ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1590
ตอนที่ 1590 เดือดดาล
ผู้คนต่างก็พากันลนลาน
ความสิ้นหวังแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องที่แย่ที่สุดแบบนี้ขึ้นมา!
สิ่งที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้ดูเหมือนว่าจะสูงเกินเอื้อม ไม่มีใครคิดว่า
โดอันจะไม่ปล่อยเผ่าโลกมนุษย์ไป
“งั้นเผ่าโลกมนุษย์ต้องล่มสลายแล้วใช่ไหม ?”
“ไม่ ฉันยังไม่อยากตาย !”
“ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ !”
“ท่านโดอันบ้าไปแล้ว !”
“เขาไม่รู้รึไงว่าเผ่าเทลคอสต้องแบกรับแรงกดดันมากแค่ไหนกับ
การทำลายเผ่าโลกมนุษย์?”
เมื่อความตายย่ำกรายเข้ามา ทุกคนจึงพากันกดดันอย่างมาก
หลายคนไม่พอใจโดอัน แต่ไม่ว่าจะไม่พอใจมากแค่ไหนพวกเขาก็
ไม่กล้าแสดงมันออกมา
ในความเห็นของพวกเขา โดอันนั้นบ้าไปแล้วเพราะราคาของการ
ทำลายเผ่ามนุษย์นั้นสูงมาก แต่โดอันกลับไม่สนใจใครหน้าไหน
เพื่อแลกกับชีวิตลูกสาวเพียงชีวิตเดียว!
“ฉันไม่ยอม !” เหล่าผู้อาวุโสรับรู้ได้ถึงความสิ้นหวัง
พวกเขาพยายามกันอย่างหนัก มันไม่ง่ายเลยที่จะมีอัจฉริยะกำเนิด
ขึ้นมา อัจฉริยะที่ทำให้เผ่ามนุษย์มีความหวังที่จะฟื้นฟูอารยธรรม แต่
ตอนนี้พวกเขากลับต้องเผชิญหน้ากับความโกรธแค้นของตัวตนที่
แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลของพวกเขา
พวกเขาคาดหวังในตัวฮั่วเยี่ยน พวกเขาหวังว่าฮั่วเยี่ยนจะเปลี่ยนสถานะ
ของเผ่าในอนาคตได้ แต่ฮั่วเยี่ยนกลับไม่ทำตามที่พวกเขาหวังเอาไว้
ทว่าฮั่วเยี่ยนกลับนำหายนะมาสู่เผ่าโลกมนุษย์
ความพยายามและภาพลวงตาทั้งหมดกำลังจะสูญสลายไป
บางคนโกรธ บางคนไม่พอใจ บางคนปวดใจ บางคนหวาดกลัว บาง
คนสิ้นหวังแต่ส่วนมากแล้วต่างก็โทษว่านี่คือความผิดของฮั่วเยี่ยน
หากไม่ใช่เพราะฮั่วเยี่ยน เผ่าโลกมนุษย์คงไม่ต้องตกอยู่ในอันตราย
เช่นนี้ !
พวกเขาก่นด่าและโทษฮั่วเยี่ยน บางคนถึงกับเกลียดฮั่วเยี่ยนด้วยซ้ำ
จนพวกเขาลืมไปว่าฮั่วเยี่ยนอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น มันคงหวังสูงเกินไป
ที่เด็กวัย 17 ปีจะใช้เหตุผลได้เหมือนกับผู้ใหญ่
บางทีพวกเขาอาจจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่การเผชิญหน้ากับความตาย
และการสูญสิ้นของเผ่าโลกมนุษย์แล้ว พวกเขาจะรักษาความเยือก
เย็นของตัวเองไว้ได้ยังไง ?
ทุกคนต่างก็สิ้นหวัง !
ทุกคนต่างก็ลนลานและอึดอัดใจ
ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เดินทางออกมาจากซากวิหาร เหล่าผู้
อาวุโสเริ่มหาทางส่งคนออกไปนอกดาวเคราะห์แคระ เพื่อรักษาเผ่า
เอาไว้ แม้ว่าวิธีนี้จะยากอย่างมากแต่เพื่อไม่ให้มนุษย์ต้องสูญสิ้น
เผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่พวกเขาก็พร้อมที่จะแลก
มันคงเป็นเรื่องยากที่จะส่งมนุษย์ทั้งหมดออกไปจากที่นี่แต่หาก
ส่งออกไปไม่กี่คนก็ยังพอทำได้
ฮั่วเยี่ยนราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง เขายืนอยู่ที่หน้าประตูวิหาร
มองดูผู้คนเดินออกไป แต่ไม่มีใครพูดอะไรกับเขา ทุกคนต่างก็ไม่
สนใจเขา
ท่าทีและสายตาของพวกนี้ดูโกรธแค้นเขาซึ่งทำให้เขาหดหู่ขึ้นไปอีก
ฮั่วเยี่ยนเงยหน้าขึ้นด้วยสายตาว่างเปล่าราวกับวิญญาณหลุดออกจาก
ร่างไป
อาจารย์ถังเดินเข้ามาและพูดขึ้น “ไม่ต้องโทษตัวเองหรอก เรื่องนี้
นายไม่ผิด หากจะผิดคงโทษที่เผ่ามนุษย์เรานั้นโชคร้าย บางทีนี่
อาจจะเป็นชะตากรรมของเราที่ถูกกำหนดมาแล้ว ”
ฮั่วเยี่ยนที่ภายนอกดูแข็งแกร่งกลับตาแดงก่ำและร้องไห้ออกมา “ผม
ขอโทษ อาจารย์ ผมขอโทษ …”
หากจะบอกว่าไม่ได้โกรธแค้นฮั่วเยี่ยนเลย ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่
เมื่อเห็นสภาพของฮั่วเยี่ยนที่น้ำตาไหลออกมานั้น อาจารย์ถังก็ไม่
อาจจะโกรธแค้นเขาได้ เขาได้แต่ถอนหายใจและพูดขึ้น “อันที่จริง
แล้วเป็นพวกเรา คนเฒ่าคนแก่ต่างหากที่ล้มเหลวไม่อาจจะฟื้นฟู
เผ่าพันธุ์ของเราได้ เราไม่อาจจะทำให้นายมีฐานะเท่าเทียมกับเผ่าพันธุ์
อื่น ๆ ได้ เราไม่อาจจะสนับสนุนนายได้มากพอ เมื่อเราทำไม่ได้ ก็
โยนความรับผิดชอบเรื่องนี้ให้กับนาย…” อาจารย์พูดขึ้นมา “แล้วเรา
มีสิทธ์ิอะไรไปโทษนายได้ ?”
เขาหันไปตบไหล่ฮั่วเยี่ยนแล้วพูดขึ้นมา “บางทีเราอาจจะต้องภาวนา
ไม่แน่ว่าโกโก้เหวยอาจจะผ่านการทดสอบมาได้ มันมีโอกาสเพียง
แค่ 3 ในหมื่นไม่ใช่รึไง ? ตราบใดที่เธอผ่านการทดสอบมาได้ อันตราย
ทั้งหมดก็จะหมดไป เผ่าโลกมนุษย์ของเราอาจจะหวังพึ่งเผ่าเทลคอส
และฟื้นฟูกลับมา”
โอกาส 3 ในหมื่น หมายถึงโกโก้เหวยมีโอกาสจะผ่านการทดสอบ
มาได้แต่โอกาสนั้นแทบจะเป็น 0
“ใช่ โกโก้เหวยต้องผ่านการทดสอบได้แน่ ! เธอเป็นลูกสาวของนักรบ
คอสมิค พ่อของเธอคือนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของจักรวาลหยวนชู เธอเองก็
ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ผ่านการทดสอบ ” อาจารย์พูดขึ้นเพื่อให้กำลังใจ
ทั้งตัวเขาเองและฮั่วเยี่ยน
ในตอนที่คนส่วนมากพากันก่นด่าฮั่วเยี่ยน แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจว่า
เขาเจ็บปวดแค่ไหน ?
คนที่เขารักไม่รู้ว่าจะรอดรึไม่ ชะตากรรมของมนุษย์ก็ยังไม่อาจจะ
ทราบได้ เขาทั้งกดดันและเจ็บปวดยิ่งกว่าใคร !
“โกโก้เหวย เธอจะเป็นอะไรรึเปล่า ? เทพฝานกู่ หนี่วา ไท่อี้ จักรพรรดิ
สวรรค์ ทุกคนไปอยู่ที่ไหน ! หากพวกท่านมีตัวตนอยู่จริง ๆ โปรด
ช่วยพวกเราด้วย ! ช่วยโกโก้เหวยและโลกมนุษย์ด้วย! “ฮั่วเยี่ยน
ภาวนาในใจ เขาหมดหนทางและได้แต่ภาวนากับทวยเทพ
ราวกับว่ามีบางอย่างรับรู้คำขอของฮั่วเยี่ยน ทันใดนั้นรอบ ๆ ดาว
เคราะห์แคระก็เกิดเสียงดังโครมครามขึ้นมา
มียานอวกาศลำหนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งทำให้ทุกคนหันไปสนใจ
เผ่าพันธุ์มากมายในดาวเคราะห์แคระรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน
ต่างก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า และพบว่ามียานอวกาศจำนวนมากกำลัง
ล้อมดาวเคราะห์แคระเอาไว้ ไม่นานยานเหล่านั้นก็มุ่งหน้ามาที่อาณา
เขตของเผ่าโลกมนุษย์ จากนั้นนักรบจำนวนมากก็ลงจากยานอวกาศ
เหล่านั้นและเดินทางมาที่ซากวิหาร
ทุกคนต่างก็พากันกังวล !
คลื่นพลังเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนใจสั่นได้ พวกเขาพากันมอง
ไปที่นักรบดาวเคราะห์ที่มีมากมายไม่ต่างจากต้นไม้ข้างทาง และยัง
มีนักรบหลุมดำจำนวนมากที่มีไม่น้อยไปกว่ากันเลย
นี่ทวยเทพได้ยินคำภาวนาของฮั่วเยี่ยนงั้นเหรอ ?
แต่ทันทีที่เหล่านักรบมาถึง พวกเขาก็ไปยังซากวิหารและทำความ
เคารพโดอัน ภาพนี้มันทำให้ฮั่วเยี่ยนใจหล่นวูบ
ปาฏิหาริย์ไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว
ทุกคนมาเพราะโดอัน นี่คือตัวตนที่สูงส่งสำหรับพวกเขา ทุกคนต่าง
ก็อยากผูกมิตรกับโดอัน
นักรบคอสมิคอันดับ 8 ของจักรวาลหยวนชูนั้นโดดเด่นที่สุดในตอนนี้!
โชคร้ายที่โดอันไม่สนใจพวกนั้น เขาบอกพวกนั้นแค่คำเดียว “ออกไป
ให้พ้นจากที่นี่ !”
ด้วยน้ำเสียงเย็นชาของโดอัน ก็ทำให้ทุกคนพากันเหงื่อตก พวกเขา
รีบเดินทางออกจากดาวเคราะห์แคระและอยู่ที่มิติภายนอก พวกเขา
ไม่คิดจะกลับไปแต่ก็ไม่กล้าจะเข้าไปในดาวเคราะห์แคระ ยังไงซะนี่
ก็เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่พวกเขาได้พบกับนักรบคอสมิคที่
แข็งแกร่งแบบนี้
ในตอนที่นักรบมากมายต่างก็คิดว่าจะทำให้โดอันพอใจยังไงนั้น ก็มี
คลื่นพลังอันน่ากลัวแผ่กวาดมายังพวกเขา มันทำให้ทุกคนต่างก็พา
กันตัวสั่น
“คลื่นพลังนี่..”
“นักรบคอสมิค !”
“พระเจ้า มีนักรบคอสมิคอีกคนกำลังมา !”
“ดาวเคราะห์แคระนี่มันอะไรกัน ?”
ทุกคนต่างก็พากันร้อนใจ
คลื่นพลังทั้งสามนี้หมายถึงนักรบคอสมิค 3 คน !
หากนับรวมโดอันด้วยแล้วก็จะมีนักรบคอสมิคถึง 4 คน !
ผู้คนทั้งในและนอกดาวเคราะห์แคระต่างก็พากันใจเต้นรัว !
ในเวลาเดียวกัน ณ.ใจกลางซากวิหารแห่งการคืนชีพ โดอันกลับคิ้ว
ขมวดก่อนจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า “เหวินลั่ว งั้นเหรอ ? เขามาที่นี่
ได้ยังไง ?”
ต่อมา เหวินลั่ว, ป๋ อไห่ตงและหลิงเคอก็ได้มายังดาวเคราะห์แคระ
และปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าโดอัน
หลิงเคอแผ่การรับรู้ออกไปทั่วดาวเคราะห์แคระ เมื่อเห็นว่าดาว
เคราะห์แคระไม่ได้มีปัญหาอะไรก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ด้วยความโล่งอก
เหวินลั่วหัวเราะออกมาและพูดขึ้น “โดอัน ไม่ได้เจอกันซะนานนะ”
ป๋ อไห่ตงพูดขึ้นมาอย่างสุภาพ “ท่านโดอัน”