ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1716 : แบ่งสมบัติ
จ้านเทียนเกอ, เบเกิลและคนอื่นๆต่างก็มองเจ้าสำนักด้วยสีหน้าตกตะลึง
ไม่มีใครคิดว่าคำสาปที่เป็นปัญหาต่อหงอีมาไม่รู้กี่ยุคนั้นเจ้าสำนักจะลบมันได้ง่ายดายแบบนี้
เจ้าสำนักแข็งแกร่งแค่ไหนกัน ?
พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด !
“ ไม่แปลกเลยที่เจ้าสำนักยังคงทิ้งร่างแยกไว้แบบนี้…ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว ข้าเกรงว่าในความโกลาหลนั้นคงมีไม่กี่อย่างที่มีสิทธิ์ให้เขาลงมือด้วยตัวเอง ” จ้านเทียนเกอตะลึงอย่างมาก
แต่เมื่อคิดว่าเจ้าสำนักเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความแข็งแกร่งแบบนั้น มันไม่ได้ดูน่าแปลกใจเท่าไหร่
ตอนที่ทุกคนต่างก็ตะลึงกับความแข็งแกร่งของจางหยู ฉากที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น
เจ้าสำนักแผ่จิตผู้สร้างออกไปก่อนที่จิตผู้สร้างจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจมันก็เปลี่ยนเป็นคำสาป!
คำสาปแบบเดียวกันที่ทรมานหงอีไม่รู้กี่ยุค !
เมื่อเห็นแบบนั้นไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็เบิกตากว้างและจ้องมองไปที่เจ้าสำนัก
“ คำสาป ! ” หงอีแสดงสีหน้าตะลึงออกมา นางถึงกับรู้สึกกลัว “ เจ้า…”
เจ้าสำนักยกมือที่สร้างคำสาปขึ้นและพูดขึ้นมา “ มันน่าสนใจดีข้าเลยทดสอบเรียนรู้ดู ไม่คิดเลยว่าจะสร้างได้ง่ายแบบนี ”
คำสาปนี้ดูเหมือนระดับสูงกว่าความลึกลับของพลังสร้าง มันคือรูปแบบพลังสร้างชนิดหนึ่งที่ระดับสูงกว่า
หากไม่ใช่เพราะอยู่ในโลกตันเถียนแล้ว แม้ว่าจางหยูจะลงมือเองแต่พลังก็ยังด้อยกว่า แม้จะด้อยกว่าแต่ก็ยังทำให้ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 เกรงกลัวได้อยู่
มีแค่จิตผู้สร้างในโลกตันเถียนเท่านั้นที่จะสามารถใช้จิตผู้สร้างขนาดนี้ออกมาได้ ผลของมันคล้ายกับคำสาปก่อนหน้านี้
จางหยูสงสัยว่าที่หงอีโดนคำสาปนี้น่าจะไม่ใช่เพราะตวนมู่หลิน เพราะตวนมู่หลินไม่อาจจะใช้พลังระดับนี้ออกมาได้ การจะสร้างคำสาปแบบนี้ขึ้นมาได้ บางทีอาจจะเป็นจิตลึกลับในสุสานก็เป็นได้ แต่จางหยูไม่ได้บอกสิ่งที่เขาคิดกับหงอี เรื่องในอดีตไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก ยังไงซะ ตวนมู่หลินก็ไม่ใช่คนดี แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้คำสาปออกมาแต่มันก็เกี่ยวข้องกับเขา
มันไม่สำคัญว่าตวนมู่หลินจะเป็นคนสร้างมันขึ้นมารึไม่
“ ผลกำไรดีจริงๆ ” จางหยูอารมณ์ดีอย่างมาก ช่วยหงอีลบคำสาปพร้อมกับเรียนรู้วิธีการใช้พลังสร้างที่สูงกว่าเดิม บอกได้ว่าเขาแทบไม่เสียอะไรเลย “ สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือข้าเรียนรู้วิธีการใช้มันแค่ส่วนเริ่มต้น…”
ทักษะนี้น่ากลัวแต่ไม่ใช่ทักษะที่ยิ่งใหญ่อะไร อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรติดมือกลับมา
ทุกคนได้ยินคำพูดของจางหยูก็พากันสับสน เรียนรู้อะไรกัน ?
ด้วยความสามารถระดับนี้จะมีใครกล้าหาเรื่องเขาอีก ?
“ ข้าลบคำสาปให้เจ้าแล้ว เจ้าไปได้แล้ว ” เจ้าสำนักโบกมือก่อนจะมีรูหนอนปรากฎขึ้นมาตรงหน้าเขา “ เมื่อเดินทางผ่านรูหนอนนี้แล้วเจ้าจะไปยังโลกป่า ที่นั่นเจ้าจะไปไหนต่อก็ได้ ” เขาโบกมือเบาๆ “ ข้าไม่ไปส่งนะ”
หงอีไม่คิดว่าจางหยูจะไม่ให้นางอยู่ต่อ แต่นี่ก็คือสิ่งที่นางหวังเอาไว้ นางโค้งให้กับจางหยู ก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงใจ “ ขอบคุณ ! ”
เจ้าสำนักยิ้มออกมา “ แค่เรื่องเล็กน้อยทำไมต้องขอบคุณด้วย ?”
เรื่องเล็กน้อย ?
หงอีไม่ปฏิเสธ บางทีสำหรับเจ้าสำนักแล้วมันอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยจริงๆ
“ ถึงอย่างนั้นก็ขอบคุณ ข้าจะจดจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้ ” หงอีทำความเคารพอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังแล้วเดินทางผ่านรูหนอน ร่างของนางได้ปรากฏตัวขึ้นในโลกป่าก่อนจะพุ่งผ่านกำแพงโลกเพื่อเข้าไปในความโกลาหล
ทันทีที่หงอีจากไปแล้ว เจ้าสำนักก็บอกกับทุกคน “ เรื่องสมบัติของราชาตะวันออก พวกเจ้าก็ค่อยๆปรึกษากันไป ข้าไม่รบกวนแล้ว ”
เมื่อพูดจบ เจ้าสำนักก็ค่อยๆหายตัวไปจากตรงหน้าทุกคน
“ เจ้าคิดว่าเราควรจะแบ่งกันยังไง ? ” จางหยูมองไปรอบๆแล้วถามขึ้นมา
เขาเอาสมบัติออกมา 5 ชิ้น มันมีพาหนะมิติ, หินขั้นเทพ, ต้นอ่อนลึกลับ, ตราราชาตะวันออกและคัมภีร์
สมบัติทั้ง 5 ชิ้นมีแค่พาหนะมิติและหินแห่งการสร้างขั้นเทพที่มีค่าสำหรับคนอื่นๆ ส่วนต้นอ่อนลึกลับ, ตราราชาตะวันออกและคัมภีร์นั้นไม่รู้ว่าจะส่งผลยังไง โดยเฉพาะคัมภีร์ บางทีมันอาจจะช่วยอะไรไม่ได้เลย มันอาจจะมีแค่ข้อมูลของสุสานสวรรค์
ทุกคนมองไปยังสมบัติทั้งห้าชิ้นก่อนที่จะมองไปยังหินขั้นเทพ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในหมู่สมบัติ 5 ชิ้นนี้ หินขั้นเทพนั้นคือสิ่งที่พวกเขาสนใจมากที่สุด แม้แต่พาหนะมิติก็ไม่อาจจะเทียบได้ !
จ้านเทียนเกอกับเบเกิลที่เป็นผู้นำก็ยังสนใจหินนั่น นี่ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆเลยแต่มันมีหินแค่ก้อนเดียว มันไม่อาจจะแบ่งให้กับทุกคนได้
“ เอาแบบนี้” หลินเป่ยชานพูดขึ้นมา “ สมบัติทั้ง 5 ชิ้นนี้ เจ้าสำนักเป็นคนได้มันมา เราไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันคงไร้ยางอายเกินไปที่จะรับมันไว้ ”
“ ใช่ ” เกลดัน, จงหรานและคนอื่นๆพากันพยักหน้า แน่นอนพวกเขาก็อยากได้หินนี่แต่พวกเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันไม่ดีที่จะขอมีส่วนแบ่ง
ดังนั้นคนที่มีสิทธิ์ได้สมบัติเหล่านี้ก็ตกเป็นของจางหยู , จ้านเทียนเกอและเบเกิล
“ พวกเจ้าสองคนเลือกสิ ” จางหยูกระจายสมบัติทั้งห้าออกจากกันก่อนจะบอกกับจ้านเทียนเกอและเบเกิล “ พวกเจ้าเลือกได้เลย ”
จ้านเทียนเกอและเบเกิลมองหน้ากันก่อนจะมองไปที่หินแห่งการสร้างแต่มันมีหินแค่ก้อนเดียว พวกเขาสองคนจะแบ่งกันยังไง ?
แต่หากพวกเขาเลือกของอย่างอื่น พวกเขาก็คงไม่เต็มใจ !
เพราะหินแห่งการสร้างขั้นเทพนี้อาจจะหมายถึงโอกาสที่จะขึ้นไปขั้นที่ 9 !
เมื่อเห็นทั้งสองมองไปยังหิน จางหยูก็ได้สะบัดมือ เขาได้เก็บสมบัติทั้งสี่ชิ้นและพูดขึ้นมา “ พวกเจ้าสนใจหินนี่รึ ?”
จ้านเทียนเกอและเบเกิลพยักหน้าตอบรับ เรื่องนี้ทุกคนต่างก็รู้อยู่แล้ว มันไม่จำเป็นต้องโกหก
“ มันมีหินแค่ก้อนเดียว พวกเจ้าแบ่งกันไม่ได้ ” จางหยูหัวเราะออกมา “แต่ก็มีทางที่พวกเจ้าจะได้หินทั้งสองคนอยู่ ”
“ วิธีไหนกัน ? ” จ้านเทียนเกอและเบเกิลมองไปที่จางหยู
จางหยูยิ้มออกมา “ ก็ง่ายๆ ข้าจะสร้างหินขั้นเทพขึ้นมาเอง พวกเจ้าจะได้ไม่ต้องแย่งกัน ”
เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู เบเกิลและจ้านเทียนเกอก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อนึกถึงเจ้าสำนักที่ลบคำสาปให้กับหงอีได้อย่างง่ายดายแล้ว พวกเขาก็พบว่าทักษะนี้น่ากลัวและแปลกประหลาดเกินไป แม้แต่ราชาตะวันออกก็อาจจะทำไม่ได้
“ หากเจ้าสำนักสร้างมันขึ้นมา…” จ้านเทียนเกอสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดขึ้น “ งั้นข้าจะยอมแพ้กับหินนี่ ข้าจะรับหินจากเจ้าสำนัก ” เขาเชื่อในตัวเจ้าสำนักมากกว่าราชาตะวันออกที่ตายไปเมื่อ 1.3 ล้านปีก่อน
เบเกิลเองก็อยากได้หินจากจางหยู แต่เมื่อจ้านเทียนเกอพูดแบบนั้นออกมาแล้ว เขาก็ได้แต่พยักหน้า “ งั้นก็ดี ! ”
“ สมบัติ 5 ชิ้นให้ข้าคนเดียวก็คงจะเกินไปหน่อย ” จางหยูมองไปยังทั้งสองคนและพูดออกมา “ พวกเจ้าต้องการอะไรอีกรึไม่ ? ตราบใดที่ไม่มากเกินไป ข้าก็จัดการให้พวกเจ้า ”
จ้านเทียนเกอและเบเกิลมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้า นอกจากหินขั้นเทพแล้ว สิ่งอื่นนั้นยากจะทำให้พวกเขาสนใจได้ แม้แต่พาหนะมิติขั้นสูงนั้นพวกเขาก็ไม่สนใจ ยังไงซะยิ่งพาหนะมิติระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งใช้พลังควบคุมมากเท่านั้น ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้ว แม้ว่าจะได้พาหนะมิติขั้นสูงมาแต่ก็ยากที่จะดึงความสามารถสูงสุดของมันออกมาได้
“ เมื่อพวกเจ้าไม่คัดค้าน งั้นก็เอาตามนี้ ” จางหยูพูดขึ้น “สำหรับคนอื่นๆแล้ว แม้พวกเจ้าจะไม่ได้ทำผลงานอะไรแต่ก็พยายามกันได้ดี ข้าจะให้สมบัติกับพวกเจ้า ข้าจะสร้างหินขั้นเทพให้กับพวกเจ้า แม้ว่าหินขั้นเทพนี้อาจจะเทียบกับหินขั้นเทพระดับสูงไม่ได้ แต่ก็เหนือกว่าระดับทั่วไปอย่างมาก ”