ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1679 : มาหาถึงที่
“ มาอีก !” ตอนแรกจางหยูแค่คิดจะซื้อเวลาให้เกลดัน แต่หลังจากที่ปะทะกับชายหนุ่มแล้ว จางหยูก็เปลี่ยนความคิด เขาอยากจะสู้กับชายหนุ่มคนนี้อีกครั้ง
ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงอันตรายจากจางหยูและได้ใช้ดาบในมือโจมตีใส่จางหยูอีกครั้ง
เขาเหมือนจะรู้ว่าไม่อาจจะฆ่าเกลดันได้หากมีจางหยูอยู่
จางหยูไม่ได้รีบร้อน เขาค่อยๆกำหมัดแล้วระเบิดพลังออกมา พื้นดินได้ระเบิดออกก่อนจะก่อตัวเป็นดาบ ดาบนั้นลอยขึ้นมาก่อนจะชี้ไปหาชายหนุ่ม
ตูม ตูม ตูมมม
ดาบดินส่องแสงสีเหลืองออกมาและพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม
การโจมตีของชายหนุ่มนั้นดูเรียบง่าย เขาพึ่งดาบอันน่ากลัวของเขาโจมตีเพื่อรับมือกับดาบดินที่พุ่งเข้ามา
ดาบดินได้ระเบิดออกแต่ไม่นานก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง สุดท้ายดาบดินทั้งหมดก็รวมตัวกันเป็นดาบเล่มเดียวซึ่งกินพื้นที่ท้องฟ้าไปกว่าครึ่ง
ตูม ! ดาบดินได้พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มอีกครั้ง
ชายหนุ่มได้รับมือกับดาบดินนี้ด้วยดาบของเขา !
ตูม ! มิติสั่นไหวอย่างรุนแรง พลังอันน่ากลัวของดาบดินและดาบอีกฝ่ายได้ระเบิดออกไปทั่ว พลังนี้ได้ทำให้พื้นดินเกิดหลุมขึ้นมามากมาย บางเนินเขาถึงกับถูกเป่าราบเป็นหน้ากลอง
จางหยูถอยกลับมาเพราะพลังสะท้อนนี้ ชายหนุ่มเองก็เช่นกัน
ทั้งสองเสมอกันอีกครั้ง ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ !
“ ฮาฮา …สนุกจริงๆ !” ตั้งแต่เป็นผู้สร้างมา นี่เป็นครั้งแรกที่จางหยูได้เจอกับคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ เขาไม่ต้องยั้งพลังเอาไว้ ไม่ต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะรับมือกับการโจมตีของเขาไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดคือแม้ว่าจะฆ่าอีกฝ่ายไปแต่เขาก็ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น
หลินเป่ยชานและเกลดันที่อยู่ด้านล่างมองดูฉากนี้พร้อมขนลุกไปทั้งตัว
การต่อสู้ระดับนี้และพลังทำลายล้างนี้เกินกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้ !
นี่คือการต่อสู้ของพลังระดับสูงสุดที่แท้จริง มันราวกับว่าทั้งสองเหนือกว่าผู้ควบคุมขั้น 8 ไปแล้ว !
แม้แต่หลินเป่ยชานเองก็ยังรู้สึกอึดอัดไปด้วย !
ไม่ว่าจะเป็นจางหยูรึชายหนุ่มก็ทำให้เขารู้สึกไร้พลังต้านทาน แม้ว่าเมื่อเทียบกับอดีตแล้วเขาก้าวหน้าขึ้นมาไม่ใช่น้อย แต่ก็ยังไม่อาจจะเทียบกับสองคนนี้ได้ เขาไม่สงสัยเลยว่าสองคนนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็มีความสามารถที่จะฆ่าเขาได้ ! ชายหนุ่มลึกลับนี้แข็งแกร่งยังพอเข้าใจได้แต่ทำไมจางหยูถึงได้แข็งแกร่งแบบนี้ได้ ?
หลินเป่ยชานคิดว่าเขาเข้าใจความแข็งแกร่งของจางหยูดีแต่ตอนนี้เขาถึงเข้าใจว่าเขากับจางหยูนั้นต่างกันอย่างมาก !
“ เขาเป็นผู้ควบคุมขั้น 8 จริงๆรึ ?” หลินเป่ยชานไม่อาจจะทำใจเชื่อได้ “ ความแข็งแกร่งแบบนี้เหนือกว่าขั้น 8 ไปแล้ว ข้าเกรงว่าในหมู่ผู้ควบคุมขั้น 8 คงไม่มีใครจะเทียบเขาได้”
ความแข็งแกร่งระดับนี้เหมือนกับ….ผู้นำ !
ผู้นำของผู้ควบคุมขั้น 8 ที่ด้อยกว่าขั้น 9 เท่านั้น !
จางหยูรวมถึงชายหนุ่มลึกลับคนนี้ได้แสดงความแข็งแกร่งของผู้นำออกมา !
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ท้องฟ้าสั่นไหว พื้นดินเต็มไปด้วยหลุมมากมาย มันราวกับโลกนี้เกิดหายนะ หลินเป่ยชานและเกลดันได้ถอยกลับไป พวกเขาถอยกลับไปถึงทาออกหุบเขาแต่ถึงจะอยู่ห่างขนาดนั้นแต่ก็ยังรับรู้ถึงอันตรายได้อยู่ พวกเขารู้สึกว่ามันยากที่จะรับมือกับพลังของทั้งสองได้
หลินเป่ยชานน่ะดีกว่า แม้ว่าจะแค่พอรับมือกับปราณสุสานนี้ได้แต่ก็ไม่ได้มีอันตรายใดๆ แต่เกลดันน่ะไม่เหมือนกัน แค่ปราณสุสานเขาก็ยากจะรับมือได้แล้ว นี่ไม่ต้องนับการต้านทานพลังของจางหยูและชายหนุ่มเลย
เมื่อเห็นว่าโล่พลังตนร้าวขึ้นมา เกลดันก็ไม่กล้าจะอยู่ต่อ เขาได้ถอยออกไปอีกและพูดขึ้นด้วยความละอายใจ “ เจ้าสำนัก ข้าไม่อาจจะทนไหว…”
“ เจ้าออกไปก่อน …” หลินเป่ยชานเองก็เดินทางออกมาเช่นกัน “ ข้าเองก็ควรถอยออกไปด้วย ”
แม้ว่าสมบัติในสุสานแห่งนี้จะดูน่าสนใจ และในใจเขาจะไม่เต็มใจแต่การที่พวกเขาอยู่ที่นี่ต่อก็ไร้ความหมาย นอกซะจากว่าจะหาทางจัดการชายหนุ่มคนนี้ได้ งั้นพวกเขาก็ไม่อาจจะเดินหน้าต่อได้ หากอยู่ต่อก็มีแต่จะเป็นอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่หลินเป่ยชานถอยกลับมาที่ทางเข้าหุบเขา ตอนนั้นเองก็มีเสียงของเกลดันที่เต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวังดังขึ้นมา “ จบสิ้นแล้ว ! ”
โล่พลังของเกลดันโดนกัดเซาะจนพังลง
เมื่อไม่มีโล่พลัง ปราณสุสานก็แทรกซึมเข้าไปในตัวเกลดัน หากไม่รีบออกจากสุสานแห่งนี้เพื่อสลัดการโจมตีของปราณสุสาน งั้นเขาก็จะติดเชื้อก่อนจะกลายเป็นหุ่นเชิดเหมือนกับชายหนุ่ม
ก่อนหน้านี้แม้ว่าปราณสุสานจะแทรกซึมเข้าร่างเขา แต่เขาก็โชคดีที่อยู่เขตนอกของสุสาน เขาถอยกลับได้ทัน นั่นเป็นทางเดียวที่จะรับมือกับปราณสุสาน
แต่ตอนนี้เขาอยู่ในเขตลึกของสุสาน หากต้องการออกจากที่นี่ในเวลาไม่กี่วินาทีนั้นไม่อาจจะเป็นไปได้ ! “ บัดซบ !” สีหน้าของหลินเป่ยชานเปลี่ยนไป “ รีบถอยกลับไปเร็วเข้า !”
มันสายเกินไปแล้ว !
ปราณสุสานแทรกซึมเข้ามาในตัวเกลดันแล้ว ตอนนี้เขายังอยู่ห่างจากทางออกสุสาน เขาไม่มีทางออกจากที่นี่ได้ทัน
ตอนนั้นจางหยูได้ถีบชายหนุ่มออกไปก่อนจะรีบถอยกลับมา เขาได้แผ่จิตผู้สร้างออกมาสร้างรูหนอนขึ้นก่อนจะตะโกนออกมา “ รีบเข้าไปในรูหนอน !”
เกลดันยังไม่เสียสติ เขาได้พึ่งสัญชาตญาณของตัวเองเดินทางเข้าไปในรูหนอนเพื่อเข้าไปสู่โลกตันเถียนของจางหยู
ในเวลาเดียวกันเจ้าสำนักก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายเกลดัน จิตผู้สร้างที่สูงส่งได้แผ่เข้ามาในตัวเกลดัน ก่อนที่ปราณสุสานจะถูกกำจัดไปในทันที
เกลดันเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว เขารู้สึกว่าเพิ่งรอดพ้นจากความตายมาได้ “ ข้ารอดแล้ว ! ” เขาหน้าซีดร้อมกับใจสั่น
ที่สุสานของอัลเวอร์
เมื่อชายหนุ่มลึกลับเห็นว่าเกลดันหายตัวไป เขาได้รีบไล่ตามโดยไม่สนจางหยูและหลินเป่ยชาน เขาได้เดินทางผ่านรูหนอนเข้าไปในโลกตันเถียนของจางหยู
จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา “ มาหาถึงที่แบบนี้ก็อย่าหาว่าข้ารังแกก็แล้วกัน ! ”
“ เกิดอะไรขึ้นกัน ? ” เจ้าสำนักสับสน “ มีอีกคนรึ ?”
ชายหนุ่มลึกลับไม่ได้สนใจเจ้าสำนัก เขาได้พุ่งเข้าหาเกลดันเพื่อจะฆ่าอีกฝ่าย ดาบนั้นได้พุ่งเข้าหาเกลดัน ด้วยพลังสร้างอันน่ากลัว มันถึงกับทำให้มิติที่นั่นเกิดรอยร้าวขึ้นมาจนแทบจะพังลง โชคดีที่เจ้าสำนักได้สติทัน ตอนที่ชายหนุ่มกำลังจะลงมือโจมตี เจ้าสำนักก็เข้ามาขวางได้ทันและทำให้มิติฟื้นฟูขึ้นมา
“ ร่างหลัก…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?” เจ้าสำนักรู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งกว่าเกลดัน
จางหยูพูดขึ้นมา “ ชายคนนี้คือหุ่นเชิดในสุสานของอัลเวอร์ เขาน่าจะเป็นผู้ควบคุมที่เข้ามาในสุสาน จิตผู้สร้างเขาติดเชื้อ….” เขาคิดถึงกองกระดูกนับไม่ถ้วนที่เห็นมาก่อนหน้านี้ กองกระดูกพวกนั้นอาจจะเป็นผลงานของชายหนุ่มคนนี้รึไม่ก็ชายหนุ่มคนนี้คือผู้ชนะคนสุดท้ายเพราะเขาแกร่งที่สุดจึงทำให้รอดมาได้และเหลือคนสุดท้าย
ในเวลาเดียวกันหลินเป่ยชานก็ต้องสับสน “ น้องชาย…ชายคนนั้นล่ะ ?”
มีวิธีส่งคนออกไปจากสุสานได้ด้วยรึ ?
“ ไม่ต้องกังวล เกลดันจะกลับมาในไม่ช้า” จางหยูพูดขึ้น “ มันจะมีคนคอยแก้ปัญหาให้กับเขา สำหรับชายหนุ่มลึกลับ…” จางหยูไม่มั่นใจ “ มารอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ในโลกตันเถียนนั้นเจ้าสำนักได้ถามขึ้นมา “ เจ้าอยากให้ข้ากำจัดปราณสุสานในตัวเขารึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา “ ปราณสุสานได้ครอบคลุมเขาโดยสมบูรณ์แล้ว มันสามารถลบออกไปได้ด้วยรึ ?”
“ ได้” เจ้าสำนักตอบกลับ “ ข้าจะลองด ”
จางหยูไม่ลังเล “ งั้นก็รีบลงมือ ช่วยลบปราณสุสานออกไปจากตัวเขา ” เขาสงสัยในตัวตนของชายหนุ่มและสงสัยเรื่องสุสานขั้น 9 แห่งนี้ หากชายหนุ่มได้สติกลับมา อีกฝ่ายอาจจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อจางหยู “อ้อ สั่งสอนบนเรียนให้เขาทำตัวเชื่อฟังด้วย ”
เมื่อได้ยินคำสั่งจากจางหยู เจ้าสำนักก็ลงมือทันที จิตผู้สร้างสูงสุดได้แผ่ออกมารุกล้ำปราณสุสานก่อนจะแยกมันออกจากกัน
กินเวลาแค่วินาทีเดียวก็ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นใจเย็นลงได้ สายตาที่ว่างเปล่าของเขากลับมีประกายขึ้นมาอีกครั้ง
“ ข้า…” ชายหนุ่มแสดงท่าทีสับสนออกมา
“ เจ้าโชคดี ” เจ้าสำนักพูดขึ้น “ ปราณสุสานได้ครอบงำเจ้าโดยสมบูรณ์แล้วแต่ก็โชคดีที่ได้เจอกับข้า เมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้วก็ไม่ต้องรีบออกไปไหน เจ้าควรตอบแทนข้าก่อ”
ชายหนุ่มไม่เข้าใจคำพูดของเจ้าสำนัก ดาบได้หลุดออกจากมือเขาไปก่อนจะผ่าเขาออกเป็นสองส่วน เขาไม่อาจจะขยับตัวได้เลย เขาได้แต่มองดูร่างตัวเองโดนผ่าออกจากกัน
ไม่กี่อึดใจร่างของเขาก็ต่อตัวขึ้นมาใหม่แต่เขาไม่อาจจะอยู่เฉยได้อีก ดาบได้ฟันเข้ามาหาเขาอีกรอบ
ชายหนุ่มฮึดฮัดออกมา เขาได้ใช้จิตผู้สรางของตัวเองพร้อมหน้าที่ซีดขึ้น
แม้ว่าการโจมตีนี้จะไม่ได้ดูหนักหน่วงอะไรแต่มันก็เพียงพอที่จะเป็นภัยต่อชีวิตเขาได้ ตอนที่ชายหนุ่มเหมือนจะรับมือไม่ไหว เจ้าสำนักก็ได้หยุดมือและพูดขึ้น “ นี่คือการลงโทษสำหรับเจ้า หากเจ้ายังทำให้ข้าไม่พอใจ เจ้าจะไม่ได้รับบทลงโทษที่เบาแบบนี้อีก ”