ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1647 โดนเอาคืน
ตอนที่ 1647 โดนเอาคืน
จากคำพูดของหลินเป่ ยชาน ชัดแล้วว่าเขายังไม่ลืมความพ่ายแพ้จาก
เบเกิล
เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย มันก็เหมือนว่าเขาจะสู้กับจางหยูให้ได้
ในอีกความหมายคือจางหยูน่ะ….คือตัวแทนของเบเกิล !
หลินเป่ ยชานในตอนนั้นแข็งแกร่งอย่างมากอยู่แล้ว เมื่อเขาบ่มเพาะ
มาหลายปี ความแข็งแกร่งก็ต้องแกร่งยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม คนแบบ
นี้แม้ว่าเบเกิลจะมาที่นี่เองแต่ก็คงไม่กล้าจะประมาท จางหยูเพิ่งจะ
ขึ้นมาถึงขั้นที่ 8 ได้ หากต้องสู้กันจริง ๆ แล้วนอกจากจะโดนรังแกก็
ไม่มีโอกาสจะชนะได้เลย
“จางหยูไม่ใช่รึ ?” หลินเป่ ยชานพูดขึ้น “เมื่อเจ้ารู้จักเบเกิลดี เมื่อเจ้า
เคยสู้กับเบเกิลมา เจ้าก็ควรเรียนรู้จากข้าเพื่อดูว่าข้ากับเบเกิลใคร
เหนือกว่ากัน”
เมื่อพูดจบรอบตัวหลินเป่ยชานก็มีพลังแห่งการสร้างปะทุออกมา
ก่อนจะรวมตัวกันกลายเป็นหลุมดำ
จาฮานและสือซวนรีบถอยกลับไปทันที ผู้ควบคุมขั้น 8 นั้นไม่ใช่คน
ที่พวกเขาจะอยู่ใกล้ได้ แม้แต่พลังที่กระจายออกมาก็เป็นภัยถึงชีวิต
พวกเขาได้
หลินหลางมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าซับซ้อน ชายคนนี้เป็นผู้ควบคุม
ขั้น 8 แต่กลับเสแสร้งว่าอยู่ขั้น 7 เพื่อรังแกเขา ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายมี
รสนิยมแบบไหน ตอนนี้กรรมได้เอาคืนแล้ว
หลินหลางถอนหายใจออกมาก่อนจะบินไปพร้อมกับจาฮานและ
สือซวนจะได้ไม่โดนผลกระทบจากการต่อสู้
เมื่อเห็นทั้งสามถอยกลับไป จางหยูก็ถอนหายใจออกมา เขามองไปที่
หลินเป่ ยชานและพยายามเกลี้ยกล่อมให้หลินเป่ ยชานเปลี่ยนความคิด
“จริง ๆ แล้ว…มันมีหลายทางที่จะยืนยันความแข็งแกร่ง มันไม่จำเป็น
ต้องสู้กัน เท่าที่ข้ารู้มามันมีทางอื่นอยู่ ความแข็งแกร่งของท่านน่ะ
เหนือกว่าข้ามาก แม้ว่าจะไม่ได้ดีเท่ากับพี่เบเกิล แต่ก็ไม่ได้แย่กว่า
มาก บางทีท่านอาจจะลองไปหาคนอื่นดู”
เขาพูดถึงจงหรานหัวหน้าหมู่บ้านแห่งภูเขาธารใส
เจียงอู่ซวีบอกว่าจงหร่านกับเบเกิลรู้จักกัน ความแข็งแกร่งก็ไม่น่าจะ
ต่างกันมาก
หลินเป่ยชานมองไปที่จางหยูโดยไม่พูดอะไรออกมา
จางหยูได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ดูเหมือนว่าท่านจะตัดสินใจแล้ว
…”
ยังไงซะเขาก็อัดลูกอีกฝ่ายมา ตอนนี้อีกฝ่ายอยากจะเอาคืนก็เป็นเรื่อง
ปกติ
จางหยูไม่คิดจะดิ้นรนต่อ ท่าทีของหลินเป่ยชานชัดเจนอยู่แล้ว การสู้
กันครั้งนี้เขาคงไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าเขาจะต้องการรึไม่ แต่ก็
ต้องสู้
“เมื่อไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้…งั้นก็มา !” จางหยูแสดงสีหน้าจริงจัง
ออกมา
แม้ว่าจะโดนรังแกแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเรื่องแย่
หลินเป่ ยชานนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก การสู้กับอีกฝ่ายนั้นจะช่วยจางหยู
ยกระดับการใช้พลังแห่งการสร้างขึ้นมา มันก็เหมือนกับตอนที่สู้กับ
เบเกิล แม้ว่าจะโดนเบเกิลรังแกแต่ความแข็งแกร่งของเขาก็พัฒนาขึ้น
มาอย่างรวดเร็วและขึ้นมาถึงขั้น 7 ทันที มันช่วยให้ความแข็งแกร่ง
ของเขาพัฒนาขึ้นมาโดยเร็วที่สุด การที่เขาสู้กับคนอื่นนั้นก็ทำให้
ความแข็งแกร่งของเขาขึ้นมาถึงขั้น 8 ได้ มันเห็นได้ว่าการสู้กันนั้น
ส่งผลต่อการพัฒนามากแค่ไหน
หากไม่ใช่เพราะเขารังแกลูกอีกฝ่าย บวกกับอีกฝ่ายแค้นเคืองเบเกิล
อยู่ งั้นการที่คนแบบนี้จะเสนอตัวสู้กับเขา เขาจะปฏิเสธได้ยังไง ?
“กรรมตามทัน” จางหยูพร้อมจะโดนอัด “แต่อย่าปล่อยให้ความ
แข็งแกร่งของข้าเกินกว่าเจ้าไปละกัน ไม่งั้นแล้ว…เจ้านี่แหละที่จะ
โดนอัด !”
ความเข้าใจการสร้างของเขาเหนือกว่าเบเกิลไปแล้ว ในทางทฤษฎีนั้น
ตราบใดที่พลังสร้างของเขาเพิ่มขึ้น งั้นเขาก็สามารถเอาชนะเบเกิล
ได้รวมถึงจัดการหลินเป่ยชานด้วย
“เจ้าเพิ่งทะลวงผ่านขึ้นมาไม่ใช่รึ ?” หลินเป่ ยชานพลิกฝ่ามือพร้อม
กับเศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วนได้พุ่งขึ้นมาจากพื้น น้ำแข็งเหล่านี้ชัดแล้ว
ว่าเป็นน้ำแข็งที่จางหยูเรียกมาก่อนหน้านี้ น้ำแข็งเหล่านี้ใหญ่ราวกับ
เนินเขาที่มีพลังสร้างอันน่ากลัว
นี่คือการเลียนแบบ
แม้ว่าหลินเป่ยชานจะใช้ดาบแต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ใช่
วิธีอื่น ๆ แต่วิธีอื่น ๆ นั้นไม่ได้น่ากลัวเท่ากับดาบของเขาเท่านั้น
เมื่อเห็นภูเขาน้ำแข็งนั่น จางหยูก็ขนลุก แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขา
จะพัฒนาขึ้นมาอย่างมากแต่ด้วยวิธีเดียวกันนั้นกลับมีพลังมากกว่า
พลังนี้สูงกว่าตอนที่เขาสู้กับหลินหลางอย่างมากและนี่ยังไม่ใช่การ
โจมตีที่รุนแรงที่สุดของหลินเป่ ยชาน จากจุดนี้ก็เห็นช่องว่างระหว่าง
เขากับหลินเป่ยชานได้
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่ายแต่ต่อหน้าการโจมตีของหลินเป่ย
ชานแล้ว จางหยูก็ได้แต่ต้องยืนหยัดเพื่อรับมือมันไว้
จางหยูสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเรียกน้ำแข็งขึ้นมา ขนาดน้ำแข็งนี้เมื่อ
เทียบกับของหลินเป่ ยชานแล้วมันเล็กกว่ามาก ไม่ถึง 1 ใน 3 ด้วยซ้ำ
ภายใต้แสงอาทิตย์นี้น้ำแข็งได้สะท้อนแสงออกมา มันราวกับดวง
อาทิตย์ดวงเล็ก ๆ ที่ส่องแสงให้กับโลก มันสะท้อนแสงหลากสี
ออกมาราวกับว่าที่นี่คือดินแดนแห่งความฝัน
ต่อมาน้ำแข็งของทั้งสองก็ได้กลายเป็นมีดขนาดใหญ่ที่ส่องแสงจ้า
ขึ้นไปอีก
มีดทั้งสองได้เข้าห้ำหั่นกันทันที !
ตูม !
มิติโดยรอบพังลงจนเกิดความว่างเปล่าขึ้นมา
คลื่นพลังกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ภูเขาเทียนสั่นไหวเล็กน้อย แม้แต่ที่ด้านนอกประตูก็ยังรับรู้ได้ถึง
พลังนี้ได้
พายุอันน่ากลัวกวาดออกไปทั่ว จางหยูโดนกลืนไปในพายุนี้ ตัวของ
เขาโดนใบมีดนับไม่ถ้วนโจมตีและมีบาดแผลเต็มไปทั่ว แม้ว่าบาดแผล
พวกนี้จะไม่ได้ใหญ่นักและดูตื้นแต่ก็ยังทำให้เลือดไหลออกมาจำนวน
มาก ความเจ็บปวดแบบนี้ทำให้จางหยูถึงกับต้องกลั้นหายใจ
หลินเป่ ยชานยังยืนนิ่ง ทันทีที่พายุนี้มาถึงตัวเขา มันก็ถูกยับยั้งเอาไว้
และไม่อาจจะทำอะไรเขาได้เลย
“บาดเจ็บแล้วรึ ?” หลินเป่ ยชานยักคิ้วเหมือนไม่พอใจกับความ
แข็งแกร่งที่จางหยูมี “อ่อนแอจริง ๆ”
ความแข็งแกร่งที่จางหยูแสดงออกมาอย่างมากก็แค่เพิ่งเข้าสู่ขั้นที่ 8
นี่ไม่ต้องพูดถึงหลินเป่ ยชานเลย แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 8 ทั่วไปก็เอาชนะ
จางหยูได้
ตอนแรกเขาคิดว่าจางหยู ถึงจะไม่ได้แกร่งเท่ากับเบเกิล แต่ก็ไม่น่าจะ
อ่อนแอแต่เมื่อเห็นความแข็งแกร่งในตอนนี้แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะ
ผิดหวัง
แน่นอนถึงจะผิดหวังแต่การต่อสู้ก็ยังดำเนินต่อไป
“เอาอีก !” หลินเป่ ยชานสะบัดมือออกไปอีกครั้งพร้อมกับน้ำแข็ง
ก้อนใหญ่กว่าเดิมที่ถูกเรียกขึ้นมา “ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่จะเอาคืนที่เจ้า
รังแกลูกข้า …ลูกข้าไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกได้ !”
หากจางหยูเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 แม้ว่าจะรังแกหลินหลาง แต่เขาก็ไม่ได้
ใส่ใจแต่จางหยูน่ะอยู่ขั้น 8 แต่กลับมารังแกหลินหลาง ในฐานะพ่อ
แล้วเขาจะมองข้ามได้ยังไง ?
เขาอยากให้จางหยูรู้ว่าคนแข็งแกร่งกว่ารังแกคนอ่อนแอกว่านั้นเป็น
ยังไง !
หากจางหยูรู้ความคิดของหลินเป่ยชาน เขาคงต้องกระอักเลือดออก
มา ก่อนที่จะสู้กับหลินหลาง เขายังไม่ถึงขั้น 8 แม้ว่าจะโดนสงสัยว่า
รังแกหลินหลาง แต่มันก็ไม่ได้เหมือนกับผู้ใหญ่รังแกเด็ก มันแค่
บังเอิญที่หลังจากที่สู้กับหลินหลางแล้วเขาได้ทะลวงผ่านขั้น 8 ไป
และทำให้ความแข็งแกร่งพัฒนาขึ้นมา
แต่เขาก็ไม่อาจจะอธิบายอะไรได้ ยังไงซะใครจะไปเชื่อว่ามันเป็น
เรื่องบังเอิญ ?
ต่อหน้าการโจมตีของหลินเป่ ยชาน จางหยูได้แต่ต้องรับมือมันเอาไว้
หลินเป่ ยชานยังไม่ยอมหยุดมือ การต่อสู้นี้ยังไม่จบ
ในพริบตาทั้งสองก็ได้ปะทะกันอีก พลังอันน่ากลัวที่น่าทึ่งกว่ารอบ
แรกได้ก่อตัวขึ้นมา !
หลินหลาง, จาฮานและสือซวนที่อยู่ไกลออกไปแทบไม่อาจจะหายใจ
ได้
หลินเป่ ยชานแปลกใจ “ความแข็งแกร่งของเจ้า…เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก!”
แม้ว่าจางหยูจะโดนอัด แต่หลินเป่ ยชานก็รู้สึกได้ว่าครั้งนี้จางหยู
แสดงพลังออกมาได้มากกว่าเดิม