ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1741 : เหตุผล
“ นี่…” แมนด้าลังเลขึ้นมาและพูดขึ้น “ ข้าขอโทษด้วย ข้าไม่แน่ใจสถานกาณ์ของผู้ควบคุมขั้น 9 ในเขตตะวันตก”
จางหยูถามด้วยความแปลกใจ “ ทำไมกัน ?”
แมนด้าตอบกลับ “ มีผู้ควบคุมขั้นที่ 9 หลายคนที่พากันเก็บตัว คนในเขตตะวันตกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ข้ารู้จักแค่ไม่กี่คน และส่วนมากอยู่ระดับ 10 เท่า สำหรับพวกระดับร้อยรึพันเท่านั้นข้าไม่รู้ว่าจะมียอดฝีมือแบบนั้นในเขตตะวันตกรึไม่ ข้าไม่รู้ด้วยว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ”
“ เจ้าเคยได้ยินเรื่องไมโลรึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา
แมนด้าลังเลแต่ก็ยังพยักหน้า “ ข้าเคยได้ยินบางคนบอกว่าเขาคือจ้าวแห่งเขตตะวันตก แต่ไม่มีใครเคยเห็นเขา หลายคนคิดว่าจ้าวแห่งเขตตะวันตกนั้นไม่มีอยู่จริง” แม้แต่ในเขตตะวันตก ไมโลก็เป็นแค่ตำนาน บางทีอาจจะมีคนเคยเห็นเขาแต่ในสายตาของผู้คนมากมายแล้วเขาไม่มีตัวตน
จางหยูผิดหวังขึ้นมา เขาไม่คิดว่าแมนด้าจะไม่รู้อะไรเลย ดูเหมือนว่าการจะหาตัวไมโลนั้นจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ แต่จางหยูก็ไม่ได้แปลกใจนัก ยังไงซะ แมนด้าก็อยู่ระดับสิบเท่า หากคนระดับพันเท่าไม่คิดจะปรากฏตัวให้เขาพบ งั้นเขาก็ไม่มีทางที่จะพบอีกฝ่ายได้
“ เอาล่ะ เจ้าไปได้” จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “ แน่นอนว่าหากเจ้าเจอเบาะแส เจ้าก็มาหาข้าได้ ตราบใดที่เจ้าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ข้าก็มีรางวัลตอบแทน ” ด้วยฐานะของจางหยูตอนนี้แล้ว เขามีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนี้
แม้ว่าจางหยูจะยังไม่ได้ขึ้นไประดับหมื่นเท่าแต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้แล้วเขาถือว่าไม่ได้เป็นรองใคร
แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาแต่ก็ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเขา
แมนด้าไม่รู้ว่าทำไมจางหยูถึงตามหาคนระดับพันเท่า เขารู้สึกกังวลและถามขึ้นมา “ ด้วยความเคารพ เจ้าสำนักตามหาคนระดับพันเท่าไปทำไมกัน ?”
“ กลัวข้าฆ่าพวกเขารึ ?” จางหยูหัวเราะออกมา “ สบายใจได้ ข้ามาที่นี่เพื่อเรียนรู้จากยอดฝีมือ ข้าไม่ได้คิดร้ายอะไร เจ้าน่าจะได้ยินเรื่องโจวทงและเหมิงเกอที่โดนข้าฆ่ามาสินะ ? ข้าบอกได้ว่าที่ข้าฆ่าพวกนั้นไปใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เหมิงเกอนั้นหาเรื่องข้าก่อน เขาอยากกำจัดสัตว์เลี้ยงของข้า สุดท้ายก็โดนสัตว์เลี้ยงของข้าฆ่าทิ้ง สำหรับโจวทงแล้ว เขาอยากจะแก้แค้นให้กับศิษย์ แต่โชคร้ายที่ตายด้วยน้ำมือของข้าไป ”
จางหยูไม่จำเป็นต้องอธิบายมากแบบนี้ก็ได้ ไม่มีใครเป็นภัยต่อเขาได้แต่เขาต้องอยู่ในเขตตะวันตกอีกนาน เขาต้องอธิบายและบอกความจริง เพื่อไม่ให้คนอื่นๆกลัวเขา นอกจากนี้เขาไม่อยากทำให้บรรยากาศที่นี่ตึงเครียดนัก เมื่อได้มาอยู่ในความเงียบสงบนี้ก็ทำให้เขาผ่อนคลายและลืมปัญหาได้
“ อย่างนี้นี่เอง “ เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู แมนด้าก็โล่งอก “ งั้นการตายของเหมิงเกอและโจวทงนั้นก็เป็นพวกเขาที่ผิดเอง ”
เขาไม่สงสัยคำพูดของจางหยู ด้วยความแข็งแกร่งของจางหยูแล้วมันไม่จำเป็นต้องโกหกเขา
คนที่สามารถกำจัดคนที่อยู่ระดับพันเท่านั้นจะมาโกหกคนระดับสิบเท่าทำไมกัน ?
“ ข้าแปลกใจที่เจ้าพูดเช่นนี้” จางหยูพูดขึ้น “เหมิงเกอกับข้าไม่ได้มีอะไรผิดใจกันแต่ไม่คิดเลยว่าเขาต้องการจะฆ่าสัตว์เลี้ยงของข้า เขาถึงกับคิดฆ่าข้าด้วย…” เขามองไปที่แมนด้าแล้วพูดขึ้น “ เจ้ารู้จักกับเหมิงเกอรึ? ทำไมเจ้าถึงรู้จักกับเขากัน ? ”
แมนด้าพูดขึ้น “ข้าไม่เคยเจอกับเหมิงเกอมาก่อนและไม่เคยได้ยินเรื่องราวของเขา แต่หลังจากที่เหมิงเกอกับโจวทงตายไป ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับพวกเขาแพร่กระจายไปทั่ว และหนึ่งในข่าวลือนั้นอาจจะเป็นเหตุผลที่เขาคิดร้ายกับท่านก็ได้ ”
“ เจ้าลองบอกมา ” จางหยูพูดขึ้น
“ เหมิงเกอแอบชอบแม่นางหงอี” แมนด้ามองไปที่จางหยูและพูดขึ้น “ เมื่อก่อนเหมิงเกอชอบแม่นางหงอีอย่างมาก แต่ในตอนนั้นตงมู่หลินยังมีชีวิตอยู่ เหมิงเกอน่ะกลัวตงมู่หลิน หลังจากที่ตงมู่หลินตายไป เหมิงเกอก็เริ่มไล่ตามหงอีและคิดจะบังคับใจนาง ผลลัพธ์นั้นไม่ใช่แค่ล้มเหลว แต่ยังถูกนางรังเกียจ “ แมนด้าหยุดไปชั่วครู่และพูดขึ้นมา “ ตอนที่เจ้าสำนักถูกหยุดไว้ที่หน้าสุสานราชาตะวันตก แล้วหงอีปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อช่วยท่าน มันอาจจะทำให้เหมิงเกออิจฉา..”
จางหยูไม่คิดว่าต้นเหตุจะเกี่ยวข้องกับหงอี
แค่เพราะหงอีมาช่วยเขา เหมิงเกอก็อิจฉาจนคิดจะฆ่าเขาเลยรึ ?
น่าสับสนจริงๆ ! “ เจ้าสำนักคงไม่รู้หงอีน่ะถือตัว นางบอกว่าทั้งชีวิตก็ไม่คิดจะแต่งงาน นางจะแต่งงานกับวีรบุรุษเท่านั้น ! ไม่งั้นแล้วนางขออยู่เพียงลำพังจะดีกว่า! ” แมนด้าพูดขึ้น “ หงอีขึ้นมาขั้น 9 มานาน นางไม่คิดสนใจใครและปฏิเสธทุกคน แม้แต่ตงมู่หลิน นางก็ไม่สนใจ คนที่ใกล้ชิดกับนางมีแค่ไม่กี่คนแต่ก็เป็นแค่สหายและคนที่หนุนหลังนาง…”
จางหยูไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้ ผู้หญิงคนนั้นน่ะเย็นชา การที่นางสนใจคนระดับสูงนั้นก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
“ หงอีไม่เคยเสนอตัวช่วยเหลือใครโดยเฉพาะหลังจากที่โดนคำสาปจากตงมู่หลิน นางดูเย็นชายิ่งกว่าเก่า เหมิงเกอน่ะไล่ตามนางมานาน ข้ากลัวว่าเขาคงไม่พอใจ..” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แมนด้าก็มองไปที่จางหยู เมื่อเห็นว่าจางหยูยังเฉยเมยอยู่ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “ เจ้าสำนักเป็นคนแรกที่หงอีมาช่วย มันทำให้ผู้ควบคุมขั้น 9 ที่ชอบหงอีหลายคนต้องอิจฉา ที่สำคัญกว่านั้นคือหลังจากที่หงอีหายตัวไปแล้ว นางได้กลับไปที่ทางใต้ก่อนจะประกาศต่อโลกภายนอกว่าห้ามให้ใครมาสร้างปัญหากับเจ้าสำนักและสำนักคังเฉียง ไม่งั้นแล้วจะถือว่าเป็นศัตรูกับนาง”
นี่แหละต้นเหตุ !
“ นางพูดแบบนั้นจริงๆรึ ? ทำไมนางถึงได้ทำเช่นนั้น ? ” จางหยูถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
“ การที่เจ้าสำนักจะได้สมบัติของราชาตะวันออกมานั้นจาเบ็ธได้บอกเรื่องนี้กับทุกคน เขาถึงกับพูดถึงตราราชาตะวันออก, คัมภีร์ลึกลับและของอื่นๆ เขาบอกว่าตราบใดที่ได้สมบัติเหล่านั้นมาก็มีโอกาสที่จะได้เป็นราชาตะวันออกคนต่อไป ” แมนด้าอธิบาย “ แม้ว่าหลายคนจะไม่เชื่อและคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกแต่ก็มีหลายคนที่โง่และต้องการแย่งชิงสมบัติพวกนั้นมา หงอีได้ยินเรื่องนี้จึงได้ประกาศเช่นนั้นออกไป”
จางหยูกระจ่างทันที “ หากเจ้าไม่พูด ข้าคงไม่รู้ว่าหงอีช่วยข้าไว้อีกแล้ว” หงอีไม่ได้แข็งแกร่งแต่อำนาจของนางน่ะไม่ได้น้อย คำพูดของนางเกรงว่าคงยากที่จะมีคนมองข้าม
“ อาจจะเพราะเรื่องนี้ เหมิงเกอจึงเกลียดท่านอย่างมาก..” แมนด้าก้มหน้าและพูดขึ้น “ แต่เขาไม่คิดว่าเจ้าสำนักจะแกร่งได้ถึงขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ตัวเขา แม้แต่อาจารย์ของเขาก็ยังไม่อาจจะเป็นคู่มือของท่านได้”
เรื่องจิตปฐมบทโกลาหลนั้นเป็นแค่ข้ออ้าง เป้าหมายที่แท้จริงคือเหมิงเกอน่ะไม่พอใจจางหยู
หากไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจว่าจะฆ่าจางหยูได้ งั้นเขาคงไม่เลือกเป้าหมายเป็นเสี่ยวเสีย แต่เป็นจางหยูแทน
แน่นอนเหมิงเกอไม่คิดจะชิงเอาสมบัติของราชาตะวันออกไป เพราะอำนาจของหงอีน่ะยิ่งใหญ่ เขาอาจจะต้านทานไม่ได้
ความจริงของเรื่องนี้เหมิงเกอรนหาที่ตาย
“ ดูเหมือนว่าได้เวลาเดินทางไปเขตใต้แล้ว” จางหยูตัดสินใจ “ หงอีช่วยข้าไว้ ไม่งั้นแล้วผู้ควบคุมขั้น 9 ที่อยากลงมือกับโลกป่านั้นคงสร้างปัญหาขึ้นมาอย่างมาก” ต้องรู้ก่อนว่าจางหยูเพิ่งจะขึ้นมาขั้น 9 ระดับ 10 เท่า หากกลุ่มผู้ควบคุมขั้น 9 เข้ามาหาเรื่องเขาและบังคับให้เขาส่งสมบัติให้ งั้นเขาก็ไม่อาจจะต้านทานอะไรได้เลย
เป็นหงอีที่ซื้อเวลาให้เขาเติบโต มันทำให้เขาพัฒนาตัวเองได้อย่างปลอดภัยจนสามารถกำจัดโจวทงไปได้ !
นางช่วยเขาไว้ไม่ใช่น้อย !