ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 1055 คุกสวรรค์ปฐมยุค
บทที่ 1055 คุกสวรรค์ปฐมยุค
กายาอหังการสามพันวิถี…
คุณสมบัติชะตาฟ้าบุพกาลปฐมภพ…
เจตจำนงเจ้าเอกทัศฟ้าบุพกาล…
ข้อมูลประจำตัวพวกนี้ดูยอดเยี่ยมนัก!
หานเจวี๋ยแอบระแวงอยู่ในใจ หรือว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลเตรียมจะฟื้นคืนชีพให้แปดฟ้าบุพกาลก่อนหน้านี้
จ้าวซวงเฉวียนคือเจ้าอัษฎาฟ้าบุพกาลกลับชาติมาเกิด ตอนนี้ก็มีอวี้ยวนผู้สืบทอดเจตจำนงเจ้าเอกทัศฟ้าบุพกาลโผล่มาอีกคนแล้ว หากเก้าพี่น้องร่วมมือกัน เช่นนั้นจะแข็งแกร่งปานใดเล่า
ดูเหมือนเจ้านวฟ้าบุพกาลก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติเช่นกัน เจ้าแดนต้องห้ามอันธการถ่วงความก้าวหน้าในการฝ่าทะลวงสู่ระดับเทพผู้สร้างของเขา ทำให้เขารับรู้ได้ถึงสัญญาณอันตราย ดังนั้นจึงเริ่มคืนชีพชุบเลี้ยงพี่น้องของตน
หานเจวี๋ยเริ่มตรวจหาพิกัดของอวี้ยวน
เขาไม่ได้อยู่ในจักรวาลโลกดารา แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากจักรวาลโลกดารา
มีคนผู้หนึ่งติดตามอยู่ข้างกายอวี้ยวนด้วย เป็นดวงจิตนพชาติ
หลังกลับชาติมาเกิดใหม่ร้อยล้านปี ในที่สุดดวงจิตนพชาติก็หวนกลับสู่ระดับยอดมหามรรคอีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังสั่งสอนชี้แนะอวี้ยวนอยู่
หานเจวี๋ยถามในใจ ‘หากว่าข้ากำจัดอวี้ยวน เจ้านวฟ้าบุพกาลจะคิดเป็นอริกับข้าหรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยร้อยล้านล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ใช่ จะมีเจตนาสังหารด้วย]
หานเจวี๋ยสบถในใจ หรือว่านี่คือกับดัก
อย่างไรก็ตาม ผู้ทรงพลังทั่วไปมองอวี้ยวนไม่ออก หากดูจากกลิ่นอายของอวี้ยวน ก็นับเป็นเพียงบุตรแห่งสวรรค์เท่านั้น ห่างชั้นกับหานฮวงจนไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากเขาเข้าไปทำความรู้จักกับอวี้ยวน จะดูมีแผนการอย่างเห็นได้ชัด แล้วเจ้านวฟ้าบุพกาลจะไม่ระแวงได้อย่างไร
ถ้าไปติดต่อใกล้ชิดกับอวี้ยวนในตอนนี้ มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกมองว่าเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ
หานเจวี๋ยถามในใจ ‘เจ้านวฟ้าบุพกาลเตรียมจะฟื้นคืนชีพให้แปดฟ้าบุพกาลที่เหลือใช่หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยร้อยล้านล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ใช่]
เปลือกตาหานเจวี๋ยกระตุกเล็กน้อย
แต่อวี้ยวนยังอ่อนแอมาก กว่าจะฝึกบำเพ็ญจนบรรลุผู้สร้างมรรคาได้ ใครจะรู้ได้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นคือฟ้าบุพกาลตนอื่นก็ยังไม่ได้รับการคืนชีพ
ค่อนข้างน่าสนใจ
เจ้านวฟ้าบุพกาลกำลังจะเข้าสู่เคราะห์กรรมแล้ว
ที่ผ่านมาเจ้านวฟ้าบุพกาลวางตัวเหนือเรื่องทางโลก ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เลย
แต่เช่นนี้ก็แปลว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลมีความกังวลอยู่ในใจพอสมควร
หานเจวี๋ยถอนสายตากลับมา ไม่สอดส่องอวี้ยวนอีก
หากถึงเวลาที่อวี้ยวนใกล้จะกลายเป็นภัยคุกคามเขา ค่อยสาปแช่งให้ตายก็ใช้ได้แล้ว
แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น หากเขาแซงหน้าเจ้านวฟ้าบุพกาลไปได้ก่อน พิสูจน์เทพผู้สร้างได้สำเร็จ เช่นนั้นก็ค่อยโยนเจ้านวฟ้าบุพกาล อวี้ยวนและดวงจิตนพชาติเข้าคุกสวรรค์อนธการไปพร้อมกัน
หานเจวี๋ยเริ่มสอดส่องฟ้าบุพกาล สอดส่องดูว่าในหมู่ลูกหลานและเหล่าศิษย์ของตนมีคนที่โดดเด่นอยู่หรือไม่
หนึ่งพันปีต่อมา
[ยกระดับคุกสวรรค์อนธการเสร็จสิ้น ยกระดับเป็นคุกสวรรค์ปฐมยุค]
[คุกสวรรค์ปฐมยุค: ติดตั้งได้เพียงภายในอาณาเขตเต๋าเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวตนระดับใดหากถูกกักขังไว้ ระยะเวลาในการกักขังจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่ระดับความแข็งแกร่งอ่อนแอของตบะ ตราบจนเปลี่ยนให้กลายเป็นทาสอาณาเขตเต๋า ความเป็นความตายจะขึ้นอยู่กับเจ้าของอาณาเขตเต๋า จะไม่ได้รับผลกระทบจากมหาโชค ดวงชะตาหรือบ่วงกรรมใดๆ ทั้งปวง คุกสวรรค์ปฐมยุคกักขังสิ่งมีชีวิตได้มากที่สุดแค่หนึ่งอัตรา และจะเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตปฐมยุค]
เผด็จการนัก!
ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งปวง!
แถมยังเปลี่ยนให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตปฐมยุคอีก!
กล่าวก็คือหากสยบผู้สร้างมรรคาให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตปฐมยุค จะทำให้ดวงชะตาโลกปฐมยุคเพิ่มมหาศาลฉับพลัน อีกทั้งจะทำให้ตบะของหานเจวี๋ยเพิ่มพูนขึ้นอีกด้วย
ชั่วขณะนั้น จู่ๆ หานเจวี๋ยก็อยากออกไปจับคนขึ้นมา
ไม่ได้!
คุมขังได้เพียงครั้งละหนึ่งคน อีกทั้งการทำเช่นนี้ใช้ระยะเวลายาวนานเกินไป จะต้องทำให้คนอื่นนึกฉุกคิดขึ้นมาแน่นอน
ถึงแม้หานเจวี๋ยจะไม่กลัวเจ้านวฟ้าบุพกาลโจมตีอาณาเขตเต๋า แต่เจ้านวฟ้าบุพกาลทำลายทุกสิ่งที่อยู่นอกอาณาเขตเต๋าได้แน่นอน หากเขาหมายหัวหานเจวี๋ยไปตลอดคอยโจมตีทำลายโลกมหามรรคอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้หานเจวี๋ยไม่อาจก้าวหน้าได้เช่นกัน
เมื่อโลกมหามรรคพัฒนาไปจนถึงระดับที่แน่นอนแล้วจะถูกบังคับดึงดูดออกไป ดังนั้นต่อให้หานเจวี๋ยอยากหดหัวซ่อนตัวก็ทำไม่ได้แล้ว
เว้นแต่เขาจะต้องการให้ตบะติดค้างอยู่ในระดับนี้ ไม่อาจก้าวหน้าได้ตลอดกาล
หานเจวี๋ยไม่คิดมากอีก ฝึกบำเพ็ญต่อดีกว่า เร่งฝ่าทะลวงให้ได้ในเร็ววัน
จะต้องชิงบรรลุเทพผู้สร้างก่อนให้ได้!
….
ณ หมู่เกาะลอยฟ้า ล่องลอยอยู่บนนภาครามดั่งดวงดาว
ภายในหอคอยไม้หลังหนึ่งที่รูปทรงดูคล้ายกับเจดีย์ ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งสมาธิโดยหันเข้าหาดวงตะวัน ดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดิน ชายชราคนหนึ่งนอนเอนหลังอยู่บนตั่งยาวด้านข้าง
ชายหนุ่มคนนี้ก็คืออวี้ยวน บุคลิกสูงส่ง ท่วงท่าเหนือสามัญ ส่วนชายชราคือดวงจิตนพชาติจำแลงกายมา ดูธรรมดาอย่างยิ่ง ปราศจากไอเซียน
“ผู้อาวุโส วิชายุทธ์ที่ท่านถ่ายทอดให้ข้าค่อนข้างพิสดารนัก” จู่ๆ อวี้ยวนก็ลืมตาแล้วเอ่ยขึ้นมา
ดวงจิตนพชาติหัวเราะหึๆ “คล้ายจะตื้นเขินแต่ก็ยิ่งใหญ่ลึกซึ้งใช่หรือไม่”
“มิใช่เลย แต่ในการฝ่าทะลวงทุกระดับต้องการพลังวิญญาณมากกว่าวิชายุทธ์ทั่วไปหลายสิบเท่าหรืออาจจะมากกว่านั้น อีกทั้งจำนวนที่ต้องการก็เพิ่มมากขึ้นตามระดับที่สูงขึ้น เช่นนี้ก็แปลว่าในอนาคตข้าต้องพยายามทุ่มเทมากกว่าคนอื่นๆ หลายเท่ามิใช่หรือ” อวี้ยวนขมวดคิ้ว
“เจ้ามีพรสวรรค์ เช่นนี้ไม่ดีหรือไร ยิ่งเป็นวิชายุทธ์ที่ฝึกบำเพ็ญยากเท่าไรก็ยิ่งมีความร้ายกาจมากขึ้นเท่านั้น เจ้าน่าจะรู้ดี”
“แต่ว่า…”
“อย่าได้นึกถึงงานชุมนุมฟ้าบุพกาลอันใดนั่นเลย ถึงเจ้าจะเข้าร่วมได้ทันแต่หลังผ่านงานชุมนุมฟ้าบุพกาลไปแล้วเล่า เป้าหมายที่เจ้าต้องบรรลุมิใช่แค่เลิศล้ำหมื่นยุค”
ดวงจิตนพชาติโบกมือพลางเอ่ยออกไป สีหน้าหงุดหงิดระอา
อวี้ยวนถอนหายใจ จากนั้นก็ฝึกบำเพ็ญต่อ
ดวงจิตนพชาติกลับมองไปยังขอบฟ้า นึกแปลกใจ
เหตุใดอริยะสวรรค์เกรียงไกรผู้นั้นถึงยังไม่มากัน
หรือว่าเขาไม่ชอบการต่อสู้แก่งแย่งจริงๆ ชอบมานะบำเพ็ญเท่านั้น
ดวงจิตนพชาติหลงนึกว่าหานเจวี๋ยจะมารับตัวอวี้ยวนไป ทำให้อวี้ยวนกลายเป็นตัวเบี้ยของตน
ทว่าเขารอคอยมาหลายร้อยปีแล้ว หานเจวี๋ยก็ยังคงไม่มาปรากฏตัว
หรือว่าเขาจะใจร้อนเกินไป
ไม่ผิดแน่!
รอต่อไปดีกว่า!
เมื่อคุณสมบัติของอวี้ยวนปรากฏเด่นชัดประกอบกับมีเขาอยู่ข้างกาย หากว่าอริยะสวรรค์เกรียงไกรมาจัดการกับอวี้ยวนก็จะถูกท่านพ่อสังหารได้พอดี
รอยยิ้มของดวงจิตนพชาติสว่างไสวขึ้นมา
ตัวตนที่สามารถสังหารหานเจวี๋ยได้มีเพียงท่านพ่อของเขา
ดังนั้นเขาจึงตั้งตารอคอยหานเจวี๋ยมาโดยตลอด ตัวตนของอวี้ยวนเป็นความลับ ท่านพ่อเคยกำชับมาว่าห้ามบอก แม้กระทั่งตัวตนเหนือชั้นรายอื่นๆ
ด้วยเหตุนี้เอง
ระยะเวลาผ่านพ้นไปหลายพันปี
ชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านมาล้านปีแล้ว
หานเจวี๋ยยังคงไม่มาปรากฏตัว ดวงจิตนพชาติค่อนข้างรู้สึกผิดหวัง
ในเวลานี้ อวี้ยวนเตรียมจะออกไปหาประสบการณ์แล้ว ได้ยินว่าวังจักรพรรดิมหาโชคมาเปิดรับสมัครเทพเซียนในอาณาเขตละแวกนี้ เขาอยากไปลองทดสอบดู
การถือกำเนิดของเขานับเป็นชั้นแนวหน้าสำหรับโลกมนุษย์ธรรมดา แต่ในฟ้าบุพกาลไม่ควรค่าพอให้เอ่ยถึงเลย หากอยากตั้งตัวในฟ้าบุพกาลก็ต้องพึ่งพิงกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่สักแห่ง ซึ่งตัวเขาชมชอบวิสัยของจักรพรรดิ
ดวงจิตนพชาติมิได้ห้ามปราม เนื่องจากเขาทราบดีว่าอวี้ยวนต้องการเติบใหญ่ก้าวหน้า อยากพึ่งพาตัวเองมิใช่ปล่อยให้เขาดูแลไปตลอด
เขาไม่กลัวว่าอวี้ยวนจะตายตกไป เพราะท่านพ่อเคยบอกไว้ว่าขอเพียงอวี้ยวนฝึกบำเพ็ญได้ดีก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ
เช่นนี้แปลว่าอะไรน่ะหรือ
แปลว่ามีท่านพ่อคอยคุ้มครองอยู่!
อวี้ยวนไม่มีทางตายแน่นอน!
‘น่าเสียดาย อริยะสวรรค์เกรียงไกรไม่โผล่มาเลย’
ดวงจิตนพชาติคิดเงียบๆ จากนั้นก็แยกทางกับอวี้ยวน
อวี้ยวนมาถึงห้วงอวกาศฟ้าบุพกาล ทอดสายตามองห้วงอวกาศไพศาลไร้ขอบเขต หัวใจเขาเต้นรัวขึ้นมา
‘ฟ้าบุพกาล ข้ามาแล้ว! วังจักรพรรดิมหาโชค ข้าอยากเห็นนักว่าบุตรแห่งสวรรค์ในนั้นจะแกร่งกว่าข้ามากน้อยเพียงใด!’
อวี้ยวนคิดในใจ
หลายพันปีต่อมา เขาเข้าร่วมวังจักรพรรดิมหาโชคได้สำเร็จ คุณสมบัติของเขาโดดเด่น ได้รับความโปรดปรานจากราชันเทพคนหนึ่ง แต่ยังไม่มีคุณสมบัติพอจะได้เข้าพบจักรพรรดิ อย่าว่าแต่จักรพรรดิเลย ภายในวังจักรพรรดิมหาโชคตำแหน่งของเขายังนับว่าต่ำต้อยยิ่ง สำหรับเขาแล้วแม้กระทั่งหานเย่ หานเหยาหรือหานป้าเสินก็ยังเป็นตำนานที่อยู่ไกลโพ้นจนเอื้อมไม่ถึง
ปัจจุบันนี้วังจักรพรรดิมหาโชคเป็นกลุ่มอิทธิพลทรงอำนาจแล้ว มีศิษย์ในสังกัดหลายร้อยล้านชีวิต เทพเซียนนับไม่ถ้วน หลากระดับล้นหลาม!