ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1824 : วิกฤตมาเยือน
ผ่านไปครึ่งเดือนการกลืนกินของไห่อู่เซิงก็เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ได้เข้าใกล้โลกป่า
พวกที่เคยสงสัยในตัวจางหยูต่างก็พากันแห่มาที่โลกป่าราวกับว่ายิ่งอยู่ใกล้โลกป่าเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น
จางหยูไม่ได้ไม่ให้โอกาสพวกนั้น แต่พวกนั้นไม่รู้จักคว้าเอาไว้เอง โชคดีที่ไห่อู่เซิงยังกลัวสำนักคังเฉียงอยู่ แม้ว่าจะกลืนกินผู้คนไปแต่ก็ไม่กล้าเข้ามาที่โลกป่า
ตอนนี้โลกป่ายังปลอดภัยอยู่แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะปลอดภัยไปได้นานแค่ไหน
“ เจ้าสำนัก” ซุนเหยียนได้กลับมาที่เขตหวงห้ามและโค้งคำนับให้จางหยูด้วยท่าทีอับอาย “ ไห่อู่เซิงซ่อนจุดเชื่อมต่อไว้ดีมาก ข้าหามันไม่พบ”
หลังจากที่ออกค้นหากว่าครึ่งเดือนแต่เขาก็ไม่พบอะไร จางหยูไม่ได้กล่าวโทษซุนเหยียน ไห่อู่เซิงซ่อนมันไว้อย่างดี ดังนั้นการที่ซุนเหยียนจะหามันไม่พบก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ ไม่เป็นไร ค่อยๆหามัน ” จางหยูไม่ได้กดดันซุนเหยียน ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องใจเย็นมากเท่านั้น เขาไม่อาจจะร้อนใจได้ “เขตใต้ตอนล่างไม่อาจจะหาพบก็ไปที่เขตใต้ตอนบน หากหากไม่พบก็ไปที่เขตตะวันตก…สรุปคือหากจะพลิกวิกฤตก็ต้องหามันให้พบ”
ซุนเหยียนลังเลและพูดขึ้นมา “ มันคงใช้เวลานานกว่าจะค้นหาทั้งโกลาหล ข้ากลัวว่า…กลัวว่าโลกป่าจะทนไม่ไหว…”
“ ที่นั่นข้าจัดการเอง เจ้าไม่ต้องกังวล ” จางหยูพูดขึ้น “ตราบใดที่ไห่อู่เซิงยังไม่ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล เราก็ยังมีโอกาส ”
ซุนเหยียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ ออกไปหาได้แล้ว ที่เหลือปล่อยให้เราจัดการ ” จางหยูโบกมือ หลังจากที่เห็นว่าซุนเหยียนเดินทางออกไปแล้ว จางหยูก็ได้ส่งข้อความบอกจางลู่และสั่งคำสั่งใหม่
เมื่อจางลู่ได้รับคำสั่งก็เดินทางออกมานอกโลกป่าและเข้ามายังโกลาหล เขามองไปยังเหล่าผู้ควบคุมและกุยหยวนมากมายด้วยสีหน้าเฉยเมย จากนั้นเขาก็ได้สร้างรูหนอนขึ้นมาแล้วพูดขึ้นว่า “ ข้าได้สร้างรูหนอนที่เชื่อมต่อกับโกลาหลอีกแห่ง…” จางลู่พูดไม่ทันจบ ทุกคนก็พากันเดินทางเข้าไปในรูหนอนพวกนั้นทันที
มันเพราะไห่อู่เซิง !
จางลู่ส่ายหน้า “ ต้องเจ็บตัวก่อนถึงจะรู้ตัว !”
หากไม่ใช่เพราะกลัวโดนไห่อู่เซิงกลืนกินคนเหล่านี้ จางหยูคงไม่ช่วยพวกนี้
หลายวันต่อมา จางลู่ก็ได้สร้างรูหนอนขึ้นมาหลายสิบอันซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังของเขาอย่างมาก อย่างไรก็ตามผู้ควบคุมและกุยหยวนเกือบทั้งหมดที่อยู่ในโลกป่าก็ได้เดินทางไปยังโลกตันเถียน จางลู่ไม่อาจจะคงรูหนอนไว้ต่อได้ แม้จะรู้ดีว่ามีคนอีกจำนวนมากเหลืออยู่ด้านนอกแต่เขาก็ไม่อาจจะช่วยพวกนั้นได้
จางลู่ปิดรูหนอนแล้วเดินทางที่โลกตันเถียน พลังสร้างและจิตผู้สร้างของเขาฟื้นฟูกลับมาแต่มีแค่จิตเท่านั้นที่ต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่จะฟื้นฟูกลับมา
ที่เขตหวงห้าม
จางหยูถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “ เมื่อนับครั้งนี้ด้วยก็น่าจะช่วยผู้ควบคุมและกุยหยวนได้เกือบครึ่งของโกลาหลสินะ?”
สำหรับคนที่เหลือแล้วจางหยูได้แต่ขอให้พวกนั้นโชคดี
บางทีพวกนั้นอาจจะหนีรอด…แต่จางหยูไม่คิดว่าพวกนั้นจะหนีจากเงื้อมมือของไห่อู่เซิงได้
.. “ เกือบแล้ว ! ”
ในเขตตะวันออกตอนบน ไห่อู่เซิงได้กลืนกินเขตย่อยไปหลายเขตก่อนจะรีบหนีไป
หากเทียบกับการโจมตีต้นไม้โกลาหลก่อนหน้านี้แล้ว ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นมาแต่ก็พัฒนาได้จำกัด ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่จุดคอขวดที่รอจะทะลวงผ่าน ซึ่งมันยากอย่างมาก
เขามองไปยังโลกป่าด้วยสายตาโลภ หากเขาได้กลืนกินโลกนี้ ความแข็งแกร่งของเขาต้องพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก
มันยากที่จะก้าวขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ปัญหาแล้ว เขาเข้าใกล้การเป็นจ้าวโกลาหลจริงๆ
“ รอไปก่อนเถอะ อีกไม่นานข้าจะกลืนกินเจ้า ! ดูสิว่าใครจะเหนือกว่าใคร !” เขาฮึดฮัดออกมา
ไห่อู่เซิงมองไปอีกทางก่อนที่จะหายตัวไป ที่เขตย่อยแห่งหนึ่ง
กลุ่มผู้ควบคุมและกุยหยวนพากันกรีดร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง “ ไม่ !!!!!”
หลังจากนั้นไม่นานที่นั่นก็เหลือแต่ความว่างเปล่า
ภัยจากไห่อู่เซิงนั้นทำให้โกลาหลเข้าสู่ยุคทมิฬ ทุกวินาทีที่ผ่านไปจะมีกุยหยวนและผู้ควบคุมโดนกลืนกิน ทุกคนได้กลายเป็นพลังงานของไห่อู่เซิง
ทุกวันจะมีเขตย่อยที่โดนกลืนกินไป ข่าวนี้ส่งไปถึงโลกป่าจนทำให้เกิดความกังวลในใจผู้คน
ที่เขตหวงห้าม
“ ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นแล้วโลกป่าจะโดนทำลายในไม่ช้า ! ” ต้นไม้โกลาหลกังวลอย่างมาก
จางหยูมองไปที่กรงเลือดที่อยู่ใจกลางเขตหวงห้าม มันแผ่ปราณสุสานอันน่ากลัวออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกหวั่นใจ ยิ่งผู้คนตายไปมากเท่าไหร่ กรงเลือดนี้ก็ยิ่งมีปราณสุสานมากขึ้นเท่านั้น มันเติบโตเร็วขึ้น จนตอนนี้ต้นไม้โกลาหลก็ยากจะควบคุมกรงเลือดนี้ได้ แต่ซุนเหยียนก็ยังหาจุดเชื่อมต่อไม่พบ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจจะทำอะไรไห่อู่เซิงได้
“ จุดเชื่อมต่อโกลาหลกับโกลาหลนภาอยู่ที่ไหนกัน ?” จางหยูคิ้วขมวด
พวกเขาเหลือเวลาไม่มาก หากกรงเลือดอยู่เหนือการควบคุม งั้นโกลาหลต้องจบสิ้นแน่
“ เขตใต้ไม่มี…” จางหยูพยายามเรียกสติกลับมาและวิเคราะห์ “ จากนิสัยที่ระแวดระวังของไห่อู่เซิงแล้ว เขาต้องไม่สร้างมันไว้ที่ที่ทุกคนคาดถึง…” ตอนนี้เขาไม่มีเบาะแสใดๆ เขาได้ติดต่อไปหาเสี่ยวเสีย และให้เสี่ยวเสียถามซุนวูว่าในวิหารอวี๋ฮุ่นได้บันทึกเรื่องนี้เอาไว้หรือไม่ หากรู้ว่าโกลาหลนภาสร้างขึ้นที่ไหน งั้นก็สามารถตัดสินตำแหน่งของจุดเชื่อมต่อได้เพราะตำแหน่งจุดเชื่อมต่อคือที่ที่สร้างโกลาหลนภาขึ้นมา โชคร้ายที่ไม่มีเรื่องนี้บันทึกไว้ในวิหารอวี๋ฮุ่น ไห่อู่เซิงระวังตัวจากเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น เขาไม่ได้ทิ้งข้อมูลอะไรเอาไว้เลย
“ ต้นไม้โกลาหล เจ้ารู้จักที่ที่พิเศษในโกลาหลรึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา
ต้นไม้โกลาหลพูดขึ้นมาโดยไม่ลังเล “ ทั่วทั้งโกลาหลแล้วมีที่หนึ่งที่พิเศษที่สุดซึ่งก็คือที่นี่ ด้านนอกเขตหวงห้ามนั้นทุกทุกที่ล้วนเหมือนกัน มันไม่ได้มีอะไรพิเศษ”
“ เขตหวงห้ามรึ ?” จางหยูคิดตาม
ต้นไม้โกลาหลอธิบายออกมา “ เขตหวงห้ามคือต้นกำเนิดชีวิตและยังเป็นที่ที่จ้าวโกลาหลได้ตายไป ดังนั้นไห่อู่เซิงจึงสร้างสุสานขึ้นมาที่นี่ ”
“ ใช่ ทำไมข้าไม่คิดมาก่อน” จางหยูใจเต้นรัว เขาเกือบลืมไปว่านี่คือที่ที่พิเศษที่สุด “จุดไต้ตำตอจริงๆ”
เขามัวแต่เดาหาพื้นที่อื่นๆแต่ไม่เคยคิดถึงเขตหวงห้ามเลย เมื่อไห่อู่เซิงได้สร้างสุสานขึ้นมาในเขตหวงห้าม งั้นทำไมถึงไม่สร้างโกลาหลนภาในเขตหวงห้ามด้วย ?
จางหยูจำได้ว่าตอนที่เขาเข้าไปในโกลาหลนภาครั้งแรกและออกมานั้น เขาอยู่ที่ด้านนอกริมเขตหวงห้าม
บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ !
ต่อมา จางหยูก็แผ่การรับรู้ออกไปและค้นหาในเขตหวงห้ามโดยไม่พลาดแม้แต่สักนิ้วเดียว
แต่ตอนที่เขาค้นหาทั่วทั้งเขตหวงห้ามเขาก็ต้องผิดหวัง “ ไม่มี” เขาไม่พบจุดเชื่อมต่อที่นี่เลย
ด้วยการรับรู้ของเขาแล้วหากมีจุดเชื่อมต่อที่นี่ เขาก็ต้องหามันพบ
“ ไม่มีรึ ?” ต้นไม้โกลาหลพูดขึ้น “ พ่อบุญธรรม มีที่หนึ่งที่ท่านยังไม่หา ”
จางหยูมองไปที่กรงเลือด “ เจ้าหมายถึง….สุสานสวรรค์รึ ?”
โลกโกลาหลนภาถูกสร้างขึ้นมาในสุสานรึ ?
ความคิดที่ดูเกินจริงนี้เริ่มก่อตัวขึ้นมาในหัวจางหยู
“ เจ้าดูแลที่นี่ไปก่อน ข้าจะเข้าไปดูข้างใน ” จางหยูใจสั่น สัญชาตญาณบอกเขาว่าจุดเชื่อมต่อน่าจะอยู่ในสุสานจริงๆ
พวกที่เคยสงสัยในตัวจางหยูต่างก็พากันแห่มาที่โลกป่าราวกับว่ายิ่งอยู่ใกล้โลกป่าเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น
จางหยูไม่ได้ไม่ให้โอกาสพวกนั้น แต่พวกนั้นไม่รู้จักคว้าเอาไว้เอง โชคดีที่ไห่อู่เซิงยังกลัวสำนักคังเฉียงอยู่ แม้ว่าจะกลืนกินผู้คนไปแต่ก็ไม่กล้าเข้ามาที่โลกป่า
ตอนนี้โลกป่ายังปลอดภัยอยู่แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะปลอดภัยไปได้นานแค่ไหน
“ เจ้าสำนัก” ซุนเหยียนได้กลับมาที่เขตหวงห้ามและโค้งคำนับให้จางหยูด้วยท่าทีอับอาย “ ไห่อู่เซิงซ่อนจุดเชื่อมต่อไว้ดีมาก ข้าหามันไม่พบ”
หลังจากที่ออกค้นหากว่าครึ่งเดือนแต่เขาก็ไม่พบอะไร จางหยูไม่ได้กล่าวโทษซุนเหยียน ไห่อู่เซิงซ่อนมันไว้อย่างดี ดังนั้นการที่ซุนเหยียนจะหามันไม่พบก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ ไม่เป็นไร ค่อยๆหามัน ” จางหยูไม่ได้กดดันซุนเหยียน ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องใจเย็นมากเท่านั้น เขาไม่อาจจะร้อนใจได้ “เขตใต้ตอนล่างไม่อาจจะหาพบก็ไปที่เขตใต้ตอนบน หากหากไม่พบก็ไปที่เขตตะวันตก…สรุปคือหากจะพลิกวิกฤตก็ต้องหามันให้พบ”
ซุนเหยียนลังเลและพูดขึ้นมา “ มันคงใช้เวลานานกว่าจะค้นหาทั้งโกลาหล ข้ากลัวว่า…กลัวว่าโลกป่าจะทนไม่ไหว…”
“ ที่นั่นข้าจัดการเอง เจ้าไม่ต้องกังวล ” จางหยูพูดขึ้น “ตราบใดที่ไห่อู่เซิงยังไม่ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล เราก็ยังมีโอกาส ”
ซุนเหยียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ ออกไปหาได้แล้ว ที่เหลือปล่อยให้เราจัดการ ” จางหยูโบกมือ หลังจากที่เห็นว่าซุนเหยียนเดินทางออกไปแล้ว จางหยูก็ได้ส่งข้อความบอกจางลู่และสั่งคำสั่งใหม่
เมื่อจางลู่ได้รับคำสั่งก็เดินทางออกมานอกโลกป่าและเข้ามายังโกลาหล เขามองไปยังเหล่าผู้ควบคุมและกุยหยวนมากมายด้วยสีหน้าเฉยเมย จากนั้นเขาก็ได้สร้างรูหนอนขึ้นมาแล้วพูดขึ้นว่า “ ข้าได้สร้างรูหนอนที่เชื่อมต่อกับโกลาหลอีกแห่ง…” จางลู่พูดไม่ทันจบ ทุกคนก็พากันเดินทางเข้าไปในรูหนอนพวกนั้นทันที
มันเพราะไห่อู่เซิง !
จางลู่ส่ายหน้า “ ต้องเจ็บตัวก่อนถึงจะรู้ตัว !”
หากไม่ใช่เพราะกลัวโดนไห่อู่เซิงกลืนกินคนเหล่านี้ จางหยูคงไม่ช่วยพวกนี้
หลายวันต่อมา จางลู่ก็ได้สร้างรูหนอนขึ้นมาหลายสิบอันซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังของเขาอย่างมาก อย่างไรก็ตามผู้ควบคุมและกุยหยวนเกือบทั้งหมดที่อยู่ในโลกป่าก็ได้เดินทางไปยังโลกตันเถียน จางลู่ไม่อาจจะคงรูหนอนไว้ต่อได้ แม้จะรู้ดีว่ามีคนอีกจำนวนมากเหลืออยู่ด้านนอกแต่เขาก็ไม่อาจจะช่วยพวกนั้นได้
จางลู่ปิดรูหนอนแล้วเดินทางที่โลกตันเถียน พลังสร้างและจิตผู้สร้างของเขาฟื้นฟูกลับมาแต่มีแค่จิตเท่านั้นที่ต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่จะฟื้นฟูกลับมา
ที่เขตหวงห้าม
จางหยูถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “ เมื่อนับครั้งนี้ด้วยก็น่าจะช่วยผู้ควบคุมและกุยหยวนได้เกือบครึ่งของโกลาหลสินะ?”
สำหรับคนที่เหลือแล้วจางหยูได้แต่ขอให้พวกนั้นโชคดี
บางทีพวกนั้นอาจจะหนีรอด…แต่จางหยูไม่คิดว่าพวกนั้นจะหนีจากเงื้อมมือของไห่อู่เซิงได้
.. “ เกือบแล้ว ! ”
ในเขตตะวันออกตอนบน ไห่อู่เซิงได้กลืนกินเขตย่อยไปหลายเขตก่อนจะรีบหนีไป
หากเทียบกับการโจมตีต้นไม้โกลาหลก่อนหน้านี้แล้ว ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นมาแต่ก็พัฒนาได้จำกัด ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่จุดคอขวดที่รอจะทะลวงผ่าน ซึ่งมันยากอย่างมาก
เขามองไปยังโลกป่าด้วยสายตาโลภ หากเขาได้กลืนกินโลกนี้ ความแข็งแกร่งของเขาต้องพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก
มันยากที่จะก้าวขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ปัญหาแล้ว เขาเข้าใกล้การเป็นจ้าวโกลาหลจริงๆ
“ รอไปก่อนเถอะ อีกไม่นานข้าจะกลืนกินเจ้า ! ดูสิว่าใครจะเหนือกว่าใคร !” เขาฮึดฮัดออกมา
ไห่อู่เซิงมองไปอีกทางก่อนที่จะหายตัวไป ที่เขตย่อยแห่งหนึ่ง
กลุ่มผู้ควบคุมและกุยหยวนพากันกรีดร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง “ ไม่ !!!!!”
หลังจากนั้นไม่นานที่นั่นก็เหลือแต่ความว่างเปล่า
ภัยจากไห่อู่เซิงนั้นทำให้โกลาหลเข้าสู่ยุคทมิฬ ทุกวินาทีที่ผ่านไปจะมีกุยหยวนและผู้ควบคุมโดนกลืนกิน ทุกคนได้กลายเป็นพลังงานของไห่อู่เซิง
ทุกวันจะมีเขตย่อยที่โดนกลืนกินไป ข่าวนี้ส่งไปถึงโลกป่าจนทำให้เกิดความกังวลในใจผู้คน
ที่เขตหวงห้าม
“ ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นแล้วโลกป่าจะโดนทำลายในไม่ช้า ! ” ต้นไม้โกลาหลกังวลอย่างมาก
จางหยูมองไปที่กรงเลือดที่อยู่ใจกลางเขตหวงห้าม มันแผ่ปราณสุสานอันน่ากลัวออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกหวั่นใจ ยิ่งผู้คนตายไปมากเท่าไหร่ กรงเลือดนี้ก็ยิ่งมีปราณสุสานมากขึ้นเท่านั้น มันเติบโตเร็วขึ้น จนตอนนี้ต้นไม้โกลาหลก็ยากจะควบคุมกรงเลือดนี้ได้ แต่ซุนเหยียนก็ยังหาจุดเชื่อมต่อไม่พบ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจจะทำอะไรไห่อู่เซิงได้
“ จุดเชื่อมต่อโกลาหลกับโกลาหลนภาอยู่ที่ไหนกัน ?” จางหยูคิ้วขมวด
พวกเขาเหลือเวลาไม่มาก หากกรงเลือดอยู่เหนือการควบคุม งั้นโกลาหลต้องจบสิ้นแน่
“ เขตใต้ไม่มี…” จางหยูพยายามเรียกสติกลับมาและวิเคราะห์ “ จากนิสัยที่ระแวดระวังของไห่อู่เซิงแล้ว เขาต้องไม่สร้างมันไว้ที่ที่ทุกคนคาดถึง…” ตอนนี้เขาไม่มีเบาะแสใดๆ เขาได้ติดต่อไปหาเสี่ยวเสีย และให้เสี่ยวเสียถามซุนวูว่าในวิหารอวี๋ฮุ่นได้บันทึกเรื่องนี้เอาไว้หรือไม่ หากรู้ว่าโกลาหลนภาสร้างขึ้นที่ไหน งั้นก็สามารถตัดสินตำแหน่งของจุดเชื่อมต่อได้เพราะตำแหน่งจุดเชื่อมต่อคือที่ที่สร้างโกลาหลนภาขึ้นมา โชคร้ายที่ไม่มีเรื่องนี้บันทึกไว้ในวิหารอวี๋ฮุ่น ไห่อู่เซิงระวังตัวจากเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น เขาไม่ได้ทิ้งข้อมูลอะไรเอาไว้เลย
“ ต้นไม้โกลาหล เจ้ารู้จักที่ที่พิเศษในโกลาหลรึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา
ต้นไม้โกลาหลพูดขึ้นมาโดยไม่ลังเล “ ทั่วทั้งโกลาหลแล้วมีที่หนึ่งที่พิเศษที่สุดซึ่งก็คือที่นี่ ด้านนอกเขตหวงห้ามนั้นทุกทุกที่ล้วนเหมือนกัน มันไม่ได้มีอะไรพิเศษ”
“ เขตหวงห้ามรึ ?” จางหยูคิดตาม
ต้นไม้โกลาหลอธิบายออกมา “ เขตหวงห้ามคือต้นกำเนิดชีวิตและยังเป็นที่ที่จ้าวโกลาหลได้ตายไป ดังนั้นไห่อู่เซิงจึงสร้างสุสานขึ้นมาที่นี่ ”
“ ใช่ ทำไมข้าไม่คิดมาก่อน” จางหยูใจเต้นรัว เขาเกือบลืมไปว่านี่คือที่ที่พิเศษที่สุด “จุดไต้ตำตอจริงๆ”
เขามัวแต่เดาหาพื้นที่อื่นๆแต่ไม่เคยคิดถึงเขตหวงห้ามเลย เมื่อไห่อู่เซิงได้สร้างสุสานขึ้นมาในเขตหวงห้าม งั้นทำไมถึงไม่สร้างโกลาหลนภาในเขตหวงห้ามด้วย ?
จางหยูจำได้ว่าตอนที่เขาเข้าไปในโกลาหลนภาครั้งแรกและออกมานั้น เขาอยู่ที่ด้านนอกริมเขตหวงห้าม
บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ !
ต่อมา จางหยูก็แผ่การรับรู้ออกไปและค้นหาในเขตหวงห้ามโดยไม่พลาดแม้แต่สักนิ้วเดียว
แต่ตอนที่เขาค้นหาทั่วทั้งเขตหวงห้ามเขาก็ต้องผิดหวัง “ ไม่มี” เขาไม่พบจุดเชื่อมต่อที่นี่เลย
ด้วยการรับรู้ของเขาแล้วหากมีจุดเชื่อมต่อที่นี่ เขาก็ต้องหามันพบ
“ ไม่มีรึ ?” ต้นไม้โกลาหลพูดขึ้น “ พ่อบุญธรรม มีที่หนึ่งที่ท่านยังไม่หา ”
จางหยูมองไปที่กรงเลือด “ เจ้าหมายถึง….สุสานสวรรค์รึ ?”
โลกโกลาหลนภาถูกสร้างขึ้นมาในสุสานรึ ?
ความคิดที่ดูเกินจริงนี้เริ่มก่อตัวขึ้นมาในหัวจางหยู
“ เจ้าดูแลที่นี่ไปก่อน ข้าจะเข้าไปดูข้างใน ” จางหยูใจสั่น สัญชาตญาณบอกเขาว่าจุดเชื่อมต่อน่าจะอยู่ในสุสานจริงๆ