ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 8
กู้จวินเลิกคิ้วเปิดรายการภารกิจในหัวของเขาทันที
[ภารกิจปกติ: ช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้สำเร็จในวันนี้ รางวัลภารกิจ: ยาสูตรเฉพาะสำหรับเนื้องอกของสมองมนุษย์ 1 กล่อง ซึ่งสามารถยืดอายุการใช้งานของโฮสต์ได้ห้าวัน]
ยอมรับภารกิจ
[รับภารกิจแล้ว!]
“ คุณช่วยอธิบายประเภทอาหารมาหน่อย? พอจะบอกชื่ออาหารผมได้ไหม?” เขาถามเบา ๆ อีกครั้งโดยไม่สนใจคนอื่น ๆ ที่กำลังมองมาด้วยความเเปลกใจเเม้เเต่นิด
“ เครป เเกงเผ็ด ไก่นึ่ง เป็ดย่าง…” หลี่เยี่ยรุ่ยบอกอย่างตรงไปตรงมาว่ามีอาหารในโลกที่เเตกต่างชนิดกันมากมาย “ ไก่ย่าง หมูตุ๋น เป็ดตุ๋น ไก่ซอสบราวน์ แฮมไข่ ข้าว….”
“ ดีมาก” กู้จวินใช้นิ้วของเขาจับเข้าที่ข้อมือข้างซ้ายของหลี่เยี่ยรุ่ยทั้งหมดก็เพื่อทดสอบชีพจรของเขาให้แม่นยำมากที่สุด จากนั้นเขาพึมพำกับตัวเอง
“ อัตราการเต้นของหัวใจรวดเร็ว การหายใจปกติ จิตใจปกติ คำตอบถูกต้อง ดวงตากลมและรูม่านตามีปฏิกิริยาตอบสนองต่อแสง การค้นพบเบื้องต้นชี้ไปที่การทำงานของปอดและหัวใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีความเสียหายที่ชัดเจนต่อการทำงานของระบบประสาท”
เมื่อได้ยินคำศัพท์ทางการแพทย์ยาวเหยียด กัปตันชราก็จำต้องกลืนความสงสัยของเขาลงไป หลินเสี่ยวถังจ้องกู้จวินในขณะที่ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความสว่างไสว ดวงตาของเธอเริ่มเห็นความหวังอีกครั้ง ความมีชีวิตชีวาของเธอค่อยๆกลับคืนมา
“ เยี่ยมมากครับหมอ! สุดยอดมากครับคุณหมอกู้!” การตรวจสอบเบื้องต้นทำให้อู่ต้งโล่งใจอย่างมาก น้ำตาแห่งความปิติของเขาเริ่มเอ่อล้นออกมาที่ดวงตาของเขาทันที
ขอบคุณพระเจ้า! เจ้าเด็กเหม็นเเซ่กู้คนนี้ดูเหมือนจะเป็นนักเรียนแพทย์จริงๆ!
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นและความตาย การมีหมอเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตพวกเขาออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ สิ่งนี้สนับสนุนและส่งเสริมการมองโลกในแง่ดีและความกล้าหาญของพวกเขา
นักเรียนแพทย์ปีที่ 8 ของมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นอันทรงเกียรติ! นักเรียนทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะที่ฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ
ในขณะที่พวกเขาทุกคนตกตะลึง กู้จวินก็ล้วงมือเข้าไปในเสื้อของหลี่เยี่ยรุ่ยอีกครั้งแล้วคลำไปรอบ ๆ
“ อ๋า!! พี่ชายทำไมคุณถึง…สัมผัสตัวฉัน!” การลวนลามอย่างกะทันหันทำให้เยี่ยรุ่ยเกิดการระวังตัวขึ้นมาทันที
ตรวจสุขภาพ! แน่นอนว่ามันคือการตรวจสุขภาพ! จะบอกให้คนอย่างฉันยอมที่จะฝันร้ายนับพันครั้งดีกว่าจะสัมผัสร่างกายที่เน่าเฟะของคุณ!
กู้จวินถอนหายใจลึก ๆ เเล้วส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ จาดนั้นเขาก็ลงมือตรวจดูหน้าอกและแผ่นหลังของหลี่เยี่ยรุ่ย หลังจากการตรวจอย่างละเอียดแล้วเขาประกาศเสียงดังว่า “ บนร่างกายของคุณไม่มีรอยฟกช้ำหรือบาดแผลที่ชัดเจน นอกจากแขนขวาแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับอันตรายเช่นกัน ขอบคุณพระเจ้าที่อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่การบาดเจ็บที่สำคัญ”
เมื่อได้ยินคำยืนยันจากกู้จวิน ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในขณะนั้นเองเรือดำน้ำก็ส่งเสียงดังกึกก้องอีกครั้ง
ซึ่งเสียงนี้มันราวกับการส่งเข็มนับล้านเล่มเจาะตรงเข้าไปที่กระดูกแขนขวาที่ได้รับบาดเจ็บของหลี่เยี่ยรุ่ย เขาเหงื่อแตกและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“ช่วยด้วย!! ฉันกำลังจะตาย!”
เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ กู้จวินก็พบว่าใบหน้าของผู้ป่วยนั้นกลายเป็นสีขาวราวกับหิมะเเล้ว ซึ่งใบหน้าซีดนี้เองเลยทำให้กู้จวินเห็นหยดเลือดสีแดงเข้มที่ไหลลงมาโดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุดจากแขนเสื้อด้านขวาของหลี่เยี่ยรุ่ย แม้ว่าจะไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่สำคัญ แต่มันก็ไม่ได้เบาเช่นกัน เพื่อชายคนนี้จะอยู่รอดกู้จวินไม่มีเวลาให้ผ่อนคลายอีกเเล้ว เขาพูดต่ออย่างรวดเร็ว “ช่วยเล่าเรื่องอาหารจานโปรดของคุณให้ฉันฟังต่อ อย่าหยุดเด็ดขาด” ด้วยวิธีนี้กู้จวินสามารถตรวจสอบและบอกได้ว่าผู้ป่วยยังคงมีสติสัมปชัญญะดีอยู่หรือไม่
“ ไก่ฟ้าต้ม กระต่ายย่าง ม้วนผักสอดไส้ปลานึ่ง…” ในขณะที่หลี่เยี่ยรุ่ยกำลังท่องรายชื่ออาหารด้วยสีหน้าบูดบึ้งของเขา สมองของเขาก็พยายามรีดเค้นรายการอาหารออกมาให้มากขึ้น ทว่าในใจจริงๆเเล้ว เขากำลังสวดมนต์ไม่หยุด
จากเสี้ยววินาทีค่อยๆ กลายเป็นไม่กี่นาที ในที่สุดเรือดำน้ำก็กลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง กู้จวินกระโดดลงไปโดยไม่รอช้า เขารีบพุ่งไปที่หลี่เยี่ยรุ่ยที่กำลังนอนร้องครวญครางเพราะแขนหัก ขั้นแรกกู้จวินรีบพับแขนเสื้อขึ้นอย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นว่าพายุสงบลงเเล้ว ในตอนนี้กัปตันคนเก่าก็ฉวยโอกาสนี้และคว้าชุดการแพทย์ฉุกเฉินที่วางไว้ข้างแผงควบคุมออกมาอย่างสะดวก
ในขณะที่แขนเสื้อค่อยๆหลุดออกจากแขนขวาของเขา เสียงกรีดร้องกึ่งแข็งกระด้างก็หลุดรอดออกมาจากขากรรไกรที่กัดแน่นของหลี่เยี่ยรุ่ย โชคดีที่ดวงตาของเขาถูกปิดอย่างแน่นหนา หลีกเลี่ยงการมองไปที่แขนที่หักยับของเขา มิฉะนั้นน้ำตาที่เปล่งประกายแวววาวสายนี้ทุกคนจะได้เห็นมันอย่างเเน่นอน แม้ว่าเขาจะน้ำตาไหลเพราะร้องไห้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าตำหนิว่าเขาเป็นคนอ่อนแอเเน่นอน ท้ายที่สุดแขนขวาของเขาถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงจากแรงกระแทก กู้จวินใช้มีดผ่าตัดยาวกรีดเเนวขวางบนแขนขวายาวประมาณ 10 เซ็นติเมตร เลือดสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากภายในโดยไม่สิ้นสุดทันทีที่กรีดลงเนื้อ เเละบางทีพื้นที่ที่กู้จวินกรีด..ก็มีกระดูกป้องกันอยู่ทำให้ไม่มีเลือดออกมากนัก
จากการวินิจฉัยของเขา กู้จวินสามารถบอกได้ว่านี่ไม่ใช่การหักของ แคปปิทูลัมของกระดูกต้นแขนหรือการหักของกระดูกส่วนปลายเเขน ทว่า..มันเป็นรอยหักกลาง เมื่อมองไปที่ร่องรอยการแตกหักอย่างรุนแรง กู้จวินก็งงงวยอย่างมาก ตามความรู้ทางการแพทย์ของเขา มันจะต้องใช้แรงมากในการทำให้เกิดกระดูกหักเช่นนี้ ผลกระทบเช่นอุบัติเหตุทางรถยนต์เท่านั้นที่สามารถทำลายกระดูกให้เสียหายหนักได้ในระดับนี้ เเล้วเเค่ความปั่นป่วนจากกระเเสน้ำมีพลังเพียงพอที่จะทำให้หลี่เยี่ยรุ่ยบาดเจ็บถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?
“ จากการวินิจฉัยเบื้องต้น คุณอาจจะมีอาการกระดูกแขนหักแบบเปิด” กู้จวินขมวดคิ้วในขณะที่เขามองไปที่บาดแผลที่น่าสยดสยอง
“ พี่ชาย ฉันต้องทำหัตถการฉุกเฉินเพื่อแก้ไขกระดูกเคลื่อนและห้ามเลือด มิฉะนั้นฉันเกรงว่าคุณจะต้องช็อกจากการตกเลือด…”
“ตกลง” หลี่เยี่ยรุ่ยรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้กัปตันชรายื่นกล่องเครื่องมือแพทย์ให้กู้จวิน “คุณกู้ นี่ครับ! เครื่องมือเเพทย์”
ทันใดนั้นเองกู้จวินก็เปิดชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินขึ้นมา เขามองไปที่กรรไกรและผ้าก๊อซข้างใน จากนั้นเขาก็หลับตาและหายใจเข้าลึก ๆ ความจริงนี่เป็นครั้งแรกของเขาที่รักษาคนไข้
ในระหว่างหลักสูตร 8 ปีที่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์น นักเรียนจะถูกส่งไปฝึกงานครั้งแรกในช่วงภาคเรียนที่ 2 ของปีที่ 4 เท่านั้น การฝึกงานนี้จะใช้เวลา 1 ปีครึ่ง และกินยาวนานถึงชั้นปีที่ 5 ด้วยเช่นกัน ในตอนนี้กู้จวินไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขาจะรอดจากโปรแกรมที่ต้องรักษาทั้งหมดหรือไม่!
“ คุณชอบอาหารอะไรอีกบ้าง? บอกรายชื่ออาหารมาให้หมด!” ขณะที่เขาพูด กู้จวินก็กระชากแขนเสื้อที่แขนขวาของหลี่เยี่ยรุ่ยออกโดยใช้กรรไกร จากนั้นเขาก็เอาผ้ามาวางบนแขน เเล้วก็บุผ้าก็อซก่อนจะมัดให้แน่นด้วยสายรัด เพื่อปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดทั้งหมด…เพื่อการเลือดออกจนหมดสติเเล้วตายนั่นเอง
“ อ๊าก! ผัดถั่วงอกปลาไหลตุ๋น อ๊ะ เชี่ยเอ้ย! เจ็บ โอ๊ะ อ้าก! ไก่ผัดซอส!!”
เม็ดเหงื่อมหาศาลที่คล้ายไม่มีที่สิ้นสุดไหลกลิ้งลงมาจากหน้าผากของหลี่เยี่ยรุ่ยอย่างล้นเหลือ กำปั้นของเขากำแน่นขึ้นกว่าเดิมจากความเจ็บปวดที่เกินจะเเบกรับ ลมหายใจของหลี่เยี่ยรุ่ยเริ่มเเผ่วลงทุกการเคลื่อนไหว เขาที่หายใจไม่ค่อยจะทั่วท้องนั้นก็พลันร้องเสียงแหลมและถูกบังคับให้เรียกชื่ออาหารต่างๆ ต่อไปเรื่อยๆ
“กุ้งทอด หอยลายอบซอสราดผงเเกงกะหรี่…”
หลังจากนั้นกู้จวินก็พบวัตถุที่มีลักษณะคล้ายไม้กระดาน เหมาะสมเอามาเพื่อใช้เป็นไม้ดามที่ทำให้กระดูกที่หักนั้นเข้าที่
เมื่อทุกอย่างพร้อมเเล้วนั้น กู้จวินก็จับตำแหน่งแขนของหลี่เยี่ยรุ่ย จากนั้นพันให้เเน่นด้วยผ้าพันแผล แม้จะไม่มีประสบการณ์และเต็มไปด้วยความกดดัน
แต่มือของเขาที่กำลังจัดกระดูกนั้นปรากฎฝีไม้ลายมืออันพิถีพิถันขึ้นมา กระบวนการจัดกระดูกทั้งหมดดำเนินไปโดยราบรื่น ไม่มีความรู้สึกตื่นตระหนกหรือสั่นกลัวสักนิด หรือบางทีนี่อาจจะเป็นเพราะมือแห่งความชำนาญก็เป็นไปได้!