ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1606
ตอนที่ 1606 ผู้เฒ่าเหอ
“มาใหม่งั้นเหรอ ?” เจ้าของร้านไม่ได้ปรากฏตัวแต่เป็นลูกค้าที่เป็น
กุยหยวนได้ถามจางหยู
จางหยูแปลกใจ “รู้ได้ยังไง ?”
“เจ้ายังแสดงออกไม่ชัดเจนอีกเหรอ ? แค่คำพูดทุกคนก็รู้แล้ว นอกจาก
คนมาใหม่แล้วจะมีใครอีกที่ถามว่ามีผลโกลาหลขายรึเปล่า ?”
ตอนแรกพวกเขาสงสัยในตัวจางหยู แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่คิดสนใจ
อีกเลย
กุยหยวนที่ใจกว้างคนนี้หัวเราะออกมา “โลกนี้จะมีการจัดประมูล
มันจะมีผลโกลาหลอยู่ด้วยแต่ปกติแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เห็นผล
โกลาหลขายตามตลาดเช่นนี้ พวกคนที่อยู่มานานต่างก็รู้เรื่องนี้ เมื่อ
เจ้าไม่รู้ งั้นก็เป็นธรรมดาที่เจ้าจะเป็นหน้าใหม่”
จางหยูรู้ตัวทันที ไม่แปลกเลยที่ท่าทีของคนรอบ ๆ ถึงได้แปลกแบบนี้
“เจ้าโชคดีนะ” กุยหยวนคนเดิมพูดขึ้น “นับจากการประมูลครั้งที่
แล้วก็เกือบร้อยปีแล้ว อีกไม่นานจะจัดการประมูลขึ้นมาใหม่ ถ้าเจ้า
มีเงินพอ เจ้าก็ลองไปประมูลดูได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็หวั่นไหวขึ้นมา “การประมูลดุเดือดรึเปล่า?”
“ทำไมจะไม่ดุเดือด” กุยหยวนได้ตอบกลับ “นั่นคือผลโกลาหลเลย
นะ ! ใครบ้างที่ไม่อยากได้มัน ? จำนวนกุยหยวนในโลกนี้มีไม่น้อย
กว่าหมื่นคนแต่ก็มีความหวังแค่น้อยนิดที่จะได้มันมา มีใครบ้างที่ไม่
อยากได้มัน ? หากได้มันมาก็เท่ากับว่าโอกาสที่จะเป็นผู้สร้างที่แท้จริง
ก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ! ยิ่งไปกว่านั้นผลโกลาหลก็เพิ่มพลังให้กับ
ผู้กิน คนที่เคยกินมันไปแล้วก็กินมันอีกได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการ
ผ่านการเกิดใหม่”
ผลโกลาหลเพิ่มพลังได้งั้นเหรอ ?
จางหยูแปลกใจ การมายังโลกจิตวิญญาณในครั้งนี้เป็นการเปิดมุมมอง
ให้เขาจริง ๆ
แต่หากอีกฝ่ายไม่ได้โกหก งั้นการแข่งขันก็คงดุเดือดกว่าที่จางหยูคิด
เอาไว้
“แล้วเจ้าชื่ออะไร ?” จางหยูถามขึ้นมาอย่างสุภาพ
“เจ้าเรียกข้าว่าผู้เฒ่าเหอก็ได้” กุยหยวนตอบกลับ ในฐานะกุยหยวน
แล้วแม้ว่าจะมองระดับการบ่มเพาะของจางหยูไม่ออก แต่เนื่องจากมี
คนมากมายปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคน
พวกนั้นจะเป็นยอดฝีมือระดับสูง หากจางหยูไม่ใช่กุยหยวนแล้ว
ทำไมต้องสนใจผลโกลาหลด้วย ?
ตอนนั้นเองกุยหยวนอีกคนก็ได้แย้งขึ้นมา “เฒ่าเหอ เด็กนั่นเป็นแค่
มือใหม่ หากเจ้าอยากจะผูกมิตรกับเขา มันอาจจะสร้างปัญหาให้กับ
เจ้าทีหลัง ข้าแนะนำว่าอย่าเสียเวลาจะดีกว่า ปัญหาของอู่ซานก่อน
หน้านี้ยังไม่พออีกรึไง ?”
เขาจะจำไม่ได้ได้ยังไง !
“ไอ้บ้านั่น !” เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เขาก็รู้ว่ายิ่งเขาไม่เข้าไปตี
สนิทกับคนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเจอปัญหาน้อยลงเท่านั้น
ผู้ควบคุมคนหนึ่งถึงกับพูดขึ้น “เจ้าเป็นคนดีนะแต่บางครั้งก็ควรจะ
อยู่เฉย ๆ บ้าง ไม่อย่างงั้นก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้ตัวเอง”
เห็นได้ว่าผู้เฒ่าเหอนั้นเป็นคนดี คนรอบตัวไม่ใช่แค่รู้จักเขาแต่ยัง
เป็นห่วงเขาด้วย
แต่ผู้เฒ่าเหอไม่ได้ใส่ใจคำพูดของพวกนั้น เขาหัวเราะออกมาและพูด
ขึ้น “พวกเจ้าไม่รู้จักข้ารึไง ? ถ้าข้าเปลี่ยนไป ข้าจะยังเป็นผู้เฒ่าเหอ
คนเดิมอยู่รึไง ? ข้าแค่รู้สึกว่าพวกที่มาใหม่น่ะล้วนแต่ลำบาก ตอนที่
ข้ามาใหม่ ข้าก็เจอปัญหาหลายอย่างมาก สุดท้ายถึงได้ตั้งรกรากที่นี่
ขึ้นมาได้ ข้าไม่อยากให้ใครต้องเสียเวลา ข้าน่ะแก่แล้ว ข้าพอจะแนะนำ
คนอื่นได้ นอกจากนี้ตอนที่ข้ามีปัญหา พวกเจ้าคงไม่อยู่เฉยแน่ ไม่
อย่างงั้นเราจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไง ?”
เมื่อได้ยินผู้เฒ่าเหอพูดแบบนั้น ทุกคนก็หมดหนทางและได้แต่ยอมแพ้
ที่จะเกลี้ยกล่อมเขา
คนส่วนมากที่นี่ล้วนแต่เคยได้รับความช่วยเหลือจากผู้เฒ่าเหอ หากผู้
เฒ่าเหอมีปัญหาจริง ๆ พวกเขาไม่มีทางที่จะอยู่เฉยแน่
เมื่อได้ยินคำพูดของทุกคน มันก็ทำให้จางหยูสนใจผู้เฒ่าเหอมากกว่า
เดิม นี่คือชายแก่ที่นิสัยดี ไม่ว่าชายแก่คนนี้จะมีเป้าหมายอะไรแต่ก็
ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายแก่คนนี้ได้ช่วยเหลือคนมาเยอะ
“อู่ซานที่พูดถึงคือใครกัน ?” จางหยูถามขึ้นมา “ท่านบอกข้าได้รึไม่?”
สีหน้าของผู้เฒ่าเหอไม่เป็นมิตรขึ้นมาทันที “ถ้าไม่มีอะไรก็อย่าไปยุ่ง
กับเด็กนั่น”
เขาเปลี่ยนเรื่องทันที “อย่าพูดถึงอู่ซานเลย การแข่งขันในการประมูล
น่ะดุเดือดไม่ใช่น้อย เจ้าคิดจะเข้าไปประมูลจริง ๆ เหรอ ? อย่าหาว่า
ข้าไม่เตือน การประมูลนี้มีคนเข้าร่วมมากมาย แม้แต่คนของโลกอื่น
ก็ยังมาเสี่ยงโชคด้วย ในทางทฤษฎีแล้วเจ้าต้องมีหินแห่งการสร้าง
กว่าหมื่นชิ้นถึงจะเข้าประมูลได้”
ราคาของผลโกลาหลก่อนหน้านี้เริ่มต้นที่ 10,000 หินแห่งการสร้าง
หรือจะบอกว่า 10,000 หินแห่งการสร้างนั้นมีค่าเท่ากับตั๋วเข้าชม
“หินแห่งการสร้าง ?” จางหยูสับสน “มันคืออะไร ?”
ผู้เฒ่าเหอมองไปที่จางหยูด้วยความแปลกใจ “เจ้าไม่รู้จักงั้นเหรอ ?
เจ้าไม่รู้แม้แต่หินแห่งการสร้าง?” ในความเห็นของเขาแล้วการมายัง
โลกจิตวิญญาณได้นั้นจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานอยู่บ้าง แม้ว่าจะ
เป็นมือใหม่แต่การที่ไม่รู้อะไรเลยแบบจางหยูนี้ถือว่าน่าแปลกใจ
อย่างมาก
เขาอยู่ในโลกจิตวิญญาณมานานและเห็นหน้าใหม่มาเยอะแต่เพิ่งเคย
เห็นจางหยูที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความโกลาหล
ลูกค้าคนอื่น ๆ พากันมองจางหยูด้วยความแปลกใจ พวกเขาเคยเห็น
พวกหน้าใหม่มาเยอะแต่ไม่เคยเห็นหน้าใหม่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แบบนี้เป็นคนแรก
“แม้แต่หินแห่งการสร้างก็ยังไม่รู้จัก ไม่รู้เลยว่าคนหนุ่มสมัยนี้กล้ามา
จากไหน ?” กุยหยวนอีกคนพูดขึ้น
จางหยูคิ้วขมวด คำพูดของอีกฝ่ายทำให้คนฟังรู้สึกอึดอัดไปตาม
ผู้เฒ่าเหอกระแอมไอออกมาแล้วพูดว่า “อย่าพูดอย่างนั้นเลย คนหน้า
ใหม่ก็มีหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร”
ชายคนที่พูดมองไปที่ผู้เฒ่าเหอ ก่อนจะเงียบไป บางทีอาจจะเพราะ
ไว้หน้าผู้เฒ่าเหอ
“เจ้าไม่ต้องคิดมากกับคำพูดเขา” ผู้เฒ่าเหอพูดขึ้น “ข้าขอแนะนำให้
เจ้าอยู่ในโลกจิตวิญญาณก่อน จากนั้นก็สร้างหินแห่งการสร้าง รอจน
คุณเก็บหินแห่งการสร้างได้มากพอก็ค่อยคิดเรื่องผลโกลาหล”
คำแนะนำของผู้เฒ่าเหอ ถือว่าดีที่สุดสำหรับกุยหยวนทั่วไปแต่เขาไม่
รู้เลยว่าจางหยูนั้นแกร่งกว่ากุยหยวนอย่างมาก
หากเขาแสดงพลังที่แท้จริงออกมา เขาคงทำให้ทั้งโลกจิตวิญญาณ
ต้องสั่นกลัว
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจะหาหินแห่งการสร้างมาได้ยังไงแต่ด้วยความ
แข็งแกร่งที่ทัดเทียมกับผู้ควบคุมขั้น 7 แล้ว หากเขาอยากได้หินแห่ง
การสร้างจริง ๆ มันก็ต้องมีวิธีอย่างแน่นอน ตราบใดที่เขาแสดงพลัง
ออกมา เดาว่าต้องมีหลายคนอาสาสร้างหินแห่งการสร้างให้กับเขา
เป็นแน่ เพื่อใช้โอกาสนี้ในการผูกมิตรกับเขา
“ขอบคุณ” จางหยูแสร้งทำเป็นกุยหยวน “แต่หินแห่งการสร้างมันคือ
อะไรกันแน่ ? ผู้อาวุโสโปรดบอกข้าที”
ผู้เฒ่าเหอพลิกฝ่ามือก่อนจะมีหินที่มีจิตของผู้สร้างประทับอยู่ หินนี้มี
พลังแห่งการสร้าง “นี่คือหินแห่งการสร้าง มันคือค่าเงินที่ใช้ทั่วไป
ไม่ว่าจะอยู่ในโลกไหนก็ใช้มันได้ เท่าที่ข้ารู้มามีแค่ผู้สร้างเท่านั้นที่
สร้างหินแห่งการสร้างได้ ยิ่งแกร่งเท่าไหร่ก็ง่ายที่จะสร้างมันเท่านั้น
แม้ว่ากุยหยวนจะสร้างมันได้แต่ประสิทธิภาพของมันก็ต่ำ ดังนั้น
หาทางอื่นรับหินแห่งการสร้างเถอะ ดังนั้นหินแห่งการสร้างที่อยู่ใน
ความโกลาหลในตอนนี้ล้วนถูกสร้างขึ้นโดยผู้สร้างที่แท้จริง”
“มันคือของดี นอกจากเป็นค่าเงินได้แล้วก็ยังใช้ทำความเข้าใจความ
ลึกลับของการสร้างได้ด้วย…ผู้สร้างที่แท้จริงเท่านั้นที่ทำมันขึ้นมา
ได้” จางหยูคิด
“เด็กหนุ่ม เจ้าเป็นอะไรไป ?” เมื่อเห็นจางหยูเหม่อ ผู้เฒ่าเหอก็ถาม
ขึ้นมา
“ไม่มีอะไร ข้าเห็นมันก็นึกถึงเรื่องอื่นเข้า” จางหยูส่ายหน้าและยิ้ม
ออกมา “ใช่สิ ผู้อาวุโส ท่านรู้มั้ยว่าจะหาหินนี่มาจากไหน ? หินที่
บรรจุพลังแห่งการสร้างเอาไว้ไม่น่าจะใช่หินธรรมดา”