ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1788 : แข็งนอกอ่อนใน
แม้จะยังบอกไม่ได้ว่าประโยคไหนจริงรึปลอม แต่สัญชาตญาณของจางหยูก็บอกเขาว่าจิตสวรรค์นั้นจะต้องปกปิดข้อมูลจำนวนมากเอาไว้ คำพูดที่จิตสวรรค์พูดออกมานั้นมันเชื่อได้แค่ไม่กี่คำ
จิตสวรรค์เป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหล? จิตสวรรค์ต้องการกระตุ้นลานแห่งวิวรณ์ขึ้นมาเพื่อชุบชีวิตจ้าวโกลาหล? ทุกอย่างล้วนดูน่าสงสัยทั้งสิ้น แต่จิตสวรรค์ไม่น่าจะโกหกทั้งหมด เพียงแค่ว่าจางหยูบอกไม่ได้ว่าส่วนไหนที่เป็นความจริงบ้าง
นี่คือความฉลาดของจิตสวรรค์ เขาใช้ทั้งความจริงและความเท็จมารวมกัน แม้แต่จางหยูที่เก่งในด้านนี้ก็แทบจะโดนหลอกไปด้วย
“ การเสียสละนั้นต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว แม้ว่าข้าจะไม่ทำแต่ไห่อู่เซิงก็ต้องทำ เจ้าไม่อาจจะหยุดได้” จิตสวรรค์พูดขึ้น
จางลู่ยักคิ้ว “ หากไม่ลองแล้วใครจะไปรู้ ?”
“ เจ้ามั่นใจรึว่าจะทำแบบนี้จริงๆ ?” เสียงของจิตสวรรค์นั้นเฉยเมย “ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว เจ้าก็น่าจะรู้ว่าร่างหลักของเจ้ากับจ้าวโกลาหลนั้นต่างกันอย่างมาก จนถึงวันที่โกลาหลล่มสลาย ข้าเกรงว่ามันคงยากที่เจ้าจะขึ้นไปถึงระดับนั้นได้….” จิตสวรรค์รอบรู้อย่างมาก แค่มองจางลู่ เขาก็เดาถึงความแข็งแกร่งของจางหยูได้
“ บางทีข้าอาจจะบ่มเพาะได้เร็ว ?” จางลู่พูดขึ้นมา
เขาไม่กล้าบอกเวลาในการบ่มเพาะของจางหยู เพราะกลัวว่าจะทำให้จิตสวรรค์ตกใจ
เสียงของจิตสวรรค์เย็นชาขึ้นมา “ ดูเหมือนเจ้าจะตัดสินใจแล้วว่าจะสู้กับข้า”
“ ทำไม ข้าจะเลือกอะไรได้อีก ?” จางลู่ฮึดฮัดออกมา “ เมื่อหลอกข้าไม่ได้ เจ้าเลยคิดจะจัดการข้าแทนสินะ ?”
จิตสวรรค์ไม่สนใจคำถากถางของจางลู่มันพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “ เจ้าไม่น่าจะมายุ่งเรื่องของข้ากับไห่อู่เซิง หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะทำเป็นไม่รู้และมองอยู่ห่างๆ”
จางลู่ส่ายหน้า “ หากเจ้าต้องการสละทั้งโกลาหล ข้าก็ไม่อาจจะมองข้ามได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจิตสวรรค์ก็ถอนหายใจออกมา “ ข้าบอกเจ้ามากไปจริงๆ แต่เดิมแล้วข้าอยากจะให้เจ้าช่วย แต่ไม่คิดเลยว่ากลับเพิ่มศัตรูให้กับตัวเอง ช่างเถอะ แม้ว่ามันจะยากเกินไปสำหรับข้าที่จะกำจัดไห่อู่เซิงตามลำพัง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้โอกาส เจ้าไปซะ ข้าจะทำเหมือนกับว่าเจ้าไม่เคยมาที่สุสานสวรรค์”
จางลู่แปลกใจ “ เจ้าจะไม่ฆ่าข้ารึ”
“ ฆ่าเจ้าไปจะมีประโยชน์อะไร ?” จิตสวรรค์ถามขึ้นมา “ เจ้าเป็นแค่ร่างแยก ฆ่าเจ้าไปก็ไม่ส่งผลอะไรต่อร่างหลักของเจ้า ตราบใดที่เขาต้องการ เขาก็สามารถสร้างร่างแยกขึ้นมาใหม่ได้ “ ตอนนั้นเองจิตสวรรค์กลับพูดขึ้น “ และข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับเจ้า”
แค่ไห่อู่เซิงยังมีชิตอยู่ก็ทำให้มันปวดหัวมากพอแล้ว หากหาศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่มคงก็ไม่ต้องทำอะไรและได้แต่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้
“ งั้นรึ ?” แน่นอนจางลู่รู้ว่าจิตสวรรค์ไม่ได้ใจดีจนปล่อยเขาไป บางทีเขาอาจจะเดาความคิดของจิตสวรรค์ออก “ ไม่คิดเลยว่าร่างแยกของจ้าวโกลาหลจะกลัวคนอื่นด้วย..”
“ เจ้าไปเถอะ” จิตสวรรค์เหมือนไม่สนใจจะคุยกับจางลู่ต่อ “ข้ากลัวว่าข้าจะเปลี่ยนใจ”
จางลู่ไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย เขามองไปที่จิตสวรรค์แล้วพูดขึ้น “ ข้ามีอีกสองคำถาม ข้าหวังว่าเจ้าจะตอบข้า”
จิตสวรรค์พูดขึ้น “ เจ้าไม่ช่วยข้าแต่คิดจะหยุดข้า แล้วทำไมข้าต้องตอบคำถามของเจ้า ?”
“ มันก็ไม่ผิดหากเจ้าจะไม่ตอบ ข้ามีหน้าที่แค่ถาม” จางลู่ยิ้มออกมา “ คำถามแรกคือจ้าวโกลาหลตายได้ยังไง? คำถามที่สองคือทำไมเจ้าไม่ตายตอนที่ร่างหลักตายไป ?” “ เจ้าฉลาดไม่ใช่รึ ?” จิตสวรรค์เริ่มสนใจขึ้นมา
เมื่อเห็นท่าทีของจิตสวรรค์ จางลู่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร ในเมื่อเขาฉีกหน้าอีกฝ่ายแล้ว จิตสวรรค์ก็ไม่จำเป็นต้องบอกความลับอะไรกับเขาอีก
โชดดีที่เขาไม่ได้คาดหวังอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาแค่ลองถามดู หากจิตสวรรค์ไม่ตอบคำถามเขา จางลู่ก็ไม่ได้ผิดหวัง
“ ก็ได้” จางลู่พูดขึ้น “ เมื่อเจ้าไม่คิดจะพูด งั้นข้าขอตัว ”
เขามองไปที่หุ่นเชิดที่ยืนเรียงแถวอยู่ด้านนอกและเสียดายขึ้นมาที่ไม่อาจจะเอาพวกนี้ไปด้วยได้
เขาไม่มีพลังพอที่จะพาหุ่นเชิดเหล่านี้ไปต่อหน้าจิตสวรรค์
จางลู่ส่ายหน้าและหันหลังกลับก่อนจะเดินเข้าไปในรูหนอนเพื่อกลับไปยังโลกตันเถียน หลังจากที่จางลู่หายตัวไป รูหนอนก็ค่อยๆปิดตัวลงก่อนที่จะหายไป
จนกระทั่งรูหนอนหายไป ร่างของจิตสวรรค์ก็ไม่อาจจะรวมตัวกันได้อีก มันได้กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง จิตสวรรค์ได้กลายเป็นหมอก มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลังจากนั้นสักพักจิตสวรรค์ถึงประคองอาการตัวเองได้ มันตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ ข่มเหงกันเกินไปแล้ว ! ข่มเหงกันเกินไปแล้ว !”
มันไม่กล้าจะลงมือเพราะสภาพของมันในตอนนี้อ่อนแออย่างมาก ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นมันก็แค่เสแสร้ง อันที่จริงแล้วมันอ่อนแอ แม้แต่การควบคุมหุ่นเชิดก็ยังยากลำบากมาก มันแทบจะหมดพลัง
“ ไห่อู่เซิงยังมีชีวิตอยู่ !” เสียงของจิตสวรรค์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น “ สักวันข้าจะฆ่าเจ้า !”
หากไม่ใช่เพราะบาดเจ็บหนัก งั้นทำไมมันต้องหวาดกลัวจางหยูและจางลู่ด้วย ?
แม้ว่าจางหยูจะเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล แต่หากเทียบกับมันตอนที่ยังแข็งแรงอยู่นั้นก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ มันมั่นใจในตัวเอง แม้ว่าจางหยูจะเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล แต่มันก็ยังเอาชนะได้
เมื่อจางลู่ออกจากสุสานไป เขาก็ไม่ได้รู้ถึงสภาพของจิตสวรรค์ หากเขารู้ว่าจิตสวรรค์นั้นอ่อนแออยู่ ทุกอย่างเป็นแค่การแสดง งั้นเขาคงไม่มีทางออกจากสุสานง่ายๆแบบนี้ เขาคงใช้โอกาสนี้เก็บเอาหุ่นเชิดทั้งหมดออกมาด้วย แต่โชคร้ายที่จิตสวรรค์นั้นแสดงได้เก่ง ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นไม่ได้แสดงพิรุธใดๆออกมา แม้แต่จางลู่ก็ยังมองไม่ออก
….
ที่บรรพกาลนอกโลกบรรพกาล
จางหยูและจางลู่ได้ปรากฏตัวขึ้น
“ เจ้าคิดว่าคำพูดของเจ้านั่นเชื่อถือได้รึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา จางลู่ส่ายหน้า “ข้าไม่อาจจะมองออก”
จางหยูถามขึ้นมาอีกครั้ง “ เจ้าคิดว่าเขาคือร่างแยกของจ้าวโกลาหลจริงๆรึ ?”
จางลู่คิดและพูดขึ้น “ ข้าเชื่อว่าเขาต้องเกี่ยวข้องกับจ้าวโกลาหล แต่จะบอกว่าเขาเป็นร่างแยกรึไม่นั้น….มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น “
“ ทำไม ?”
“ เพราะคำอธิบายของเขาฟังดูเกินจริง” จางลู่พูดขึ้น “ แม้ว่าตอนแรกจะฟังดูมีเหตุผลแต่ข้าก็รู้สึกว่ามันดูแปลกๆ เขาย้ำว่าปราณนั้นคือปราณชีวิตไม่ใช่ปราณสุสาน มันทำให้ข้ารู้สึกแปลกๆ เมื่อข้าบอกว่าบรรพชนกระดูกยังมีชีวิตอยู่ เขาก็แสดงท่าทีผิดปกติออกมา”
“ งั้นเขาก็ไม่ใช่ร่างแยกของจ้าวโกลาหลรึ ?”
“ อาจจะไม่เป็นแบบนั้น” จางลู่ลังเลและพูดขึ้นมา “ เขาเจ้าเล่ห์อย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่าเขาพูดอะไรจริงออกมาบ้าง” แม้ว่าจะสงสัยเรื่องตัวตนของจิตสวรรค์แต่จางลู่ก็ไม่ได้มีหลักฐานยืนยัน
“ สุดท้ายเราก็รู้เกี่ยวกับจ้าวโกลาหลแค่เล็กน้อย” จางหยูส่ายหน้า
“ บางทีเจ้าอาจจะถามกับต้นไม้ดูได้” จางลู่เสนอขึ้นมา “ หากจ้าวโกลาหลมีร่างแยกจริงๆ งั้นต้นไม้โกลาหลก็ต้องรู้”
“ ไม่จำเป็นหรอก” จางหยูโบกมือ “ แทนที่จะไปหาต้นไม้โกลาหลเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์นี้ มันจะดีกว่าถ้าไปที่โกลาหลนภาโดยตรง”
จางลู่ถามขึ้นมา “ เจ้าตั้งใจจะไปหาบรรพชนกระดูกรึ ?”
จางหยูยิ้มออกมา “ ไม่ใช่ข้าแต่เป็นเจ้าต่างหาก”
“ เอ่อ..” จางลู่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ ข้าเพิ่งกลับมาจากสุสาน ให้ข้าพักสักหน่อยเถอะ”
“ เจ้ายังไหว” จางหยูลุกขึ้นเดินไปตบไหล่จางลู่ ก่อนจะพูดขึ้น “ จิตสวรรค์และบรรพชนกระดูกนั้นมีแผนอะไรยังเป็นเรื่องไม่แน่อน ข้าไม่อาจจะเสี่ยงได้…”
ชีวิตของจิตสวรรค์มีแค่ชีวิตเดียว เขาไม่อาจจะตายได้ ร่างอื่นอาจจะตายได้แต่มีแค่เขาที่ไม่อาจจะตายได้
“ มันไม่เร็วไปหน่อยรึที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับบรรพชนกระดูก ?” จางลู่กังวลนิดๆ
มันไม่ได้เกี่ยข้องกับจิตสวรรค์เพราะจิตสวรรค์ไม่มีทางออกมาจากสุสานได้ มันไม่อาจจะทำอะไรกับโลกภายนอกได้ แต่บรรพชนกระดูกนั้นต่างกันออกไป เขาสามารถออกจากโกลาหลนภาตอนไหนก็ได้ ความแข็งแกร่งของเขาน่าจะมากกว่าจิตสวรรค์ เมื่อทั้งสองฝ่ายแสดงจุดยืนแล้ว งั้นจางหยูก็กลัวบรรพชนกระดูกมากกว่า ทางเลือกเดียวของเขาคือต้องซ่อนอยู่ในโลกตันเถียน
แต่นั่นจะทำลายภาพลักษณ์ของเจ้าสำนักไปอย่างมาก !
“ แต่มันไม่มีทางอื่นที่จะยื้อเวลาเอาไว้ ! นี่เป็นเรื่องใหญ่ หากมันแย่จริงๆ ข้าจะยอมพาโลกป่าและส่งทุกคนไปยังโลกตันเถียน” จางหยูพูดขึ้น
จิตสวรรค์เป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหล? จิตสวรรค์ต้องการกระตุ้นลานแห่งวิวรณ์ขึ้นมาเพื่อชุบชีวิตจ้าวโกลาหล? ทุกอย่างล้วนดูน่าสงสัยทั้งสิ้น แต่จิตสวรรค์ไม่น่าจะโกหกทั้งหมด เพียงแค่ว่าจางหยูบอกไม่ได้ว่าส่วนไหนที่เป็นความจริงบ้าง
นี่คือความฉลาดของจิตสวรรค์ เขาใช้ทั้งความจริงและความเท็จมารวมกัน แม้แต่จางหยูที่เก่งในด้านนี้ก็แทบจะโดนหลอกไปด้วย
“ การเสียสละนั้นต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว แม้ว่าข้าจะไม่ทำแต่ไห่อู่เซิงก็ต้องทำ เจ้าไม่อาจจะหยุดได้” จิตสวรรค์พูดขึ้น
จางลู่ยักคิ้ว “ หากไม่ลองแล้วใครจะไปรู้ ?”
“ เจ้ามั่นใจรึว่าจะทำแบบนี้จริงๆ ?” เสียงของจิตสวรรค์นั้นเฉยเมย “ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว เจ้าก็น่าจะรู้ว่าร่างหลักของเจ้ากับจ้าวโกลาหลนั้นต่างกันอย่างมาก จนถึงวันที่โกลาหลล่มสลาย ข้าเกรงว่ามันคงยากที่เจ้าจะขึ้นไปถึงระดับนั้นได้….” จิตสวรรค์รอบรู้อย่างมาก แค่มองจางลู่ เขาก็เดาถึงความแข็งแกร่งของจางหยูได้
“ บางทีข้าอาจจะบ่มเพาะได้เร็ว ?” จางลู่พูดขึ้นมา
เขาไม่กล้าบอกเวลาในการบ่มเพาะของจางหยู เพราะกลัวว่าจะทำให้จิตสวรรค์ตกใจ
เสียงของจิตสวรรค์เย็นชาขึ้นมา “ ดูเหมือนเจ้าจะตัดสินใจแล้วว่าจะสู้กับข้า”
“ ทำไม ข้าจะเลือกอะไรได้อีก ?” จางลู่ฮึดฮัดออกมา “ เมื่อหลอกข้าไม่ได้ เจ้าเลยคิดจะจัดการข้าแทนสินะ ?”
จิตสวรรค์ไม่สนใจคำถากถางของจางลู่มันพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “ เจ้าไม่น่าจะมายุ่งเรื่องของข้ากับไห่อู่เซิง หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะทำเป็นไม่รู้และมองอยู่ห่างๆ”
จางลู่ส่ายหน้า “ หากเจ้าต้องการสละทั้งโกลาหล ข้าก็ไม่อาจจะมองข้ามได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจิตสวรรค์ก็ถอนหายใจออกมา “ ข้าบอกเจ้ามากไปจริงๆ แต่เดิมแล้วข้าอยากจะให้เจ้าช่วย แต่ไม่คิดเลยว่ากลับเพิ่มศัตรูให้กับตัวเอง ช่างเถอะ แม้ว่ามันจะยากเกินไปสำหรับข้าที่จะกำจัดไห่อู่เซิงตามลำพัง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้โอกาส เจ้าไปซะ ข้าจะทำเหมือนกับว่าเจ้าไม่เคยมาที่สุสานสวรรค์”
จางลู่แปลกใจ “ เจ้าจะไม่ฆ่าข้ารึ”
“ ฆ่าเจ้าไปจะมีประโยชน์อะไร ?” จิตสวรรค์ถามขึ้นมา “ เจ้าเป็นแค่ร่างแยก ฆ่าเจ้าไปก็ไม่ส่งผลอะไรต่อร่างหลักของเจ้า ตราบใดที่เขาต้องการ เขาก็สามารถสร้างร่างแยกขึ้นมาใหม่ได้ “ ตอนนั้นเองจิตสวรรค์กลับพูดขึ้น “ และข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับเจ้า”
แค่ไห่อู่เซิงยังมีชิตอยู่ก็ทำให้มันปวดหัวมากพอแล้ว หากหาศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่มคงก็ไม่ต้องทำอะไรและได้แต่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้
“ งั้นรึ ?” แน่นอนจางลู่รู้ว่าจิตสวรรค์ไม่ได้ใจดีจนปล่อยเขาไป บางทีเขาอาจจะเดาความคิดของจิตสวรรค์ออก “ ไม่คิดเลยว่าร่างแยกของจ้าวโกลาหลจะกลัวคนอื่นด้วย..”
“ เจ้าไปเถอะ” จิตสวรรค์เหมือนไม่สนใจจะคุยกับจางลู่ต่อ “ข้ากลัวว่าข้าจะเปลี่ยนใจ”
จางลู่ไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย เขามองไปที่จิตสวรรค์แล้วพูดขึ้น “ ข้ามีอีกสองคำถาม ข้าหวังว่าเจ้าจะตอบข้า”
จิตสวรรค์พูดขึ้น “ เจ้าไม่ช่วยข้าแต่คิดจะหยุดข้า แล้วทำไมข้าต้องตอบคำถามของเจ้า ?”
“ มันก็ไม่ผิดหากเจ้าจะไม่ตอบ ข้ามีหน้าที่แค่ถาม” จางลู่ยิ้มออกมา “ คำถามแรกคือจ้าวโกลาหลตายได้ยังไง? คำถามที่สองคือทำไมเจ้าไม่ตายตอนที่ร่างหลักตายไป ?” “ เจ้าฉลาดไม่ใช่รึ ?” จิตสวรรค์เริ่มสนใจขึ้นมา
เมื่อเห็นท่าทีของจิตสวรรค์ จางลู่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร ในเมื่อเขาฉีกหน้าอีกฝ่ายแล้ว จิตสวรรค์ก็ไม่จำเป็นต้องบอกความลับอะไรกับเขาอีก
โชดดีที่เขาไม่ได้คาดหวังอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาแค่ลองถามดู หากจิตสวรรค์ไม่ตอบคำถามเขา จางลู่ก็ไม่ได้ผิดหวัง
“ ก็ได้” จางลู่พูดขึ้น “ เมื่อเจ้าไม่คิดจะพูด งั้นข้าขอตัว ”
เขามองไปที่หุ่นเชิดที่ยืนเรียงแถวอยู่ด้านนอกและเสียดายขึ้นมาที่ไม่อาจจะเอาพวกนี้ไปด้วยได้
เขาไม่มีพลังพอที่จะพาหุ่นเชิดเหล่านี้ไปต่อหน้าจิตสวรรค์
จางลู่ส่ายหน้าและหันหลังกลับก่อนจะเดินเข้าไปในรูหนอนเพื่อกลับไปยังโลกตันเถียน หลังจากที่จางลู่หายตัวไป รูหนอนก็ค่อยๆปิดตัวลงก่อนที่จะหายไป
จนกระทั่งรูหนอนหายไป ร่างของจิตสวรรค์ก็ไม่อาจจะรวมตัวกันได้อีก มันได้กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง จิตสวรรค์ได้กลายเป็นหมอก มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลังจากนั้นสักพักจิตสวรรค์ถึงประคองอาการตัวเองได้ มันตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ ข่มเหงกันเกินไปแล้ว ! ข่มเหงกันเกินไปแล้ว !”
มันไม่กล้าจะลงมือเพราะสภาพของมันในตอนนี้อ่อนแออย่างมาก ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นมันก็แค่เสแสร้ง อันที่จริงแล้วมันอ่อนแอ แม้แต่การควบคุมหุ่นเชิดก็ยังยากลำบากมาก มันแทบจะหมดพลัง
“ ไห่อู่เซิงยังมีชีวิตอยู่ !” เสียงของจิตสวรรค์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น “ สักวันข้าจะฆ่าเจ้า !”
หากไม่ใช่เพราะบาดเจ็บหนัก งั้นทำไมมันต้องหวาดกลัวจางหยูและจางลู่ด้วย ?
แม้ว่าจางหยูจะเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล แต่หากเทียบกับมันตอนที่ยังแข็งแรงอยู่นั้นก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ มันมั่นใจในตัวเอง แม้ว่าจางหยูจะเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล แต่มันก็ยังเอาชนะได้
เมื่อจางลู่ออกจากสุสานไป เขาก็ไม่ได้รู้ถึงสภาพของจิตสวรรค์ หากเขารู้ว่าจิตสวรรค์นั้นอ่อนแออยู่ ทุกอย่างเป็นแค่การแสดง งั้นเขาคงไม่มีทางออกจากสุสานง่ายๆแบบนี้ เขาคงใช้โอกาสนี้เก็บเอาหุ่นเชิดทั้งหมดออกมาด้วย แต่โชคร้ายที่จิตสวรรค์นั้นแสดงได้เก่ง ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นไม่ได้แสดงพิรุธใดๆออกมา แม้แต่จางลู่ก็ยังมองไม่ออก
….
ที่บรรพกาลนอกโลกบรรพกาล
จางหยูและจางลู่ได้ปรากฏตัวขึ้น
“ เจ้าคิดว่าคำพูดของเจ้านั่นเชื่อถือได้รึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา จางลู่ส่ายหน้า “ข้าไม่อาจจะมองออก”
จางหยูถามขึ้นมาอีกครั้ง “ เจ้าคิดว่าเขาคือร่างแยกของจ้าวโกลาหลจริงๆรึ ?”
จางลู่คิดและพูดขึ้น “ ข้าเชื่อว่าเขาต้องเกี่ยวข้องกับจ้าวโกลาหล แต่จะบอกว่าเขาเป็นร่างแยกรึไม่นั้น….มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น “
“ ทำไม ?”
“ เพราะคำอธิบายของเขาฟังดูเกินจริง” จางลู่พูดขึ้น “ แม้ว่าตอนแรกจะฟังดูมีเหตุผลแต่ข้าก็รู้สึกว่ามันดูแปลกๆ เขาย้ำว่าปราณนั้นคือปราณชีวิตไม่ใช่ปราณสุสาน มันทำให้ข้ารู้สึกแปลกๆ เมื่อข้าบอกว่าบรรพชนกระดูกยังมีชีวิตอยู่ เขาก็แสดงท่าทีผิดปกติออกมา”
“ งั้นเขาก็ไม่ใช่ร่างแยกของจ้าวโกลาหลรึ ?”
“ อาจจะไม่เป็นแบบนั้น” จางลู่ลังเลและพูดขึ้นมา “ เขาเจ้าเล่ห์อย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่าเขาพูดอะไรจริงออกมาบ้าง” แม้ว่าจะสงสัยเรื่องตัวตนของจิตสวรรค์แต่จางลู่ก็ไม่ได้มีหลักฐานยืนยัน
“ สุดท้ายเราก็รู้เกี่ยวกับจ้าวโกลาหลแค่เล็กน้อย” จางหยูส่ายหน้า
“ บางทีเจ้าอาจจะถามกับต้นไม้ดูได้” จางลู่เสนอขึ้นมา “ หากจ้าวโกลาหลมีร่างแยกจริงๆ งั้นต้นไม้โกลาหลก็ต้องรู้”
“ ไม่จำเป็นหรอก” จางหยูโบกมือ “ แทนที่จะไปหาต้นไม้โกลาหลเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์นี้ มันจะดีกว่าถ้าไปที่โกลาหลนภาโดยตรง”
จางลู่ถามขึ้นมา “ เจ้าตั้งใจจะไปหาบรรพชนกระดูกรึ ?”
จางหยูยิ้มออกมา “ ไม่ใช่ข้าแต่เป็นเจ้าต่างหาก”
“ เอ่อ..” จางลู่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ ข้าเพิ่งกลับมาจากสุสาน ให้ข้าพักสักหน่อยเถอะ”
“ เจ้ายังไหว” จางหยูลุกขึ้นเดินไปตบไหล่จางลู่ ก่อนจะพูดขึ้น “ จิตสวรรค์และบรรพชนกระดูกนั้นมีแผนอะไรยังเป็นเรื่องไม่แน่อน ข้าไม่อาจจะเสี่ยงได้…”
ชีวิตของจิตสวรรค์มีแค่ชีวิตเดียว เขาไม่อาจจะตายได้ ร่างอื่นอาจจะตายได้แต่มีแค่เขาที่ไม่อาจจะตายได้
“ มันไม่เร็วไปหน่อยรึที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับบรรพชนกระดูก ?” จางลู่กังวลนิดๆ
มันไม่ได้เกี่ยข้องกับจิตสวรรค์เพราะจิตสวรรค์ไม่มีทางออกมาจากสุสานได้ มันไม่อาจจะทำอะไรกับโลกภายนอกได้ แต่บรรพชนกระดูกนั้นต่างกันออกไป เขาสามารถออกจากโกลาหลนภาตอนไหนก็ได้ ความแข็งแกร่งของเขาน่าจะมากกว่าจิตสวรรค์ เมื่อทั้งสองฝ่ายแสดงจุดยืนแล้ว งั้นจางหยูก็กลัวบรรพชนกระดูกมากกว่า ทางเลือกเดียวของเขาคือต้องซ่อนอยู่ในโลกตันเถียน
แต่นั่นจะทำลายภาพลักษณ์ของเจ้าสำนักไปอย่างมาก !
“ แต่มันไม่มีทางอื่นที่จะยื้อเวลาเอาไว้ ! นี่เป็นเรื่องใหญ่ หากมันแย่จริงๆ ข้าจะยอมพาโลกป่าและส่งทุกคนไปยังโลกตันเถียน” จางหยูพูดขึ้น