ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1740 : การเดินทางสู่ตะวันตก
ยังไงซะโจวทงก็ต้องตาย จางหยูไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายไปอยู่แล้ว ชายคนนี้เป็นฝ่ายมาหาเรื่องเขาก่อนแถมยังด่าเขาเหมือนหมูเหมือนหมา จางหยูไม่อาจจะปล่อยคนแบบนี้ไปได้ มันอาจจะทำให้สำนักคังเฉียงมีปัญหาขึ้นมาก็ได้
จางหยูไม่ใช่ฆาตกรแต่เขาไม่ยอมให้มีอันตรายที่อาจจะมาถึงตัวได้
“ นายท่าน ท่านนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ !” เสี่ยวหลิงเอ๋อร์พูดขึ้นมา
เสี่ยวเสียเองก็พูดขึ้น “ ชายแก่นี่เป็นยอดฝีมือคนที่สองที่โดนนายท่านฆ่า”
ความแข็งแกร่งของโจวทงนั้นมากซะจนเสี่ยวเสียรับรู้ได้ถึงอันตราย มันไม่สงสัยเลยว่าโจวทงสามารถฆ่ามันได้ง่ายๆ
ถึงจะเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่จางหยูกลับใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีก็ฆ่าได้ มันพิสูจน์แล้วว่าจางหยูน่ะแกร่งแค่ไหน
จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ชายคนนี้อ่อนแอไปต่างหาก”
ในหมู่ยอดฝีมือแล้ว โจวทงไม่ได้อ่อนแอเลยแต่หากเทียบกับจางหยูในตอนนี้แล้ว มันต่างกันมากเกินไป
การใช้พลังสร้างและความเข้าใจของจางหยูต่างกันอย่างมาก แต่จิตผู้สร้างของเขานั้นยกระดับขึ้นเยอะเพราะการที่โลกผนึกเทพได้พัฒนาขึ้นเป็นโลกขั้นที่ 9 บรรพกาลก็ได้ขยายตัวขึ้น ดังนั้นจิตผู้สร้างของเขาจึงยกระดับเกินขีดจำกัดจากเดิม
ภายใต้จิตผู้สร้างอันแข็งแกร่งนี้ก็ทำให้พลังสร้างของเขายกระดับขึ้นไปอีก
แม้ว่าการใช้พลังสร้างของเขาจะไม่ได้มากเท่ากับซุนวู แต่หากสู้กันจริงๆแล้วเขาก็คงไม่พ่ายแพ้ให้กับอีกฝ่าย
จะแกร่งรึอ่อนแอกว่ามีแต่ต้องสู้กันจริงๆเท่านั้นถึงจะเห็นได้ถึงความต่าง ! ในโกลาหลแห่งนี้มีคนอยู่มากมาย การต่อสู้ระหว่างจางหยูและโจวทงนั้นมีคนมากมายที่จับตาดู แต่มีน้อยคนนักที่รู้ถึงตัวตนของโจวทง เมื่อเห็นการโจมตีของโจวทง พวกเขาถึงพอเดาออกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 พลังอันน่ากลัวนี้ผู้ควบคุมขั้น 8 ไม่อาจจะชั้นออกมาได้ แม้แต่ผู้นำนั้นภายใต้การโจมตีแบบนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรอด
“ เราไม่อาจจะอยู่เขตตะวันออกตอนบนได้ เราต้องไปที่อื่น” จางหยูมองเห็นสีหน้าตะลึงของคนโดยรอบก่อนจะบอกกับเสี่ยวหลิงเอ๋อร์และเสี่ยวเสีย “ เมื่อเขาบอกว่ามียอดฝีมือลึกลับหลบซ่อนอยูทางตะวันตก งั้นเราก็ไปยังเขตตะวันตกตอนบนกันเถอะ”
ด้วยการสู้กับโจวทงนั้นการใช้พลังสร้างของจางหยูก็พัฒนาขึ้นมาเล็กน้อย จนแทบจะมองข้ามได้เลย
เขาต้องการคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ยิ่งใกล้ระดับหมื่นรึระดับหมื่นได้ยิ่งดี !
จางหยูขึ้นพาหนะมิติก่อนจะหายไปในพริบตาภายใต้สายตาของผู้คนมากมาย
ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมานี้ก็ทำให้เขาเร็วกว่าในอดีตอย่างมาก ในอดีตเขาต้องใช้เวลาเป็นร้อยเป็นพันปีกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
มันไม่เหมือนกับที่อื่นๆในโกลาหล เขตตะวันตกตอนบนและตอนใต้นั้นเป็นมิตรกันอย่างมากจนผู้คนเรียกที่นี่ว่าเขตตะวันตก ในสายตาพวกเขาแล้วมันไม่มีแยกตอนบนตอนล่าง ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเขตตะวันตก
หากเทียบกับพื้นที่อื่นแล้วที่นี่ดูสงบกว่า มันไม่ได้มีความขัดแย้งภายใน มันเหมาะกับพวกคนที่รักความสงบ
สำหรับพวกที่บ้าการบ่มเพาะแล้วเป็นธรรมดาที่จะไม่ชอบที่นี่ เมื่อไม่มีการแข่งขันงั้นก็ยากที่จะพัฒนาตัวเองต่อได้ แต่สำหรับพวกคนที่เบื่อในการต่อสู้และฆ่าฟันแล้ว ที่นี่ราวกับสวรรค์ มันคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับหลายๆคน
หลังจากที่เข้ามาที่เขตตะวันตก จางหยูก็ตระหนักได้ถึงความแตกต่างระหว่างเขตตะวันตกกับเขตอื่นๆ
แต่จางหยูไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ เขาได้ทำการเดินทางไปยังโลกขั้นที่ 9 ต่างๆพร้อมกับตามหายอดฝีมือลึกลับไปด้วย
“ นอกจากยอดฝีมือที่หลบซ่อนแล้ว ข้าได้ยินมาว่ามีคนที่แกร่งระดับพันเท่าในเขตตะวันตก” จางหยูจำที่จ้าวแห่งโลกพันเขตบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ “จ้าวแห่งเขตตะวันตกตอนบน ไมโล หากหายอดฝีมือที่หลบซ่อนไม่เจอ ข้าคงได้แต่ต้องไปเรียนรู้จากมิโรแทน”
จางหยูหวังว่าจะได้พบกับยอดฝีมือที่ซ่อนตัว ไมโลแค่เป็นทางเลือกของเขา
เมื่อคนที่แกร่งที่สุดอย่างยอดฝีมือกลับมาเก็บตัวในที่ที่สงบแบบนี้ ชัดแล้วว่าคงหาตัวอีกฝ่ายไม่เจอง่ายๆ แม้ว่าจางหยูจะอยากพบอีกฝ่ายแค่ไหน แต่จนกระทั่งเสี่ยวเสียกินจิตปฐมบทโกลาหลไปหลายหมื่นตัว และทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาจนทัดเทียมกับระดับร้อยเท่าได้ แต่ก็ยังหาตัวยอดฝีมือที่หลบซ่อนไม่พบ
แต่จางหยูไม่ได้ผิดหวัง เขาไม่คิดอยู่แล้วว่าการจะหาตัวอีกฝ่ายเจอนั้นมันเป็นเรื่องง่ายๆ เป้าหมายในการเดินทางของเขาคือการเดินทางไปรอบๆเพื่อรับรู้ถึงโลกต่างๆ รวมไปถึงวัฒนธรรมของแต่ละโลกอีกทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเสี่ยวเสีย หากหาตัวยอดฝีมือที่หลบซ่อนพบ งั้นก็ถือว่าดีไป หากหาไม่พบ จางหยูก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายก็ผ่านไป 30 ปี
ใน 30 ปีมานี้ จางหยูได้ไปยังโลกมากมายนับไม่ถ้วน ความแข็งแกร่งของเสี่ยวเสียเพิ่มขึ้นมาจนเกือบระดับพันเท่าแล้ว แม้แต่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ก็ขึ้นมาถึงขั้นที่ 8 ได้ โชคร้ายที่นานขนาดนี้แล้ว จางหยูก็ยังไม่พบกับผู้ควบคุมขั้นที่ 9 เลย
นี่ไม่ต้องพูดถึงระดับพันเท่า แม้แต่ระดับสิบเท่าเขาก็ยังไม่เจอสักคน จนกระทั่งวันหนึ่ง จางหยูกำลังจะเดินทางไปยังโลกขั้น 9 ที่ใกล้ที่สุด ตอนนั้นเองก็มีผู้ควบคุมขั้น 9 ระดับสิบเท่าเข้ามาหาเขา
“ แมนด้า คำนับเจ้าสำนัก !” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา
จางหยูหยุดและมองไปที่แมนด้า “ ผู้ควบคุมขั้น 9 ของเขตตะวันตกตอนบนรึ ?”
แมนด้าพูดขึ้น “ ตะวันตก ไม่ใช่ตะวันตกตอนบน ในเขตตะวันตกไม่มีการแบ่งแยก”
“ ข้าเข้าใจผิดเอง ” เมื่อเข้ามาในเขตของผู้อื่น เขาก็ต้องเคารพความคิดของอีกฝ่าย จางหยูได้ถามขึ้นมา “ เจ้ามาหาข้าทำไมกัน ?”
แมนด้าพูดขึ้น “ ข้าได้ยินมากว่าเจ้าสำนักได้มายังเขตตะวันตก ในฐานะผู้บ่มเพาะของเขตตะวันตกแล้ว ข้าจึงอยากมาพบท่าน ข้าอยู่ใกล้พอดี ดังนั้นข้าจึงรีบมา ส่วนคนอื่นๆก็กำลังเดินทางมา ”
จางหยูแปลกจใจ “ มาพบข้ารึ ? มาพบทำไมกัน ? ”
“ เรื่องที่เจ้าสำนักจัดการกับโจวทงนั้นได้เผยแพร่ไปทั่วแล้ว พวกคนที่อยู่ระดับเดียวกับท่านก็ไม่อาจจะเทียบได้ เกรงว่าท่านคงห่างระดับหมื่นอยู่ไม่ไกล ” แมนด้าพูดขึ้น “การที่ท่านมายังเขตตะวันตกของเรานั้น เราก็ควรจะรีบมาแนะนำตัวเอง”
หากจางหยูเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นระดับสิบเท่ารึร้อยเท่า ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 เหล่านี้ก็คงไม่สนใจ แต่ความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นน่ากลัวเกินไป แม้แต่โจวทงก็ยังโดนกำจัดได้ !
แม้ว่าโจวทงจะเป็นยอดฝีมือที่หลบซ่อนตัวจากโลก แต่ก็มีหลายคนที่รู้จักเขา โกลาหลนี้ใหญ่โต มันต้องมีคนรู้จักเขาอยู่แล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่เขาโดนจางหยูฆ่าไป เรื่องตัวตนและระดับของโจวทงก็ถูกเผยแพร่ออกมาและทำให้คนอื่นๆรู้จัก โจวทงดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นส่วนที่สำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งที่จางหยูมี ความแข็งแกร่งของจางหยูต่างก็ทำให้ทุกคนต้องตะลึง การเดินทางของเขานั้นทำให้คนในหลายพื้นที่ต่างก็พากันกังวล
เมื่อได้ยินมาว่าเจ้าสำนักที่น่ากลัวมายังเขตตะวันตก ผู้ควบคุมขั้น 9 ในเขตตะวันตกต่างก็พากันลนลานและกลัวว่าจะทำให้จางหยูไม่พอใจจนจางหยูเปิดฉากฆ่าคนในเขตนี้ แมนด้ารู้ว่าจางหยูกำลังมาที่นี่และมุ่งหน้ามาทางที่เขาพำนักอยู่ เขาก็ลนลานและรีบมาหาจางหยูทันที เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายไม่พอใจเขา
ในสายตาของคนเหล่านี้แล้วจางหยูคือราชาปิศาจ เขาเหมือนกับราชาปิศาจในอดีตที่เข่นฆ่าผู้คน
ไม่ว่าเขาจะผ่านไปที่ไหนก็จะได้รับความสนใจและความตึงเครียดที่ปกคลุมจิตใจของผู้คน
ทุกการเคลื่อนไหวของเขานั้นมีความหมาย มันเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของหลายคน
แม้ว่าภายนอกแมนด้าจะแสดงท่าทีเยือก ความแข็งแกร่งของจางหยูต่างก็ทำให้ทุกคนต้องตะลึง การเดินทางของเขานั้นทำให้คนในหลายพื้นที่ต่างก็พากันกังวล
เมื่อได้ยินมาว่าเจ้าสำนักที่น่ากลัวมายังเขตตะวันตก ผู้ควบคุมขั้น 9 ในเขตตะวันตกต่างก็พากันลนลานและกลัวว่าจะทำให้จางหยูไม่พอใจจนจางหยูเปิดฉากฆ่าคนในเขตนี้ แมนด้ารู้ว่าจางหยูกำลังมาที่นี่และมุ่งหน้ามาทางที่เขาพำนักอยู่ เขาก็ลนลานและรีบมาหาจางหยูทันที เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายไม่พอใจเขา
ในสายตาของคนเหล่านี้แล้วจางหยูคือราชาปิศาจ เขาเหมือนกับราชาปิศาจในอดีตที่เข่นฆ่าผู้คน
ไม่ว่าเขาจะผ่านไปที่ไหนก็จะได้รับความสนใจและความตึงเครียดที่ปกคลุมจิตใจของผู้คน
ทุกการเคลื่อนไหวของเขานั้นมีความหมาย มันเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของหลายคน
แม้ว่าภายนอกแมนด้าจะแสดงท่าทีเยือกเย็น แต่ในใจกลับกังวลอย่างมาก เขากลัวว่าหากใช้คำพูดไม่เหมาะแล้วจางหยู จะฆ่าเขา แต่ถึงกลัวเขาก็ต้องมาพบกับจางหยู เพราะกลัวว่าจางหยูจะใช้ข้ออ้างที่เขาไม่มาต้อนรับและฆ่าเขาทิ้ง
“ ข้าแค่มาตามหาคนในเขตนี้ ข้าไม่ได้อยากที่จะสร้างปัญหาให้กับเจ้า” จางหยูโบกมือ เขาไม่คิดว่าท่าทีที่แปลกประหลาดของแมนด้านี้จะมาจากการตายของโจวทง เขามองไปที่แมนด้าแล้วถามขึ้นมา “ เมื่อเจ้าเป็นคนของเขตตะวันตก งั้นเจ้าก็น่าจะรู้จักผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ในเขตตะวันตกสินะ ?”