ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1787 : คำโกหก
จางลู่ไม่ได้กลัวจิตสวรรค์เลยแม้แต่น้อย เขาทำราวกับว่าไม่สนใจเรื่อความเป็นความตาย
“ เจ้าคิดว่าตัวเองคือผู้กอบกู้รึไง ?” สายตาของจิตสวรรค์เย็นชาขึ้นมาพร้อมน้ำเสียงเยาะเย้ย “ ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะสูงส่งตรงไหน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางลู่ก็ยังพูดขึ้นด้วยท่าทีเยือกเย็น “ ข้าไม่ใช่คนสูงส่ง ข้าไม่สนใจจะเป็นผู้กอบกู้…แต่ว่าหากข้ามีความสามารถมากพอ แน่นอนว่าข้าต้องยื่นเข้ามามือช่วย”
สรุปแล้วเขาไม่เชื่อคำพูดของจิตสวรรค์ทั้งหมด
สิ่งที่จิตสวรรค์พูดมาใครจะไปรู้ว่ามันจริงรึไม่ ?
จ้าวโกลาหลจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้จริงรึไม่ ? ลานแห่งวิวรณ์ไม่จำเป็นต้องเสียสละทั้งโกลาหลจริงรึเปล่า ?
มันมีอะไรมายืนยันได้ ?
จิตสวรรค์บอกว่ากฎวิวรณ์ที่ดัดแปลงขึ้นมา มีแค่การเสียสละทั้งโกลาหลเท่านั้นที่จะทำให้มันสำเร็จได้ แต่ใครจะไปพิสูจน์ได้ว่ากฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์นั้นไม่จำเป็นต้องเสียสละทั้งโกลาหลจริงๆ ? ใครกันจะรับรองได้ว่ากฎวิวรณ์ของจิตสวรรค์จะป้องกันไม่ให้โกลาหลโดนทำลายได้ ?
อะไรก็เกิดขึ้นได้จนกว่าจะเห็นผลลัพธ์
จางลู่ไม่อยากฝากความหวังไว้กับคนอื่น เขาไม่อยากรับความเสี่ยง ดังนั้นเขาจึงต้องทำมันด้วยตัวเอง
เขาไม่เชื่อใจจิตสวรรค์หรือบรรพชนกระดูก
แม้ตอนนี้จะดูเหมือนว่าจิตสวรรค์ทำเรื่องที่ถูกต้อง แต่ในเมื่อจางลู่มีทางเลือกที่ดีกว่า ทำไมไม่เลือกทางที่ตัวเองควบคุมได้ ?
“ สุดท้ายเจ้าก็ไม่เชื่อข้า” จิตสวรรค์พูดขึ้นมาด้วยความผิดหวัง “ ข้าพูดชัดเจนไปหมดแล้วแต่เจ้าก็ยังไม่เชื่อข้า !”
“ หากเปลี่ยนเป็นเจ้าแล้ว เจ้าจะเชื่อคนแค่คำพูดรึไง ?” จางลู่ถามขึ้นมา
“ ข้าน่ะไม่เหมือนคนอื่น !” จิตสวรรค์พูดขึ้น “ ข้าคือร่างแยกของเขา ! เจ้ากับข้าเป็นคนประเภทเดียวกัน !”
“ ใครจะไปรู้ได้ ?” จางลู่ยักไหล่ “ แม้ว่าเจ้าจะเป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหลจริงๆแต่ใครจะรับรองได้ว่าร่างแยกของจ้าวโกลาหลจะไม่โกหก ?”
จิตสวรรค์ไม่พอใจขึ้นมา “ เจ้ามั่นใจรึว่าจะหยุดข้า ?”
จางลู่แค่พูดขึ้น “ อันที่จริงข้าไม่ได้ตั้งใจจะหยุดเจ้า แต่ว่า…เจ้าน่ะใจร้อนเกินไปเลยรีบร้อนพิสูจน์ตัวเอง จนเผยพิรุธออกมาเอง”
จิตสวรรค์เบิกตากว้าง “ เจ้าหมายความว่ายังไง ข้าไม่เข้าใจ”
“ เจ้าบอกว่ากฎสวรรค์ที่ถูกดัดแปลงจะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่มากกว่า นั่นก็คือการสละทั้งโกลาหลเพื่อสร้างโกลาหลแห่งใหม่” จางลู่พูดขึ้นโดยไม่ลังเล “ และเจ้าที่มีจิตของจ้าวโกลาหลได้สร้างสุสานสวรรค์และลานแห่งวิวรณ์ขึ้นมา เมื่อรวมกับกฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์แล้ว เจ้าจะชุบชีวิตจ้าวโกลาหลขึ้นมาได้ในการจ่ายที่น้อยกว่า มองตอนแรกก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก”
“ แล้วข้าพูดผิดตรงไหนกัน ?”
“ เจ้าพูดผิด เจ้าพูดถึงแต่ข้อเสียของทักษะแบบดัดแปลง เจ้าอยากจะพิสูจน์ตัวเองเกินไปว่าเจ้าเป็นฝ่ายถูก” จางลู่ส่ายหน้า “ เจ้าโยนความผิดให้กับบรรพชนกระดูกอย่างเดียวจนลืมมองดูตัวเจ้าเอง”
“ ยังไง ?”
“ เจ้าในฐานะร่างแยกของจ้าวโกลาหลที่มีกฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์แล้ว ยังต้องอาศัยจิตของจ้าวโกลาหลเป็นรากฐาน เพื่อสร้างสุสานสวรรค์และลานแห่งวิวรณ์ขึ้นมา จากนั้นเจ้าก็หลอกล่อผู้คนมาฆ่าและควบคุมผู้ควบคุมขั้นที่9 ให้เสียสละพลังสร้างของตัวเอง..” จางลู่มองไปที่จิตสวรรค์ด้วยสายตามั่นใจ “ แต่เมื่อพูดถึงบรรพชนกระดูก กลับกลายเป็นว่าแค่ร่วมมือกับกลุ่มราชาก็สามารถสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาได้สำเร็จ โดยที่ไม่ต้องใช้ชีวิตใคร หรือว่ากฎวิวรณ์ที่เขามีเหนือกว่าของเจ้ารึ ? หรือว่าความแข็งแกร่งของบรรพชนกระดูกนั้นเพียงพอที่จะกลบช่องว่างนั้นได้?”
เมื่อเห็นจิตสวรรค์เงียบไป จางลู่ก็หัวเราะออกมา “ หากบรรพชนกระดูกแข็งแกร่งขนาดนั้น ทำไมเขาต้องร่วมมือกับราชาคนอื่นด้วย ? เขาสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาคนเดียวไม่ดีกว่ารึ ?”
เงื่อนไขการสร้างสุสานสวรรค์ : จิตผู้สร้างของจ้าวโกลาหลที่ล่วงลับ, จิตสวรรค์และกฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์อีกทั้งการตายของยอดฝีมือนับไม่ถ้วน
เงื่อนไขการสร้างโกลาหลนภา : ไห่อู่เซิง,กฎวิวรณ์แบบดัดแปลงและกลุ่มราชา
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วก็เห็นช่องโหว่อย่างชัดเจน
ตามเงื่อนไขของบรรพชนกระดูกแล้ว หากจิตสวรรค์ไม่ได้โกหก งั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่บรรพชนกระดูกจะสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาได้ !
เขาไม่มีพลังขนาดนั้น !
“ เจ้าอยากจะบอกถึงความทะเยอทะยานของเขา อยากจะป้ายความผิดให้เขาด้วยเหตุผลมากมายเพื่อพิสูจน์ว่าเขาน่ะอยากขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล และจะสละทั้งโกลาหล “ จางลู่ผายมือออก “ หากทุกอย่างเป็นจริงตามที่เจ้าพูดมา งั้นบรรพชนกระดูกก็ไม่อาจจะสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาได้…มันไม่ขัดแย้งกันรึไง ?”
เมื่อพูดถึงจุดนี้จางลู่ก็ส่ายหน้า “ คำพูดของเจ้านั้นดูดีแต่ไม่มีเหตุผลรับรอง แค่คิดเล็กน้อยก็พบปัญหาแล้ว”
นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่จางลู่คิดจะหยุดจิตสวรรค์ หากจิตสวรรค์พูดความจริง ถ้ามันต้องการจะชุบชีวิตจ้าวโกลาหลขึ้นมาโดยไม่เสียสละทั้งโกลาหล งั้นเป็นธรรมดาที่จางลู่จะไม่คิดห้าม แม้ว่ามันจะโหดร้ายไปบ้างแต่ผลลัพธ์นี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว
แต่จิตสวรรค์นั้นโกหก !
“ วูบบบ…” จิตสังหารรอบตัวของจิตสวรรค์ได้หายไป มันได้ชมออกมา “ ข้าคิดว่าข้าแต่งเรื่องมาดีแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าช่องโหว่เล็กๆนี่เจ้าจะมองออก สมกับเป็นร่างแยกของเขา”
จางลู่ไม่ได้สนใจคำชมนี้ การโกหกคืออย่างหนึ่งที่เขาเชี่ยวชาญ
ชัดแล้วว่าจิตสวรรค์นั้นโกหกไม่เก่งเท่ากับเขา ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญอย่างเขาแล้ว การจะหลอกเขานั้นไม่เท่ากับว่าดูถูกเขารึไง ?
“ ชมเกินไปแล้ว” จางลู่แสดงท่าทีเฉยเมย เขาเหมือนจะมองคำโกหกของจิตสวรรค์ออกทั้งหมด “ ข้าแค่สงสัยว่าตัวตนที่แท้จริงของเจ้าเป็นใครกัน ทำไมเจ้าต้องโกหกข้า ?”
จิตสวรรค์พูดขึ้นมา “ ตัวตนของข้าน่ะคือร่างแยกของจ้าวโกลาหล ส่วนที่ข้าหลอกเจ้ามีแค่กฎวิวรณ์ อันที่จริงแล้วกฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์อยู่ในมือของไห่อู่เซิง กฎที่ข้ามีคือแบบดัดแปลง สำหรับเหตุผลแล้วข้าไม่คิดจะอธิบายให้เจ้าฟัง”
“ ไม่คิดจะอธิบายรึ ? เจ้าแต่งเรื่องไม่ได้สินะ ? “ จางลู่หัวเราะออกมา
“ เจ้าจะคิดแบบนั้นก็ได้” จิตสวรรค์ไม่ได้ใส่ใจ “ แต่มีอย่างหนึ่งที่ข้าไม่ได้โกหก เพื่อจะขึ้นไปขอบเขตจ้าวโกลาหล ไห่อู่เซิงจะต้องเสียสละทั้งโกลาหล หากไม่มีโกลาหลคอยสนับสนุนแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสร้างโกลาหลแห่งใหม่ขึ้นมา ยังไงซะกฎวิวรณ์ก็คือแก่นแท้ที่มีแต่จ้าวโกลาหลจะใช้ได้”
“ เจ้ายังใส่ร้ายเขาอีกรึ ?” จางลู่ยักคิ้ว
“ ความจริงดังกว่าคำพูด “ จิตสวรรค์พูดขึ้น “ รอจนกว่าโกลาหลนภาจะพัฒนาไปถึงจุดหนึ่งแล้วเจ้าจะรู้เองว่าไห่อู่เซิงเลือกจะทำยังไง”
จางลู่พูดขึ้นมา “ แล้วเจ้าล่ะ ? อย่าบอกข้านะว่าเจ้าจะฟื้นคืนชีพจ้าวโกลาหลขึ้นมาได้ด้วยลานแห่งวิวรณ์แห่งนี้เพียงลำพัง”
สิ่งที่จิตสวรรค์พูดมานั้นจางลู่เชื่อแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
“ ข้ารึ ? หากข้าบอกว่าข้าจะสละทุกอย่าง เจ้าจะเชื่อข้ารึไม่ ? ” เสียงของจิตสวรรค์เหมือนจะพูดเล่น
“ข้าเชื่อ” จางลู่ตอบกลับโดยไม่ลังเล
“ ยินดีด้วย เจ้าคิดถูก” จิตสวรรค์พูดขึ้น “ เพื่อจะฟื้นคืนชีพร่างหลักแล้ว ถึงจะสละทั้งโกลาหลแต่ก็คุ้มค่า ข้าตั้งใจจะทำเช่นนั้น” มันไม่ได้ปิดบังความคิดอีกต่อไป “ แต่ข้าต่างจากไห่อู่เซิง เขาทำเพื่อที่ตัวเองจะได้ก้าวขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล ส่วนข้าทำเพื่อฟื้นคืนชีพร่างหลัก หากไห่อู่เซิงขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล งั้นโกลาหลก็จะตายไปจริงๆ แต่หากข้าฟื้นคืนชีพร่างหลักขึ้นมาได้ เขาอาจจะหาทางฟื้นฟูโกลาหลขึ้นมา ยังไงซะร่างหลักก็เข้าใจในโกลาหลดีที่สุด นี่คือความแตกต่างระหว่างข้ากับไห่อู่เซิง”
จิตสวรรค์มองไปที่จางลู่แล้วพูดต่อ “ ข้าไม่อาจจะรับรองได้ว่าหลังจากที่ฟื้นคืนชีพร่างหลักขึ้นมาแล้ว เขาจะสร้างโกลาหลขึ้นมาใหม่รึไม่ แต่ข้ามั่นใจได้ว่าหากไห่อู่เซิงขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลแล้ว โกลาหลแห่งนี้ก็คงไม่สร้างขึ้นใหม่แน่”
จางลู่มองไปที่จิตสวรรค์ เขาพยายามมองให้ออกว่าจิตสวรรค์โกหกรึไม่
แต่โชคร้ายที่จิตสวรรค์เหมือนได้รับบทเรียนแล้ว ครั้งนี้มันไม่ได้บอกข้อมูลมาทั้งหมด มันไม่ได้บอกข้อมูลพิเศษ แม้แต่จางลู่ก็ไม่อาจจจะบอกได้ว่าครั้งนี้มันพูดความจริงรึไม่
“ รับมือกับพวกสัตว์ประหลาดเฒ่านี่เหนื่อยจริงๆ” จางลู่กุมขมับ “ ข้าขี้เกียจจะเดาแล้วว่าเจ้าโกหกรึไม่ ยังไงซะการเสียสละนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะเห็นด้วย”
“ เจ้าคิดว่าตัวเองคือผู้กอบกู้รึไง ?” สายตาของจิตสวรรค์เย็นชาขึ้นมาพร้อมน้ำเสียงเยาะเย้ย “ ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะสูงส่งตรงไหน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางลู่ก็ยังพูดขึ้นด้วยท่าทีเยือกเย็น “ ข้าไม่ใช่คนสูงส่ง ข้าไม่สนใจจะเป็นผู้กอบกู้…แต่ว่าหากข้ามีความสามารถมากพอ แน่นอนว่าข้าต้องยื่นเข้ามามือช่วย”
สรุปแล้วเขาไม่เชื่อคำพูดของจิตสวรรค์ทั้งหมด
สิ่งที่จิตสวรรค์พูดมาใครจะไปรู้ว่ามันจริงรึไม่ ?
จ้าวโกลาหลจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้จริงรึไม่ ? ลานแห่งวิวรณ์ไม่จำเป็นต้องเสียสละทั้งโกลาหลจริงรึเปล่า ?
มันมีอะไรมายืนยันได้ ?
จิตสวรรค์บอกว่ากฎวิวรณ์ที่ดัดแปลงขึ้นมา มีแค่การเสียสละทั้งโกลาหลเท่านั้นที่จะทำให้มันสำเร็จได้ แต่ใครจะไปพิสูจน์ได้ว่ากฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์นั้นไม่จำเป็นต้องเสียสละทั้งโกลาหลจริงๆ ? ใครกันจะรับรองได้ว่ากฎวิวรณ์ของจิตสวรรค์จะป้องกันไม่ให้โกลาหลโดนทำลายได้ ?
อะไรก็เกิดขึ้นได้จนกว่าจะเห็นผลลัพธ์
จางลู่ไม่อยากฝากความหวังไว้กับคนอื่น เขาไม่อยากรับความเสี่ยง ดังนั้นเขาจึงต้องทำมันด้วยตัวเอง
เขาไม่เชื่อใจจิตสวรรค์หรือบรรพชนกระดูก
แม้ตอนนี้จะดูเหมือนว่าจิตสวรรค์ทำเรื่องที่ถูกต้อง แต่ในเมื่อจางลู่มีทางเลือกที่ดีกว่า ทำไมไม่เลือกทางที่ตัวเองควบคุมได้ ?
“ สุดท้ายเจ้าก็ไม่เชื่อข้า” จิตสวรรค์พูดขึ้นมาด้วยความผิดหวัง “ ข้าพูดชัดเจนไปหมดแล้วแต่เจ้าก็ยังไม่เชื่อข้า !”
“ หากเปลี่ยนเป็นเจ้าแล้ว เจ้าจะเชื่อคนแค่คำพูดรึไง ?” จางลู่ถามขึ้นมา
“ ข้าน่ะไม่เหมือนคนอื่น !” จิตสวรรค์พูดขึ้น “ ข้าคือร่างแยกของเขา ! เจ้ากับข้าเป็นคนประเภทเดียวกัน !”
“ ใครจะไปรู้ได้ ?” จางลู่ยักไหล่ “ แม้ว่าเจ้าจะเป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหลจริงๆแต่ใครจะรับรองได้ว่าร่างแยกของจ้าวโกลาหลจะไม่โกหก ?”
จิตสวรรค์ไม่พอใจขึ้นมา “ เจ้ามั่นใจรึว่าจะหยุดข้า ?”
จางลู่แค่พูดขึ้น “ อันที่จริงข้าไม่ได้ตั้งใจจะหยุดเจ้า แต่ว่า…เจ้าน่ะใจร้อนเกินไปเลยรีบร้อนพิสูจน์ตัวเอง จนเผยพิรุธออกมาเอง”
จิตสวรรค์เบิกตากว้าง “ เจ้าหมายความว่ายังไง ข้าไม่เข้าใจ”
“ เจ้าบอกว่ากฎสวรรค์ที่ถูกดัดแปลงจะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่มากกว่า นั่นก็คือการสละทั้งโกลาหลเพื่อสร้างโกลาหลแห่งใหม่” จางลู่พูดขึ้นโดยไม่ลังเล “ และเจ้าที่มีจิตของจ้าวโกลาหลได้สร้างสุสานสวรรค์และลานแห่งวิวรณ์ขึ้นมา เมื่อรวมกับกฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์แล้ว เจ้าจะชุบชีวิตจ้าวโกลาหลขึ้นมาได้ในการจ่ายที่น้อยกว่า มองตอนแรกก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก”
“ แล้วข้าพูดผิดตรงไหนกัน ?”
“ เจ้าพูดผิด เจ้าพูดถึงแต่ข้อเสียของทักษะแบบดัดแปลง เจ้าอยากจะพิสูจน์ตัวเองเกินไปว่าเจ้าเป็นฝ่ายถูก” จางลู่ส่ายหน้า “ เจ้าโยนความผิดให้กับบรรพชนกระดูกอย่างเดียวจนลืมมองดูตัวเจ้าเอง”
“ ยังไง ?”
“ เจ้าในฐานะร่างแยกของจ้าวโกลาหลที่มีกฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์แล้ว ยังต้องอาศัยจิตของจ้าวโกลาหลเป็นรากฐาน เพื่อสร้างสุสานสวรรค์และลานแห่งวิวรณ์ขึ้นมา จากนั้นเจ้าก็หลอกล่อผู้คนมาฆ่าและควบคุมผู้ควบคุมขั้นที่9 ให้เสียสละพลังสร้างของตัวเอง..” จางลู่มองไปที่จิตสวรรค์ด้วยสายตามั่นใจ “ แต่เมื่อพูดถึงบรรพชนกระดูก กลับกลายเป็นว่าแค่ร่วมมือกับกลุ่มราชาก็สามารถสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาได้สำเร็จ โดยที่ไม่ต้องใช้ชีวิตใคร หรือว่ากฎวิวรณ์ที่เขามีเหนือกว่าของเจ้ารึ ? หรือว่าความแข็งแกร่งของบรรพชนกระดูกนั้นเพียงพอที่จะกลบช่องว่างนั้นได้?”
เมื่อเห็นจิตสวรรค์เงียบไป จางลู่ก็หัวเราะออกมา “ หากบรรพชนกระดูกแข็งแกร่งขนาดนั้น ทำไมเขาต้องร่วมมือกับราชาคนอื่นด้วย ? เขาสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาคนเดียวไม่ดีกว่ารึ ?”
เงื่อนไขการสร้างสุสานสวรรค์ : จิตผู้สร้างของจ้าวโกลาหลที่ล่วงลับ, จิตสวรรค์และกฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์อีกทั้งการตายของยอดฝีมือนับไม่ถ้วน
เงื่อนไขการสร้างโกลาหลนภา : ไห่อู่เซิง,กฎวิวรณ์แบบดัดแปลงและกลุ่มราชา
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วก็เห็นช่องโหว่อย่างชัดเจน
ตามเงื่อนไขของบรรพชนกระดูกแล้ว หากจิตสวรรค์ไม่ได้โกหก งั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่บรรพชนกระดูกจะสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาได้ !
เขาไม่มีพลังขนาดนั้น !
“ เจ้าอยากจะบอกถึงความทะเยอทะยานของเขา อยากจะป้ายความผิดให้เขาด้วยเหตุผลมากมายเพื่อพิสูจน์ว่าเขาน่ะอยากขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล และจะสละทั้งโกลาหล “ จางลู่ผายมือออก “ หากทุกอย่างเป็นจริงตามที่เจ้าพูดมา งั้นบรรพชนกระดูกก็ไม่อาจจะสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาได้…มันไม่ขัดแย้งกันรึไง ?”
เมื่อพูดถึงจุดนี้จางลู่ก็ส่ายหน้า “ คำพูดของเจ้านั้นดูดีแต่ไม่มีเหตุผลรับรอง แค่คิดเล็กน้อยก็พบปัญหาแล้ว”
นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่จางลู่คิดจะหยุดจิตสวรรค์ หากจิตสวรรค์พูดความจริง ถ้ามันต้องการจะชุบชีวิตจ้าวโกลาหลขึ้นมาโดยไม่เสียสละทั้งโกลาหล งั้นเป็นธรรมดาที่จางลู่จะไม่คิดห้าม แม้ว่ามันจะโหดร้ายไปบ้างแต่ผลลัพธ์นี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว
แต่จิตสวรรค์นั้นโกหก !
“ วูบบบ…” จิตสังหารรอบตัวของจิตสวรรค์ได้หายไป มันได้ชมออกมา “ ข้าคิดว่าข้าแต่งเรื่องมาดีแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าช่องโหว่เล็กๆนี่เจ้าจะมองออก สมกับเป็นร่างแยกของเขา”
จางลู่ไม่ได้สนใจคำชมนี้ การโกหกคืออย่างหนึ่งที่เขาเชี่ยวชาญ
ชัดแล้วว่าจิตสวรรค์นั้นโกหกไม่เก่งเท่ากับเขา ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญอย่างเขาแล้ว การจะหลอกเขานั้นไม่เท่ากับว่าดูถูกเขารึไง ?
“ ชมเกินไปแล้ว” จางลู่แสดงท่าทีเฉยเมย เขาเหมือนจะมองคำโกหกของจิตสวรรค์ออกทั้งหมด “ ข้าแค่สงสัยว่าตัวตนที่แท้จริงของเจ้าเป็นใครกัน ทำไมเจ้าต้องโกหกข้า ?”
จิตสวรรค์พูดขึ้นมา “ ตัวตนของข้าน่ะคือร่างแยกของจ้าวโกลาหล ส่วนที่ข้าหลอกเจ้ามีแค่กฎวิวรณ์ อันที่จริงแล้วกฎวิวรณ์ที่สมบูรณ์อยู่ในมือของไห่อู่เซิง กฎที่ข้ามีคือแบบดัดแปลง สำหรับเหตุผลแล้วข้าไม่คิดจะอธิบายให้เจ้าฟัง”
“ ไม่คิดจะอธิบายรึ ? เจ้าแต่งเรื่องไม่ได้สินะ ? “ จางลู่หัวเราะออกมา
“ เจ้าจะคิดแบบนั้นก็ได้” จิตสวรรค์ไม่ได้ใส่ใจ “ แต่มีอย่างหนึ่งที่ข้าไม่ได้โกหก เพื่อจะขึ้นไปขอบเขตจ้าวโกลาหล ไห่อู่เซิงจะต้องเสียสละทั้งโกลาหล หากไม่มีโกลาหลคอยสนับสนุนแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสร้างโกลาหลแห่งใหม่ขึ้นมา ยังไงซะกฎวิวรณ์ก็คือแก่นแท้ที่มีแต่จ้าวโกลาหลจะใช้ได้”
“ เจ้ายังใส่ร้ายเขาอีกรึ ?” จางลู่ยักคิ้ว
“ ความจริงดังกว่าคำพูด “ จิตสวรรค์พูดขึ้น “ รอจนกว่าโกลาหลนภาจะพัฒนาไปถึงจุดหนึ่งแล้วเจ้าจะรู้เองว่าไห่อู่เซิงเลือกจะทำยังไง”
จางลู่พูดขึ้นมา “ แล้วเจ้าล่ะ ? อย่าบอกข้านะว่าเจ้าจะฟื้นคืนชีพจ้าวโกลาหลขึ้นมาได้ด้วยลานแห่งวิวรณ์แห่งนี้เพียงลำพัง”
สิ่งที่จิตสวรรค์พูดมานั้นจางลู่เชื่อแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
“ ข้ารึ ? หากข้าบอกว่าข้าจะสละทุกอย่าง เจ้าจะเชื่อข้ารึไม่ ? ” เสียงของจิตสวรรค์เหมือนจะพูดเล่น
“ข้าเชื่อ” จางลู่ตอบกลับโดยไม่ลังเล
“ ยินดีด้วย เจ้าคิดถูก” จิตสวรรค์พูดขึ้น “ เพื่อจะฟื้นคืนชีพร่างหลักแล้ว ถึงจะสละทั้งโกลาหลแต่ก็คุ้มค่า ข้าตั้งใจจะทำเช่นนั้น” มันไม่ได้ปิดบังความคิดอีกต่อไป “ แต่ข้าต่างจากไห่อู่เซิง เขาทำเพื่อที่ตัวเองจะได้ก้าวขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล ส่วนข้าทำเพื่อฟื้นคืนชีพร่างหลัก หากไห่อู่เซิงขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล งั้นโกลาหลก็จะตายไปจริงๆ แต่หากข้าฟื้นคืนชีพร่างหลักขึ้นมาได้ เขาอาจจะหาทางฟื้นฟูโกลาหลขึ้นมา ยังไงซะร่างหลักก็เข้าใจในโกลาหลดีที่สุด นี่คือความแตกต่างระหว่างข้ากับไห่อู่เซิง”
จิตสวรรค์มองไปที่จางลู่แล้วพูดต่อ “ ข้าไม่อาจจะรับรองได้ว่าหลังจากที่ฟื้นคืนชีพร่างหลักขึ้นมาแล้ว เขาจะสร้างโกลาหลขึ้นมาใหม่รึไม่ แต่ข้ามั่นใจได้ว่าหากไห่อู่เซิงขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลแล้ว โกลาหลแห่งนี้ก็คงไม่สร้างขึ้นใหม่แน่”
จางลู่มองไปที่จิตสวรรค์ เขาพยายามมองให้ออกว่าจิตสวรรค์โกหกรึไม่
แต่โชคร้ายที่จิตสวรรค์เหมือนได้รับบทเรียนแล้ว ครั้งนี้มันไม่ได้บอกข้อมูลมาทั้งหมด มันไม่ได้บอกข้อมูลพิเศษ แม้แต่จางลู่ก็ไม่อาจจจะบอกได้ว่าครั้งนี้มันพูดความจริงรึไม่
“ รับมือกับพวกสัตว์ประหลาดเฒ่านี่เหนื่อยจริงๆ” จางลู่กุมขมับ “ ข้าขี้เกียจจะเดาแล้วว่าเจ้าโกหกรึไม่ ยังไงซะการเสียสละนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะเห็นด้วย”