ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1668 : สุสานขั้น 9
ผ่านไปหลายปีสุดท้ายการเดินทางก็สิ้นสุด
ในพริบตา จางหยูและพวกก็เดินทางมาถึงสำนักต้าหยู่
เรือมิติได้จอดอยู่ด้านนอกสำนักต้าหยู่
เมื่อจางหยูและคนอื่นๆออกมาจากเรือ อู๋ยงก็ได้ทำการลดขนาดเรือให้เท่ากับนิ้วมือก่อนจะส่งให้กับจางหยู “ นายท่าน ข้าได้ลบจิตที่ผูกไว้แล้ว ท่านสามารถผูกจิตได้ทุกเมื่อ”
“ ได้ งั้นข้าขอยืมไปก่อน ” จางหยูพยักหน้าและรับเรือมิติเอาไว้ก่อนจะผูกจิตผู้สร้างเข้าไปกับมัน
แค่เพียงคิดเรือมิติก็หายไปเข้าไปในตัวเขาราวกับว่าหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจิตผู้สร้าง
ซางอี๋ว์ได้มองไปยังสำนักต้าหยู่ที่อยู่ตรงหน้า นางเดินทางอยู่ด้านนอกมานาน สุดท้ายนางก็ได้กลับมายังบ้านเกิดแต่โชคร้ายที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
“ ไปกันเถอะ ” จางหยูนำหน้าทุกคนเข้าไปในโลกต้าหยู่ เขาเดินทางเข้าไปในกระแสเวลาก่อนจะเข้าไปภายใน
หากเทียบกับโลกสวรรค์ร้างแล้ว โลกนี้เล็กอย่างมาก มันเล็กกว่าโลกนิรันดร์ด้วยซ้ำ การรับรู้ของจางหยูสามารถรู้ทุกอย่างในโลกนี้ได้
ซางอี๋ว์และอู๋ยงไม่จำเป็นต้องนำทาง จางหยูก็รู้ถึงตำแหน่งของสำนักต้าหยู่ได้ ไม่นานพวกเขาก็เดินทางไปถึงที่นั่นได้
“ จ้าวสิง ” เสียงของจางหยูไม่ได้ดังนักแต่ทุกคนสามารถได้ยินมันอย่างชัดเจน “ ออกมา !”
ภายในห้องโถงของสำนัก จ้าวสิงยังพูดคุยกับผู้ควบคุมขั้น 6 อยู่ เมื่อได้ยินเสียงนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวด เขาได้แผ่การรับรู้ออกไปแต่การรับรู้ของเขาราวกับชนแผ่นเหล็กเข้า มันไม่อาจจะเดินหน้าต่อได้ เขาไม่อาจจะรู้สถานการณ์ด้านนอกได้
คนของสำนักพากันเงยหน้ามองท้องฟ้า
“ นั่นผู้อาวุโสอู๋ยง ! และนั่น…ซางอี๋ว์ ! พวกเขามาด้วยกันได้ยังไง ?” ทุกคนจำอู๋ยงและซางอี๋ว์ได้ทันที
“ ผู้อาวุโสอู๋ยงจับซางอี๋ว์มารึ ? ”
“ เขาหาซางอี๋ว์พบได้ยังไง ?”
“ พวกคนที่อยู่ข้างๆเป็นใครกัน ?”
“ ตราผู้ควบคุมขั้น 7 …ชายคนนี้เป็นผู้ควบคุมขั้น 7 !”
“ อีกสองคนก็เป็นผู้ควบคุมขั้น 6 !”
เมื่อเห็นตราบนอกจางหยู คนในสำนักต่างก็พากันลนลานขึ้นมา
จ้าวสิงได้ออกมาจากห้องโถงก่อนจะด่าออกมา “จะลนลานทำไมกัน ?”
ทุกคนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
จ้าวสิงฮึดฮัดออกมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เมื่อพบกับจางหยู เขาก็ชะงักไปทันที “ นั่นเขา !”
ผู้ควบคุมขั้น 6 ที่อยู่ข้างๆก็เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย “ เขากลับมาได้ยังไง !”
เมื่อเห็นจางหยูอยู่กับอู๋ยงและซางอี๋ว์ จ้าวสิงก็ใจหล่นวูบ เขาเริ่มสังหรณ์ใจแย่ๆขึ้นมา
แต่เขาก็ยังคงแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา เขาได้พูดขึ้น “ ข้า จ้าวสิง คำนับผู้อาวุโส !”
เมื่อเห็นจางหยูใส่ตราขั้น 7 จ้าวสิงก็ไม่ได้แปลกใจ ก่อนหน้านี้เพราะเหตุผลพิเศษจึงทำให้จางหยูปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้
จางหยูไม่คิดจะพูดไร้สาระกับจ้าวสิง เขาได้สะบัดมือพร้อมกับพลังที่เข้ากดดันจ้าวสิงเอาไว้
ตอนนั้นเองบนท้องฟ้ากลับมีมือขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมา พลังสร้างอันน่ากลัวแผ่ออกมาจนทำให้ผู้คนไม่อาจจะหายใจได้ !
“ อันตราย !”
“ รีบหนี !” “ เร็วเข้า รีบหนีไป !”
ผู้คนที่ลนลานและเริ่มหนีกันทันที
สีหน้าของจ้าวสิงเปลี่ยนไป เมื่อรู้ว่าแผนการของตัวเองถูกเปิดเผย ต่อหน้าฝ่ามืออันน่ากลัวนี้ จ้าวสิงก็ได้ระเบิดพลังออกมา นี่คือพลังของผู้ควบคุมขั้น 7 แม้ว่าจะด้อยกว่าคลื่นพลังของจางหยู แต่ก็ผ่านเกณฑ์ของผู้ควบคุมขั้น 7 หากต้องเข้าทดสอบภารกิจขั้น 7 ระดับ 3 งั้นมันก็มีโอกาสสูงที่จะผ่านการทดสอบ
จางหยูไม่ได้แปลกใจเพราะเขารับรู้ได้ถึงพลังของจ้าวสิงอยู่แล้ว
ชายคนนี้กลับพัฒนาตัวเองขึ้นมาถึงขั้น 7 ได้
ก่อนหน้านี้ที่เขาพบกับจ้าวสิง จ้าวสิงไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ !
ต่อหน้าการต้านทานของจ้าวสิง จางหยูก็ยังแสดงสีหน้าเฉยเมย ฝ่ามือนั้นยังกดลงไปต่อด้วยพลังอันน่ากลัว พื้นดินไม่อาจจะทนรับพลังได้ไหวและพังลงไป
จางหยูไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ ไม่งั้นแล้วโลกนี้คงถูกทำลายไปด้วยแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นพลังนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ควบคุมขั้น 7 จะรับมือได้ง่ายๆ
ตูม !
ฝ่ามือนั้นจับไปที่หัวของจ้าวสิง จ้าวสิงโดนกดลงไปกับพื้น ตึกและภูเขาโดยรอบพังทลายลง พื้นดินแตกออกโดยมีฝ่ามือนี้เป็นศูนย์กลาง พื้นดินยุบลงไปหลายสิบฟุต
“ ไม่ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ! ” จ้าวสิงตะโกนออกมา
จางหยูแปลกใจ “ ทำไมจะไม่ได้ ? ”
เขายังยั้งมือเอาไว้ ไม่เช่นนั้นผู้ควบคุมขั้น 7 คงไม่อาจต้านทานเขาได้
“ ท่านพ่อ ท่านพ่อ ” ตอนนั้นเองจ้าวเต๋อก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความลนลาน “ ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรรึไม่ ? ”
จ้าวสิงกระอักเลือดออกมา เขาไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองและพูดขึ้น “ ข้ามีการสืบทอดโบราณ มันคือปราณสุสาน หากเจ้าฆ่าข้า เจ้าเองก็ต้องรับผลจากปราณสุสานด้วย !” มันไม่ใช่เวลามาพูดไร้สาระ นี่ไม่ใช่คำขู่
จางหยูยักคิ้ว “ ปราณสุสานรึ ? ”
เขามองไปที่อู๋ยงและถามขึ้นมา “ มันมีของแบบนั้นอยู่รึ ?”
ซางอี๋ว์และอู๋ยงพากันส่ายหน้า “ เราไม่รู้”
แต่อู๋ยงก็ได้พูดขึ้นต่อ “ ข้าเคยได้ยินข่าวลือที่คล้ายๆกันมาหลังจากตัวตนเก่าแก่ตายไป แต่จิตของเขาไม่ได้กระจายไปไหน สุสานเองก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วย คนที่ได้การสืบทอดของเขามาก็จะถูกจิตนั่นควบคุม เท่ากับว่าจะเสียอิสระไปครึ่งหนึ่งและกลายเป็นหุ่นเชิด แต่มันไม่เหมือนหุ่นเชิดทั่วไปเพราะยังมีสติของตัวเองอยู่…เมื่อพวกนั้นถูกฆ่าไป คนที่ฆ่าพวกนั้นก็จะถูกปราณสุสานเล่นงานไปด้วย ” เขามองไปที่จ้าวสิงและพูดขึ้นมาว่า “ หัวหน้าตระกูลไม่อาจจะฆ่าเขาได้เดาว่าเพราะเขาใช้พลังการสร้างได้แค่ครึ่งเดียวอีกเหตุผลคงเพราะจิตที่อยู่ในตัวเขา ชายคนนี้..ไม่น่าจะโกหก”
“ ไม่คิดเลยว่าจะเจอเรื่องเช่นนี้ ” จางหยูมองไปที่จ้าวสิงด้วยความแปลกใจ
“ นี่ถือว่าเป็นโชคร้าย เพราะตอนที่เขารับการสืบทอดไป เขาก็ไม่ใช่ตัวเองอีก” อู๋ยงพูดขึ้น “ จิตของเขาไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป ตอนนี้เขาเป็นแค่หุ่นเชิดที่มีอิสระ จิตครึ่งหนึ่งเป็นของเขาเอง อีกครึ่งเป็นของตัวตนเก่าแก่ “
“ ด้วยการปกป้องจากปราณสุสาน เจ้าคิดว่าข้าจะไม่กล้าฆ่าเจ้ารึ ?” จางหยูสร้างคุกขึ้นมาขังจ้าวสิงเอาไว้ เขาไม่ได้ปล่อยจ้าวเต๋อไปเช่นกัน เขาขังจ้าวเต๋อไว้ในมิติอีกส่วน “ ข้าอยากเห็นว่าปราณสุดสานจะเป็นภัยต่อข้ารึไม่ ?”
ระหว่างที่พูดนั้นจางหยูก็ได้เพิ่มพลังสร้างขึ้นไปจนทำให้คุกนั้นหดตัวลง
จ้าวสิงไม่คิดว่าจางหยูจะใจกล้าเช่นนี้จนไม่กลัวแม้กระทั่งปราณสุสาน ! “ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ! จิตของสุสานนั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะรับมือได้ !” จ้าวสิงตะโกนออกมา “ ผู้ควบคุมขั้น 7 ได้ทิ้งปราณนี้เอาไว้และทำให้สุสานเกิดการเปลี่ยนแปลง พวกที่ต่ำกว่าขั้น 8 น่ะล้วนแต่เป็นอันตรายถึงชีวิต ! หากเจ้าฆ่าข้า เจ้าเองก็จะตายไปด้วย ! ”
ภายใต้คำขู่ของจ้าวสิงนั้น จางหยูยังคงแสดงท่าทีเฉยเมย เขายังทำการลดขนาดคุกต่อโดยที่ความเร็วไม่ได้ลดลงเลย
“ ท่านพ่อ ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย ! ” จ้าวเต๋อเริ่มลนลาน
“ หุบปาก ! ” จ้าวสิงตะโกนใส่จ้าวเต๋อ เขายังปกป้องตัวเองไม่ได้ แล้วเขาจะเอาความสามารถที่ไหนไปช่วยจ้าวเต๋อ ?
เขาไม่รู้ว่าเขาจะสู้กับจางหยูได้รึไม่แต่หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงต้องตายจริงๆ แม้ว่าจางหยูจะโดนปราณสุสานเล่นงานและตายไป แต่เขาก็ต้องตายอยู่ดี
“ ช้าก่อน อย่าฆ่าข้า ข้าจะบอกความลับเจ้า ความลับเกี่ยวกับสุสานขั้น 9 !” จ้าวสิงมีทางเลือกสุดท้ายและได้แต่ต้องใช้มันออกมา เขาเชื่อว่าความลับนี้จะช่วยชีวิตเขาได้
เขาคิดว่าเมื่อเขาพูดเรื่องนี้ จางหยูจะหยุดมือเพราะไม่มีใครต้านทานความลับของสุสานขั้น 9 ได้ !
“ เหลือเชื่อจริงๆ” จางหยูเหมือนกับไม่ได้ยินคำพูดของจ้าวสิง คุกยังคงหดขนาดลงไปเรื่อยๆ อีกไม่กี่วินาทีมันก็บดขยี้สองพ่อลูกจนตาย พลังสร้างนี้น่ากลัว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ควบคุมขั้น 7 จะมีได้
จ้าวสิงไม่อาจจะใจเย็นได้อีกต่อไป เขารีบพูดขึ้น “ ข้าสาบาน ที่ข้าพูดไปน่ะเป็นความจริง ! ข้ารู้ความลับเกี่ยวกับสุสานขั้น 9 ! ขั้น 9 ! ข้ารู้พิกัดและวิธีเข้าไปในสุสานขั้น 9 ! ไว้ชีวิตข้าและข้าจะบอกทุกอย่าง !”
ในตอนที่ร้องนั้นร่างกายของจ้าวสิงก็ถูกทำลายหายไปโดยสมบูรณ์
จ้าวเต๋อนั้นถูกกำจัดก่อนจ้าวสิงเสียด้วยซ้ำ “ เฮ้อ…” จางหยูถอนหายใจออกมา “ สุดท้ายก็เงียบได้สักที”
ตอนนั้นเองก็มีพลังงานแปลกประหลาดได้พุ่งเข้าหาจางหยู
จางหยูฮึดฮัดออกมาเบาๆก่อนที่พลังที่แปลกประหลาดจะแผ่ออกมาจากตัวเขา ในพริบตามันก็ได้สลายจิตนั้นทิ้งไป
“ นี่คือปราณสุสานรึ ?” จางหยูคิด “ มันคล้ายกับบาปแห่งความว่างเปล่าแต่มันไม่ได้มีความฉลาดเหมือนกับบาปแห่งความว่างเปล่า และมันก็ต้านทานพลังแห่งการสร้างได้ …”
ในทางกลับกันบาปแห่งความว่างเปล่าด้อยกว่าปราณสุสาน มันอาจจะมีสติปัญญา แต่ก็ไม่มีพลังที่จะต้านทานพลังแห่งการสร้างได้
“ นายท่าน ” อู๋ยงถามขึ้นมา “ ทำไมท่านถึงไม่ฟังเขาก่อน ?”
จางหยูยิ้มออกมา “ สุสานขั้น 9 พูดไปแล้วเจ้าอาจจะไม่เชื่อแต่ข้าน่ะไม่สนใจ” ไม่สนใจรึ ?
เมื่อเห็นจางหยูกำจัดทั้งสองคนโดยไม่ลังเลและไม่เปิดโอกาสให้จ้าวสิงได้พูด พวกเขาก็ยากที่จะไม่เชื่อคำพูดของจางหยู
บางทีในความโกลาหลแห่งนี้อาจจะมีคนที่ไม่สนใจสุสานขั้น 9 อยู่จริงๆ