ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1607
ตอนที่ 1607 ปัญหาของผู้เฒ่าเหอ
“เด็กหนุ่ม เจ้าคงไม่คิดจะให้ข้าทำหินหยาบให้กลายเป็นหินแห่งการ
สร้างให้หรอกนะ ?” ผู้เฒ่าเหอพูดหยอกออกมา
ทุกคนรอบ ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา หากหินแห่งการสร้างทำ
ขึ้นมาได้ง่าย ๆ งั้นมันคงมีมหาศาลไปแล้ว
จางหยูเองก็หยอกกลับ “ผู้อาวุโสรู้ใจข้าจริง ๆ อย่างกับอ่านใจข้าออก”
ผู้เฒ่าเหอชะงักแต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของจางหยู เขาก็รู้ว่าจางหยูนั้นพูด
เล่น
แต่เขาก็ตอบกลับคำถามของจางหยูเป็นอย่างดี “หากเจ้าอยู่ในโลกนี้
สักระยะ เจ้าจะรู้เองว่าหินหยาบนั้นไม่ใช่ของหายาก ตราบใดที่โลก
ขั้นที่ 9 ผ่านการเกิดใหม่ได้ก็จะมีหินแบบนั้นเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
ยิ่งโลกขั้นที่ 9 เก่าแก่และแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ หินนั่นก็ยิ่งมีเยอะ
มากเท่านั้น เอาโลกนี้เป็นตัวอย่าง แม้ว่าจะไม่ได้มีหินหยาบอยู่ทั่ว
ทุกที่แต่ตราบใดที่ออกสำรวจก็จะหาสายธารแร่หินนี้เจอ โลกจิต
วิญญาณนั้นเป็นโลกที่เก่าแก่ แม้จะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับโลกอื่นแต่
หลังจากที่คงอยู่มานาน มันก็มีหินแบบนี้เป็นจำนวนมาก” เมื่อพูดถึง
จุดนี้น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป “แต่การจะได้รับสิทธ์ิขุดแร่หินนั้น
มันต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของโลกนี้ซะก่อน อย่างไรก็ตาม นี่ก็คือ
ทรัพยากรของโลกนี้ มันคือสมบัติส่วนตัวของโลกจิตวิญญาณ แม้ว่า
หินหยาบจะราคาไม่สูง แต่ก็สามารถขายมันได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเอา
มันไปฟรี ๆ”
จางหยูยังไม่ทันได้เปิดปากพูด ผู้เฒ่าเหอก็พูดขึ้นต่อ “พูดไปแล้วก็มี
หลายเหมืองที่อยู่ภายใต้การดูแลของสภาจิตวิญญาณ พวกเขาจะขาย
ให้กับพวกผู้สร้าง มันถึงกับมีตระกูลใหญ่แลกเปลี่ยนมันด้วย”
“สภาจิตวิญญาณงั้นเหรอ ?” จางหยูพึมพำ “สภาจิตวิญญาณเกี่ยวข้อง
อะไรกับโลกจิตวิญญาณ ?”
คำถามนี้มีแต่พวกหน้าใหม่ที่จะถาม
เมื่อพูดถึงสภา ผู้เฒ่าเหอก็แสดงสีหน้าจริงจังออกมา “สภาจิตวิญญาณ
คือตระกูลของผู้สร้างโลกนี้ ว่ากันว่าผู้สร้างโลกนี้เคยเป็นผู้ควบคุม
ขั้นที่ 3 นั่นคือช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุดของโลกจิตวิญญาณ หลังจากที่เขา
ตายไป ตำแหน่งนี้ก็ตกเป็นของลูกชายเขา แม้เขาจะไม่ได้แข็งแกร่ง
เท่ากับพ่อแต่ตอนนี้ก็เป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 2 เขาคือคนที่แกร่งที่สุดใน
โลกนี้ !”
จางหยูพยักหน้า ตอนที่เขามาที่นี่เขาก็รับรู้ถึงผู้ควบคุมขั้นที่ 2
ดูเหมือนว่าเพื่อจะได้หินพวกนั้นมา เขาต้องเจรจากับผู้ควบคุมขั้นที่ 2
“ใช่สิ ผู้อาวุโสเหอ การประมูลจะจัดขึ้นตอนไหน ?” จางหยูกังวล
เรื่องเวลา ยังไงซะเขาก็ไม่อาจจะสร้างหินแห่งการสร้างขึ้นมาได้ เขา
ไม่รู้ว่ามันจะกินเวลานานแค่ไหน เขาจะได้มันมาทันการประมูลรึไม่
ก็ไม่รู้
ผู้เฒ่าเหอชินกับคำถามนี้แล้ว บอกได้ว่าคนส่วนมากล้วนแต่รู้เรื่องนี้
อยู่แล้ว เขาคิดสักพักก่อนจะตอบกลับ “ประมาณ 100 ล้านปี”
“อะไรนะ ?” จางหยูหรี่ตาลงทันที
ร้อยล้านปี ?
ผู้เฒ่าเหอใช้คำว่าอีกไม่นานแต่มันเท่ากับร้อยล้านปีเลยเหรอ ?
“มากกว่าร้อยล้านปี !” ผู้เฒ่าเหอมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าแปลก ๆ
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจางหยูถึงได้ตกใจแบบนี้ได้ “เจ้าคิดว่าเวลาจะ
น้อยกว่านี้รึไง ? เจ้ายังจำผลโกลาหลได้รึเปล่า ?” เขาอดไม่ได้ที่จะ
แนะนำ “เด็กหนุ่ม ผลโกลาหลน่ะมีค่าอย่างมากและมีการแข่งขันที่
ดุเดือดเพื่อแย่งชองมันมา เจ้าฟังข้าไว้ดีกว่า รีบหาหินแห่งการสร้าง
ถ้าเจ้าโชคดี ในอีกไม่กี่ปีเจ้าอาจจะหาหินแห่งการสร้างได้มากพอ”
จางหยูได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ และเงียบไป
มากกว่าร้อยล้านปี ตอนที่เขาได้ผลโกลาหลมา ตอนนั้นมันอาจจะไม่
จำเป็นต้องใช้แล้วก็ได้
จางหยูส่ายหน้าสลัดความคิดที่จะประมูลผลโกลาหลมา
เขาไม่อาจจะรอได้ !
นี่ไม่ต้องพูดถึง 100 ล้านปีเลย แค่หมื่นปีเขาก็รอไม่ได้ !
“ดูเหมือนว่าคงต้องหาจากที่อื่น” เวลาของจางหยูมีค่า เขาไม่อาจจะ
รอถึง 100 ล้านปีได้ ผลโกลาหลผลเดียวไม่เพียงพอกับความต้องการ
ของเขา เขายังมีคนในสำนักมากมาย ผลโกลาหลแค่ผลเดียวจะพอได้
ยังไง “ยังไงซะโลกจิตวิญญาณก็อ่อนแอ เดาว่าคงมีแค่โลกขั้นที่ 9 ที่
แข็งแกร่งที่จะมีผลโกลาหลมากกว่านี้”
เพื่อสำนักคังเฉียงแล้ว จางหยูแทบจะใจสลายกับความเป็นจริงที่ได้
ยินมา
“แต่ก่อนอื่นต้องหาหินพวกนั้นให้ได้ก่อน โลกจิตวิญญาณนี้ใช่ว่าจะ
ไร้ประโยชน์ อย่างน้อยมันก็มีหินหยาบจำนวนมาก เมื่อหินแห่งการ
สร้างถูกใช้เป็นเงิน งั้นก็ต้องทำหินแห่งการสร้างขึ้นมา บางทีใน
อนาคตอาจจะต้องใช้หินแห่งการสร้างจำนวนมาก”
เมื่อคิดแบบนั้นจางหยูก็ตัดสินใจที่จะไปยังสภาจิตวิญญาณ
ตอนนั้นผู้เฒ่าเหอก็ได้ถามขึ้นมา “เด็กหนุ่ม เจ้ามีที่พักรึยัง ? เจ้าอยาก
ไปพักที่ของข้าก่อนรึเปล่า? ข้ามีห้องว่างอยู่พอดี”
จางหยูเห็นว่าผู้เฒ่าเหอนั้นหวังดี แม้ว่าเขาไม่คิดจะพักอยู่ในโลกนี้
นานนัก แต่เมื่อฟังคำเชิญของผู้เฒ่าเหอ เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาไม่
รังเกียจที่จะตอบแทนผู้เฒ่าเหอ ยังไงซะ ผู้เฒ่าเหอก็ไขข้อสงสัย
ให้กับเขาอย่างมากไม่ทำให้เขาเสียเวลา
“เมื่อผู้อาวุโสเชิญ งั้นข้าคงไม่ปฏิเสธ” จางหยูพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองคนเดินออกจากร้านไปโดยมีผู้เฒ่าเหอเดินนำหน้า จางหยูเดิน
ตามไปโดยไม่ลังเล ทั้งสองเดินและพูดคุยกันไปด้วย
ไม่นานทั้งสองก็มาถึงบ้านหลังหนึ่ง บ้านนี้มีสองชั้น ส่วนนอกกับ
ส่วนในออกแบบอย่างเรียบง่าย
เมื่อมาถึงประตู ผู้เฒ่าเหอก็นึกบางอย่างออกและแสดงสีหน้าจริงจัง
ออกมา “ในโลกนี้มีแค่การรับรองจากสภาเท่านั้นที่จะสร้างบ้านได้
เมื่อถูกพบว่าสร้างบ้านขึ้นมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกสภาลงโทษ
นอกจากนี้เจ้าของบ้านก็มีหน้าที่จับตาดูสถานการณ์รอบตัว หากพบ
บ้านใหม่ในระยะ 100 กิโลเมตรก็ต้องรายงานทันที หากไม่รายงานก็
จะถูกลงโทษไปด้วย”
ท่าทีของเขาดูไม่เป็นธรรมชาติแต่เขาปกปิดมันไว้เป็นอย่างดี
“หากน้องชายคิดจะสร้างบ้านขึ้นมา เจ้าก็ต้องไปที่สภาเพื่อขอการ
รับรอง เจ้าต้องจ่ายเป็นหินแห่งการสร้างและรอการรับรองจากสภา
ถึงจะสร้างบ้านขึ้นมาได้ ไม่งั้นแล้วบทลงโทษก็หนักหนาพอตัว”
จางหยูไม่เข้าใจว่าทำไมผู้เฒ่าเหอถึงได้ดูเครียดแบบนี้ ?
ดูเหมือนว่าผู้เฒ่าเหอจะมีปัญหาเรื่องนี้งั้นเหรอ ?
“ผู้เฒ่าเหอ กลับมาแล้วสินะ”
“พี่เหอ”
“ผู้อาวุโสเหอ”
เมื่อได้ยินเสียงของผู้เฒ่าเหอก็มีเสียงเรียกออกมาพร้อมกับคนอื่น ๆ
มันมีทั้งชายแก่, ชายวัยกลางคนและชายหนุ่ม
หนึ่งในนั้นแสดงสีหน้าหนักใจออกมา
ชายวัยกลางคนและชายแก่แสดงสีหน้ากังวลออกมา
ผู้เฒ่าเหอเห็นแบบนั้นจึงถามขึ้น “มีเรื่องอะไรกัน ?”
ชายแก่มองไปที่ชายวัยกลางคนและชายหนุ่ม ชายหนุ่มก้มหน้าด้วย
ท่าทีรู้สึกผิดก่อนจะพูดขึ้น “คนของสภาเพิ่งจะมา..”
สีหน้าของผู้เฒ่าเหอเปลี่ยนไปทันที “พวกนั้นมาที่นี่ได้ยังไง ? พวก
เขาบอกว่าจะผ่อนผันให้ข้าไม่ใช่รึ?”
“ผมขอโทษด้วยผู้อาวุโส ผมผิดเอง ถ้าผมไม่แอบสร้างบ้านขึ้นมาเอง
ผู้อาวุโสคงไม่โดนลงโทษไปด้วย..” ชายหนุ่มก้มหน้าด้วยความรู้สึก
ผิดและไม่กล้าจะมองหน้าผู้เฒ่าเหอ
สุดท้ายจางหยูก็เข้าใจว่าทำไมผู้เฒ่าเหอถึงได้ย้ำเรื่องนี้นัก
อยู่ ๆ เขาก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในร้าน คนในร้านพูดถึงคนที่ชื่ออู่ชาน
ที่สร้างปัญหาให้กับผู้เฒ่าเหอ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นอู่ชาน
“ไร้สาระจริง ๆ !” เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มโทษตัวเอง ผู้เฒ่าเหอก็อดไม่ได้
ที่จะโกรธ “เรื่องนี้ข้ากับเจ้าก็ผิดกันทั้งคู่ ข้าพาเจ้ามาที่นี่แต่ไม่ได้บอก
เจ้าเรื่องกฎที่นี่ มันเป็นความผิดของข้า เจ้าเป็นคนมาใหม่ เจ้ายังไม่
เข้าใจอะไร เจ้าทำผิดน่ะก็พอเข้าใจได้”
จากนั้นเขาก็พูดขึ้นต่อ “นอกจากนี้เรื่องมันก็นานมาแล้ว เจ้าไม่จำเป็น
ต้องคิดมาก เรื่องสำคัญตอนนี้คือรับมือกับสภาก่อน พวกสภาว่ายังไง
บ้าง ?”
อู่ชานตาแดงก่ำขึ้นมา “พวกนั้นบอกว่าถ้าไม่จ่ายค่าปรับ 1,000 หิน
แห่งการสร้างใน 10 วัน พวกเขาจะพังบ้านคุณทิ้ง..”
“10 วัน !” สีหน้าของผู้เฒ่าเหอเปลี่ยนไปทันที “เวลาน้อยแบบนี้ข้า
จะหามาจากไหน ! พวกนั้นบ้ารึไง ?”
ชายแก่ขมวดคิ้วและพูดขึ้นมาว่า “ไม่นานมานี้พวกสภาเคลื่อนไหว
แปลก ๆ พวกนั้นพยายามหาหินแห่งการสร้าง มีหลายคนเจอเรื่อง
แบบนี้ เจ้ากับอู่ชานแค่หนึ่งในนั้น ข้าได้ยินมาว่าไม่ใช่แค่เจ้ากับอู่
ชาน คนอื่น ๆ ก็เจอเหมือนกัน หลายคนเจอหนักกว่าเจ้าอีก…”
ผู้เฒ่าเหอย่นคิ้ว “สภาคิดจะทำอะไรกันแน่ ? พวกนั้นไม่กลัวว่าทุก
คนจะหนีจากโลกนี้รึไง ?”
“ช่วงนี้สภาทำตัวน่าเกลียดจริง ๆ”
ตอนนี้สภาเหมือนจะไล่ผู้เฒ่าเหอออกไป มันยิ่งทำให้เขารู้สึกแค้น
สภามากกว่าเดิม