอยผ่ารอบ ๆ กระดูกสันอกเเมนูเบรียม โดยใช้ตะขอเกี่ยวเข้ากับบริเวณรอบ ๆ กระดูกลาเมลลาร์ สุดท้ายเขาก็ดึงมันอย่างแรง
พรืดดดดด!
เสียงที่น่าสยดสยองของเนื้อเยื่อผิวหนังถูกฉีกขาดดังก้อง ภาพที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นทันที กระดูก [ลาร์เมล์ล่า] ที่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อมต่อกับ [เเมนูเเบรม สเตนี่] ถูกงัดออกพร้อมกับเยื่อหุ้มสมองที่เชื่อมต่อกับซี่โครงครึ่งซีกมาชนิดทั้งยวง ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะการลงมือเเบบโหดเหี้ยมของกู้จวิน