ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 816 สุดยอดวิชายุทธ์ กำเนิดมหาโชค
ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม ภายในตำหนักเอกภพ
จอมอริยะเสวียนตูที่กำลังเทศนาธรรมอยู่ชะงักทันที ผู้สดับธรรมหลายหมื่นคนพากันลืมตาขึ้น
“นี่มันกลิ่นอายอะไรกัน”
“มีคนพิสูจน์มรรคผลต้าหลัวอยู่อย่างนั้นหรือ”
“เหตุใดมรรคผลต้าหลัวถึงสร้างความสั่นสะเทือนได้มากเพียงนี้”
“ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่ต้าหลัว!”
“เหตุใดข้าถึงทำนายดวงชะตาของคนผู้นี้ไม่ได้”
เหล่าผู้แสวงมรรคพากันพูดคุยขึ้นมา ตบะของพวกเขาล้วนไม่ต่ำต้อยเลย มองแวบเดียวก็เห็นเจียงเจวี๋ยซื่อที่กำลังทะลวงระดับอยู่ แต่พวกเขาไม่สามารถทำนายถึงอดีตของเจียงเจวี๋ยซื่อได้
ผู้แสวงมรรคหนึ่งมองไปที่จอมอริยะเสวียนตู เอ่ยถามว่า “ขอบังอาจถามจอมอริยะ คนผู้นี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรขอรับ”
จอมอริยะเสวียนตูเปิดปากเอ่ย “จะว่าไปแล้วคนผู้นี้ก็เกี่ยวพันกับนิกายเหรินของข้า เขามีนามว่าเจียงเจวี๋ยซื่อ เคยกราบเข้านิกายเหรินมาพร้อมกับเจียงตู๋กูน้องชายของเขา ต่อมาไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด คนผู้นี้ออกจากนิกายเหรินไป ดับสูญไปจากโลก”
ในใจเขาเต็มไปด้วยความฉงน ตอนแรกเขาจำเจียงเจวี๋ยซื่อไม่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อทำนายดู ก็พบว่าเจียงเจวี๋ยซื่อไม่ธรรมดาเลย
ชาตินี้ถึงแม้จะมีอายุเพียงสองพันกว่าปี แต่ต้นกำเนิดของเขายาวนานยิ่ง
สิ่งสำคัญที่สุดคือเขามองไม่ออกว่าเพราะเหตุใดเจียงเจวี๋ยซื่อถึงสามารถพิสูจน์ต้าหลัวได้ภายในวันเดียว อีกทั้งยังคงทะลวงขั้นต่อไป
หรือนี่จะเป็นยอดบุตรแห่งสวรรค์ที่สหายเต๋าหานต้องการ
ในใจของจอมอริยะเสวียนตูบังเกิดความต้องการอยากรับตัวไว้
ไม่ใช่แค่ตำหนักเอกภพเท่านั้น อาณาเขตเต๋าของอริยะรายอื่นก็กำลังพูดคุยถึงเจียงเจวี๋ยซื่ออยู่เช่นกัน
เจียงเจวี๋ยซื่อเรียกได้ว่าเร้นกายมาหลายล้านล้านปี พอโผล่มาก็สร้างความตื่นตะลึงให้แก่มรรคาสวรรค์!
อริยะทั้งหมดล้วนเป็นเช่นเดียวกับจอมอริยะเสวียนตู ไม่รู้จักเจียงเจวี๋ยซื่อ แต่ตอนนี้ล้วนอยากรับตัวเจียงเจวี๋ยซื่อไว้!
บุตรแห่งสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง!
นับแต่โบราณมา ไม่มีการทะลวงระดับที่ยิ่งใหญ่สะเทือนเลือนลั่นเช่นนี้มาก่อนเลย!
ไม่มีผู้ใดไปรบกวนเจียงเจวี๋ยซื่อ
สิบวันต่อมา
เจียงเจวี๋ยซื่อฝ่าทะลวงรวดเดียวจนไปถึงระดับครึ่งอริยะ ยังคงไม่หยุดชะงักเลย!
ทั่วทั้งแดนเซียนล้วนได้รับผลกระทบจากเขา พลังวิญญาณในสถานที่ห่างไกลออกไปถึงขั้นที่เริ่มเบาบางลง เพียงพอจะแสดงให้เห็นแล้วว่าการทะลวงระดับครั้งนี้ของเจียงเจวี๋ยซื่อน่าเหลือเชื่อมากเพียงใด
หานเจวี๋ยก็จับตามองเจียงเจวี๋ยซื่ออยู่
หรือว่าเด็กคนนี้จะครอบครองมหามรรคไว้
ไม่สิ!
ไม่มีพลังแห่งมหามรรค!
แต่เป็นวิชายุทธ์ประเภทหนึ่ง!
วิชายุทธ์อะไรกันที่ร้ายกาจได้ขนาดนี้
หลังจากพิสูจน์มรรคผลเบิกฟ้าสำเร็จ วิชายุทธก็ไม่สำคัญอีกต่อไป อริยะจะทำความเข้าใจเพียงมหามรรคเท่านั้น ขนาดหานเจวี๋ยเองก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นวิชายุทธ์เช่นนี้
‘ข้าอยากรู้ว่าสิ่งที่เจียงเจวี๋ยซื่อฝึกฝนอยู่คือวิชายุทธ์ใด’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
นี่เทียบชั้นได้กับระดับยอดมหามรรคแล้ว!
หานเจวี๋ยมีสีหน้าตื่นตะลึง เลือกดำเนินการต่ออยู่ในใจ
[กลับชาติกำเนิดมหาโชค: สุดยอดวิชายุทธ์ เป็นสิ่งที่เจียงเจวี๋ยซื่อตระหนักบรรลุขึ้นในยามที่ทำความเข้าใจ มหามรรคแห่งโชค ผ่านประสบการณ์กลับชาติมาเกิดนับหมื่นชาติ สะกดตบะไว้อย่างต่อเนื่อง ยกระดับคุณสมบัติ ไร้ที่สิ้นสุด]
สุดยอดวิชายุทธ์!
หานเจวี๋ยตกใจอยู่คนเดียว ร้ายกาจขนาดนี้เชียว
เขาอดถามไม่ได้ ‘เหตุใดเจียงเจวี๋ยซื่อสามารถตระหนักรู้วิชายุทธ์เช่นนี้ได้’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ชะตาพาโชค: ไม่อาจเอ่ยนามได้ เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล ผานกู่ บรรพชนเต๋าและเจียงเจวี๋ยซื่อต่างมีคุณสมบัติแห่งมหาโชค]
หานเจวี๋ยอ่านแล้วไม่เข้าใจ ทำได้เพียงกล่าวโทษคุณสมบัติ
เด็กคนนี้ยอดเยี่ยมนัก
ไม่น่าเชื่อว่าจะเสมอชั้นกับเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล ผานกู่และบรรพชนเต๋า!
หลายเดือนต่อมา
เจียงเจวี๋ยซื่ออาศัยพลังพิสูจน์มรรค สำเร็จมรรคผลเบิกฟ้าโดยตรง สะท้านสะเทือนอดีตจนถึงปัจจุบัน ดวงชะตามรรคาสวรรค์มหาศาลถ่ายเทเข้าสู่ร่างเขา สะเทือนทะเลไร้ขอบเขตจนเกิดคลื่นมรสุมน่าตะลึง
เวลานี้ พลันมีข้อความปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหานเจวี๋ย
[ตรวจสอบพบผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิด จะตรวจสอบที่มาหรือไม่]
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
เขาเลือกตรวจสอบทันที
[เจียงเจวี๋ยซื่อ: ระดับเซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าระยะต้น กำเนิดมหาโชค มหาจักรพรรดิมรรคาสวรรค์ มหาจักรพรรดิเป็นตาย มหาจักรพรรดิเวียนว่ายตายเกิด สุดยอดผู้สร้างมรรคา เนื่องจากท่านผูกพันอยู่ร่วมกับเขา เต็มไปด้วยความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]
หานเจวี๋ยมีสีหน้าตื่นตะลึง
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเด็กคนนี้เติบโตขึ้นภายใต้จมูกของเขาจนกลายเป็นบุตรแห่งสวรรค์ผู้เลิศล้ำที่สร้างความตกตะลึงให้แก่ระบบได้!
ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
ฉายาดวงชะตาที่ลากยาวเป็นพรวนนี้มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าพิเศษมาก ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน!
หลังจากพิสูจน์เซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้า ในที่สุดการทะลวงระดับของเจียงเจวี๋ยซื่อก็หยุดลง พลังวิญญาณไม่มารวมตัวที่เขาอีก
เรื่องที่ทำให้เหล่าอริยชนแตกตื่นปรากฏขึ้นแล้ว!
เจียงเจวี๋ยซื่อไม่ได้ถูกมรรคาสวรรค์ขับไล่ออกจากแดนเซียน!
เป็นไปได้อย่างไร!
อีกทั้งเขาก็มิใช่อริยะมรรคาสวรรค์ ต่อให้ใช่ ก็น่าจะถูกขับไล่มายังชั้นฟ้าที่สามสิบสาม แยกห่างจากสรรพสิ่งถึงจะถูก!
บนยอดเขา เจียงเจวี๋ยซื่อค่อยๆ ลืมตาขึ้น!
เหนือศีรษะเขามีวงล้อสีม่วงอันหนึ่งลอยอยู่ มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าตัวเกาะเสียอีก วงล้อหมุนวนด้วยตัวเอง ทำให้เขารู้สึกวิงเวียนตาลาย
เจียงเจวี๋ยซื่อมองสองมือของตน
เขายิ้มออกมา
ในที่สุดความพากเพียรนับชาติไม่ถ้วนก็ประสบผลสำเร็จ!
ต้องทราบก่อนว่ามรรคาสวรรค์ในปัจจุบันนี้ มีตัวตนยุคโบราณเช่นเดียวกับเขาอยู่ไม่มากแล้ว ถึงขั้นที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่อริยะบางส่วนก็นับว่าเป็นชนรุ่นหลังของเขา
“สวรรค์ไม่ข่มเหงผู้มีจิตมานะ นับจากนี้ไปข้าไร้ซึ่งขีดจำกัดแล้ว”
เจียงเจวี๋ยซื่อพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเขาลุกขึ้นมา
กวาดจิตรับรู้ไปทั่วปวงสวรรค์หมื่นโลกา!
สรรพสิ่งต่างปรากฏสู่ครรลองสายตาเขา!
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด เจียงเจวี๋ยซื่อนึกถึงนักพรตเฒ่าคนนั้นที่เสียสละตัวเองแก้ดวงชะตาให้เขาขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
ในใจเขาไม่มีความรู้สึกยินดีเลย มีเพียงความหม่นหมองไร้ที่สิ้นสุด
เขาหาวิญญาณของนักพรตเฒ่าไม่พบ แม้ว่าจะเชื่อมดวงชะตาเขากับมรรคาสวรรค์แล้ว ก็ยังสืบหาไม่พบ
ดูเหมือนเขาจะสังเวยตัวไปแล้วจริงๆ ร่างสิ้นจิตสลาย
ดวงตาของเจียงเจวี๋ยซื่อฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นมา
“ในเมื่อเป็นอริยะแล้วยังไม่ได้เรื่อง เช่นนั้นข้าก็จะอยู่ให้เหนือกว่าอริยะ!”
เจียงเจวี๋ยซื่อเงยหน้ามองนภา กลายเป็นลำแสงสีม่วงสายหนึ่งพุ่งขึ้นไป พุ่งทะลุชั้นฟ้าที่สามสิบสาม มาถึงยอดสูงสุดของมรรคาสวรรค์
เขาก้มหน้ามอง สองตาปิดลง รับรู้ถึงตบะของตนอย่างเงียบเชียบ
เวลานี้เอง เงาร่างสายแล้วสายเล่าปรากฏขึ้นในละแวกใกล้เคียง เป็นเหล่าอริยะมรรคาสวรรค์
หลี่ไท่กู่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สหายเต๋าร้ายกาจจริงๆ พิสูจน์มรรคได้ในคราวเดียว นับแต่โบราณมาไม่เคยมีมาก่อน!”
หยางเช่อเอ่ยด้วยรอยยิ้มพิกล “คุณสมบัติเช่นนี้เกรงว่าคงก้าวข้ามอริยะสวรรค์เกรียงไกรไปแล้ว”
ทันทีที่เอ่ยเช่นนี้ออกมา เขาสัมผัสได้ถึงสายตาไม่พอใจมากมาย ทำให้เขาตกใจจนรีบหุบปากฉับ
สมควรตาย!
พวกเจ้าล้วนเป็นสุนัขของอริยะสวรรค์เกรียงไกรหรือไร
ข้าเพียงเอ่ยชมคนเขาเรื่อยเปื่อยประโยคเดียว พวกเจ้าก็ใจร้อนขนาดนี้แล้วหรือ
หยางเช่อรู้สึกคับข้องอยู่ภายในใจ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเขาก็พยายามมาก กลับไม่สามารถเข้ากับแวดวงอริยะได้สักที
จอมอริยะเสวียนตูก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน จ้องมองเจียงเจวี๋ยซื่อพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดเลยว่านิกายเหรินจะให้กำเนิดบุตรแห่งสวรรค์ระดับนี้ได้ เป็นวาสนาของนิกายเหริน เป็นวาสนาของนิกายเหรินแล้ว”
เจียงเจวี๋ยซื่อลืมตาขึ้น เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “ข้าไร้ความเกี่ยวข้องกับนิกายเหรินมานานแล้ว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับมรรคาสวรรค์ ทุกท่านอย่าได้กังวลเลย ถึงแม้ข้าจะสามารถเข้าสู่แดนเซียนได้ แต่ไม่มีทางรั้งอยู่ในแดนเซียน ข้าจะจากไปแล้ว แสวงหามหามรรคต่อไป”
พอกล่าวจบ เขาหันหลังจากไป ไร้ซึ่งห่วงอาลัย
เหล่าอริยะชะงักค้าง นี่จะไปแล้วหรือ
“ได้รับบุญคุณจากมรรคาสวรรค์ แต่ไม่คิดจะแทนคุณอย่างนั้นหรือ” เทพสูงสุดอู๋ฝ่าแค่นเสียง
เจียงเจวี๋ยซื่อชะงักลงเล็กน้อย เอ่ยว่า “หากวันหน้ามรรคาสวรรค์มีปัญหา ข้าจะกลับมา”
จี้เซียนเสินเอ่ยขึ้นว่า “เทียนจ้าน ไปลองหยั่งพลังมรรคเขาดู”
พอเขาเอ่ยจบ อริยะใหม่เทียนจ้านก็เหาะเข้าใส่เจียงเจวี๋ยซื่อทันที
เจียงเจวี๋ยซื่อเอ่ยโดยไม่หันกลับมา “ออกไปสู้กันข้างนอกเถอะ เลี่ยงไม่ให้กระทบกระเทือนสรรพสิ่ง พวกเจ้าลงมือพร้อมกันได้เลย ให้ข้าได้เห็นว่าตอนนี้พลังของข้าอยู่ในระดับใด!”
น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย แต่วาจากลับเย่อหยิ่งอย่างยิ่ง
หานเจวี๋ยที่อยู่ในอารามเต๋าพลันขมวดคิ้ว
เหตุใดนิสัยของเด็กคนนี้ถึงเปลี่ยนไป
เดินทางผิดเสียแล้ว!
ยังไม่มั่นคงพอ!
เจียงเจวี๋ยซื่อและเทียนจ้านมายังแดนต้องห้ามอันธการ ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน เทียนจ้านลงมือก่อน ซัดสองมืออกไป พลังเวทกลายเป็นเงาร่างทหารสวรรค์แห่งเผ่าสวรรค์นับไม่ถ้วน ยิ่งใหญ่ทรงพลัง กวาดม้วนไปทั่วแดนต้องห้ามอันธการ
เจียงเจวี๋ยซื่อสะบัดแขนเสื้อ พัดกระจายพลังเวททั้งหมดออกไป
จากนั้นมือซ้ายของเขาขยับร่ายเวท ซัดออกไปด้านหน้า วงล้อสีม่วงปรากฏขึ้น พุ่งทะลุผ่านห้วงมิติเหนือยอดศีรษะของเทียนจ้านไปแทบจะในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
………………………………………………………………