ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1772 : ต้นไม้โกลาหล
ในเขตหวงห้ามนั้นเมื่อจางลู่ได้ถอยห่างออกจากบอลโลหิต อันตรายที่เขารับรู้ก็ลดลงเรี่อยๆ
แม้จะสงสัยว่ามันคืออะไร แต่ภารกิจของจางลู่ในตอนนี้ก็คือตามหาตัวเนี่ยเวิ่น
“ เนี่ยเวิ่น ! ”
“ เนี่ยเวิ่น !”
“ เนี่ยเวิ่น…”
จางลู่ตามหามานานจนสุดท้ายก็ต้องขมวดคิ้ว เสียงของเขาดังก้องไปทั่วเขตหวงห้าม
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว เสียงของเขาเพียงพอที่จะดังไปทั่วหลายเขตย่อย
จางลู่รู้สึกแปลกใจ เขาเพิ่งจะตะโกนเรียกชื่อเนี่ยเวิ่น ตอนนั้นเองกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหูของเขา “ ท่านพ่อ ท่านมาช่วยข้าแล้ว ! ” ข้างกายจางลู่นั้นมีร่างโปร่งใสค่อยๆปรากฏตัวขึ้นมา ร่างนี้ราวกับเงา
“ เจ้าเปลี่ยนไปแบบนี้ได้ยังไง ?” จางลู่ถามขึ้นมาด้วยความสับสน
“ ข้าเองก็ไม่รู้ เมื่ออยู่ที่นี่ไปนานๆ ร่างของข้าก็ค่อยๆโปร่งใสไป…”
เขาเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา “ พ่อบุญธรรม ช่วยข้าออกไปด้วย หากข้าไม่อาจจะออกจากที่นี่ได้ ข้าคงได้หายไปจริงๆ ”
“ ข้าจะพยายาม ” จางลู่พยายามควบคุมพลังโกลาหลเพื่อเอาตัวเนี่ยเวิ่นออกจากที่นี่
แต่แปลก เนี่ยเวิ่นเหมือนกับอยู่อีกมิติ พลังโกลาหลไม่อาจจะส่งผลต่อเขาได้เลย
เนี่ยเวิ่นลนลานขึ้นมา “ เกิดอะไรขึ้นกัน…”
จางลู่แสดงสีหน้าหนักใจออกมา เขาพยายามจับแขนเนี่ยเวิ่นเอาไว้ แต่มือของเขากลับทะลุแขนของเนี่ยเวิ่นไป ราวกับทะลุอากาศ “ จบสิ้นแล้ว !” เนี่ยเวิ่นลนลานยิ่งกว่าเก่า “ พ่อบุญธรรม ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย !”
จางลู่เงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้น “ ข้าขอโทษด้วย ข้าไม่อาจจะช่วยเจ้าได้ ”
สถานะของเนี่ยเวิ่นในตอนนี้พิเศษเกินไป พิเศษกว่าจิตโกลาหล ร่างกายของเขาได้หายไป แม้แต่จิตผู้สร้างก็ยังหายไปด้วย จางลู่ไม่อาจจะรับรู้จิตของอีกฝ่ายได้
“ ไม่ ไม่ ท่านพ่อ ท่านต้องล้อข้าเล่นสินะ ?” เนี่ยเวิ่นถามขึ้นมาด้วยความสิ้นหวัง
การที่อารมณ์เขาสั่นไหวก็ทำให้ร่างกายเขาโปร่งใสยิ่งกว่าเก่าราวกับว่าจะหายไปจริงๆ
ก่อนที่จางลู่จะได้พูดต่อ ก็เกิดเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดกับเนี่ยเวิ่น
ร่างของเนี่ยเวิ่นเริ่มบิดเบี้ยวพร้อมด้วยเสียงร้องอันน่ากลัว ร่างโปร่งใสขยายตัวออกกลายเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มันแผ่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันแผ่ออกไปแทบทั่วทั้งเขตหวงห้าม มันดูน่าตกใจอย่างมาก
ต้นไม้โปร่งใสนี้แผ่พลังโกลาหลออกมา เพราะการปรากฎตัวของมันทำให้พลังหนาแน่นยิ่งกว่าเดิมและเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่า
ใจกลางต้นไม้นั้นมีต้นอ่อนเล็กๆ ต้นไม้ใหญ่นี้ราวกับภาพฉายของต้นอ่อน
ต้นอ่อนนั้นดูแปลกประหลาดอย่างมาก มันมีพลังคล้ายคลึงกับพลังโกลาหล มันไม่ได้มีร่างกายแต่กลับมีจิตของตัวเอง
“ ข้ากลายเป็นต้นอ่อนได้ยังไง ?” เนี่ยเวิ่นถามขึ้นมาด้วยความสับสนและลนลาน
เขาพยายามควบคุมร่างกายตัวเองแต่กลับทำให้ต้นไม้ใหญ่นั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ต้นอ่อนสั่นไหวอยู่ไม่กี่ครั้ง ใบไม้สองอันสั่นไหวราวกับมันส่ายแขน “ จบสิ้นแล้ว ข้าได้กลายเป็นต้นไม้จริงๆ ”
ประเด็นคือเขากลับร่างเดิมไม่ได้
พูดโดยทั่วไปแล้ว หากสามารถขึ้นมาถึงขอบเขตเทพได้ ก็จะสามารถเปลี่ยนร่างได้อย่างง่ายดาย ขอบเขตเทพนั้นแข็งแกร่งกว่าผู้ควบคุมนับหมื่นเท่า สามารถเปลี่ยนร่างได้ตามที่ต้องการ แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นต้นไม้ก็สามารถเปลี่ยนร่างกลับมาเป็นมนุษย์ได้ตามใจ แต่เนี่ยเวิ่นไม่อาจจะทำได้ เขาราวกับโดนผูกมัดด้วยพลังบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถทำให้กลับร่างเดิมได้
“ ไม่ต้องกังวล มันอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ ” จางลู่พูดขึ้นมา
สภาพก่อนหน้านี้ของเนี่ยเวิ่นนั้นแปลกประหลาด จางลู่ไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของเนี่ยเวิ่นได้ แต่เมื่อเนี่ยเวิ่นกลายเป็นต้นอ่อน จางลู่กลับรับรู้ถึงเขาได้
เขาพยายามใช้มือเข้าไปจับแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าจับต้องต้นอ่อนนี้ได้
“ เช่นนี้ข้าก็พาเจ้าออกไปจากที่นี่ได้ ” จางลู่รีบพาเนี่ยเวิ่นออกมาจากเขตหวงห้าม
เนี่ยเวิ่นยังไม่ทันได้สติก็รับรู้ได้ว่าเขาได้ออกจากพลังที่กักขังเขาไว้ สายตาของเขาพร่ามัวก่อนที่เขาจะกลับมาที่สำนักคังเฉียง “ กลับมาแล้วรึ ?” เนี่ยเวิ่นตัวสั่นเล็กน้อยราวกับไม่คิดว่านี่คือความจริง
“ เจ้ารอที่นี่ก่อน ” จางลู่พูดจบก็หายตัวไป
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจคนที่หน้าตาคล้ายกับจางลู่ก็มาถึง มันไม่อาจจะบอกถึงความแตกต่างได้เลย
คนที่มานี้คือจางหยู
เขามองไปที่ต้นอ่อนตรงหน้าแล้วพูดขึ้น “ ต้นอ่อนอีกแล้ว…” เขาคิ้วขมวด “ แปลก มันเหมือนกับ…ต้นบรรพกาล ”
“ พ่อบุญธรรม ” เมื่ออกมาจากเขตหวงห้ามได้ เนี่ยเวิ่นก็ไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่คิด เขากลับเกิดปมในใจราวกับว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆขึ้น เขากดดันอย่างมากและร้องไห้ออกมา “ ท่านช่วยข้าเปลี่ยนร่างกลับไปแบบเดิมที ข้าไม่อยากเป็นต้นไม้ ! ”
จางหยูพยายามปลอบเนี่ยเวิ่น แต่ก็ไม่สำเร็จ “ ข้าไม่อาจจะทำอะไรได้ ” จางหยูพูดขึ้น “ เจ้าต่างหากที่น่าจะทำได้ ตอนที่ออกมาจากเขตหวงห้ามนั้นเจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยรึ ?”
“ นี่…” เนี่ยเวิ่นกลัวจนไม่กล้าจะพูดออกมา
“ พูดมา ”
“ ข้าไม่รู้ว่าทำไมเมื่อออกมาจากเขตหวงห้าม ข้าถึงรู้สึกลนลานราวกับปลาที่ออกจากน้ำ…มันอธิบายยาก “ เนี่ยเวิ่นไม่กล้าจะปิดบัง เขาสงสัยว่าเขาคงคิดไปเองรึไม่ก็โดนขังไว้ที่นั่นนานจนจิตใจมีปัญหา เมื่อออกมาจากที่นั่นเขาก็รู้สึกใจหาย
จางหยูคิดตาม “ อย่าขยับ ข้าจะพาเจ้าไปยังที่แห่งหนึ่ง ”
จางหยูสร้างรูหนอนขึ้นมาก่อนจะพาเนี่ยเวิ่นไปยังบรรพกาล
ต่อมา จางหยูและเนี่ยเวิ่นก็มาอยู่ตรงหน้าต้นบรรพกาล
จางหยูยังไม่ทันได้พูด ต้นบรรพกาลก็ระเบิดแสงออกมา ทั้งบรรพกาลได้แผ่พลังบรรพกาลออกมาหลายเท่า ต้นบรรพกาลที่เหมือนกำลังจะตายกลับเหมือนมีพลังชีวิตฉีดเข้าไป
เนี่ยเวิ่นได้สลายไปกลายเป็นควันแต่ไม่ได้เข้าไปในต้นบรรพกาล
หลังจากที่พาเนี่ยเวิ่นมาที่นั่น ต้นบรรพกาลก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ส่องแสงหลากสีออกมา มันถึงกับมีดอกไม้ระหว่างก้านกับใบของมันด้วย มันแผ่พลังผันผวนออกมา
“ ข้าจำได้แล้ว ” เสียงของเนี่ยเวิ่นดังขึ้น “ ข้าคือต้นไม้โกลาหล ”
คำพูดนี้ทำให้จางหยูสับสน เขาไม่คิดมาก่อนว่าเนี่ยเวิ่นกับต้นบรรพกาลจะรวมร่างกันได้และปลุกความทรงจำขึ้นมา เขาได้เปลี่ยนเป็นต้นไม้ลึกลับ
“ อะไรคือต้นไม้โกลาหล ? “ จางหยูถามขึ้นมา
“ ต้นไม้โกลาหลคือต้นกำเนิดของชีวิตเป็นสิ่งมีชีวิตแรกสุดที่กำเนิดขึ้นมา ” เนี่ยเวิ่นราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน เขาไม่ได้ลนลาน แต่กลับใจเย็น “นายท่านได้สร้างโกลาหลขึ้นมา โกลาหลให้กำเนิดข้า ข้าคือสิ่งมีชีวิตแรก จากนั้นสิ่งมีชีวิตที่เหลือก็กำเนิดขึ้นมาในร่างข้า ”
สิ่งที่เขาเรียกว่าร่างคงเป็นต้นไม้โกลาหล
“ จ้าวโกลาหลมีอยู่จริงๆ !” จางหยูไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย
เขามองไปที่ต้นไม้ที่เติบโตและถามขึ้นมา “ ทำไมเจ้าถึงกลับมาเกิดใหม่ ? มีความลับอะไรอยู่ในสุสาน ? สิ่งที่เรียกว่าสวรรค์นั้นหมายถึงจ้าวโกลาหลรึ ? จ้าวโกลาหลตายไปแล้วจริงๆรึ ?” เขามีคำถามมากมายในหัวที่อยากจะได้คำตอบ
“ ข้าไม่รู้ ” เนี่ยเวิ่นรึต้นไม้ตอบกลับ “ ข้าไม่รู้ถึงตัวตนสุสาน ข้าไม่รู้ว่าสวรรค์ที่เจ้าพูดถึงหมายถึงอะไร ข้ารู้แค่ว่าวันหนึ่งนายท่านได้รับบาดเจ็บหนักและส่งข้ากลับมาเกิดใหม่ หลังจากนั้นข้าก็ไม่รู้อะไรเลย” จางหยูคิ้วขมวด เขาคิดว่าต้นไม้โกลาหลจะได้รับผลกระทบจากการตายของเจ้านายถึงได้กลับมาเกิดใหม่ แต่ไม่คิดเลยว่าต้นไม้โกลาหลนี้จะถูกส่งมาก่อนที่เจ้านายจะตาย มันไม่รู้จักสุสานสวรรค์ด้วยซ้ำ
“ งั้นทำไมเจ้าถึงมองว่าข้าเป็นพ่อบุญธรรมของเจ้า ?” จางหยูคิดถึงนิสัยแปลกๆของเนี่ยเวิ่น ดูเหมือนว่าความจริงไม่น่าจะเรียบง่ายแบบที่เขาเคยคิดเอาไว้
“ คงเป็นเพราะกลิ่นอายบนตัวเจ้าคล้ายกับนายท่านของข้า มันทำให้ข้ารู้สึกคุ้นเคย” เสียงของต้นไม้โกลาหลดังขึ้นมา
แม้จะสงสัยว่ามันคืออะไร แต่ภารกิจของจางลู่ในตอนนี้ก็คือตามหาตัวเนี่ยเวิ่น
“ เนี่ยเวิ่น ! ”
“ เนี่ยเวิ่น !”
“ เนี่ยเวิ่น…”
จางลู่ตามหามานานจนสุดท้ายก็ต้องขมวดคิ้ว เสียงของเขาดังก้องไปทั่วเขตหวงห้าม
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว เสียงของเขาเพียงพอที่จะดังไปทั่วหลายเขตย่อย
จางลู่รู้สึกแปลกใจ เขาเพิ่งจะตะโกนเรียกชื่อเนี่ยเวิ่น ตอนนั้นเองกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหูของเขา “ ท่านพ่อ ท่านมาช่วยข้าแล้ว ! ” ข้างกายจางลู่นั้นมีร่างโปร่งใสค่อยๆปรากฏตัวขึ้นมา ร่างนี้ราวกับเงา
“ เจ้าเปลี่ยนไปแบบนี้ได้ยังไง ?” จางลู่ถามขึ้นมาด้วยความสับสน
“ ข้าเองก็ไม่รู้ เมื่ออยู่ที่นี่ไปนานๆ ร่างของข้าก็ค่อยๆโปร่งใสไป…”
เขาเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา “ พ่อบุญธรรม ช่วยข้าออกไปด้วย หากข้าไม่อาจจะออกจากที่นี่ได้ ข้าคงได้หายไปจริงๆ ”
“ ข้าจะพยายาม ” จางลู่พยายามควบคุมพลังโกลาหลเพื่อเอาตัวเนี่ยเวิ่นออกจากที่นี่
แต่แปลก เนี่ยเวิ่นเหมือนกับอยู่อีกมิติ พลังโกลาหลไม่อาจจะส่งผลต่อเขาได้เลย
เนี่ยเวิ่นลนลานขึ้นมา “ เกิดอะไรขึ้นกัน…”
จางลู่แสดงสีหน้าหนักใจออกมา เขาพยายามจับแขนเนี่ยเวิ่นเอาไว้ แต่มือของเขากลับทะลุแขนของเนี่ยเวิ่นไป ราวกับทะลุอากาศ “ จบสิ้นแล้ว !” เนี่ยเวิ่นลนลานยิ่งกว่าเก่า “ พ่อบุญธรรม ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย !”
จางลู่เงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้น “ ข้าขอโทษด้วย ข้าไม่อาจจะช่วยเจ้าได้ ”
สถานะของเนี่ยเวิ่นในตอนนี้พิเศษเกินไป พิเศษกว่าจิตโกลาหล ร่างกายของเขาได้หายไป แม้แต่จิตผู้สร้างก็ยังหายไปด้วย จางลู่ไม่อาจจะรับรู้จิตของอีกฝ่ายได้
“ ไม่ ไม่ ท่านพ่อ ท่านต้องล้อข้าเล่นสินะ ?” เนี่ยเวิ่นถามขึ้นมาด้วยความสิ้นหวัง
การที่อารมณ์เขาสั่นไหวก็ทำให้ร่างกายเขาโปร่งใสยิ่งกว่าเก่าราวกับว่าจะหายไปจริงๆ
ก่อนที่จางลู่จะได้พูดต่อ ก็เกิดเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดกับเนี่ยเวิ่น
ร่างของเนี่ยเวิ่นเริ่มบิดเบี้ยวพร้อมด้วยเสียงร้องอันน่ากลัว ร่างโปร่งใสขยายตัวออกกลายเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มันแผ่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันแผ่ออกไปแทบทั่วทั้งเขตหวงห้าม มันดูน่าตกใจอย่างมาก
ต้นไม้โปร่งใสนี้แผ่พลังโกลาหลออกมา เพราะการปรากฎตัวของมันทำให้พลังหนาแน่นยิ่งกว่าเดิมและเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่า
ใจกลางต้นไม้นั้นมีต้นอ่อนเล็กๆ ต้นไม้ใหญ่นี้ราวกับภาพฉายของต้นอ่อน
ต้นอ่อนนั้นดูแปลกประหลาดอย่างมาก มันมีพลังคล้ายคลึงกับพลังโกลาหล มันไม่ได้มีร่างกายแต่กลับมีจิตของตัวเอง
“ ข้ากลายเป็นต้นอ่อนได้ยังไง ?” เนี่ยเวิ่นถามขึ้นมาด้วยความสับสนและลนลาน
เขาพยายามควบคุมร่างกายตัวเองแต่กลับทำให้ต้นไม้ใหญ่นั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ต้นอ่อนสั่นไหวอยู่ไม่กี่ครั้ง ใบไม้สองอันสั่นไหวราวกับมันส่ายแขน “ จบสิ้นแล้ว ข้าได้กลายเป็นต้นไม้จริงๆ ”
ประเด็นคือเขากลับร่างเดิมไม่ได้
พูดโดยทั่วไปแล้ว หากสามารถขึ้นมาถึงขอบเขตเทพได้ ก็จะสามารถเปลี่ยนร่างได้อย่างง่ายดาย ขอบเขตเทพนั้นแข็งแกร่งกว่าผู้ควบคุมนับหมื่นเท่า สามารถเปลี่ยนร่างได้ตามที่ต้องการ แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นต้นไม้ก็สามารถเปลี่ยนร่างกลับมาเป็นมนุษย์ได้ตามใจ แต่เนี่ยเวิ่นไม่อาจจะทำได้ เขาราวกับโดนผูกมัดด้วยพลังบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถทำให้กลับร่างเดิมได้
“ ไม่ต้องกังวล มันอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ ” จางลู่พูดขึ้นมา
สภาพก่อนหน้านี้ของเนี่ยเวิ่นนั้นแปลกประหลาด จางลู่ไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของเนี่ยเวิ่นได้ แต่เมื่อเนี่ยเวิ่นกลายเป็นต้นอ่อน จางลู่กลับรับรู้ถึงเขาได้
เขาพยายามใช้มือเข้าไปจับแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าจับต้องต้นอ่อนนี้ได้
“ เช่นนี้ข้าก็พาเจ้าออกไปจากที่นี่ได้ ” จางลู่รีบพาเนี่ยเวิ่นออกมาจากเขตหวงห้าม
เนี่ยเวิ่นยังไม่ทันได้สติก็รับรู้ได้ว่าเขาได้ออกจากพลังที่กักขังเขาไว้ สายตาของเขาพร่ามัวก่อนที่เขาจะกลับมาที่สำนักคังเฉียง “ กลับมาแล้วรึ ?” เนี่ยเวิ่นตัวสั่นเล็กน้อยราวกับไม่คิดว่านี่คือความจริง
“ เจ้ารอที่นี่ก่อน ” จางลู่พูดจบก็หายตัวไป
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจคนที่หน้าตาคล้ายกับจางลู่ก็มาถึง มันไม่อาจจะบอกถึงความแตกต่างได้เลย
คนที่มานี้คือจางหยู
เขามองไปที่ต้นอ่อนตรงหน้าแล้วพูดขึ้น “ ต้นอ่อนอีกแล้ว…” เขาคิ้วขมวด “ แปลก มันเหมือนกับ…ต้นบรรพกาล ”
“ พ่อบุญธรรม ” เมื่ออกมาจากเขตหวงห้ามได้ เนี่ยเวิ่นก็ไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่คิด เขากลับเกิดปมในใจราวกับว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆขึ้น เขากดดันอย่างมากและร้องไห้ออกมา “ ท่านช่วยข้าเปลี่ยนร่างกลับไปแบบเดิมที ข้าไม่อยากเป็นต้นไม้ ! ”
จางหยูพยายามปลอบเนี่ยเวิ่น แต่ก็ไม่สำเร็จ “ ข้าไม่อาจจะทำอะไรได้ ” จางหยูพูดขึ้น “ เจ้าต่างหากที่น่าจะทำได้ ตอนที่ออกมาจากเขตหวงห้ามนั้นเจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยรึ ?”
“ นี่…” เนี่ยเวิ่นกลัวจนไม่กล้าจะพูดออกมา
“ พูดมา ”
“ ข้าไม่รู้ว่าทำไมเมื่อออกมาจากเขตหวงห้าม ข้าถึงรู้สึกลนลานราวกับปลาที่ออกจากน้ำ…มันอธิบายยาก “ เนี่ยเวิ่นไม่กล้าจะปิดบัง เขาสงสัยว่าเขาคงคิดไปเองรึไม่ก็โดนขังไว้ที่นั่นนานจนจิตใจมีปัญหา เมื่อออกมาจากที่นั่นเขาก็รู้สึกใจหาย
จางหยูคิดตาม “ อย่าขยับ ข้าจะพาเจ้าไปยังที่แห่งหนึ่ง ”
จางหยูสร้างรูหนอนขึ้นมาก่อนจะพาเนี่ยเวิ่นไปยังบรรพกาล
ต่อมา จางหยูและเนี่ยเวิ่นก็มาอยู่ตรงหน้าต้นบรรพกาล
จางหยูยังไม่ทันได้พูด ต้นบรรพกาลก็ระเบิดแสงออกมา ทั้งบรรพกาลได้แผ่พลังบรรพกาลออกมาหลายเท่า ต้นบรรพกาลที่เหมือนกำลังจะตายกลับเหมือนมีพลังชีวิตฉีดเข้าไป
เนี่ยเวิ่นได้สลายไปกลายเป็นควันแต่ไม่ได้เข้าไปในต้นบรรพกาล
หลังจากที่พาเนี่ยเวิ่นมาที่นั่น ต้นบรรพกาลก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ส่องแสงหลากสีออกมา มันถึงกับมีดอกไม้ระหว่างก้านกับใบของมันด้วย มันแผ่พลังผันผวนออกมา
“ ข้าจำได้แล้ว ” เสียงของเนี่ยเวิ่นดังขึ้น “ ข้าคือต้นไม้โกลาหล ”
คำพูดนี้ทำให้จางหยูสับสน เขาไม่คิดมาก่อนว่าเนี่ยเวิ่นกับต้นบรรพกาลจะรวมร่างกันได้และปลุกความทรงจำขึ้นมา เขาได้เปลี่ยนเป็นต้นไม้ลึกลับ
“ อะไรคือต้นไม้โกลาหล ? “ จางหยูถามขึ้นมา
“ ต้นไม้โกลาหลคือต้นกำเนิดของชีวิตเป็นสิ่งมีชีวิตแรกสุดที่กำเนิดขึ้นมา ” เนี่ยเวิ่นราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน เขาไม่ได้ลนลาน แต่กลับใจเย็น “นายท่านได้สร้างโกลาหลขึ้นมา โกลาหลให้กำเนิดข้า ข้าคือสิ่งมีชีวิตแรก จากนั้นสิ่งมีชีวิตที่เหลือก็กำเนิดขึ้นมาในร่างข้า ”
สิ่งที่เขาเรียกว่าร่างคงเป็นต้นไม้โกลาหล
“ จ้าวโกลาหลมีอยู่จริงๆ !” จางหยูไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย
เขามองไปที่ต้นไม้ที่เติบโตและถามขึ้นมา “ ทำไมเจ้าถึงกลับมาเกิดใหม่ ? มีความลับอะไรอยู่ในสุสาน ? สิ่งที่เรียกว่าสวรรค์นั้นหมายถึงจ้าวโกลาหลรึ ? จ้าวโกลาหลตายไปแล้วจริงๆรึ ?” เขามีคำถามมากมายในหัวที่อยากจะได้คำตอบ
“ ข้าไม่รู้ ” เนี่ยเวิ่นรึต้นไม้ตอบกลับ “ ข้าไม่รู้ถึงตัวตนสุสาน ข้าไม่รู้ว่าสวรรค์ที่เจ้าพูดถึงหมายถึงอะไร ข้ารู้แค่ว่าวันหนึ่งนายท่านได้รับบาดเจ็บหนักและส่งข้ากลับมาเกิดใหม่ หลังจากนั้นข้าก็ไม่รู้อะไรเลย” จางหยูคิ้วขมวด เขาคิดว่าต้นไม้โกลาหลจะได้รับผลกระทบจากการตายของเจ้านายถึงได้กลับมาเกิดใหม่ แต่ไม่คิดเลยว่าต้นไม้โกลาหลนี้จะถูกส่งมาก่อนที่เจ้านายจะตาย มันไม่รู้จักสุสานสวรรค์ด้วยซ้ำ
“ งั้นทำไมเจ้าถึงมองว่าข้าเป็นพ่อบุญธรรมของเจ้า ?” จางหยูคิดถึงนิสัยแปลกๆของเนี่ยเวิ่น ดูเหมือนว่าความจริงไม่น่าจะเรียบง่ายแบบที่เขาเคยคิดเอาไว้
“ คงเป็นเพราะกลิ่นอายบนตัวเจ้าคล้ายกับนายท่านของข้า มันทำให้ข้ารู้สึกคุ้นเคย” เสียงของต้นไม้โกลาหลดังขึ้นมา