ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1886 : เหยียบย่างถึงถิ่น
ที่ทะเลโกลาหล
เก่อเย่ได้เดินทางออกมาจากวังวน ก่อนจะปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกโกลาหลหิน
กำแพงโกลาหลหินไม่อาจจะส่งผลต่อเก่อเย่ได้ แค่เขาสะบัดมือก็เข้าไปในโกลาหลหินได้อย่างง่ายดายแล้ว
เมื่อรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังในโกลาหลหิน เก่อเย่ก็ต้องขมวดคิ้ว “ คลื่นพลังนี่เหมือนจะคุ้นๆ “
เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเห็นซุนกวนมาก่อน แต่ทำไมเขาถึงคุ้นกับคลื่นพลังนี้ได้ ?
มันคล้ายกับคลื่นพลังที่เขาเคยพบมา
ในเวลาเดียวกัน ต้นไม้โกลาหลก็รับรู้ว่ามีคนเข้ามาในโกลาหล
“ ใครกัน ?” ต้นไม้โกลาหลแผ่การรับรู้ออกไปทั่วโกลาหล แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้ตัวตนของเก่อเย่ ช่องว่างระหว่างทั้งสองนั้นมากเกินไป นอกซะจากว่าเก่อเย่จะเผยตัวเอง งั้นต้นไม้โกลาหลก็ไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายได้
ในทางกลับกันแล้วเมื่อต้นไม้โกลาหลแผ่การรับรู้ออกมา เก่อเย่ก็รับรู้ตัวตนของต้นไม้โกลาหลได้ทันที
เขาก้าวออกไปและมุ่งหน้าไปที่เขตหวงห้ามทันที
“ เจ้าคือต้นไม้โกลาหลรึ ? ” เก่อเย่ถามขึ้นมา “ เจ้าคือสมาชิกของทีมคังเฉียงใช่หรือไม่?”
ต้นไม้โกลาหลมองไปที่เก่อเย่ด้วยสีหน้าหวาดกลัว ก่อนจะพูดขึ้น “ ท่านเป็นใครกัน ?”
“ เจ้าเรียกข้าว่า…แม่ทัพก็ได้”
ต้นไม้โกลาหลถึงกับตกตะลึง “ แม่ทัพรึ ?”
“ ข้าเป็นแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์ เก่อเย่ ” เก่อเย่ตอบกลับด้วยท่าทีเยือกเย็นซึ่งทำให้คนอื่นอึดอัดอย่างมาก
แต่เขาไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นกับต้นไม้โกลาหล นอกจากจักรพรรดิแล้ว เขามักจะมองว่าคนอื่นเป็นสายลับทั้งหมด
ต้นไม้โกลาหลแสดงสีหน้าหนักใจออกมา “ ข้าไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพมาทำอะไรที่นี่กัน ?”
“ สำนักคังเฉียงอยู่ในโลกป่าสินะ ? พาข้าไปยังโลกป่าที ” เก่อเย่พูดขึ้น
“ แล้วท่านแม่ทัพจะไปยังสำนักคังเฉียงทำไม?”
เขากังวลว่าเก่อเย่จะไม่หวังดีกับสำนักคังเฉียง
“ ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องกังวล เจ้าแค่พาข้าไปที่โลกป่าก็พอ” เก่อเย่พูดขึ้น
แม้ว่าจะไม่มีต้นไม้โกลาหลช่วย แต่เขาก็ยังหาโลกป่าเจอ แต่การให้ต้นไม้โกลาหลช่วยนั้น สะดวกและประหยัดเวลาที่สุดแล้ว
“ ข้าต้องขอโทษด้วย หากท่านแม่ทัพไม่บอกเหตุผลมา ข้าคงไม่อาจจะพาท่านไปที่โลกป่าได้ ” ต้นไม้โกลาหลตอบกลับ
เก่อเย่ยักคิ้ว ตั้งแต่ขึ้นเป็นแม่ทัพมา นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าปฏิเสธเขา
เขาชื่นชมในความกล้าหาญของต้นไม้โกลาหล
แต่เมื่อคิดถึงภารกิจที่จักรพรรดิให้มา เก่อเย่ก็ไม่คิดจะเสียเวลาและพูดขึ้น “ ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของจักรพรรดิ ข้ามาเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของทีมคังเฉียง ข้าหวังว่าเจ้าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
“ จักรพรรดิ…” ต้นไม้โกลาหลตกใจ ทีมคังเฉียงได้รับความสนใจจากจักรพรรดิงั้นหรือ ?
เขาลังเลอยู่สักพัก และกัดฟันแน่นก่อนจะพูดขึ้น “ ข้าพาท่านไปยังโลกป่าได้ แต่ท่านห้ามทำร้ายคนของสำนักคังเฉียง”
เก่อเย่ยังแสดงสีหน้าเฉยเมยออกมา “ ภารกิจของจักรพรรดิคือให้ตรวจสอบทีมคังเฉียง เรื่องอื่นไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของข้า”
ทำไมเขาต้องทำร้ายคนของสำนักคังเฉียงโดยไร้เหตุผลด้วย ?
ยิ่งไปกว่านั้นหัวหน้าทีมคังเฉียงก็มีฝีมือเหนือกว่าแม่ทัพอย่างแรนเดล อีกฝ่ายอาจจะพอทัดเทียมกับเขาได้ด้วยซ้ำ
ต้นไม้โกลาหลสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะนำทางไปยังโลกป่า
ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงด้านนอกโลกป่า
“ ที่นี่คือบ้านของทีมคังเฉียง” เมื่อรับรู้ได้ถึงกำแพงโลก เก่อเย่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม “ โลกขั้นที่ 9 นี้แทบจะเทียบกับโกลาหลได้เลย…”
ผ่านไปหลายสิบล้านปีโลกป่าได้เติบโตขึ้นมาจนถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ ยังไงซะเจ้าของโลกนี้ก็ทัดเทียมกับจักรพรรดิได้
ทั้งสองเข้าไปในโลกป่าได้อย่างง่ายดาย
ด้านล่างภูเขาร้างตรงทางเข้าสำนักคังเฉียง ต้นไม้โกลาหลได้ยืนอยู่เคียงข้างเก่อเย่
“ เจ้าไปบอกหัวหน้าทีมคังเฉียง” เก่อเย่ไม่ได้คิดเข้าไปในสำนักคังเฉียง “ บอกว่าข้าได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิให้มาตรวจสอบ หวังว่าสำนักคังเฉียงจะให้การร่วมมืออย่างดี”
ต้นไม้โกลาหลได้ส่งข้อความหาเนี่ยเวิ่น ให้เนี่ยเวิ่นแจ้งกับคนของสำนักคังเฉียง
ผ่านไปสักพักคนของสำนักคังเฉียงก็รับรู้การมาของเก่อเย่ได้ ไม่ใช่แค่ไม่กลัวแต่ยังคาดหวังอีกด้วย
จางเฮ่าหลันยังไม่ทันเรียกเสี่ยวเสียมาเพื่อส่งไปแจ้งจางหยู ก็มีร่างหลายสิบร่างปรากฏขึ้นมาที่ลานสำนักคังเฉียง
“ เจ้าสำนัก !”
“ เจ้าสำนักสาขา !”
เมื่อเห็นคนกลุ่มนั้น ทุกคนนอกจากจางเฮ่าหลันต่างก็พากันทำความเคารพ
จางลู่, ความว่างเปล่าและเจ้าสำนักรวมถึงร่างแยกอื่นๆต่างก็ปรากฏตัวขึ้น “ อย่าตกใจไป เราจัดการเอง ” เจ้าสำนักบอกกับทุกคน
หลังจากนั้นสักพัก เจ้าสำนักก็บอกกับเนี่ยเวิ่นว่า “ ให้แม่ทัพเข้ามา ”
“ ขอรับ พ่อบุญธรรม ” เนี่ยเวิ่นพยักหน้า ก่อนจะส่งข้อความบอกกับต้นไม้โกลาหลเพื่อให้บอกต่อกับเก่อเย่
ในเวลาเดียวกันค่ายกลที่ครอบคลุมภูเขาร้างก็หายไป เก่อเย่และต้นไม้โกลาหลก็เข้ามาถึงลานสำนักในพริบตา
ตอนนั้นทุกคนนอกจากจางหยู ต่างก็รวมตัวกันอยู่ที่นั่น
เก่อเย่เห็นแบบนั้นก็ต้องหรี่ตาลง “ แข็งแกร่งกว่าที่บอกเอาไว้เสียอีก !”
ตั้งแต่ที่ได้ลูกปัดกลับมาจำนวนมาก แม้ว่าโลกภายนอกจะผ่านมาแค่ไม่กี่เดือน แต่ในทะเลบรรพกาลกลับผ่านไปหลายสิบล้านปีแล้ว ในสิบล้านปีมานี้พวกเขาได้ดูดซับลูกปัดไปจำนวนมาก บรรพกาลของพวกเขาได้ขยายตัว พลังบรรพกาลนั้นบริสุทธิ์มากกว่าเดิม มันจึงทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างมาก
เก่อเย่ที่เป็นแม่ทัพไม่อาจจะมองระดับของพวกนี้ออก เขารับรู้ได้เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อมองไปรอบๆ สุดท้ายเก่อเย่ก็มองไปที่เจ้าสำนัก, จางลู่และความว่างเปล่า
เพราะสามคนนี้หน้าตาเหมือนกับจางหยูในภาพ
“ ใครเป็นหัวหน้าทีมคังเฉียง ?” แม้ว่าเก่อเย่จะอึ้ง แต่ก็ยังรักษาท่าทีเอาไว้ได้ เขาไม่แสดงอารมณ์สั่นไหวออกมาเลยแม้แต่น้อย
“ ร่างหลักยุ่งอยู่ เราจึงออกมาต้อนรับก่อน หากมีเรื่องอะไรก็บอกเราได้เลย” จางลู่พูดขึ้น
เมื่อได้ยินว่าจางลู่เป็นร่างแยก เก่อเย่ก็ไม่ได้แปลกใจ แต่เขาก็ไม่พอใจอยู่ดี “ บอกหัวหน้าทีมคังเฉียงมาพบข้าด้วยตัวเอง” เขาพูดขึ้นเสียงดัง “ ข้ามาที่นี่เพื่อตรวจสอบทีมคังเฉียงตามคำสั่งขององค์จักรพรรดิ หวังว่าพวกเจ้าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
เขารู้ว่าหัวหน้าทีมคังเฉียงนั้นแข็งแกร่งอย่างมากและอาจจะไม่กลัวเขา ดังนั้นเขาจึงอ้างชื่อจักรพรรดิขึ้นมา
“ อยากพบกับร่างหลักงั้นหรือ ?” เจ้าสำนักส่ายหน้า “ หากซื่อเซียวมาที่นี่ด้วยตัวเอง ร่างหลักอาจจะยอมมาพบด้วย แต่ถ้าเป็นแค่เจ้าน่ะ อย่างหวังเลย”
เก่อเย่ขมวดคิ้ว นี่พวกนี้ดูถูกเขาที่เป็นแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์งั้นหรือ ?
หัวหน้าทีมคังเฉียงช่างหยิ่งทะนงจริงๆ !
กล้าดียังไงที่เรียกจักรพรรดิแค่ชื่อ !
“ บอกมาว่าเจ้าต้องการจะตรวจสอบอะไร ?” จางลู่ถามขึ้น
เก่อเย่เห็นว่าพวกนี้ไม่ยอมให้ความร่วมมือก็คิดจะโจมตี แต่สุดท้ายก็อดทนเอาไว้ “ ข้ามาที่นี่เพื่อยืนยันปัญหา ” “ปัญหาอะไร ”
“ อย่างแรกคือแรนเดล แม่ทัพเผ่าสวรรค์ ร่างหลักของพวกเจ้า ทำร้ายเขาใช่หรือไม่ ?”
“ ใช่ แล้วคำถามต่อไปละ ”
“ อย่างที่สอง สมบัติระดับสมบูรณ์ของแรนเดล ร่างหลักของพวกเจ้าเป็นคนทำลายใช่รึไม่ ?”
“ ถูกต้อง คำถามต่อไป ”
“ คำถามสุดท้าย ร่างหลักอยู่ระดับไหนกันแน่ ?”
“ เจ้าคงจะเป็นแม่ทัพสินะ” จางลู่มองไปที่เก่อเย่ “ มีปัญหาอื่นอีกรึไม่ ?”
“ เจ้าหมายความว่าอย่างไร ?” ชัดแล้วว่าเก่อเย่ไม่พอใจกับคำตอบของจางลู่เป็นอย่างมาก “ ข้าต้องการคำตอบที่ชัดเจน ”
ตอนนั้นทุกคนต่างก็อึ้ง พวกเขารู้ว่าเจ้าสำนักนั้นแข็งแกร่ง การที่แรนเดลยอมประนีประนอมต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าสำนัก แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าสำนักจะทำร้ายแรนเดลจริงๆพวกเขาไม่คิดเลยว่าเจ้าสำนักจะทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ได้ !
เมื่อเห็นท่าทีไม่เต็มใจของเก่อเย่ จางลู่ก็พูดขึ้นมา “ อยากรู้คำตอบรึ ? ได้ เจ้าสู้กับเราสามคนก่อน หากเจ้าชนะ ข้าจะบอกคำตอบที่แท้จริงให้ ”
ทุกคนต่างก็พากันตกใจ
อันที่จริงพวกเขาก็อยากจะสู้ด้วย
เจ้าสำนักสาขาอยากไปแทนที่และสู้กับเก่อเย่บ้าง
“ จริงรึ?” เก่อเย่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างมาก หากอีกฝ่ายเป็นจางหยู เขาอาจจะไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ แต่หากเป็นแค่ร่างแยกทั้งสามแล้ว เขามั่นใจว่าจะเอาชนะได้อย่างง่ายดาย
เก่อเย่ได้เดินทางออกมาจากวังวน ก่อนจะปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกโกลาหลหิน
กำแพงโกลาหลหินไม่อาจจะส่งผลต่อเก่อเย่ได้ แค่เขาสะบัดมือก็เข้าไปในโกลาหลหินได้อย่างง่ายดายแล้ว
เมื่อรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังในโกลาหลหิน เก่อเย่ก็ต้องขมวดคิ้ว “ คลื่นพลังนี่เหมือนจะคุ้นๆ “
เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเห็นซุนกวนมาก่อน แต่ทำไมเขาถึงคุ้นกับคลื่นพลังนี้ได้ ?
มันคล้ายกับคลื่นพลังที่เขาเคยพบมา
ในเวลาเดียวกัน ต้นไม้โกลาหลก็รับรู้ว่ามีคนเข้ามาในโกลาหล
“ ใครกัน ?” ต้นไม้โกลาหลแผ่การรับรู้ออกไปทั่วโกลาหล แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้ตัวตนของเก่อเย่ ช่องว่างระหว่างทั้งสองนั้นมากเกินไป นอกซะจากว่าเก่อเย่จะเผยตัวเอง งั้นต้นไม้โกลาหลก็ไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายได้
ในทางกลับกันแล้วเมื่อต้นไม้โกลาหลแผ่การรับรู้ออกมา เก่อเย่ก็รับรู้ตัวตนของต้นไม้โกลาหลได้ทันที
เขาก้าวออกไปและมุ่งหน้าไปที่เขตหวงห้ามทันที
“ เจ้าคือต้นไม้โกลาหลรึ ? ” เก่อเย่ถามขึ้นมา “ เจ้าคือสมาชิกของทีมคังเฉียงใช่หรือไม่?”
ต้นไม้โกลาหลมองไปที่เก่อเย่ด้วยสีหน้าหวาดกลัว ก่อนจะพูดขึ้น “ ท่านเป็นใครกัน ?”
“ เจ้าเรียกข้าว่า…แม่ทัพก็ได้”
ต้นไม้โกลาหลถึงกับตกตะลึง “ แม่ทัพรึ ?”
“ ข้าเป็นแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์ เก่อเย่ ” เก่อเย่ตอบกลับด้วยท่าทีเยือกเย็นซึ่งทำให้คนอื่นอึดอัดอย่างมาก
แต่เขาไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นกับต้นไม้โกลาหล นอกจากจักรพรรดิแล้ว เขามักจะมองว่าคนอื่นเป็นสายลับทั้งหมด
ต้นไม้โกลาหลแสดงสีหน้าหนักใจออกมา “ ข้าไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพมาทำอะไรที่นี่กัน ?”
“ สำนักคังเฉียงอยู่ในโลกป่าสินะ ? พาข้าไปยังโลกป่าที ” เก่อเย่พูดขึ้น
“ แล้วท่านแม่ทัพจะไปยังสำนักคังเฉียงทำไม?”
เขากังวลว่าเก่อเย่จะไม่หวังดีกับสำนักคังเฉียง
“ ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องกังวล เจ้าแค่พาข้าไปที่โลกป่าก็พอ” เก่อเย่พูดขึ้น
แม้ว่าจะไม่มีต้นไม้โกลาหลช่วย แต่เขาก็ยังหาโลกป่าเจอ แต่การให้ต้นไม้โกลาหลช่วยนั้น สะดวกและประหยัดเวลาที่สุดแล้ว
“ ข้าต้องขอโทษด้วย หากท่านแม่ทัพไม่บอกเหตุผลมา ข้าคงไม่อาจจะพาท่านไปที่โลกป่าได้ ” ต้นไม้โกลาหลตอบกลับ
เก่อเย่ยักคิ้ว ตั้งแต่ขึ้นเป็นแม่ทัพมา นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าปฏิเสธเขา
เขาชื่นชมในความกล้าหาญของต้นไม้โกลาหล
แต่เมื่อคิดถึงภารกิจที่จักรพรรดิให้มา เก่อเย่ก็ไม่คิดจะเสียเวลาและพูดขึ้น “ ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของจักรพรรดิ ข้ามาเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของทีมคังเฉียง ข้าหวังว่าเจ้าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
“ จักรพรรดิ…” ต้นไม้โกลาหลตกใจ ทีมคังเฉียงได้รับความสนใจจากจักรพรรดิงั้นหรือ ?
เขาลังเลอยู่สักพัก และกัดฟันแน่นก่อนจะพูดขึ้น “ ข้าพาท่านไปยังโลกป่าได้ แต่ท่านห้ามทำร้ายคนของสำนักคังเฉียง”
เก่อเย่ยังแสดงสีหน้าเฉยเมยออกมา “ ภารกิจของจักรพรรดิคือให้ตรวจสอบทีมคังเฉียง เรื่องอื่นไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของข้า”
ทำไมเขาต้องทำร้ายคนของสำนักคังเฉียงโดยไร้เหตุผลด้วย ?
ยิ่งไปกว่านั้นหัวหน้าทีมคังเฉียงก็มีฝีมือเหนือกว่าแม่ทัพอย่างแรนเดล อีกฝ่ายอาจจะพอทัดเทียมกับเขาได้ด้วยซ้ำ
ต้นไม้โกลาหลสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะนำทางไปยังโลกป่า
ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงด้านนอกโลกป่า
“ ที่นี่คือบ้านของทีมคังเฉียง” เมื่อรับรู้ได้ถึงกำแพงโลก เก่อเย่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม “ โลกขั้นที่ 9 นี้แทบจะเทียบกับโกลาหลได้เลย…”
ผ่านไปหลายสิบล้านปีโลกป่าได้เติบโตขึ้นมาจนถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ ยังไงซะเจ้าของโลกนี้ก็ทัดเทียมกับจักรพรรดิได้
ทั้งสองเข้าไปในโลกป่าได้อย่างง่ายดาย
ด้านล่างภูเขาร้างตรงทางเข้าสำนักคังเฉียง ต้นไม้โกลาหลได้ยืนอยู่เคียงข้างเก่อเย่
“ เจ้าไปบอกหัวหน้าทีมคังเฉียง” เก่อเย่ไม่ได้คิดเข้าไปในสำนักคังเฉียง “ บอกว่าข้าได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิให้มาตรวจสอบ หวังว่าสำนักคังเฉียงจะให้การร่วมมืออย่างดี”
ต้นไม้โกลาหลได้ส่งข้อความหาเนี่ยเวิ่น ให้เนี่ยเวิ่นแจ้งกับคนของสำนักคังเฉียง
ผ่านไปสักพักคนของสำนักคังเฉียงก็รับรู้การมาของเก่อเย่ได้ ไม่ใช่แค่ไม่กลัวแต่ยังคาดหวังอีกด้วย
จางเฮ่าหลันยังไม่ทันเรียกเสี่ยวเสียมาเพื่อส่งไปแจ้งจางหยู ก็มีร่างหลายสิบร่างปรากฏขึ้นมาที่ลานสำนักคังเฉียง
“ เจ้าสำนัก !”
“ เจ้าสำนักสาขา !”
เมื่อเห็นคนกลุ่มนั้น ทุกคนนอกจากจางเฮ่าหลันต่างก็พากันทำความเคารพ
จางลู่, ความว่างเปล่าและเจ้าสำนักรวมถึงร่างแยกอื่นๆต่างก็ปรากฏตัวขึ้น “ อย่าตกใจไป เราจัดการเอง ” เจ้าสำนักบอกกับทุกคน
หลังจากนั้นสักพัก เจ้าสำนักก็บอกกับเนี่ยเวิ่นว่า “ ให้แม่ทัพเข้ามา ”
“ ขอรับ พ่อบุญธรรม ” เนี่ยเวิ่นพยักหน้า ก่อนจะส่งข้อความบอกกับต้นไม้โกลาหลเพื่อให้บอกต่อกับเก่อเย่
ในเวลาเดียวกันค่ายกลที่ครอบคลุมภูเขาร้างก็หายไป เก่อเย่และต้นไม้โกลาหลก็เข้ามาถึงลานสำนักในพริบตา
ตอนนั้นทุกคนนอกจากจางหยู ต่างก็รวมตัวกันอยู่ที่นั่น
เก่อเย่เห็นแบบนั้นก็ต้องหรี่ตาลง “ แข็งแกร่งกว่าที่บอกเอาไว้เสียอีก !”
ตั้งแต่ที่ได้ลูกปัดกลับมาจำนวนมาก แม้ว่าโลกภายนอกจะผ่านมาแค่ไม่กี่เดือน แต่ในทะเลบรรพกาลกลับผ่านไปหลายสิบล้านปีแล้ว ในสิบล้านปีมานี้พวกเขาได้ดูดซับลูกปัดไปจำนวนมาก บรรพกาลของพวกเขาได้ขยายตัว พลังบรรพกาลนั้นบริสุทธิ์มากกว่าเดิม มันจึงทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างมาก
เก่อเย่ที่เป็นแม่ทัพไม่อาจจะมองระดับของพวกนี้ออก เขารับรู้ได้เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อมองไปรอบๆ สุดท้ายเก่อเย่ก็มองไปที่เจ้าสำนัก, จางลู่และความว่างเปล่า
เพราะสามคนนี้หน้าตาเหมือนกับจางหยูในภาพ
“ ใครเป็นหัวหน้าทีมคังเฉียง ?” แม้ว่าเก่อเย่จะอึ้ง แต่ก็ยังรักษาท่าทีเอาไว้ได้ เขาไม่แสดงอารมณ์สั่นไหวออกมาเลยแม้แต่น้อย
“ ร่างหลักยุ่งอยู่ เราจึงออกมาต้อนรับก่อน หากมีเรื่องอะไรก็บอกเราได้เลย” จางลู่พูดขึ้น
เมื่อได้ยินว่าจางลู่เป็นร่างแยก เก่อเย่ก็ไม่ได้แปลกใจ แต่เขาก็ไม่พอใจอยู่ดี “ บอกหัวหน้าทีมคังเฉียงมาพบข้าด้วยตัวเอง” เขาพูดขึ้นเสียงดัง “ ข้ามาที่นี่เพื่อตรวจสอบทีมคังเฉียงตามคำสั่งขององค์จักรพรรดิ หวังว่าพวกเจ้าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
เขารู้ว่าหัวหน้าทีมคังเฉียงนั้นแข็งแกร่งอย่างมากและอาจจะไม่กลัวเขา ดังนั้นเขาจึงอ้างชื่อจักรพรรดิขึ้นมา
“ อยากพบกับร่างหลักงั้นหรือ ?” เจ้าสำนักส่ายหน้า “ หากซื่อเซียวมาที่นี่ด้วยตัวเอง ร่างหลักอาจจะยอมมาพบด้วย แต่ถ้าเป็นแค่เจ้าน่ะ อย่างหวังเลย”
เก่อเย่ขมวดคิ้ว นี่พวกนี้ดูถูกเขาที่เป็นแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์งั้นหรือ ?
หัวหน้าทีมคังเฉียงช่างหยิ่งทะนงจริงๆ !
กล้าดียังไงที่เรียกจักรพรรดิแค่ชื่อ !
“ บอกมาว่าเจ้าต้องการจะตรวจสอบอะไร ?” จางลู่ถามขึ้น
เก่อเย่เห็นว่าพวกนี้ไม่ยอมให้ความร่วมมือก็คิดจะโจมตี แต่สุดท้ายก็อดทนเอาไว้ “ ข้ามาที่นี่เพื่อยืนยันปัญหา ” “ปัญหาอะไร ”
“ อย่างแรกคือแรนเดล แม่ทัพเผ่าสวรรค์ ร่างหลักของพวกเจ้า ทำร้ายเขาใช่หรือไม่ ?”
“ ใช่ แล้วคำถามต่อไปละ ”
“ อย่างที่สอง สมบัติระดับสมบูรณ์ของแรนเดล ร่างหลักของพวกเจ้าเป็นคนทำลายใช่รึไม่ ?”
“ ถูกต้อง คำถามต่อไป ”
“ คำถามสุดท้าย ร่างหลักอยู่ระดับไหนกันแน่ ?”
“ เจ้าคงจะเป็นแม่ทัพสินะ” จางลู่มองไปที่เก่อเย่ “ มีปัญหาอื่นอีกรึไม่ ?”
“ เจ้าหมายความว่าอย่างไร ?” ชัดแล้วว่าเก่อเย่ไม่พอใจกับคำตอบของจางลู่เป็นอย่างมาก “ ข้าต้องการคำตอบที่ชัดเจน ”
ตอนนั้นทุกคนต่างก็อึ้ง พวกเขารู้ว่าเจ้าสำนักนั้นแข็งแกร่ง การที่แรนเดลยอมประนีประนอมต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าสำนัก แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าสำนักจะทำร้ายแรนเดลจริงๆพวกเขาไม่คิดเลยว่าเจ้าสำนักจะทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ได้ !
เมื่อเห็นท่าทีไม่เต็มใจของเก่อเย่ จางลู่ก็พูดขึ้นมา “ อยากรู้คำตอบรึ ? ได้ เจ้าสู้กับเราสามคนก่อน หากเจ้าชนะ ข้าจะบอกคำตอบที่แท้จริงให้ ”
ทุกคนต่างก็พากันตกใจ
อันที่จริงพวกเขาก็อยากจะสู้ด้วย
เจ้าสำนักสาขาอยากไปแทนที่และสู้กับเก่อเย่บ้าง
“ จริงรึ?” เก่อเย่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างมาก หากอีกฝ่ายเป็นจางหยู เขาอาจจะไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ แต่หากเป็นแค่ร่างแยกทั้งสามแล้ว เขามั่นใจว่าจะเอาชนะได้อย่างง่ายดาย