ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1737 : เหมิงเกอ
ไม่มีใครตอบกลับจ้าวแห่งโลกมังกรหมอก
หลังจากที่กินจิตปฐมบทโกลาหลไปแล้ว เสี่ยวเสียก็ได้จากไปทันที เขาไม่ได้สนใจจะพูดคุยกับอีกฝ่าย
ไม่นาน จางหยูก็ได้พาเสี่ยวเสียและเสี่ยวหลิงเอ๋อร์กลับไปเดินทางในโกลาหลต่อ
ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นจ้าวแห่งโลกมังกรหมอกไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนช่วยเขาไว้
แต่มันไม่สำคัญ นกป่าไม่ได้มีแค่ตัวเดียว เพราะหลายสิบปีต่อมา มีโลกขั้นที่ 9 จำนวนมากในเขตหงหยวน ที่จิตปฐมบทโกลาหลถูกทำลาย และได้ให้กำเนิดผู้สร้างที่แท้จริงนับไม่ถ้วนขึ้นมา
ไม่ว่าคนเหล่านี้จะมีความสามารถเพียงพอที่จะผ่านการเกิดใหม่ไปได้รึไม่ แต่ถ้าหากเสี่ยวเสียผ่านไปที่ไหน ก็ไม่มีจิตปฐมบทโกลาหลตัวไหนที่หลุดรอดมือมันไปได้ มันได้กลืนกินจิตปฐมบทโกลาหลทั้งหมดเป็นแสนเป็นล้านตัวรึอาจจะมากกว่านั้น !
เมื่อปริมาณมากพอก็ทำให้คุณภาพเปลี่ยนไปด้วย การกินจิตปฐมบทโกลาหลตัวเดียวอาจจะทำให้ระดับการบ่มเพาะของเสี่ยวเสียเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่เมื่อกินจิตปฐมบทโกลาหลเป็นล้าน สุดท้ายมันก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเสียที
ตูม !
ตอนนั้นอยู่ๆ เสี่ยวเสียก็ทะลวงผ่านขั้น 8 เข้าไปถึงขั้น 9 ได้
แน่นอนว่าสิ่งที่เรียกว่าขั้นที่ 9 นี้น่ะมันหมายถึงมีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับผู้ควบคุมขั้น 9 ไม่ได้หมายความว่าได้กลายเป็นผู้ควบคุมขั้น 9
เส้นทางการบ่มเพาะของเสี่ยวเสียต่างจากผู้ควบคุม มันไม่ใช่ผู้ควบคุม มันไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ได้แต่ก็บอกได้ว่ามันมีความแข็งแกร่งไม่ด้อยกว่าผู้ควบคุมขั้น 9 เลย
ร่างของเสี่ยวเสียกระจายไปโดยรอบก่อนจะรวมตัวกันเป็นร่างมนุษย์ขึ้นมา แม้ว่าใบหน้าจะพร่ามัวแต่ก็ยังมองเห็นรูปลักษณ์ของมันได้
มันสามารถควบคุมพลังโกลาหลได้ นี่คือความสามารถของเสี่ยวเสีย !
ความสามารถนี้คือความสามารถของจ้าวโกลาหล แต่เสี่ยวเสียกลับทำได้ ถึงแม้ว่าจะด้อยกว่ามากก็ตาม
“ สุดท้ายก็มาถึงขั้น 9 !” เสี่ยวเสียตื่นเต้นอย่างมาก “ ตอนนี้ข้าไม่ต้องกลัวพวกนั้นแล้ว !”
พวกคนที่อยากกำจัดมัน เสี่ยวเสียจำพวกนั้นได้ดี
จางหยูมองไปที่เสี่ยวเสียแล้วพูดขึ้น “ ความแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนี้อย่างมากก็ทัดเทียมได้แค่ระดับ 10 เท่า มันยังมีระดับร้อยเท่า, พันเท่าและหมื่นเท่าอยู่ หากพบคนที่แกร่งกว่า เจ้าก็ตายได้”
เสี่ยวเสียได้ยินแบบนั้นก็สลดไปทันที
มันคิดว่าสุดท้ายมันก็สลัดภัยจากผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู มันก็จำได้ว่าผู้ควบคุมขั้น 9 ก็มีทั้งคนอ่อนแอและแข็งแกร่งอยู่ ตอนนี้มันไม่ต้องกลัวพวกระดับ 10 เท่า แต่หากเจอกับคนที่แข็งแกร่งกว่านั้นมันก็ไม่อาจจะรับมือได้
“ ไม่ ข้ายังไม่ปลอดภัย” เสี่ยวเสียกัดฟันแน่นและพูดขึ้น “ ข้าจะกลืนกินจิตปฐมบทโกลาหลต่อไป ข้าจะพัฒนาตัวเองให้ได้มากที่สุด”
จางหยูไม่มีธุระด่วนให้จัดการ เขาได้พาทั้งสองเดินทางต่อ ตลอดหลายสิบปีมานี้แม้ว่าเขาจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรแต่ก็ยังได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างของโลกอื่นๆ เขายังได้ชิมอาหารของโลกอื่นด้วย ถือว่าเป็นการเดินทางที่ดี
“ ไปกันต่อ” จางหยูมองไปยังทั้งสองก่อนจะเดินทางไปยังโลกขั้น 9 ที่ใกล้ที่สุด แต่พวกเขาเดินทางออกมาได้ไม่ไกลก็พบกับแรงกดดันอันหนักหน่วงกวาดผ่าน จากนั้นก็มีชายวัยกลางคนมาขวางหน้าพวกเขาเอาไว้
ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ระดับ 10 เท่า !
ในการเดินทางครั้งนี้นี่เป็นครั้งแรกที่จางหยูพบกับผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ระดับ 10 เท่า!
ชายคนนั้นมองไปที่จางหยูแล้วถามขึ้น “ เจ้าคือจางหยูรึ?”
ตั้งแต่ที่จางหยูขึ้นมาถึงขั้นที่ 9 แทบทั้งโกลาหลก็รู้จักเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยากโด่งดังอะไรแต่เรื่องที่ด้านนอกสุสานราชาตะวันออกนั้นก็มีหลายคนที่เห็น การที่เขาอยากอยู่เงียบๆน่ะแทบจะเป็นไปไม่ได้
“ ใช่ ข้าเอง ” จางหยูมองไปที่อีกฝ่ายแล้วถามขึ้นมา “ แล้วเจ้าเป็นใคร ?”
“ เหมิงเกอ หนึ่งในผู้ควบคุมขั้น 9 ของเขตตะวันออกตอนบน ” เหมิงเกอแนะนำตัวสั้นๆแล้วพูดต่อ “ เจ้ารับรู้ได้ถึงคลื่นพลังจิตปฐมบทโกลาหลรึไม่ ?”
เขาแสดงสีหน้าหนักใจออกมา คลื่นพลังของจิตปฐมบทโกลาหลตะกี้น่ะทำให้เขารู้สึกหนักใจอย่างมาก เขาแทบหายใจไม่ทั่วท้อง
เสี่ยวเสียมองไปที่เหมิงเกอแล้วพูดขึ้นมา “ เจ้าพูดถึงข้ารึ ?”
เขาได้ยินเสียงของเสี่ยวเสีย ตอนนั้นเองเขาก็เพิ่งได้เห็นเสี่ยวเสีย เขาต้องคิ้วขมวด “ จิตปฐมบทโกลาหลรึ ? แปลกมากที่ข้าไม่อาจจะมองระดับของเจ้าออกได้…เจ้าของคลื่นพลังเมื่อตะกี้คือเจ้ารึ ?”
เสี่ยวเสียยังไม่ทันได้ตอบกลับ เหมิงเกอก็บอกกับจางหยู “ จางหยู จิตปฐมบทโกลาหลนี่ข้าแนะนำเจ้าว่าควรจะลบมันไป เมื่อมันเติบโตขึ้นมาแล้ว มันอาจจะต่อต้านเจ้า…” เขาแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ นี่ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเจ้าคนเดียว แต่เจ้ายังต้องรับผิดชอบต่อส่วนรวมด้วย”
“ ไม่เป็นไร ข้ามั่นใจว่าควบคุมมันได้” จางหยูพูดด้วยรอยยิ้ม “ เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าบอกจริงๆรึ?” เหมิงเกอคิ้วขมวด “ แค่คลื่นพลังตะกี้แม้แต่ข้าก็รู้สึกว่ามันอันตราย…จิตปฐมบทโกลาหลนี่เติบโตจนถึงระดับที่น่าตกใจ หากไม่กำจัดมันตอนนี้ ทั้งโกลาหลอาจจะตกอยู่ในอันตราย เจ้าคิดว่าการกระทำของเจ้ามันเหมาะแล้วรึ ”
คำพูดของเขาดูไม่พอใจนิดๆ
เสี่ยวเสียเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา “ เลิกยุ่งกับข้าสักที เจ้านายของข้ารู้ว่าจะทำยังไง จำเป็นด้วยรึที่เจ้าจะมาสอนเขา ?”
จางหยูมองไปที่เสี่ยวเสีย จนทำให้เสี่ยวเสียรู้สึกกลัวขึ้นมา
จางหยูยิ้มและบอกกับเหมิงเกอ “ ข้าเข้าใจว่าเจ้าจะบอกอะไร แต่เสี่ยวเสียน่ะผูกจิตกับข้า ข้าสามารถควบคุมมันได้ เจ้าไม่ต้องกังวลว่ามันจะเป็นภัยต่อโกลาหล…”
“ เจ้าไม่คิดจะกำจัดจิตปฐมบทโกลาหลจริงๆรึ ?” สีหน้าของเหมิงเกอหม่นหลงแล้วพึมพำออกมา “ เมื่อเจ้าไม่ทำ ข้าจะลงมือเอง” เมื่อพูดจบ เหมิงเกอก็พุ่งเข้าหาจางหยู แต่เป้าหมายของเขาไม่ใช่จางหยู แต่เป็นเสี่ยวเสีย
เขาอยู่ระดับ 10 เท่า แม้ว่าจะต่างจากระดับ 100 เท่า แต่ในมุมมองของเขาแล้วคนที่เพิ่งขึ้นมาถึงขั้นที่ 9 อย่างจางหยูนั้น เขาสามารถจัดการได้ง่ายๆ ก่อนจะหาโอกาสที่จะกำจัดเสี่ยวเสีย สำหรับเขาแล้วแค่นี้ก็เพียงพอ
แน่นอนเขาไม่รังเกียจที่จะฆ่าจางหยูไปด้วย แต่เขาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่สนใจเสี่ยวเสียก่อน
“ แสดงความสามารถของเจ้าให้เขาได้เห็น” จางหยูจับเสี่ยวเสียโยนใส่เหมิงเกอ
การกระทำของจางหยูนั้นทำให้เหมิงเกอตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เข้าใจความคิดของจางหยู
เขาเปลี่ยนใจแล้วรึ ?
แต่เมื่อเสี่ยวเสียระเบิดพลังออกมา พลังอันน่ากลัวก็แผ่ออกไปทั่ว เหมิงเกอถึงได้สติ “คลื่นพลังนี่ไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้ควบคุมขั้นที่ 9 เลย !” หากเทียบกับระดับ 10 เท่าแล้ว คลื่นพลังนี่ถือว่าต่ำที่สุดแต่การที่มันอยู่ในร่างจิตนี้ก็ทำให้มันกลายเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับนี้
“ เจ้าอยากจะฆ่าข้ารึ ?” เสี่ยวเสียระเบิดพลังทั้งหมดอกมา “ เจ้าจะฆ่าท่านเสี่ยวเสียรึ ?”
รูปร่างของเสี่ยวเสียเปลี่ยนไปเป็นสัตว์อสูรตัวใหญ่พร้อมกับแผ่คลื่นพลังที่แข็งแกร่งออกมา
ต่อมามันก็ตาแดงก่ำขึ้น มิติรอบตัวเหมิงเกอโดนแช่แข็ง นี่คือการแช่แข็งมิติ มันทำให้เหมิงเกอขยับตัวได้ยาก เขาขมวดคิ้วทันที “ นี่มันทักษะอะไรกัน ?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบคนที่ควบคุมพลังโกลาหลได้ มันเหมือนจะเหนือกว่าพลังสร้าง มันทำให้เขาไม่ทันระวังตัว เขาไม่เคยเจอจิตปฐมบทโกลาหลที่แกร่งแบบนี้มาก่อน การเผชิญหน้ากับศัตรูแบบนี้ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะสู้ยังไง
เสี่ยวเสียไม่ได้ปราณี เขาได้ควบคุมพลังโกลาหลเปลี่ยนเป็นมังกรและพุ่งเข้าใส่เหมิงเกอ
เหมิงเกอรีบสร้างโล่ป้องกันต่อต้านการโจมตีเอาไว้ เขาเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้กลับ
ตูม !
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับโล่ของเหมิงเกอที่พังลง ที่ตัวเขาเกิดรูขึ้นมา ร่างกายของเขาถูกบดขยี้ ไม่กี่อึดใจร่างของเหมิงเกอก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ใบหน้าของเขาซีดเผือดและมองไปที่เสี่ยวเสียด้วยความกลัว แม้ว่าผลกระทบจากการโจมตีนี้จะไม่ได้มากมายนัก ยิ่งถ้าเป็นสถานการณ์ปกติแล้วเขาคงรับมือไหวแต่นอกจากพลังนี้ก็ยังมีพลังกัดกร่อนของโกลาหลด้วย มันทำให้โล่พลังของเขาไร้ค่า แม้แต่จิตผู้สร้างที่แข็งแกร่งก็ยังสั่นไหวไปด้วย
แม้ว่าจะอายแต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่อาจจะเอาชนะเสี่ยวเสียได้ ตอนนั้นเสี่ยวเสียตาเป็นประกายขึ้นมา “ ข้านึกว่าเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะไร้ค่าแบบนี้ ! มาสิ แสดงพลังทั้งหมดที่เจ้ามีออกมา”
เสี่ยวเสียมองไปที่เหมิงเกอด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร