ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1618
ตอนที่ 1618 ปัญหายุ่งยาก
พวกเขาเดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น
“เชิญนั่งก่อน” ลั่วเทียนห่าวแสดงท่าทีเป็นกันเองอย่างมาก เขาถึงกับ
ยิ้มกว้างออกมา
โจวหั่วยังยืนนิ่งอยู่ เมื่อจางหยูยังไม่นั่ง เขาจะกล้านั่งได้ยังไง ?
เขาได้กระแอมไอออกมาก่อนจะบอกกับจางหยูและเนี่ยอู่ซวง “พวก
เจ้าเองก็นั่งลงเถอะ”
ลั่วเทียนห่าวคิดว่าโจวหั่วแค่ให้ความสำคัญกับสองคนนี้แต่ไม่ได้คิด
อะไรมาก
โจวหั่วกังวลนิด ๆ ก่อนจะมองไปที่จางหยู เขาพร้อมจะทำตามคำสั่ง
ของจางหยู
จางหยูลงไปนั่งโดยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา เมื่อเห็นแบบนั้น
โจวหั่วก็โล่งอก เขาได้นั่งลงตามจางหยูทันที
ลั่วเทียนห่าวและโจวหั่วพูดคุยกัน เมื่อชาถูกยกมาเสิร์ฟพวกเขาก็ได้
พูดคุยธุระสำคัญ
“หัวหน้าตระกูลลั่ว ที่ข้ามาในครั้งนี้เพราะมีอะไรจะรบกวน” โจวหั่ว
แสดงสีหน้าจริงจังออกมา
ลั่วเทียนห่าวยิ้มและถามขึ้นมา “ข้าไม่รู้ว่าพี่โจวมีธุระอะไรกัน?”
เขาไม่ได้ตกลงว่าจะยอมช่วยรึไม่ มันขึ้นอยู่กับว่าโจวหั่วจะขอเรื่อง
อะไร
โจวหั่วถอนหายใจออกมา “ท่านอาจจะเคยได้ยินมาแล้วว่าข้าเดินทาง
อยู่ในเขตตะวันออกส่วนเหนือมาหลายปีและได้รู้จักกับหลายคน หนึ่ง
ในนั้นได้ไปที่สุสานด้วยกันกับข้า บอกได้ว่าเราผ่านสถานการณ์เป็น
ตายมาด้วยกัน เขาคือเนี่ยไห่เขาเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 3”
ประโยคนี้ทำให้ลั่วเทียนห่าวสับสน เขาไม่รู้ว่าโจวหั่วต้องการจะ
บอกอะไร
“เมื่อหลายปีก่อนเนี่ยไห่โดนฆ่าตายในสุสาน เขามีลูกชายคนหนึ่งซึ่ง
ก็คือคนที่นั่งอยู่ทางด้านขวาของข้า” โจวหั่วแนะนำเนี่ยอู่ซวง
“เอ่อ…” ลั่วเทียนห่าวได้สติขึ้นมาและรีบพูดขึ้น “ข้าขอโทษด้วย ข้า
นึกว่าเขาเป็นผู้ติดตามของท่าน….”
เขามองไปที่เนี่ยอู่ซวงและพูดขึ้น “เนี่ยอู่ซวง”
เนี่ยอู่ซวงโบกมือและตอบกลับ “ไม่เป็นไรขอรับ”
“ไม่นานมานี้เนี่ยอู่ซวงได้มาขอให้ข้าช่วย แล้วข้าจะปฏิเสธลูกชาย
ของสหายได้ยังไง ?” โจวหั่วพูดต่อ “แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูล
ลั่ว หัวหน้าตระกูลเป็นคนมีเหตุผล ข้าไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้
ยังไงจึงมาที่นี่เพื่อตกลงกับหัวหน้าตระกูล”
“เกี่ยวกับตระกูลข้ารึ ?” ลั่วเทียนห่าวขมวดคิ้ว “เรื่องอะไรกัน ?”
“ไม่นานมานี้มีชายหนุ่มที่ชื่อเนี่ยเวิ่น เขาได้พลั้งมือทำลายรูปปั้น
บรรพชนของตระกูลลั่ว ท่านจำเรื่องนี้ได้รึไม่ ?” โจวหั่วถามขึ้นมา
“ท่านหมายถึง…”
“ใช่ นี่คือเรื่องของหลานข้า” โจวหั่วพูดขึ้น “ข้ารู้ว่าการกระทำนี้ควร
ได้รับการลงโทษแต่ยังไงซะเขาเป็นลูกของเนี่ยอู่ซวง หากท่านทำได้
ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้กับเขา”
รอยยิ้มของลั่วเทียนห่าวหายไป สีหน้าของเขาหม่นลง
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่กล้าฉีกหน้าโจวหั่ว
เขามองไปที่เนี่ยอู่ซวงและพบว่าอีกฝ่ายก้มหน้าไม่กล้าจะมองหน้าเขา
“พี่โจว” ลั่วเทียนห่าวพูดขึ้นมาเบา ๆ “ลูกของเขาได้ทำลายรูปปั้น
บรรพชนแต่ข้าให้เขาชดเชยตามมูลค่าของรูปปั้น ข้าให้เขารับใช้
ตระกูลลั่ว 100 ล้านปี พี่โจวคิดว่าบทลงโทษนี้มันหนักเกินไปรึ ?”
“แน่นอนว่าไม่ได้มากเกินไป” โจวหั่วตอบกลับตามความจริง
ร้อยล้านปีนั้นอาจจะนานแต่ไม่ได้นานสำหรับพวกเขาเลย พวกเขามี
ชีวิตนิรันดร์
“งั้นหากเกิดเรื่องนี้กับท่าน ท่านคิดยังไง ?” ลั่วเทียนห่าวถามขึ้นมา
โจวหั่วชะงักไป หากเกิดเรื่องนี้กับเขา เดาว่าเขาคงลงโทษหนักกว่านี้
แน่
ลั่วเทียนห่าวพูดต่อ “นอกจากมูลค่าของรูปปั้นแล้ว มันยังเป็นเครื่องหมาย
แสดงถึงความยิ่งใหญ่ สำหรับตระกูลลั่วแล้วมันถือว่าเป็นเกียรติยศ
ของเรา คุณค่าของมันไม่อาจจะวัดได้”
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปที่โจวหั่ว “ข้าถามตัวเองหลายครั้ง
ข้าเห็นว่าตระกูลลั่วนั้นยุติธรรมแล้ว”
“นี่ไม่ใช่การรังแกใคร ตระกูลลั่วเองก็มีหลักการของตัวเอง หากเปลี่ยน
เป็นตระกูลอื่น พวกเขาจะจัดการยังไง? เราตระกูลลั่วน่ะสนใจแค่การ
บ่มเพาะ ข้าขอถามท่านทีว่าท่านคิดว่ามันเกินไปรึไม่ ?”
นี่ถือว่าใจดีแล้ว !
ท่าทีของเขาหนักแน่นอย่างมาก
แม้ว่าการเป็นมิตรกับโจวหั่วจะสำคัญแต่เกียรติของตระกูลลั่วนั้น
สำคัญกว่า !
“เอาจริง ๆ แล้วตอนที่รูปปั้นโดนทำลาย หลายคนในตระกูลลั่วโกรธ
แค้นและขอให้ข้าฆ่าเขาซะ ข้าพยายามพูดคุยและปรึกษากันเพื่อไว้
ชีวิตเขา ดังนั้นคนระดับสูงในตระกูลหลายคนจึงไม่พอใจ หากข้า
ปล่อยเขาไป แล้วคนในตระกูลข้าจะคิดยังไง ?” ลั่วเทียนห่าวพูดขึ้นมา
“ถึงข้าจะตกลงแต่คนอื่นในตระกูลก็คงไม่เห็นด้วย”
เขาไม่มีทางเลือกอื่น
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ปฏิเสธออกมาแต่ความหมายของมันก็ชัดเจนแล้ว
ว่าไม่มีทาง !
เพื่อไว้หน้าโจวหั่ว เขาจึงต้องพูดอ้อมค้อมเช่นนี้
โจวหั่วขมวดคิ้วด้วยความหนักใจ เรื่องมันแย่กว่าที่เขาคิดเอาไว้
“หัวหน้าตระกูล” เนี่ยอู่ซวงอดไม่ได้ที่จะอ้อนวอนออกมา “เด็กนั่น
ไม่รู้ความและได้ทำผิดพลาดร้ายแรงแต่เขาโดนคนอื่นหลอกมา เขา
ไม่ได้ตั้งใจ ข้าอยากขอให้ผู้อาวุโสเมตตาด้วย ข้ายอมเพิ่มค่าชดเชย
ให้กับตระกูลลั่ว”
แม้ว่าจะต้องขายโลกจิตวิญญาณแต่เขาก็ยอม
ยังไงซะโลกนิรันดร์นี้ก็กว้างใหญ่ การต่อสู้ในตระกูลภายในโลกนี้
หากประมาทเล็กน้อยก็อาจจะต้องเสียหายมหาศาล
โจวหั่วมองไปที่ลั่วเทียนห่าว “หัวหน้าตระกูล ท่านคิดยังไงกับข้อเสนอ
ของเนี่ยอู่ซวง ?”
ลั่วเทียนห่าวถอนหายใจออกมาและพูดขึ้น “พี่โจว ไม่ใช่ว่าข้าไม่
อยากจะไว้หน้าท่านแต่เรื่องนี้คงไม่อาจจะพูดคุยกันได้ อันที่จริงแม้ว่า
ตระกูลลั่วจะไม่ได้ร่ำรวยแต่เราก็ไม่ได้สนใจหินแห่งการสร้างแค่ไม่
กี่ก้อน ที่เราสนใจคือเครื่องหมายของบรรพชน นี่ไม่ใช่สิ่งที่เงินจะ
แก้ปัญหาได้”
เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ข้าบอกท่านได้ว่าหากข้ารับปากกับ
ท่าน พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ข้าได้เป็นหัวหน้าตระกูล แม้ว่าข้าจะ
เป็นหัวหน้าตระกูลแต่ข้าก็ไม่อาจจะตัดสินใจแทนทุกคนในตระกูล
ได้ ตระกูลลั่วนั้นไม่ใช่ของข้า ข้าไม่อาจจะทำอะไรตามใจตัวเองได้”
ก่อนหน้านี้เขาได้บังคับให้ทุกคนมาประชุมกันเพื่อช่วยเนี่ยเวิ่นแล้ว
มันทำให้หลายคนไม่พอใจ
แต่ยังไงซะตอนนี้เขาก็ถือว่าต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้
หากเขาตกลงกับเรื่องนี้ งั้นคนที่เข้าข้างเขาก็คงทิ้งเขาไป
เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วเทียนห่าว โจวหั่วก็รู้ว่าปัญหานี้มันยุ่งยากกว่า
ที่เขาคิดเอาไว้ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเอ่ยปากขอแต่มันเกี่ยวข้องกับทั้ง
ตระกูลลั่ว แม้แต่หัวหน้าตระกูลเองก็ไม่มีสิทธ์ิที่จะตัดสินใจในเรื่อง
นี้ได้
เมื่อได้ยินแบบนั้นเนี่ยอู่ซวงก็กังวลขึ้นมา “ต้องทำยังไงกัน !”
ลั่วเทียนห่าวมองไปที่เนี่ยอู่ซวงและพูดขึ้น “ข้าเข้าใจความรู้สึกเจ้า
ในฐานะพ่อแต่ข้านะนำเจ้าว่าอย่าคิดอย่างอื่นเลย เขาแค่ต้องอยู่รับใช้
ตระกูลลั่ว 100 ล้านปี นี่แค่สิ่งเดียวที่ข้าจะยังพอรักษาชีวิตเขาได้ นี่
เพื่อไว้หน้าพี่โจวด้วย ไม่งั้นแล้วแม้ว่าเขาจะไม่ตายแต่ก็อาจจะโดน
ลงโทษหนักกว่านี้”
การมาของโจวหั่วใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ ลั่วเทียนห่าวไม่ได้ปฏิเสธ
แบบไร้เยื่อใย
แต่ผลลัพธ์เช่นนี้ เนี่ยอู่ซวงจะรับได้ยังไง ?
“ท่านจาง” ตอนนั้นเองเนี่ยอู่ซวงก็คิดถึงจางหยู เขารีบมองไปที่จางหยู
เพื่อขอความช่วยเหลือ “ท่านช่วยลูกข้าด้วย”
โจวหั่วถอนหายใจออกมา เขาลุกขึ้นและยิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อน
จะป้องมือให้กับจางหยู “ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ต้องรบกวนท่านจางด้วย”
ท่าทีของทั้งสองนั้นทำให้ลั่วเทียนห่าวตกใจและมองไปที่จางหยู
เด็กหนุ่มคนนี้ได้รับความเคารพจากโจวหั่วงั้นรึ ?
ลั่วเทียนห่าวไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเลยแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าชายหนุ่ม
คนนี้อาจจะเป็นคนที่ปกปิดฐานะที่สูงส่งของตัวเองไว้
จางหยูเงยหน้ามองหน้าทุกคนก่อนที่สุดท้ายจะบอกกับลั่วเทียนห่าว
“หัวหน้าตระกูล ช่วยไว้หน้าข้าด้วย ปล่อยลูกเขาไปไม่ได้รึ ? หากเจ้า
ต้องการอะไร เจ้าบอกมาได้เลย เราสามารถพูดคุยกันได้”