ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 281 โลกเขย่าพิภพคิดการณ์ใหญ่ อีกาทองเกิดมารในใจ
- Home
- ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
- บทที่ 281 โลกเขย่าพิภพคิดการณ์ใหญ่ อีกาทองเกิดมารในใจ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ห้าสิบปีต่อมา
หลังจากที่หานเจวี๋ยนำโลกเขย่าพิภพไปซ่อนในยมโลกก็ไม่เคยถูกรบกวนอีกเลย จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตก็ไม่ได้มาที่นี่
ตบะของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
ทุกคนในสำนักซ่อนเร้นเริ่มฝึกบำเพ็ญอย่างหนัก แต่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกเขย่าพิภพไม่รู้ตัวว่าพวกเขาอยู่ในยมโลกแล้ว
หลังจากพุทธะอาภรณ์ขาวบรรลุจักรพรรดิเซียนก็ไม่ฝึกบำเพ็ญอีก เขาเริ่มออกพเนจรทั่วหล้า ถ่ายทอดธรรมไปพลาง เผยแพร่คำกล่าวที่ว่าไม่ต้องสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ไปพลาง
เขาอยากสร้างโลกเขย่าพิภพให้เป็นแดนเซียนแห่งต่อไป!
พุทธะอาภรณ์ขาวรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสอันดี
มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตทุกครั้งจะทำให้แดนเซียนสูญเสียอย่างหนัก ถึงขั้นที่ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดถูกขจัดสิ้น
ในอดีต แดนเซียนมีขนาดใหญ่กว่าที่เป็นอยู่หลายหมื่นเท่า แต่เพราะมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนต่อสู้โกลาหล ส่งผลให้แดนเซียนพังทลาย หลงเหลือเพียงแค่นี้เท่านั้น
แน่นอน ถึงแม้จะมีเพียงหนึ่งในหมื่น แต่ก็กว้างใหญ่ไพศาลหาที่เปรียบไม่ได้ แม้แต่จักรพรรดิเซียนก็ไม่สามารถท่องทั่วทั้งแดนเซียนได้ในชั่วอึดใจ
ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาเริ่มสาปแช่งจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต
ทุกๆ สิบปีเขาจะสาปแช่งจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตเป็นเวลาสิบวัน เขาไม่เชื่อว่าปราณมหาวิมุตจะสามารถคุ้มกะลาหัวเจ้านี่ได้ตลอดไป
หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลาง ตรวจดูกล่องจดหมายไปพลาง
[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากพญาอินทรีปีกทอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[เจียงอี้สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากยอดแม่ทัพเทพสหายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจประหลาด] x139822
[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลัง]
[โม่จู๋สหายของท่านหลงเข้าไปในสำนักเร้นลับดึกดำบรรพ์]
[ยายเมิ่งสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนเผ่าปีศาจ ตัวตายมรรคผลสลาย โชคดีได้ร่างจริงช่วยชุบชีวิต]
[หลงซั่นสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเทพปีศาจ] x5
[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากทหารสวรรค์แม่ทัพสวรรค์] x380244
……
หานเจวี๋ยอ่านไล่ลงไป รู้สึกว่าตนโชคดีมากขึ้นเรื่อยๆ
โชคดีที่เขาไม่ได้ไปวังสวรรค์ ไม่เช่นนั้นเขาต้องถูกเล่นงานจนน่วมเช่นกันแน่
เขาแค่หวังว่าสหายของเขาจะสบายดี โดยเฉพาะจักรพรรดิสวรรค์ สู้ไม่ไหวก็หาที่หลบเสียเถอะ
หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าหวงจี๋เฮ่าถึงกับยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวังสวรรค์ ซ้ำยังใช้ทหารสวรรค์แม่ทัพสวรรค์กวาดล้างปีศาจประหลาดเพื่อเพิ่มระดับด้วย นี่มันช่าง…
เฮ้อ! ทุกคนล้วนมีทางเลือกของตัวเอง หานเจวี๋ยก็ไม่สะดวกจะประเมินจากมุมมองของตน ขอเพียงไม่เดือดร้อนมาถึงเขาก็พอ
สิบวันต่อมา
หานเจวี๋ยกำลังจะสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจ จู่ๆ เขาก็เห็นจดหมายแจ้งเตือนแถวหนึ่ง
[จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตศัตรูของท่านเกิดมารในใจเพราะคำสาปแช่งของท่าน]
หือ?
หานเจวี๋ยตกใจระคนดีใจ
‘ในที่สุดเจ้าสารเลวนี่ก็เกิดมารในใจแล้ว!
เจ้าว่าเจ้าจะตายหรือไม่ล่ะ!’
หานเจวี๋ยนับว่ามีความสุขเสียที
‘ในทศวรรษหน้า ข้าจะทำให้มารในใจเจ้ารุนแรงยิ่งกว่าเดิม!’
หานเจวี๋ยแอบคิดกับตัวเอง จากนั้นก็สาปแช่งจักรพรรดิปีศาจต่อ
ทั้งจักรพรรดิปีศาจและจอมปีศาจอินทรีทองล้วนปล่อยไปไม่ได้!
……
พระราชวังเทียมเมฆา
จักรพรรดิสวรรค์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มีสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างหาได้ยาก
ในโถงตำหนักมีเพียงเทพเซียนสองคน คือตี้ไท่ไป๋และแม่ทัพสวรรค์ในชุดเกราะเงินคนหนึ่ง
แม่ทัพสวรรค์ผู้นี้ไม่ได้องอาจทรงอำนาจเช่นแม่ทัพเทพยุทธ์ รูปร่างก็ไม่ถือว่ากำยำ แต่กลับแผ่กลิ่นอายไร้เทียมทานที่ยากจะบรรยายออกมา
ผู้นำของสามยอดแม่ทัพเทพ แม่ทัพเทพสวรรค์!
ตี้ไท่ไป๋ถามขึ้นว่า “ฝ่าบาท ทรงคำนวณได้แล้วหรือ”
จักรพรรดิสวรรค์กล่าว “คำนวณได้แล้ว พวกเขาทั้งหมดปลอดภัยดี ซ่อนตัวฝึกบำเพ็ญอยู่ในที่แห่งหนึ่ง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ตี้ไท่ไป๋ก็ถอนหายใจโล่งอก
“ครั้งนี้วังสวรรค์พ่ายแพ้แล้วจริงๆ ต่อไปต้องเฝ้าระวังเต็มกำลัง ทวยเทพไม่อาจจากไปไหนได้อีก” จักรพรรดิสวรรค์ลุกขึ้นสั่งการ
แพ้แล้ว!
สองคำนี้ทำให้ตี้ไท่ไป๋รู้สึกอับจนหนทางอย่างถึงที่สุด
แม่ทัพเทพสวรรค์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าไม่ได้พูดอะไร
การดำรงอยู่ของจักรพรรดิสวรรค์สูงศักดิ์เพียงใด สามารถทำให้เขายอมรับความพ่ายแพ้ได้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าตอนนี้เผ่าปีศาจแข็งแกร่งเพียงไหน!
จักรพรรดิสวรรค์มองแม่ทัพเทพสวรรค์พลางสั่ง “เราขอให้เจ้าคอยพิทักษ์ประตูสวรรค์ทักษิณ ประตูนี้จะต้องไม่มีความสูญเสีย ต่อให้เจ้าตัวตายมรรคผลสลายก็ต้องเต็มใจรับคำสั่ง!”
แม่ทัพเทพสวรรค์กำหมัด กล่าวเสียงขรึมว่า “ตราบใดที่แม่ทัพผู้นี้ยังมีลมหายใจ จะไม่มีวันให้ทหารปีศาจก้าวผ่านประตูสวรรค์ทักษิณมาได้เด็ดขาด!”
จักรพรรดิสวรรค์โบกมือส่งสัญญาณให้เทพเซียนทั้งสองคนถอยออกไป
เมื่อเหลือเพียงจักรพรรดิสวรรค์อยู่ในโถงตำหนัก เขาหย่อนตัวนั่งลงอย่างช้าๆ สภาพจิตใจเหมือนแก่ลงไปสิบปี
จักรพรรดิสวรรค์แหงนมองท้องฟ้านอกตำหนักพลางบ่นพึมพำว่า “ผู้ฝ่าเคราะห์ยังไม่ทันปรากฏตัว วังสวรรค์ก็พ่ายแพ้เสียแล้ว…
บางทีบรรพชนเต๋าอาจพูดถูก ความรุ่งเรืองของวังสวรรค์ไม่ได้อยู่ในยุคของเรา แต่อยู่ในอนาคต”
……
นอกทะเลแดนเซียน เกาะเซียนแห่งหนึ่ง
ภายในอารามเต๋า
หวงจุนเทียนคุกเข่าลงด้านหลังลูกศิษย์กลุ่มหนึ่ง คิ้วของเขาขมวดแน่น
“มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตเริ่มขึ้นแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาอันดีให้นิกายเจี๋ยผงาดขึ้นใหม่อีกครั้ง หากนิกายเจี๋ยได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด พวกเราจะเป็นเจ้าผู้ปกครองสวรรค์ในยุคต่อไป!”
ผู้บำเพ็ญวัยกลางคนที่อยู่หน้ารูปเทวะพูดอย่างตื่นเต้น เขากำสองหมัดแน่น น้ำเสียงบ้าดีเดือด
เหล่าศิษย์ที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเขามีสีหน้าอารมณ์แบบเดียวกัน
นิกายเจี๋ยจะผงาดขึ้นเป็นใหญ่!
นิกายเจี๋ยจะรุ่งเรืองอีกครั้ง!
นิกายเจี๋ยจะอยู่เหนือสวรรค์ทั้งปวง!
มีเพียงหวงจุนเทียนที่ขมวดคิ้ว
‘สมควรตาย เจ้าพวกนี้ฝึกบำเพ็ญดีๆ ไม่เป็นหรือ ข้างนอกอันตรายขนาดนั้น!’
หวงจุนเทียนกัดฟันพลางคิด เขาแฝงตัวเข้ามาในนิกายเจี๋ยตามคำสั่งของหานเจวี๋ย เกาะเซียนที่เขาอยู่เป็นเพียงหนึ่งในหลายพันเกาะเซียนของนิกายเจี๋ย
หลังจากเข้าร่วมนิกายเจี๋ย โลกทัศน์ของเขาก็พังทลายเรื่อยมา
นิกายเจี๋ยมีผู้แข็งแกร่งเยอะราวหมู่เมฆจริงๆ!
เขารู้สึกขอบคุณหานเจวี๋ยที่จัดให้ตนมาที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าอยู่ในนิกายเจี๋ย เขาต้องสามารถก้าวข้ามเทพเซียนและกลายเป็นผู้ทรงพลังที่หลุดพ้นจากชีวิตและความตายได้แน่นอน!
แต่ทว่า! เจ้าเกาะของเขาหรือก็คืออาจารย์ของเขากลับอยากพาพวกตนเข้าร่วมเคราะห์เสียได้!
รนหาที่ตายนัก!
เมื่อเห็นเจ้าเกาะ หวงจุนเทียนเหมือนเห็นผู้อาวุโสของลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณพวกนั้น
มักรู้สึกว่าโอกาสที่จะผงาดขึ้นมามาถึงแล้ว จากนั้นก็เริ่มยั่วยุศัตรูทุกสารทิศ…
ความเคารพยำเกรงที่หวงจุนเทียนมีต่อเจ้าเกาะพลันหายไป
ในชั่วขณะนี้ เขาถึงขั้นเกิดความทะเยอทะยานบ้าคลั่งที่จะโค่นเจ้าเกาะลงเสีย
แต่ว่าที่นี่คือนิกายเจี๋ย ไม่ใช่โลกมนุษย์
ความแข็งแกร่งห่างชั้นกันเกินไป เขาถือเป็นกลุ่มแรกที่อ่อนแอที่สุดในหมู่ศิษย์ แล้วจะชิงตำแหน่งเจ้าเกาะมาได้อย่างไร
‘ไม่ได้! ต้องคิดหาวิธี ไม่เช่นนั้นได้ตายจริงๆ แน่!’
หวงจุนเทียนลอบคิดกับตัวเอง
เขาอ่านคัมภีร์โบราณมาไม่น้อย ยิ่งเข้าใจมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหวาดกลัวมากเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นพวกที่แข็งแกร่งเพียงใด ขอเพียงเข้าร่วมเคราะห์ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
บรรดาผู้ทรงพลังที่ซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตล้วนแต่เก็บตัวฝึกบำเพ็ญ ค่อยออกมาเก็บกวาดตอนที่มหาเคราะห์กำลังจะสิ้นสุด จากนั้นก็ช่วงชิงดวงชะตาฟ้าดิน ชื่อเสียงระบือไกลไปชั่วนิรันดร์
บทเรียนประวัติศาสตร์เห็นอยู่ทนโท่ตรงหน้าแล้ว เหตุใดเจ้าพวกบ้านิกายเจี๋ยถึงยังอยากเข้าร่วมเคราะห์อีก
หวงจุนเทียนไม่อาจเข้าใจได้ เขาเริ่มเค้นสมองคิดว่าควรทำอย่างไรถึงจะอยู่บนเกาะนี้ต่อไปได้
รั้งอยู่ก่อน ถึงจะมีโอกาสชิงตำแหน่ง!
…….
ในห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่ อีกาทองสามขาตัวใหญ่ยักษ์ไร้ที่สิ้นสุดนอนขดอยู่ เป็นจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตนั่นเอง
เขาเพิ่งกลืนโลกมนุษย์แห่งหนึ่งเข้าไป กำลังย่อยสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในนั้นอยู่
ยามได้ยินเสียงโหยไห้ของสิ่งมีชีวิตที่ดังออกมาจากในท้อง ดวงตาของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตเต็มไปด้วยความสำราญใจ
เขาชอบความรู้สึกที่ได้กุมชะตาเป็นตายของสรรพสิ่งมากที่สุด
นี่ต่างหากคือจุดประสงค์ของการฝึกบำเพ็ญให้แข็งแกร่งขึ้น!
กุมมนุษย์ปุถุชนไว้กลางฝ่ามือ!
ใช้มรรคาสวรรค์เป็นหินปูทาง!
ทว่าพอจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตนึกถึงหานเจวี๋ย ไฟโทสะก็ลุกโชนในใจ
“เจ้าสวะสมควรตายนั่นซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันแน่”
หานเจวี๋ยหนีเข้าสู่ยมโลกโดยตรง ส่งผลให้จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตไม่อาจสืบรอยจากวิวัฒนาการของพลังวิเศษได้
ในเวลานี้ มีเงาร่างหนึ่งลงมาเยือนเบื้องหน้าจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต เป็นเจียงอี้นั่นเอง
เจียงอี้เผยร่างจริง ก่อนพูดด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกว่า “ได้ยินมาว่าเจ้ากำลังตามหาเจ้าแห่งโลกเขย่าพิภพ? เขาเป็นชนรุ่นหลังที่ข้าถูกชะตา เจ้าไว้หน้ากันสักครั้ง อย่าตามสังหารเขาอีกเลย”
……………………………………………………………………….