ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1684 : ความลับเบื้องหลัง
เมื่อเห็นว่าจางหยูเงียบอยู่นาน จ้านเทียนเกอก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ ท่านเป็นอะไรรึไม่ ?”
หลินเป่ยชานและเกลดันพากันมองไปที่จางหยูด้วยความกังวล
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นฉากที่อันตราย แต่เมื่อเห็นจ้านเทียนเกอกลับมา พวกเขาก็รู้แล้วว่าจางหยูและจ้านเทียนเกอจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่อันตราย
ผู้นำขั้น 8 กว่า 46 คน นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลย !
จางหยูได้สติกลับมาและมองไปยังทั้งสามคนก่อนจะถามขึ้น “ พวกเจ้ารู้รึไม่ว่าใครคือหงอี ? ”
จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า
จ้านเทียนเกอได้พูดขึ้น “ หงอีคือหนึ่งในสามผู้ควบคุมขั้น 9 ของโกลาหล นางเป็นผู้หญิงคนเดียวในหมู่ผู้ควบคุมขั้น 9 บอกกันว่านางเป็นเจ้าของวิหารดอกไม้แดง นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีใครรู้ข้อมูลที่เหลือเกี่ยวกับท่านหงอี เมื่อนางขึ้นไปถึงขั้นที่ 9 ประสบการณ์ ประวัติรึที่อยู่รวมไปถึงเรื่องอื่นๆล้วนแต่เป็นเรื่องลึกลับ ”
มันมีผู้ควบคุมขั้น 9 เพียง 3 คนที่ยอมเผยตัวตน อัลเวอร์เผยตัวออกมาหลังจากที่ขึ้นไปถึงขั้นที่ 9 มาหลายหมื่นปี มันมีคนไม่มากนักที่รู้จักอัลเวอร์
“ ทำไมท่านถึงได้รู้จักท่านหงอีได้ ?” จ้านเทียนเกอถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ข้าไม่รู้ แต่ข้าคิดว่าข้าต้องได้พบกับนาง ”
เมื่อเห็นว่าจางหยูแสดงสีหน้าหนักใจออกมา ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย จางหยูไปเจออะไรในสุสาน ทำไมเขาถึงพูดถึงหงอี ?
“ เจ้าสำนัก ” เกลดันถามขึ้นมา “หรือว่ามีคนในอารามที่รู้จักท่านหงอี?” คนพวกนั้นคือผู้นำขั้น 8 หากจะรู้จักกับหงอีก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ
จางหยูสูดหายใจเข้าลึกๆแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับ “ การคาดเดาของข้าเกี่ยวกับสุสานนี้บางทีอาจจะผิดทั้งหมด ! ”
จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆไม่เข้าใจคำพูดของจางหยู
“ จ้านเทียนเกอ เจ้าจำเสียงลึกลับที่ดังขึ้นมาในตอนที่เราเปิดอารามได้รึไม่ ?” จางหยูมองไปที่จ้านเทียนเกอ
จ้านเทียนเกอพยักหน้าและพูดขึ้น “ แน่นอนว่าข้าจำได้ ” เขาจำเสียงนั้นได้ดี
“ เจ้าอาจจะไม่เชื่อ เจ้าของเสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นอัลเวอร์ !” จางหยูแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ เขาคือรูปปั้นชายวัยกลางคนที่ใจกลางอารามนั้น !”
จ้านเทียนเกอ, หลินเป่ยชานและเกลดันพากันแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาและมองจางหยูด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “ อะ…อัลเวอร์รึ ?” เกลดันสับสน
หลินเป่ยชานเองก็ตะลึง “ เป็นเขาได้ยังไง ! เขาตายไปแล้วไม่ใช่รึ ?”
หากอัลเวอร์ยังไม่ตาย แล้วสุสานนี้มาจากไหนกัน ?
แล้วนี่คือสุสานของใคร ?
“ เอาจริงๆแล้วหากไม่ใช่เพราะเขาบอกออกมาเอง ข้าก็คงไม่เชื่อว่าเขาเป็นอัลเวอร์” จางหยูยากจะใจเย็นได้ “ ข้าไม่มั่นใจว่าเขาโกหกรึไม่แต่ข้ามั่นใจว่าเขาต้องเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 แม้ว่าเขาจะไม่ใช่อัลเวอร์ แต่เขาก็ทัดเทียมกับอัลเวอร์ได้ ”
นี่คือคลื่นพลังที่ผู้ควบคุมขั้น 9 เท่านั้นที่จะมีได้ !
ยังไงซะด้วยความแข็งแกร่งของจางหยูตอนนี้แล้วก็มีแค่ผู้ควบคุมขั้น 9 เท่านั้นที่จะทำให้เขาไม่อาจจะต้านทานได้แบบนี้!
“แต่…ถ้าหากเขาเป็นอัลเวอร์ แล้วใครกันที่เป็นเจ้าของสุสานแห่งนี้ ?” เกลดันสับสน “ ทำไมเขาถึงปรากฏตัวในสุสานนี้ได้ ? ทำไมเขาถึงได้โดนครอบงำโดยปราณสุสาน ?” ในหัวหลินเป่ยชานมีแต่คำถาม
แต่สิ่งที่ทำให้เขากลัวที่สุดคือปราณสุสานนั้นแม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ไม่อาจจะต้านทานได้
จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ข้าเองก็อยากรู้คำตอบของเรื่องนี้ แต่โชคร้ายที่อัลเวอร์ไม่อาจจะประคองสติได้ เขาพูดมาได้ไม่กี่คำก็หลับไป….”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้น้ำเสียงของจางหยูก็เปลี่ยนไป “ แต่ก่อนที่เขาจะหลับไป เขาได้พูดถึงคนคนหนึ่ง เขาพูดถึงที่หนึ่งด้วย บางทีเขาอาจจะเคยไปที่นั่นมาก่อน ”
“ ท่านพูดถึง…ท่านหงอีรึ ?” จ้านเทียนเกอได้สติ
มันไม่น่าแปลกใจที่อัลเวอร์และหงอีที่เป็นผู้ควบคุมขั้น 9 จะรู้จักกันรึสนิทกัน
“ ใช่ หงอี “ จางหยูพยักหน้า “ ตอนที่ข้าจากมานั้นอัลเวอร์ได้ขอให้ข้าบอกเรื่องนี้กับหงอี เขาบอกว่าสุสานสวรรค์คือกับดักและห้ามไปที่นั่น ! ข้าเดาว่าสุสานสวรรค์อาจจะเกี่ยวข้องกับการที่อัลเวอร์โดนครอบงำ…”
เขามองไปที่จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆก่อนจะพูดขึ้น “ พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องสุสานสวรรค์รึไม่ ?”
แต่ก็ต้องผิดหวัง หลินเป่ยชานและเกลดันพากันส่ายหน้า แม้แต่จ้านเทียนเกอก็ยังแสดงสีหน้าสับสนออกมา
“ ดูเหมือนว่าสุสานแห่งนี้จะลึกลับอย่างมาก” จางหยูพูดขึ้น “ เกรงว่าคงมีแค่ผู้ควบคุมขั้น 9 เท่านั้นที่จะรู้ตัวตนของสุสานนี้”
ทำไมอัลเวอร์จึงพูดถึงสุสานสวรรค์นั้นจางหยูก็ไม่มั่นใจ
“ การเดินทางมายังสุสานขั้น 9 แห่งนี้ แม้ว่าจะมีปัญหาแต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรกลับไป ตอนนี้เรามั่นใจได้ว่ามันมีความลับเบื้องหลัง ! ” จางหยูพูดขึ้น “ ก่อนอื่นสุสานแห่งนี้ไม่ใช่สุสานของอัลเวอร์ เจ้าของของมันน่าจะลึกลับกว่านั้น ตัวตนที่น่ากลัวกว่านั้น ! และอารามที่เราไปนั้นอาจจะไม่ใช่เขตหลัก…”
เมื่อสำรวจไม่ครบ ใครจะไปมั่นใจได้ว่าอารามแห่งนั้นคือเขตหลักของสุสาน ?
“ อย่างที่สองกุญแจที่กระจายไปทั่วนั้นน่าจะถูกใช้โดยใครบางคนเพื่อล่อให้คนเข้าไปในสุสานในนามของอัลเวอร์ ในอีกความหมายคืออัลเวอร์น่ะโดนอ้างชื่อ…”
“ สุดท้ายตัวตนลึกลับนี้นอกจากจะควบคุมผู้นำขั้น 8 และผู้ควบคุมขั้น 9 ได้ ยังใช้ชื่อของอัลเวอร์ในแผนการอีกด้วย มันอาจจะมีเหยื่อคนอื่นๆอยู่อีก …..จากจุดนี้ก็เห็นได้ว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นสูงอย่างมาก บางทีอาจจะเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 ที่แข็งแกร่งอย่างมาก !”
แม้ว่าจะยังไปไม่ถึงขั้น 9 แต่จากขั้น 7-8 ที่มีระดับย่อยในขั้นเหล่านี้อยู่อย่างขั้นต่ำ, กลางและสูง ขั้น 9 ก็น่าจะมีระดับย่อยด้วยเช่นกัน
เกลดันเกาหัวและพูดขึ้นมา “ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไม ในเมื่อเขาแข็งแกร่งขนาดนั้น ทำไมเขาถึงต้องวางแผนการแบบนี้ด้วย ? ในสายตาของผู้ควบคุมขั้น 9 แล้ว พวกที่ต่ำกว่าขั้น 9 ก็ไม่ต่างอะไรจากมด ทำไมอีกฝ่ายต้องใช้แผนการกับมดปลวกด้วย ?”
“ การที่เขาหลอกล่อเรามีประโยขน์อะไร ?” เกลดันสับสน
หากหลอกล่อผู้ควบคุมขั้น 9 นั้นก็พอเข้าใจได้แต่การหลอกคนระดับต่ำแบบพวกเขาจะมีประโยชน์อะไร ?
อีกฝ่ายระวังตัวเกินไป แผนการหลอกล่อมดปลวกโดยอ้างชื่อของอัลเวอร์ จนพวกเขาไม่รู้ตัวตนที่อยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้เรื่องที่พวกเขารู้ก็มีแค่ว่ามีคนลึกลับแบบนี้อยู่ ส่วนข้อมูลที่เหลือนั้นพวกเขาไม่รู้อะไรเลย
“ บางทีผู้ควบคุมขั้น 9 อาจจะรู้คำตอบ แม้ว่าจะไม่รู้อะไรมากแต่ก็น่าจะรู้มากว่าเรา” จางหยูพูดขึ้น “ ครั้งนี้เราเหมือนจะได้รู้ความลับที่มีแต่ผู้ควบคุมขั้น 9 เท่านั้นจะรู้ได้”
โชคดีที่เขามีวิธีออกมาจากสุสาน ไม่งั้นแล้วเกลดันคงตายด้านในไปแล้ว ส่วนจ้านเทียนเกอก็คงกลายเป็นหุ่นเชิดและเป็นหนึ่งในผู้นำขั้น 8 ด้านใน
ในอีกความหมาย หากไม่มีจางหยูแล้ว ความลับเหล่านี้ก็จะไม่ถูกเปิดเผย คนที่รู้ความลับหากไม่ตายก็โดนปราณสุสานครอบงำ
จางหยูสงสัยแม้ว่าผู้ควบคุมขั้น 9 จะเข้ามาในสุสาน แต่ต่อหน้าอัลเวอร์ที่โดนครอบงำแล้วก็อาจจะโดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือหรือไม่ก็ตายได้!
ยังไงซะ ความน่ากลัวของปราณสุสานนั้นจางหยูก็รับรู้มันมาด้วยตัวเองแล้ว ไม่มีใครต้านทานมันพร้อมกับต้านทานการโจมตีของผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ไปด้วยได้ นอกซะจากว่าจะมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าอัลเวอร์อย่างขาดลอย
“ หากอยากได้คำตอบของเรื่องนี้ เราคงต้องไปหาหงอีก่อน ” หากไม่รู้เรื่องนี้ จางหยูอาจจะมองข้ามเรื่องนี้ไปได้ แต่ในเมื่อเขาได้รับรู้ถึงเรื่องนี้แล้ว แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แต่เขาก็ต้องไขความลับนี้ให้ได้ “ ข้าต้องไปหา หงอี พวกเจ้าคิดว่ายังไง ?”
เกลดันเงียบไปทันที เขามีฐานะเป็นทาส มันไม่สำคัญว่าเขาจะคิดยังไง
จ้านเทียนเกอและหลินเป่ยชานพูดเป็นเสียงเดียวกัน “ เราจะไปด้วย !”
ยังไงซะเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับสุสานขั้น 9 พวกเจ้าจะตายตาหลับได้ยังไงหากไม่รู้ความจริง ?