ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1608
ตอนที่ 1608 สภาจิตวิญญาณ
“ไม่มีใครรู้ว่าสภาคิดอะไรอยู่ หากคนไม่รู้จะคิดว่าพวกนั้นหิวเงิน
ช่างเถอะ สิ่งสำคัญที่สุดคือหาหินแห่งการสร้างมาให้สภาก่อน” ชาย
วัยกลางคนพูดขึ้น “1,000 หินแห่งการสร้างไม่ใช่น้อย ๆ พี่เหอ ตอนนี้
เจ้ามีเท่าไหร่ ?”
ทุกสายตามองไปที่ผู้เฒ่าเหอ
ผู้เฒ่าเหอเงียบไปและพูดขึ้น “เอาจริง ๆ แล้วเงินเก็บตลอดหลายปีมา
นี้ของข้าก็ใช้ไปกับบ้านจนหมดแล้ว ก่อนหน้านี้เหลือแค่พันหินแห่ง
การสร้าง ข้าต้องช่วยอู่ซานจ่ายค่าปรับอีก ตอนนี้มีไม่ถึง 500 หินแห่ง
การสร้าง เอาให้แม่นยำคือมีแค่ 390 หินแห่งการสร้าง”
“นั่นคงเป็นปัญหา” ชายวัยกลางคนคิ้วขมวด “ข้าเพิ่งจะมาที่โลกจิต
วิญญาณ ตอนนี้ข้ามีเงินแค่ 100 หินแห่งการสร้าง ถ้าหักค่าใช้จ่าย
อย่างอื่นไปก็คงเหลือแค่ 80 หินแห่งการสร้าง”
ชายแก่พึมพำออกมา “ข้ามีแค่ 150 หินแห่งการสร้าง”
อู่ซานก้มหน้าและพูดด้วยความอาย “ขะ ข้ามีแค่ 8 หินแห่งการสร้าง”
ผู้เฒ่าเหอ, ชายแก่และชายวัยกลางต่างก็เป็นกุยหยวนขั้นกลาง พวกเขา
หาหินแห่งการสร้างได้เร็วกว่าอู่ซาน แต่อู่ซานเพิ่งจะเป็นกุยหยวน
ได้ไม่นาน ซึ่งพลังก็เหนือกว่าเซียนไม่เท่าไหร่ เป็นธรรมดาที่จะอยู่
จุดต่ำสุดในหมู่กุยหยวน ช่องทางในการหาเงินก็มีจำกัด อู่ซานได้
เงินมาเร็วแบบนี้ก็อาจจะไม่ได้ด้อยกว่าใครแล้ว
“ก็ยังไม่พออยู่ดี !” ชายวัยกลางคนคิ้วขมวด “รวมกันแล้วก็มีแค่ 628
หินแห่งการสร้าง เรายังขาดอีกตั้ง 372 หินแห่งการสร้าง”
“ข้าขอโทษด้วยผู้อาวุโสเหอ” อู่ซานดวงตาแดงก่ำ “ข้าผิดเอง”
อู่ซานกัดฟันแน่นและพูดขึ้น “ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง ข้าจะไปที่สภา
และให้พวกนั้นคิดเงินกับข้า ข้าจะขายชีวิตตัวเอง ถึงจะต้องตาย ข้าก็
ยอม”
ผู้เฒ่าเหอขมวดคิ้วและด่าออกมา “เจ้าพูดบ้าอะไร ! พันหินแห่งการ
สร้างถึงจะเยอะแต่ก็ไม่เพียงพอให้ขายชีวิตหรอก…ข้าอยู่ในโลกจิต
วิญญาณมานาน มันไม่ยากที่จะหาหินแห่งการสร้างพันก้อน”
หากเขายอมเสียหน้าไปยืมคนอื่น มันก็มีหลายคนที่เต็มใจจะช่วยเขา
ยังไงซะเขาก็ช่วยคนมาเยอะ แม้ว่าพวกนั้นจะให้เงินเขายืมไม่มากแต่
รวม ๆ กันแล้วก็อาจจะครบพันหินแห่งการสร้างได้
“เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องหินแห่งการสร้าง ข้าจะหาทางเองแต่ก่อนอื่น
ข้าต้องไปที่สภาเพื่อสอบถามสถานการณ์ก่อน พวกนั้นรับปากกับข้า
ไว้แล้วว่าจะให้เวลา แต่ทำไมถึงต้องมาเร่งเอาตอนนี้”
อู่ซานพูดขึ้นมา “ข้าจะไปกับท่านด้วย”
ชายแก่และชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา “งั้นก็ไปด้วยกันทั้งหมด เราเอง
ก็อยากรู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง สภาทำเกินไปแล้ว พวกนั้นทำให้เราลน
ลาน หากยังบีบคั้นเราแบบนี้ เราคงอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ เราควรไปที่โลก
ขั้นที่ 9 ใบอื่น”
“ข้าขอโทษด้วย ข้าจะพาเจ้ามาพักแท้ ๆ แต่อย่างที่เจ้าเห็น ข้าต้องไป
ที่สภา” ผู้เฒ่าเหอขอโทษออกมา
จางหยูโบกมือ “ไม่เป็นไร ข้าเองก็อยากไปที่สภาเหมือนกัน ทาง
เดียวกันพอดี”
“เจ้าจะไปที่สภางั้นเหรอ ?” ผู้เฒ่าเหอสงสัยขึ้นมา “เด็กหนุ่ม เจ้าเพิ่ง
มาที่โลกนี้ เจ้าจะไปที่สภาทำไม ?”
จางหยูไม่ตอบแต่กลับยิ้มออกมาแทน “เดี๋ยวท่านก็รู้เอง”
ผู้เฒ่าเหอพยักหน้า “ได้ งั้นก็ไปด้วยกันนี่แหละ”
พวกเขาเดินทางออกจากบ้านของผู้เฒ่าเหอ และบินตรงไปยังสภาจิต
วิญญาณ
สภาวิญญาณตั้งอยู่ที่เมืองหลินเฉิง มันเป็นพื้นที่ที่เงียบสงบในย่านที่
คึกคักและเจริญรุ่งเรือง ครอบครองพื้นที่ที่กว้างขวาง มีกำแพงสูง
คอยขวางกั้นโลกภายนอกราวกับพระราชวัง ตรงประตูโค้งที่โอ่อ่ามี
กุยหยวนกลุ่มหนึ่งคอยรักษาความปลอดภัย ซึ่งทีมลาดตระเวนเล็ก ๆ
หลายทีมจะคอยเดินตรวจตรา แต่ละทีมจะมีหัวหน้าทีมคอยกำกับ
ซึ่งหัวหน้าเหล่านี้ล้วนเป็นกุยหยวนขั้นสูง ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ
ผู้สร้างที่แท้จริง
ปกติแล้วมีเพียงผู้สร้างที่แท้จริงที่จะอยู่ที่นี่
ผู้สร้างทั่วไปจะมาที่นี่บ้าง แต่เมื่อเสร็จธุระแล้วพวกเขาก็จะรีบกลับไป
ทันที เพราะพวกเขาจำเป็นต้องไปยับยั้งจิตปฐมบทโกลาหลของตน
ยกตัวอย่างเช่น หยวนฉิง หากเขาออกจากโลกไม่นานก็ไม่ใช่ปัญหา
อะไร แต่หากกินเวลานาน จิตปฐมบทโกลาหลนั้นคงได้ฉีกโลกของ
เขาเป็นชิ้น ๆ
“สภาจิตวิญญาณคือกองกำลังใหญ่ ดูเหมือนว่าการพัฒนาของสำนัก
คังเฉียงยังอีกยาวไกล !” เมื่อรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของสภา จางหยูก็
อดไม่ได้ที่จะใจสั่น สภาแห่งนี้หากมองทั้งความโกลาหลอาจจะไม่มี
ค่าอะไร แต่ถ้าเผชิญหน้ากันแล้ว สำนักคังเฉียงคงโดนบดขยี้เป็นแน่
หลังจากที่ยืนยันตัวตนที่ประตูและรับบัตรมา ผู้เฒ่าเหอก็พาจางหยู
และคนอื่น ๆ เข้าไปในหอคอย
ผู้เฒ่าเหอเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว เขาคุ้นเคยกับเส้นทางด้านในดี
ระหว่างทางพวกเขาได้พบกับพวกทหารโดยที่พวกทหารได้ทำการ
ตรวจบัตรพวกเขาก่อนจะให้เดินเข้าไปต่อ
“ผู้เฒ่าเหอ มันจริงเหรอที่ว่าเจ้ารู้จักกับหัวหน้าทหารที่นี่ ?” ชายแก่
ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
หัวหน้าทหารของสภานั้นคือกุยหยวนขั้นสูง หากมองทั้งโลกจิต
วิญญาณแล้วเขาก็ถือว่าแข็งแกร่ง อนาคตของพวกนั้นมีโอกาสได้
เป็นผู้สร้างที่แท้จริงได้ การที่รู้จักคนแบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ผู้เฒ่าเหอพยักหน้า “ข้ากับเจียงเลี่ยเป็นเพื่อนเก่ากัน ครั้งที่แล้วก็เป็น
เขาที่ช่วยข้า ทำให้สภายื้อเวลาออกไป ไม่คิดเลยว่าสภาจะเลื่อนเวลา
เข้ามาอีก …” การที่เขามาสภาครั้งนี้ก็เพื่อจะขอเลื่อนเวลาออกไป และ
อีกอย่างก็มาหาเจียงเลี่ยเพื่อจะสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น พันหินแห่ง
การสร้างนั้นเขายังพอหายืมจากเพื่อนได้แต่เขาไม่อยากจะเสียมันไป
ง่าย ๆ
พวกเขาเดินมาได้ไม่ไกลก็ได้ยินเสียงเท้าดังขึ้นด้านหลัง
“พี่เหอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังพวกเขา
เมื่อเห็นคนที่เดินมา ผู้เฒ่าเหอก็พูดขึ้น “ข้ากำลังตามหาเจ้าพอดี” ผู้
เฒ่าเหอได้ถามขึ้นต่อ “สภาเป็นอะไรไป ? ก่อนหน้านี้ยังบอกจะให้
เวลาบ้างแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนคำพูดแล้ว ?”
เจียงเลี่ยมองไปที่จางหยู
ผู้เฒ่าเหอได้พูดขึ้นต่อ “พวกเขาเป็นคนของข้า พูดมาได้เลย”
ผู้เฒ่าเหอมีเพื่อนเยอะแต่มีไม่กี่คนที่เขาบอกว่าเป็นคนของเขา
ชายแก่และชายวัยกลางคนรวมถึงอู่ซานพากันแปลกใจ จางหยูเป็น
หน้าใหม่แต่ไม่คิดเลยว่าผู้เฒ่าเหอจะบอกว่านี่คือคนของเขา มันหา
ได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นสายตาของผู้เฒ่าเหอก็แหลมคม การที่ได้รับ
การยอมรับจากผู้เฒ่าเหอ นั้นก็หมายความว่าเขาจะต้องไม่ธรรมดา
แม้ว่าอู่ซานจะดูแข็งแกร่งแต่ในด้านของนิสัยแล้วก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง
“สภาเพิ่งจะขาดหินแห่งการสร้าง” เจียงเลี่ยพูดขึ้น “สองวันก่อนข้า
ได้ยินหัวหน้าพูดมา ครึ่งเดือนจากนี้จะมีคนยิ่งใหญ่เข้ามาในโลกจิต
วิญญาณ สภาได้พยายามหาหินแห่งการสร้างจากทุกทางเพื่อเขา
สำหรับว่าเขาคิดจะทำอะไรนั้น ข้าก็ยังไม่รู้ แม้แต่ผู้บัญชาการของ
เราก็ยังไม่รู้ เรารู้แค่ว่าท่านซวงได้สั่งการมาเด็ดขาดว่าต้องทำทุก
อย่างเพื่อหาหินแห่งการสร้างมา มันคือภารกิจที่สำคัญที่สุดของสภา
ในตอนนี้ก็ว่าได้”
เขามองไปที่ผู้เฒ่าเหอด้วยท่าทีรู้สึกผิด “เรื่องนี้ท่านซวงจริงจังกับมัน
มาก เขาไม่คิดไว้หน้าใคร ดังนั้นการเลื่อนเวลาก่อนหน้านี้ถึงได้ถูก
ยกเลิกไป”
ก่อนหน้าที่ท่านซวงจะสั่งการ ฝ่ายอื่น ๆ ในสภาก็ยังไว้หน้าเจียงเลี่ย
อยู่บ้างแต่ตอนนี้สภากลับไม่ไว้หน้าใครเลย !
คำสั่งของท่านซวงเหนือกว่าทุกอย่าง !
ผู้เฒ่าเหอพูดตลกออกมา “ทำให้เจ้าของโลกกังวลได้แบบนี้เขาเป็นผู้
ควบคุมขั้นที่ 3 รึไง ?”
ผู้ควบคุมขั้นที่ 3 นั้นเทียบได้กับเจ้าของคนเก่าของโลกจิตวิญญาณ
ตอนที่เจ้าของคนเก่ายังอยู่ก็ได้ตราของผู้ควบคุมขั้นที่ 3 มา
เจียงเลี่ยสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วพูดออกมา
เบา ๆ “ฟังจากที่ผู้บัญชาการคาดเดาแล้ว ชายคนที่มานั้นน่ากลัวกว่า
ผู้ควบคุมขั้นที่ 3 ซะอีก…”
เมื่อได้ยินแบบนั้นผู้เฒ่าเหอ, ชายแก่, ชายวัยกลางคนและอู่ซานต่างก็
พากันตะลึง
แต่เจียงเลี่ยต้องแปลกใจเมื่อจางหยูไม่ได้แสดงท่าทีตกใจออกมา ไม่
รู้ว่าเขาไม่เข้าใจรึว่าตะลึงจนไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา
“ท่านซวงหนักแน่นในคำสั่งอย่างมาก ดังนั้นเจ้าคงต้องรีบจ่าย”
เจียงเลี่ยตบไหล่ผู้เฒ่าเหอแล้วพูดขึ้น “เจ้าขาดเท่าไหร่ก็บอกข้ามาได้
ข้าจะจ่ายให้ก่อนแล้วเจ้าค่อยคืนข้า เรื่องนี้ไม่อาจจะช้าได้ ยิ่งนานไป
ยิ่งสร้างปัญหา”
ในฐานะหัวหน้าทหารแล้ว เขาไม่กล้าจะบอกว่าเขารวยแต่พันหินแห่ง
การสร้างนั้นเขาก็พอจ่ายได้
ผู้เฒ่าเหอเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดขึ้น “ขอบคุณ
เจ้ามาก”
เจียงเลี่ยตอบกลับ “เจ้ากับข้าเป็นพี่น้องกัน พูดแบบนั้นได้ยังไง ?”
จากนั้นเจียงเลี่ยก็พูดขึ้นต่อ “ข้าอยากพาเจ้าไปฝ่ายที่ดินเพื่อจัดการ
เรื่องนี้ด้วยตัวเอง ข้ารู้สึกไม่สบายใจเลย”