ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1867 : จักรพรรดิ?
ตอนที่การโจมตีของเขาถูกจางหยูรับไว้ได้นั้น แม้ว่าแรนเดลจะตะลึงและตกใจ แต่ก็ไม่ได้กลัว
หรือแม้แต่ตอนที่ดาบแสงถูกคีบเอาไว้ด้วยนิ้วของจางหยู แรนเดลก็เพียงตื่นตะหนก สับสน แต่ก็ไม่ถึงขั้นหวาดกลัว
แต่เมื่อดาบแสงที่ถูกจางหยูคีบเอาไว้นั้นโดนนิ้วของจางหยูหักเป็นชิ้นๆ แรนเดลก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา
นี่คือดาบแสง !
ดาบระดับสมบูรณ์ที่ราชาให้กับเขามา !
ทะเลโกลาหลนั้นถือกำเนิดขึ้นมาไม่รู้นานเท่าไหร่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่จะสามารถทำลายสมบัติโกลาหลระดับสมบูรณ์ได้เลย !
ต้องรู้ก่อนว่าสมบัติระดับสมบูรณ์นั้นคือสิ่งที่จักรพรรดิสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง สมบัติระดับสมบูรณ์แต่ละชิ้นนั้นมีพลังมหาศาลและน่าทึ่ง
ในตำนานกล่าวว่ามีแค่จักรพรรดิเท่านั้นที่จะสามารถทำลายมันได้ ไม่มีใครรู้ว่าตำนานนี้จริงรึไม่ แต่การที่สมบัติระดับสมบูรณ์ไม่มีลดหรือเพิ่มขึ้น ก็น่าจะเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ได้
แรนเดลหวั่นไหวขึ้นมา ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว เหงื่อเย็นๆผุดขึ้นทั่วร่าง ตอนนี้ในหัวของเขาไม่มีความคิดอื่นอีกเลย นอกจากหนี! ยิ่งหนีไกลเท่าไหร่ยิ่งดี !
เขารู้สึกราวกับตัวตนที่น่ากลัวกำลังหมายหัวเขาอยู่
ตอนที่แรนเดลหันหลังกลับนั้น เขาก็พบว่าไม่อาจจะควบคุมร่างกายของตัวเองได้ คล้ายกับว่าร่างกายถูกตรึงไว้กับที่ ไม่ว่าจะดิ้นรนมากแค่ไหน มันก็ไม่มีประโยชน์
” จบแล้ว ! ” ความคิดของแรนเดลพลันว่างเปล่า เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเขาจะมาหาเรื่องตัวตนที่น่ากลัวแบบนี้เข้า
จักรพรรดิ?
แรนเดลไม่รู้ว่าจางหยูอยู่ระดับนั้นรึไม่ แต่ก็คงไม่ห่างจากระดับนั้นมากนัก
ทำลายสมบัติโกลาหลขั้นสมบูรณ์ได้ เป็นหรือไม่เป็นจักรพรรดิ แล้วมันต่างกันตรงไหน?
มันไม่ต่างอะไรกันเลย !
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิรึไม่แต่อีกฝ่ายก็มีความสามารถที่จะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย !
แรนเดลกลืนน้ำลายพร้อมขนลุกไปทั้งตัว เขาหันไปหาจางหยูและฝืนยิ้มออกมา ” ผู้อาวุโส…..”
” การต่อสู้ยังไม่ทันจบ เจ้าจะรีบร้อนไปไหน ?” จางหยูยังคงยิ้มออกมาดังเดิม ” หากคิดจะไปก็ต้องรอจนกว่าการต่อสู้จะจบลง”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของจางหยู แรนเดลก็ยิ่งขนลุกขึ้นไปอีก สัญชาตญาณของเขาได้กรีดร้องอยู่ในหัวว่า ” อันตราย อันตราย….”
แรนเดลไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้ เรี่ยวแรงของเขาราวกับสูญหายไป ” ไม่ ข้าไม่สู้แล้ว ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ ”
ต่อหน้าคนที่ทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ได้ง่ายๆแบบนี้ เขาก็คงจบสิ้นได้ง่ายๆเช่นกัน !
ไม่ว่าแรนเดลจะหยิ่งผยองสักแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถรับการโจมตีของอีกฝ่ายไว้ได้
ตอนนี้เขาได้แต่ภาวนาว่า อีกฝ่ายจะเห็นแก่ท่าทางสงบเสงี่ยมของเขาและไม่ทำอะไรเขา
ยังไงซะในสายตาของจักรพรรดิแล้ว แม่ทัพนั้นไม่ได้ต่างอะไรจากมดปลวกเลย
หากอีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิจริงๆ อีกฝ่ายอาจจะรังเกียจที่จะสังหารเขา หากเป็นเช่นนั้นเขาอาจจะรอดก็ได้
” ท่านแม่ทัพแบบนี้ไม่ดีเลยนะ? คนที่เรียกร้องการต่อสู้ก็เป็นเจ้า แม้ว่าข้าจะเตือนเจ้าด้วยความหวังดีแล้วก็ตาม แต่เจ้าก็ยังยืนกรานเช่นเดิม เจ้าบังคับให้ข้าตกลงเองนะ ข้าปล่อยให้เจ้าลงมืออยู่ฝ่ายเดียว แต่มาตอนนี้เจ้ากลับบอกว่าไม่อยากสู้แล้ว มันดูไม่ยุติธรรมเลยนะว่าไหม” จางหยูกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “เอาแบบนี้ก็แล้วกัน หนึ่งกระบวนท่า หากท่านแม่ทัพสามารถรับการโจมตีข้าได้ ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป ”
แรนเดลสีหน้าซีดไปทันที
รับการโจมตีหนึ่งกระบวนท่า ?
เมื่อคิดถึงดาบแสงที่โดนทำลายไปง่ายๆด้วยนิ้วสองนิ้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขาไม่คิดว่าร่างกายและจิตของเขาจะสามารถเทียบกับดาบแสงได้
ใครจะกล้ารับการโจมตีล่ะ ?
หากรับการโจมตีก็ตายนะสิ!
” ผู้อาวุโส ! ” แรนเดลตะโกนขึ้นมา เขาถึงกับคุกเข่าให้จางหยูโดยไม่สนฐานะของตัวเองแม้แต่น้อย ” ข้าผิดไปแล้ว ! ข้าขอให้ผู้อาวุโสเมตตาด้วย ไว้ชีวิตข้าด้วย ! ”
เขาไม่กล้าที่จะลอง !
ร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแกร่งแบบดาบแสง !
นี่ไม่ต้องพูดถึงการโจมตีของจางหยูเลย แค่ตบเบาๆ เขาก็อาจจะตายได้
ตอนนี้เองที่จิตของแรนเดลสั่นกลัวอย่างรุนแรงพร้อมกับมีข้อความหนึ่งเข้ามา ” แรนเดล เจ้าเป็นอะไรไป ทำไมถึงยังไม่ลงมือ ? ”
ข้อความนี้มาจากแม่ทัพอีกคน น้ำเสียงของเขาบ่งบอกได้ว่าหงุดหงิดเพียงใด
แต่แรนเดลจะมีเวลาที่ไหนไปเถียงกับอีกฝ่าย ?
” ช่วยข้าด้วย ! ” แรนเดลตะโกนตอบกลับ
ตามหลักการแล้วการที่บ่มเพาะมาถึงระดับนี้ได้คนคนนั้นจะต้องเย่อหยิ่งอย่างมาก เพราะแม้แต่จ้าวโกลาหลธรรมดาก็ยังหยิ่งผยองเลย
แต่นิสัยของแรนเดลนั้นแตกต่างจากจ้าวโกลาหลทั่วไปของเผ่าสวรรค์ กล่าวได้ว่าเขาเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ในบรรดาแม่ทัพทั้งหมดของเผ่าสวรรค์ ตัวเขานั้นก็ไม่เป็นที่โปรดปราณของจักรพรรดิ แม้แต่แม่ทัพคนอื่นๆก็ดูถูกและรังเกียจเขา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพลังของเขานั้นแข็งแกร่ง งั้นเขาอาจจะไม่ได้ตำแหน่งนี้มา
ตอนนี้แรนเดลได้โยนศักดิ์ศรีของตัวเองและกลับไปเป็นคนแบบเดิม
จางหยูเห็นท่าทีของแรนเดลก็ไม่สนใจจะเล่นกับอีกฝ่ายต่อ
” การฆ่าคนคือความผิด การฆ่าสิ่งมีชีวิตก็เป็นความผิดเช่นกัน” จางหยูพูดขึ้น ” เจ้าคิดจะสังหารคนของข้า เจ้าว่าข้าควรจะทำยังไงกับเจ้า?”
เมื่อพูดจบ จางหยูก็กระแทกฝ่ามือไปที่หน้าอกของแรนเดล ทำให้เขากระเด็นออกไป ราวกับโดนบางอย่างกระแทกใส่อย่างรุนแรง ตอนที่กระเด็นนั้นร่างกายของเขาก็หายไปทีละนิดๆ ร่างของเขาราวกับลูกโป่งที่ค่อยๆฟีบลง สุดท้ายก็เหลือแค่เศษเสี้ยวจิตที่อ่อนแอ
หลังจากโจมตีเสร็จ จางหยูก็จัดชุดของตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะหันหลังแล้วหายตัวไป
แรนเดลในสภาพจิตทนต่อพลังกัดกร่อนของทะเลโกลาหลด้วยความยากลำบาก เขาได้สร้างร่างขึ้นมาใหม่ จิตของเขาอ่อนแอลงกว่าเดิม เขาแทบไม่มีพลังเหลืออยู่ เดาว่าแม้แต่จ้าวโกลาหลทั่วไปก็ยังเอาชนะเขาได้
” ข้ารอดแล้ว ! ” แรนเดลเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว นี่คือความรู้สึกที่เขาจะจำไปตลอดชีวิต
….
ในสนามรบ
” เกิดอะไรขึ้นกัน ? ” ผู้บัญชาการใหญ่พร้อมที่จะโจมตีแล้ว แต่แรนเดลกลับไม่ปรากฏตัวขึ้นมาสักที มันทำให้เขากังวลและสงสัยขึ้นมาเป็นอย่างมาก ” ทำไมแม่ทัพถึงยังไม่ลงมือ ? ”
ตราบใดที่แม่ทัพลงมือ ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาก็ไม่อาจจะรอดไปได้
ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาต่างก็พากันแปลกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้บัญชาการใหญ่ถึงไม่ลงมือสักที ราวกับรออะไรอยู่
” จะสู้ต่อรึไม่ ?” คนในทีมคังเฉียงเริ่มหมดความอดทน ” รีบลงมือซะ อย่าทำให้พวกข้าต้องเสียเวลา ! ”
ผู้บัญชาการใหญ่ 1 คนกับทหารอีกหลายหมื่นคน มันทำให้พวกเขากดดันกันไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่ได้เกรงกลัว
ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังมีทีมลั่วชาอยู่ที่นี่ด้วย หากร่วมมือกันแล้วพวกเขาจะได้เปรียบพวกเผ่าสวรรค์
ผู้บัญชาการใหญ่สีหน้าหม่นลง แม้จะไม่รู้ว่าทำไมท่านแม่ทัพถึงไม่ลงมือ แต่เขาก็ไม่อาจจะเสียเวลาต่อได้ เขาต้องเดินหน้าต่อ ผู้บัญชาการใหญ่พุ่งเข้าโจมตีลั่วชา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้สั่งการทหารคนอื่นๆ ” ฆ่าพวกมันซะ ! ”
ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาต่างก็พากันแสดงสีหน้าหนักใจออกมา การต่อสู้ที่ดุเดือดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
แต่ตอนนั้นเองกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ” หยุด ! ”
ตอนนั้นเองผู้บัญชาการใหญ่กลับชะงักและตื่นเต้นขึ้นมา เขารีบถอยกลับไปหาชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นมาด้วยความเคารพ ” คำนับท่านแม่ทัพ ! ”
เขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที ตอนนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ทหารเผ่าสวรรค์เองก็ตื่นเต้นตามไปด้วย แรนเดลคือเทพแห่งสงครามของพวกเขา ตราบใดที่แม่ทัพลงมือ ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใคร มันก็ต้องตาย
ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาสีหน้าเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะทีมลั่วชา สายตาของพวกนั้นเริ่มมีความกลัวก่อตัวขึ้นมา
แม้แต่ลั่วชาเองก็ยังสีหน้าบิดเบี้ยวไป ” แม่ทัพเผ่าสวรรค์…แรนเดล ! ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาที่นี่ ! ”
หรือแม้แต่ตอนที่ดาบแสงถูกคีบเอาไว้ด้วยนิ้วของจางหยู แรนเดลก็เพียงตื่นตะหนก สับสน แต่ก็ไม่ถึงขั้นหวาดกลัว
แต่เมื่อดาบแสงที่ถูกจางหยูคีบเอาไว้นั้นโดนนิ้วของจางหยูหักเป็นชิ้นๆ แรนเดลก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา
นี่คือดาบแสง !
ดาบระดับสมบูรณ์ที่ราชาให้กับเขามา !
ทะเลโกลาหลนั้นถือกำเนิดขึ้นมาไม่รู้นานเท่าไหร่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่จะสามารถทำลายสมบัติโกลาหลระดับสมบูรณ์ได้เลย !
ต้องรู้ก่อนว่าสมบัติระดับสมบูรณ์นั้นคือสิ่งที่จักรพรรดิสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง สมบัติระดับสมบูรณ์แต่ละชิ้นนั้นมีพลังมหาศาลและน่าทึ่ง
ในตำนานกล่าวว่ามีแค่จักรพรรดิเท่านั้นที่จะสามารถทำลายมันได้ ไม่มีใครรู้ว่าตำนานนี้จริงรึไม่ แต่การที่สมบัติระดับสมบูรณ์ไม่มีลดหรือเพิ่มขึ้น ก็น่าจะเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ได้
แรนเดลหวั่นไหวขึ้นมา ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว เหงื่อเย็นๆผุดขึ้นทั่วร่าง ตอนนี้ในหัวของเขาไม่มีความคิดอื่นอีกเลย นอกจากหนี! ยิ่งหนีไกลเท่าไหร่ยิ่งดี !
เขารู้สึกราวกับตัวตนที่น่ากลัวกำลังหมายหัวเขาอยู่
ตอนที่แรนเดลหันหลังกลับนั้น เขาก็พบว่าไม่อาจจะควบคุมร่างกายของตัวเองได้ คล้ายกับว่าร่างกายถูกตรึงไว้กับที่ ไม่ว่าจะดิ้นรนมากแค่ไหน มันก็ไม่มีประโยชน์
” จบแล้ว ! ” ความคิดของแรนเดลพลันว่างเปล่า เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเขาจะมาหาเรื่องตัวตนที่น่ากลัวแบบนี้เข้า
จักรพรรดิ?
แรนเดลไม่รู้ว่าจางหยูอยู่ระดับนั้นรึไม่ แต่ก็คงไม่ห่างจากระดับนั้นมากนัก
ทำลายสมบัติโกลาหลขั้นสมบูรณ์ได้ เป็นหรือไม่เป็นจักรพรรดิ แล้วมันต่างกันตรงไหน?
มันไม่ต่างอะไรกันเลย !
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิรึไม่แต่อีกฝ่ายก็มีความสามารถที่จะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย !
แรนเดลกลืนน้ำลายพร้อมขนลุกไปทั้งตัว เขาหันไปหาจางหยูและฝืนยิ้มออกมา ” ผู้อาวุโส…..”
” การต่อสู้ยังไม่ทันจบ เจ้าจะรีบร้อนไปไหน ?” จางหยูยังคงยิ้มออกมาดังเดิม ” หากคิดจะไปก็ต้องรอจนกว่าการต่อสู้จะจบลง”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของจางหยู แรนเดลก็ยิ่งขนลุกขึ้นไปอีก สัญชาตญาณของเขาได้กรีดร้องอยู่ในหัวว่า ” อันตราย อันตราย….”
แรนเดลไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้ เรี่ยวแรงของเขาราวกับสูญหายไป ” ไม่ ข้าไม่สู้แล้ว ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ ”
ต่อหน้าคนที่ทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ได้ง่ายๆแบบนี้ เขาก็คงจบสิ้นได้ง่ายๆเช่นกัน !
ไม่ว่าแรนเดลจะหยิ่งผยองสักแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถรับการโจมตีของอีกฝ่ายไว้ได้
ตอนนี้เขาได้แต่ภาวนาว่า อีกฝ่ายจะเห็นแก่ท่าทางสงบเสงี่ยมของเขาและไม่ทำอะไรเขา
ยังไงซะในสายตาของจักรพรรดิแล้ว แม่ทัพนั้นไม่ได้ต่างอะไรจากมดปลวกเลย
หากอีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิจริงๆ อีกฝ่ายอาจจะรังเกียจที่จะสังหารเขา หากเป็นเช่นนั้นเขาอาจจะรอดก็ได้
” ท่านแม่ทัพแบบนี้ไม่ดีเลยนะ? คนที่เรียกร้องการต่อสู้ก็เป็นเจ้า แม้ว่าข้าจะเตือนเจ้าด้วยความหวังดีแล้วก็ตาม แต่เจ้าก็ยังยืนกรานเช่นเดิม เจ้าบังคับให้ข้าตกลงเองนะ ข้าปล่อยให้เจ้าลงมืออยู่ฝ่ายเดียว แต่มาตอนนี้เจ้ากลับบอกว่าไม่อยากสู้แล้ว มันดูไม่ยุติธรรมเลยนะว่าไหม” จางหยูกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “เอาแบบนี้ก็แล้วกัน หนึ่งกระบวนท่า หากท่านแม่ทัพสามารถรับการโจมตีข้าได้ ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป ”
แรนเดลสีหน้าซีดไปทันที
รับการโจมตีหนึ่งกระบวนท่า ?
เมื่อคิดถึงดาบแสงที่โดนทำลายไปง่ายๆด้วยนิ้วสองนิ้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขาไม่คิดว่าร่างกายและจิตของเขาจะสามารถเทียบกับดาบแสงได้
ใครจะกล้ารับการโจมตีล่ะ ?
หากรับการโจมตีก็ตายนะสิ!
” ผู้อาวุโส ! ” แรนเดลตะโกนขึ้นมา เขาถึงกับคุกเข่าให้จางหยูโดยไม่สนฐานะของตัวเองแม้แต่น้อย ” ข้าผิดไปแล้ว ! ข้าขอให้ผู้อาวุโสเมตตาด้วย ไว้ชีวิตข้าด้วย ! ”
เขาไม่กล้าที่จะลอง !
ร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแกร่งแบบดาบแสง !
นี่ไม่ต้องพูดถึงการโจมตีของจางหยูเลย แค่ตบเบาๆ เขาก็อาจจะตายได้
ตอนนี้เองที่จิตของแรนเดลสั่นกลัวอย่างรุนแรงพร้อมกับมีข้อความหนึ่งเข้ามา ” แรนเดล เจ้าเป็นอะไรไป ทำไมถึงยังไม่ลงมือ ? ”
ข้อความนี้มาจากแม่ทัพอีกคน น้ำเสียงของเขาบ่งบอกได้ว่าหงุดหงิดเพียงใด
แต่แรนเดลจะมีเวลาที่ไหนไปเถียงกับอีกฝ่าย ?
” ช่วยข้าด้วย ! ” แรนเดลตะโกนตอบกลับ
ตามหลักการแล้วการที่บ่มเพาะมาถึงระดับนี้ได้คนคนนั้นจะต้องเย่อหยิ่งอย่างมาก เพราะแม้แต่จ้าวโกลาหลธรรมดาก็ยังหยิ่งผยองเลย
แต่นิสัยของแรนเดลนั้นแตกต่างจากจ้าวโกลาหลทั่วไปของเผ่าสวรรค์ กล่าวได้ว่าเขาเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ในบรรดาแม่ทัพทั้งหมดของเผ่าสวรรค์ ตัวเขานั้นก็ไม่เป็นที่โปรดปราณของจักรพรรดิ แม้แต่แม่ทัพคนอื่นๆก็ดูถูกและรังเกียจเขา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพลังของเขานั้นแข็งแกร่ง งั้นเขาอาจจะไม่ได้ตำแหน่งนี้มา
ตอนนี้แรนเดลได้โยนศักดิ์ศรีของตัวเองและกลับไปเป็นคนแบบเดิม
จางหยูเห็นท่าทีของแรนเดลก็ไม่สนใจจะเล่นกับอีกฝ่ายต่อ
” การฆ่าคนคือความผิด การฆ่าสิ่งมีชีวิตก็เป็นความผิดเช่นกัน” จางหยูพูดขึ้น ” เจ้าคิดจะสังหารคนของข้า เจ้าว่าข้าควรจะทำยังไงกับเจ้า?”
เมื่อพูดจบ จางหยูก็กระแทกฝ่ามือไปที่หน้าอกของแรนเดล ทำให้เขากระเด็นออกไป ราวกับโดนบางอย่างกระแทกใส่อย่างรุนแรง ตอนที่กระเด็นนั้นร่างกายของเขาก็หายไปทีละนิดๆ ร่างของเขาราวกับลูกโป่งที่ค่อยๆฟีบลง สุดท้ายก็เหลือแค่เศษเสี้ยวจิตที่อ่อนแอ
หลังจากโจมตีเสร็จ จางหยูก็จัดชุดของตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะหันหลังแล้วหายตัวไป
แรนเดลในสภาพจิตทนต่อพลังกัดกร่อนของทะเลโกลาหลด้วยความยากลำบาก เขาได้สร้างร่างขึ้นมาใหม่ จิตของเขาอ่อนแอลงกว่าเดิม เขาแทบไม่มีพลังเหลืออยู่ เดาว่าแม้แต่จ้าวโกลาหลทั่วไปก็ยังเอาชนะเขาได้
” ข้ารอดแล้ว ! ” แรนเดลเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว นี่คือความรู้สึกที่เขาจะจำไปตลอดชีวิต
….
ในสนามรบ
” เกิดอะไรขึ้นกัน ? ” ผู้บัญชาการใหญ่พร้อมที่จะโจมตีแล้ว แต่แรนเดลกลับไม่ปรากฏตัวขึ้นมาสักที มันทำให้เขากังวลและสงสัยขึ้นมาเป็นอย่างมาก ” ทำไมแม่ทัพถึงยังไม่ลงมือ ? ”
ตราบใดที่แม่ทัพลงมือ ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาก็ไม่อาจจะรอดไปได้
ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาต่างก็พากันแปลกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้บัญชาการใหญ่ถึงไม่ลงมือสักที ราวกับรออะไรอยู่
” จะสู้ต่อรึไม่ ?” คนในทีมคังเฉียงเริ่มหมดความอดทน ” รีบลงมือซะ อย่าทำให้พวกข้าต้องเสียเวลา ! ”
ผู้บัญชาการใหญ่ 1 คนกับทหารอีกหลายหมื่นคน มันทำให้พวกเขากดดันกันไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่ได้เกรงกลัว
ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังมีทีมลั่วชาอยู่ที่นี่ด้วย หากร่วมมือกันแล้วพวกเขาจะได้เปรียบพวกเผ่าสวรรค์
ผู้บัญชาการใหญ่สีหน้าหม่นลง แม้จะไม่รู้ว่าทำไมท่านแม่ทัพถึงไม่ลงมือ แต่เขาก็ไม่อาจจะเสียเวลาต่อได้ เขาต้องเดินหน้าต่อ ผู้บัญชาการใหญ่พุ่งเข้าโจมตีลั่วชา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้สั่งการทหารคนอื่นๆ ” ฆ่าพวกมันซะ ! ”
ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาต่างก็พากันแสดงสีหน้าหนักใจออกมา การต่อสู้ที่ดุเดือดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
แต่ตอนนั้นเองกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ” หยุด ! ”
ตอนนั้นเองผู้บัญชาการใหญ่กลับชะงักและตื่นเต้นขึ้นมา เขารีบถอยกลับไปหาชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นมาด้วยความเคารพ ” คำนับท่านแม่ทัพ ! ”
เขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที ตอนนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ทหารเผ่าสวรรค์เองก็ตื่นเต้นตามไปด้วย แรนเดลคือเทพแห่งสงครามของพวกเขา ตราบใดที่แม่ทัพลงมือ ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใคร มันก็ต้องตาย
ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาสีหน้าเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะทีมลั่วชา สายตาของพวกนั้นเริ่มมีความกลัวก่อตัวขึ้นมา
แม้แต่ลั่วชาเองก็ยังสีหน้าบิดเบี้ยวไป ” แม่ทัพเผ่าสวรรค์…แรนเดล ! ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาที่นี่ ! ”