ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1835 : จักรพรรดิทั้งเก้า
เหล่าศิษย์และอาจารย์ไม่อาจจะรับรู้สถานการณ์นอกโกลาหลได้ นอกจากจางหยูแล้วก็มีแค่ต้นไม้โกลาหลเท่านั้นที่รับรู้ได้เล็กน้อย
ต้นไม้โกลาหลเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ มันดูเหมือนกับเนี่ยเวิ่น เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างก็พากันมองตามสายตาของต้นไม้โกลาหลไป แต่ก็ไม่พบอะไร
“ ต้นไม้โกลาหล มีอะไรกัน ?” ซุนเหยียนถามขึ้นมา
ต้นไม้โกลาหลแสดงสายตาหนักใจออกมา “ ระวังตัวไว้ มีคนนอกกำลังมาที่นี่ ”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็พากันแปลกใจขึ้นมา แต่ไม่นานคนแปลกหน้าก็ได้เข้ามาและปรากฏตัวขึ้นในเขตหวงห้าม
คนพวกนั้นบางคนก็ดูเหมือนมนุษย์ บางคนก็ดูเหมือนปิศาจ แต่ละคนต่างก็สวมชุดเกราะ เหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างก็พากันหวาดกลัว
“ ไม่คิดเลยว่าผ่านมาหลายปีโกลาหลแห่งนี้ก็ยังไม่ถูกทำลายแต่กลับมีเจ้าของคนใหม่” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา “ ดูเหมือนว่าจะสืบทอดพลังของซุนกวนมาด้วย…”
จางหยูมองคนเหล่านั้นด้วยความสนใจ ตามหลักการแล้วมันยากที่จะมองความแข็งแกร่งของคนพวกนั้นออก แต่จางหยูแกร่งกว่าพวกนี้อย่างมาก จึงมองระดับของพวกนี้ออก
จากที่มองดูแล้ว จางหยูก็ตัดสินได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเขา หากจางหยูลงมือ เขาก็ลบพวกนี้ไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างอะไรจากการดื่มน้ำเลย !
แน่นอนว่าหากเทียบกับต้นไม้โกลาหลแล้ว คนเหล่านี้แข็งแกร่งกว่ามาก !
“ พวกเจ้าเป็นใครกัน ?” ต้นไม้โกลาหลถามขึ้นมา “ เจ้ารู้จักชื่อของนายท่านได้ยังไง ?”
คนเหล่านี้อยู่ๆก็โผล่มาและยังรู้จักชื่อซุนกวน อดีตจ้าวโกลาหลแห่งนี้อีก ไม่รู้เลยว่าพวกนี้เป็นมิตรรึศัตรูกันแน่
ซุนเหยียนแสดงสีหน้าหนักใจออกมา การที่รู้ชื่อซุนกวน นั่นก็หมายความว่าพวกนี้รู้จักกับซุนกวนมาก่อน บางทีอาจจะเป็นสหายรึศัตรูก็เป็นได้
“ นายท่านรึ ?” หนึ่งในนั้นแปลกใจ “เจ้าเป็นทาสของซุนกวนรึ ?”
ต้นไม้โกลาหลส่ายหน้า “ ข้าคือต้นไม้โกลาหล”
คนเหล่านั้นเข้าใจทันที
“ หายากที่ต้นไม้โกลาหลจะก้าวขึ้นมาถึงขั้นนี้ได้” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น “ เจ้าไม่ต้องกังวลไป เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อจัดการกับเจ้า แต่มาเพื่อทำตามหน้าที่ของเรา ซึ่งก็คือนำทางเจ้า”
“ นำทางรึ ?” ต้นไม้โกลาหลมองไปยังพวกนั้นด้วยความสับสน
พวกนั้นยิ้มออกมา “ ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวก่อน เราคือสมาชิกหน่วยย่อยของกองทัพเทียนลั่วซึ่งเป็นหนึ่งในสามกองทัพใหญ่ ภายใต้จักรพรรดิชื่อเซียว เจ้าเรียกข้าว่ากวนก็ได้ ส่วนสองคนนี้คือแกมมาและเย่าหยาง ในเขตนี้รวมถึงโกลาหลแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ที่พวกเรารับผิดชอบ”
ต้นไม้โกลาหลคิ้วขมวด “ เจ้าหมายความว่ายังไง ? เจ้าอยากชวนข้าเข้าร่วมกองทัพรึ ?”
สายตาของกวนแปลกไป เขาส่ายหน้าและพูดขึ้น “ กองทัพเทียนลั่วไม่ได้เข้าร่วมง่ายๆ แม้ว่าเจ้าจะสืบทอดพลังของซุนกวนมา และไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็ยังห่างไกลที่จะเข้าร่วมกับกองทัพเทียนลั่วได้ ” เขาเน้นคำพูดของเขาเพื่อไว้หน้าต้นไม้โกลาหล
“ เจ้าหมายความว่ายังไงที่ว่านำทาง ?” ต้นไม้โกลาหลถามขึ้นมา
“ ก็ง่ายๆ มันหมายความว่าจะให้คำแนะนำเจ้า เอาให้ชัดเจนคือบอกกฎทะเลโกลาหลให้เจ้ารู้ “ กวนพูดขึ้น “ หน้าที่ของเราคือบอกกฎให้กับคนใหม่ เราจะอธิบายกฎของทะเลโกลาหลให้เจ้ารับรู้เพื่อไม่ให้เจ้าสร้างปัญหา คิดซะว่ามันเป็นการชี้แนะก็ได้ “ ในฐานะหัวหน้าหน่วยย่อยแล้ว กวนเป็นคนตรงไปตรงมา คนแบบนี้หาได้ยาก “ ปกติแล้วลูกน้องข้าจะมาอธิบายให้เจ้ารู้แต่ครั้งนี้ข้าว่างพอดี ข้าสนใจโกลาหลหินแห่งนี้ ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่”
ความหมายของประโยคนี้ก็คือ การที่หัวหน้าหน่วยย่อยอย่างเขามาด้วยตัวเองนั้น ถือว่าเป็นเกียรติสำหรับต้นไม้โกลาหลแล้ว
ต้นไม้โกลาหลได้แต่นิ่งเงียบ เขาไม่เคยประจบเอาใจใครมาก่อน
กวนไม่ได้ใส่ใจ เขาเหมือนจะชินกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว ยังไงซะการที่ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้นั้น ใครบ้างจะไม่มีความภูมิใจในตัวเอง ?
“ ฟังนะ ข้าจะพูดอีกครั้ง” กวนพูดขึ้นมาอย่างช้าๆ “ ในทะเลโกลาหลนั้นมีจักรพรรดิอยู่ 9 คน จักรพรรดิคือผู้ปกครองทะเลโกลาหล แต่ละคนต่างก็มีความแข็งแกร่งที่ไร้เทียมทาน พวกเขาขึ้นไปยังขอบเขตลึกลับ และกองทัพเทียนลั่วของพวกเราก็อยู่ในสังกัดจักรพรรดิชื่อเซียว หนึ่งในเก้าจักรพรรดิ !” ตอนที่พูดแม้ว่ากวนยังแสดงท่าทีเยือกเย็นแต่สายตาของเขากลับแสดงความภาคภูมิใจออกมา
“ จักรพรรดิทั้ง 9 แบ่งทะเลโกลาหลออกเป็นเก้าเขต เนื่องจากทั้งเก้าคนทัดเทียมกัน โกลาหลหินแห่งนี้ก็อยู่ในอาณาเขตของจักรพรรดิชื่อเซียว” กวนพูดขึ้น “ เจ้าเองก็ถือว่าเป็นคนของจักรพรรดิชื่อเซียว มันรวมถึงร่างกาย, วิญญาณและแม้แต่จิตของเจ้า !”
เย่อหยิ่งจริงๆ !
ทุกคนต่างก็พากันขมวดคิ้วไม่พอใจแต่ในเมื่อจางหยูไม่พูดอะไรออกมา คนที่เหลือก็ไม่กล้าพูดออกมาเช่นกัน
เมื่อเห็นท่าทีของทุกคน กวนก็ยิ้มออกมา “ บางทีพวกเจ้าอาจจะคิดว่ามันไร้เหตุผล แต่ในทะเลโกลาหลแห่งนี้แล้วมันคือความจริง จักรพรรดิชื่อเซียวนั้นเป็นคนดีอย่างมาก เขาไม่ได้มีข้อกำหนดที่เคร่งครัดสำหรับคนใหม่ หากอยู่ในเขตปกครองของจักรพรรดิคนอื่นแล้ว พวกเขาจะถูกบังคับให้ทำงาน หลังจากที่ทำงานเสร็จถึงจะเป็นอิสระได้”
“ นี่มัน…” คำพูดของกวนทำให้ทุกคนรู้ถึงความโหดร้ายของทะเลโกลาหล
พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล แต่กลับต้องเป็นทาสคนอื่นรึ ?
โชคดีที่จักรพรรดิชื่อเซียวไม่ได้ใช้กฎนี้ด้วย มันทำให้ทุกคนต่างก็พากันโล่งอก
“ อันที่จริงแล้วมันคือกฎที่คงอยู่มานาน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” กวนพูดขึ้น “ พวกเจ้าทั้งหมดต่างก็เป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัดกันแล้ว บางทีคงสร้างโลกขั้นที่ 9 ขึ้นมาหรือโลกขั้นต้นจำนวนมาก สำหรับพวกเจ้าแล้วนั่นไม่ใช่ทรัพยากรหรอกหรือ?”
ทุกคนต่างก็พูดอะไรไม่ออก
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจนั่นก็คือคนเหล่านี้บอกว่าพวกเขาคือขอบเขตการสร้างไร้จำกัดไม่ใช่กึ่งจ้าวโกลาหล ในสายตาของกวนแล้ว กึ่งจ้าวโกลาหลไม่สมควรจะถูกเรียกว่ากึ่งจ้าวโกลาหลรึ ? หรือว่า…อีกฝ่ายมองไม่ออกว่าพวกเขาเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล ?
แต่..มันจะเป็นไปได้ยังไง ?
จ้าวโกลาหลที่แข็งแกร่งกลับมองระดับของพวกเขาไม่ออกรึ ?
“ กลับมาที่เรื่องหลัก” กวนพูดขึ้นช้าๆ “ มันมีกฎไม่มาก จักรพรรดิชื่อเซียวไม่ได้ตั้งกฎไว้มากนัก มันมีแค่ 3 ข้อเท่านั้น กฎ 3 ข้อนี้เจ้าจงจำให้ขึ้นใจ เจ้าไม่อาจจะฝ่าฝืนได้ ไม่งั้นแล้วผลกระทบจะเกินกว่าที่เจ้ารับไหว”
ต้นไม้โกลาหลเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ มันดูเหมือนกับเนี่ยเวิ่น เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างก็พากันมองตามสายตาของต้นไม้โกลาหลไป แต่ก็ไม่พบอะไร
“ ต้นไม้โกลาหล มีอะไรกัน ?” ซุนเหยียนถามขึ้นมา
ต้นไม้โกลาหลแสดงสายตาหนักใจออกมา “ ระวังตัวไว้ มีคนนอกกำลังมาที่นี่ ”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็พากันแปลกใจขึ้นมา แต่ไม่นานคนแปลกหน้าก็ได้เข้ามาและปรากฏตัวขึ้นในเขตหวงห้าม
คนพวกนั้นบางคนก็ดูเหมือนมนุษย์ บางคนก็ดูเหมือนปิศาจ แต่ละคนต่างก็สวมชุดเกราะ เหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างก็พากันหวาดกลัว
“ ไม่คิดเลยว่าผ่านมาหลายปีโกลาหลแห่งนี้ก็ยังไม่ถูกทำลายแต่กลับมีเจ้าของคนใหม่” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา “ ดูเหมือนว่าจะสืบทอดพลังของซุนกวนมาด้วย…”
จางหยูมองคนเหล่านั้นด้วยความสนใจ ตามหลักการแล้วมันยากที่จะมองความแข็งแกร่งของคนพวกนั้นออก แต่จางหยูแกร่งกว่าพวกนี้อย่างมาก จึงมองระดับของพวกนี้ออก
จากที่มองดูแล้ว จางหยูก็ตัดสินได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเขา หากจางหยูลงมือ เขาก็ลบพวกนี้ไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างอะไรจากการดื่มน้ำเลย !
แน่นอนว่าหากเทียบกับต้นไม้โกลาหลแล้ว คนเหล่านี้แข็งแกร่งกว่ามาก !
“ พวกเจ้าเป็นใครกัน ?” ต้นไม้โกลาหลถามขึ้นมา “ เจ้ารู้จักชื่อของนายท่านได้ยังไง ?”
คนเหล่านี้อยู่ๆก็โผล่มาและยังรู้จักชื่อซุนกวน อดีตจ้าวโกลาหลแห่งนี้อีก ไม่รู้เลยว่าพวกนี้เป็นมิตรรึศัตรูกันแน่
ซุนเหยียนแสดงสีหน้าหนักใจออกมา การที่รู้ชื่อซุนกวน นั่นก็หมายความว่าพวกนี้รู้จักกับซุนกวนมาก่อน บางทีอาจจะเป็นสหายรึศัตรูก็เป็นได้
“ นายท่านรึ ?” หนึ่งในนั้นแปลกใจ “เจ้าเป็นทาสของซุนกวนรึ ?”
ต้นไม้โกลาหลส่ายหน้า “ ข้าคือต้นไม้โกลาหล”
คนเหล่านั้นเข้าใจทันที
“ หายากที่ต้นไม้โกลาหลจะก้าวขึ้นมาถึงขั้นนี้ได้” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น “ เจ้าไม่ต้องกังวลไป เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อจัดการกับเจ้า แต่มาเพื่อทำตามหน้าที่ของเรา ซึ่งก็คือนำทางเจ้า”
“ นำทางรึ ?” ต้นไม้โกลาหลมองไปยังพวกนั้นด้วยความสับสน
พวกนั้นยิ้มออกมา “ ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวก่อน เราคือสมาชิกหน่วยย่อยของกองทัพเทียนลั่วซึ่งเป็นหนึ่งในสามกองทัพใหญ่ ภายใต้จักรพรรดิชื่อเซียว เจ้าเรียกข้าว่ากวนก็ได้ ส่วนสองคนนี้คือแกมมาและเย่าหยาง ในเขตนี้รวมถึงโกลาหลแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ที่พวกเรารับผิดชอบ”
ต้นไม้โกลาหลคิ้วขมวด “ เจ้าหมายความว่ายังไง ? เจ้าอยากชวนข้าเข้าร่วมกองทัพรึ ?”
สายตาของกวนแปลกไป เขาส่ายหน้าและพูดขึ้น “ กองทัพเทียนลั่วไม่ได้เข้าร่วมง่ายๆ แม้ว่าเจ้าจะสืบทอดพลังของซุนกวนมา และไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็ยังห่างไกลที่จะเข้าร่วมกับกองทัพเทียนลั่วได้ ” เขาเน้นคำพูดของเขาเพื่อไว้หน้าต้นไม้โกลาหล
“ เจ้าหมายความว่ายังไงที่ว่านำทาง ?” ต้นไม้โกลาหลถามขึ้นมา
“ ก็ง่ายๆ มันหมายความว่าจะให้คำแนะนำเจ้า เอาให้ชัดเจนคือบอกกฎทะเลโกลาหลให้เจ้ารู้ “ กวนพูดขึ้น “ หน้าที่ของเราคือบอกกฎให้กับคนใหม่ เราจะอธิบายกฎของทะเลโกลาหลให้เจ้ารับรู้เพื่อไม่ให้เจ้าสร้างปัญหา คิดซะว่ามันเป็นการชี้แนะก็ได้ “ ในฐานะหัวหน้าหน่วยย่อยแล้ว กวนเป็นคนตรงไปตรงมา คนแบบนี้หาได้ยาก “ ปกติแล้วลูกน้องข้าจะมาอธิบายให้เจ้ารู้แต่ครั้งนี้ข้าว่างพอดี ข้าสนใจโกลาหลหินแห่งนี้ ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่”
ความหมายของประโยคนี้ก็คือ การที่หัวหน้าหน่วยย่อยอย่างเขามาด้วยตัวเองนั้น ถือว่าเป็นเกียรติสำหรับต้นไม้โกลาหลแล้ว
ต้นไม้โกลาหลได้แต่นิ่งเงียบ เขาไม่เคยประจบเอาใจใครมาก่อน
กวนไม่ได้ใส่ใจ เขาเหมือนจะชินกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว ยังไงซะการที่ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้นั้น ใครบ้างจะไม่มีความภูมิใจในตัวเอง ?
“ ฟังนะ ข้าจะพูดอีกครั้ง” กวนพูดขึ้นมาอย่างช้าๆ “ ในทะเลโกลาหลนั้นมีจักรพรรดิอยู่ 9 คน จักรพรรดิคือผู้ปกครองทะเลโกลาหล แต่ละคนต่างก็มีความแข็งแกร่งที่ไร้เทียมทาน พวกเขาขึ้นไปยังขอบเขตลึกลับ และกองทัพเทียนลั่วของพวกเราก็อยู่ในสังกัดจักรพรรดิชื่อเซียว หนึ่งในเก้าจักรพรรดิ !” ตอนที่พูดแม้ว่ากวนยังแสดงท่าทีเยือกเย็นแต่สายตาของเขากลับแสดงความภาคภูมิใจออกมา
“ จักรพรรดิทั้ง 9 แบ่งทะเลโกลาหลออกเป็นเก้าเขต เนื่องจากทั้งเก้าคนทัดเทียมกัน โกลาหลหินแห่งนี้ก็อยู่ในอาณาเขตของจักรพรรดิชื่อเซียว” กวนพูดขึ้น “ เจ้าเองก็ถือว่าเป็นคนของจักรพรรดิชื่อเซียว มันรวมถึงร่างกาย, วิญญาณและแม้แต่จิตของเจ้า !”
เย่อหยิ่งจริงๆ !
ทุกคนต่างก็พากันขมวดคิ้วไม่พอใจแต่ในเมื่อจางหยูไม่พูดอะไรออกมา คนที่เหลือก็ไม่กล้าพูดออกมาเช่นกัน
เมื่อเห็นท่าทีของทุกคน กวนก็ยิ้มออกมา “ บางทีพวกเจ้าอาจจะคิดว่ามันไร้เหตุผล แต่ในทะเลโกลาหลแห่งนี้แล้วมันคือความจริง จักรพรรดิชื่อเซียวนั้นเป็นคนดีอย่างมาก เขาไม่ได้มีข้อกำหนดที่เคร่งครัดสำหรับคนใหม่ หากอยู่ในเขตปกครองของจักรพรรดิคนอื่นแล้ว พวกเขาจะถูกบังคับให้ทำงาน หลังจากที่ทำงานเสร็จถึงจะเป็นอิสระได้”
“ นี่มัน…” คำพูดของกวนทำให้ทุกคนรู้ถึงความโหดร้ายของทะเลโกลาหล
พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล แต่กลับต้องเป็นทาสคนอื่นรึ ?
โชคดีที่จักรพรรดิชื่อเซียวไม่ได้ใช้กฎนี้ด้วย มันทำให้ทุกคนต่างก็พากันโล่งอก
“ อันที่จริงแล้วมันคือกฎที่คงอยู่มานาน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” กวนพูดขึ้น “ พวกเจ้าทั้งหมดต่างก็เป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัดกันแล้ว บางทีคงสร้างโลกขั้นที่ 9 ขึ้นมาหรือโลกขั้นต้นจำนวนมาก สำหรับพวกเจ้าแล้วนั่นไม่ใช่ทรัพยากรหรอกหรือ?”
ทุกคนต่างก็พูดอะไรไม่ออก
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจนั่นก็คือคนเหล่านี้บอกว่าพวกเขาคือขอบเขตการสร้างไร้จำกัดไม่ใช่กึ่งจ้าวโกลาหล ในสายตาของกวนแล้ว กึ่งจ้าวโกลาหลไม่สมควรจะถูกเรียกว่ากึ่งจ้าวโกลาหลรึ ? หรือว่า…อีกฝ่ายมองไม่ออกว่าพวกเขาเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล ?
แต่..มันจะเป็นไปได้ยังไง ?
จ้าวโกลาหลที่แข็งแกร่งกลับมองระดับของพวกเขาไม่ออกรึ ?
“ กลับมาที่เรื่องหลัก” กวนพูดขึ้นช้าๆ “ มันมีกฎไม่มาก จักรพรรดิชื่อเซียวไม่ได้ตั้งกฎไว้มากนัก มันมีแค่ 3 ข้อเท่านั้น กฎ 3 ข้อนี้เจ้าจงจำให้ขึ้นใจ เจ้าไม่อาจจะฝ่าฝืนได้ ไม่งั้นแล้วผลกระทบจะเกินกว่าที่เจ้ารับไหว”