ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1904 : โจมตี
เจ้านี่น่ะคิดจะชี้แนะให้กับนาง ? เสี่ยวเสียมองไปที่ซูจิงด้วยสีหน้าแปลกๆ เจ้าเข้าใจผิดเรื่องความแข็งแกร่งตัวเองรึไม่ ?
ซูจิงพูดขึ้น ข้าเป็นผู้บัญชาการใหญ่จะไม่มีความสามารถสั่งสอนนางได้ยังไง ? เขามองเสี่ยวเสียแล้วพึมพำออกมา ข้ายอมรับว่าข้าอ่อนแอกว่าเจ้า แต่ข้าก็ไม่ได้อ่อนแอนักไม่ใช่รึ ? ข้าเป็นถึงผู้บัญชาการใหญ่ของกองทัพเทียนลั่วเลยนะ
ซุนเหยียนเห็นว่าซูจิงเผยท่าทีมั่นใจก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงออกมาดี
นี่… ซุนเหยียนพยายามจะค้าน ท่านน้า ท่านอาจจะไม่อาจจะสอนนางได้
ทำไมกัน ? ซูจิงสับสน
ความแข็งแกร่งของซุนเมิ่งนั้น ในหมู่สำนักคังเฉียงแล้วถือว่าอยู่อันดับต้นๆ ซุนเหยียนพูดขึ้น นอกจากร่างแยกของเจ้าสำนักและเจ้าสำนักสาขาแล้ว ความแข็งแกร่งของนางนั้นอยู่ในพวกที่แกร่งที่สุด แม้แต่ข้าก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อย
ซุนเมิ่งทำการบ่มเพาะอย่างหนักและแซงหน้าทุกคนมาได้
ด้วยทรัพยากรที่ทัดเทียมกันแล้ว ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รับผลตอบแทนมากเท่านั้น
ฟังดูดี ซูจิงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ แต่ก็คงไม่แกร่งจนข้าสอนไม่ได้ไม่ใช่รึ ?
ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังเข้าใจผิดอยู่ เสี่ยวเสียเบะปากแล้วพูดขึ้น เจ้าไม่อาจจะเอาชนะข้าได้ ยิ่งไม่ต้องไปฝันเฟื่องเรื่องการสอนซุนเมิ่งเลย..
ซูจิงชะงักไป เจ้าหมายถึงอะไรกัน ?
ยังชัดเจนไม่พออีกรึ ? ซุนเมิ่งน่ะเหนือกว่าข้า ! เสี่ยวเสียพูดขึ้น หากต้องสู้กันจริงๆแล้ว แม้แต่ข้าก็ยังไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับนาง… ซูจิงอ้าปากค้างด้วยความเหลือเชื่อ เจ้าหมายความว่านางเองก็อยู่ระดับแม่ทัพรึ ?
หากไม่มีอะไรผิดพลาด คนที่อ่อนแอที่สุดในสำนักนั้นน่าจะเป็นผู้บัญชาการใหญ่ระดับสูง คนที่แข็งแกร่งที่สุดล้วนแต่เป็นแม่ทัพ ซุนเหยียนพูดขึ้น หากไม่นับร่างแยกของเจ้าสำนักและเจ้าสำนักสาขาแล้ว ซุนเมิ่งนั้นน่าจะอยู่อันดับต้นๆ
นี่คือผลจากกความพยายามของซุนเมิ่ง !
นี่… ซูจิงอ้าปากค้าง
ตามที่ซุนเหยียนบอกมาแล้ว ไม่ใช่ว่าแม่ทัพหากอยู่ในสำนักคังเฉียงก็ไม่ได้มีความหมายอะไรไม่ใช่รึ ?
มันจริงรึ ?
สำนักคังเฉียงยังไม่ได้เอาจริงตอนที่บุกไปยังดินแดนสวรรค์รึ ?
เจ้าบอกข้าได้รึไม่ว่าด้วยความแข็งแกร่งของข้าแล้วจะอยู่ระดับใดในสำนักคังเฉียง ? ซูจิงถามขึ้นมา ซุนเหยียนลังเลก่อนจะพูดขึ้น อาจจะอันดับสุดท้าย
สุดท้ายรึ ?
ใช่ สุดท้าย
มุมปากซูจิงพลันกระตุก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ผู้บัญชาการใหญ่อย่างเขากลับอยู่อันดับสุดท้ายเลยรึ ?
บางทีท่านอาจจะไม่เชื่อแต่สำนักคังเฉียงของเรานั้นที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นผู้บัญชาการใหญ่ระดับสูง บางทีอาจจะพอๆกับผู้บัญชาการใหญ่ของเผ่าสวรรค์ ซุนเหยียนพูดขึ้นอย่างใจเย็น ท่านน้าคิดว่าจะทัดเทียมกับผู้บัญชาการใหญ่ซือหมิงได้รึไม่ ?
ซือหมิงรึ ? ซูจิงส่ายหน้า ข้าไม่อาจจะเป็นคู่มือของเขาได้
เขาไม่อาจจะโกหกได้
ซุนเมิ่งพูดขึ้น แม้ว่าเราจะแข็งแกร่งแต่ก็ยังไม่ได้เปรียบเรื่องอาวุธ เราไม่มีเกราะหากต้องสู้กันจริงๆแล้วด้วยระดับของเรานั้น เราล้วนแต่เสียเปรียบ หากท่านใช้สมบัติแล้ว บางทีก็อาจจะเอาชนะศิษย์หลายคนได้
นางปลอบใจซูจิง
แต่คำปลอบของนางเหมือนกับฟ้าที่ผ่าลงกลางใจซูจิง
ด้วยข้อได้เปรียบเรื่องอาวุธแต่เขากลับเอาชนะศิษย์ได้แค่ไม่กี่คน นี่มั่นใจรึว่าไม่ได้เป็นการซ้ำเติมเขา ?
หากพี่สาวข้ากับพี่เขยรู้ว่าลูกหลานของพวกเขาประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้ พวกเขาคงพอใจอย่างมากแน่… มุมปากของซูจิงยังคงกระตุก
พี่สาวและพี่เขยจะดีใจรึไม่เขาไม่รู้ แต่ที่เขารู้ก็คือเขานั้นมีแผลใจแล้ว
เขาละสายตาจากซุนเมิ่ง และมองไปที่ซุนเหยียนแล้วถามขึ้น เจ้าเองก็มีความแข็งแกร่งระดับแม่ทัพรึ ?
ภายใต้สายตากังวลของซูจิง ซุนเหยียนก็พยักหน้ารับ ตอนนี้ข้าแข็งแกร่งพอๆกับแรนเดล หากเทียบกับซุนเมิ่งแล้ว ข้าด้อยกว่าเล็กน้อยเท่านั้น เขาเหมือนจะไม่พอใจกับความแข็งแกร่งของตัวเอง
ซูจิงปวดใจอย่างมาก แม่ทัพอีกคน !
ใช่ ข้ารับรองได้ เสี่ยวเสียยิ้มออกมา ความแข็งแกร่งของซุนเหยียนนั้นพอๆกับข้า
เมื่อเสี่ยวเสียรังแกซูจิงได้ งั้นก็เป็นธรรมดาที่ซุนเหยียนจะทำได้เช่นกัน
ดี ดีจริงๆ ซูจิงอึ้ง ปากของเขายังพึมพำออกมา ก่อนจะมองไปที่ซุนเหยียนและซุนเมิ่ง งั้นข้าขอตัวก่อน หากพวกเจ้ามีธุระอะไรก็ไปที่กองทัพเทียนลั่วเพื่อพบข้าได้
เขากลัวว่าหากอยู่ที่นี่ต่อคงมีแผลใจเพิ่มขึ้น
ท่านน้า เราจะไปส่งเอง ซุนเหยียนพูดขึ้น เจ้าสำนักสั่งให้เราไปส่งท่าน
ซูจิงรีบพูดขึ้นมา ไม่จำเป็น สบายใจได้ ข้ารู้ทางดี เจ้าไม่จำเป็นต้องไปส่งหรอก เมื่อเห็นสีหน้าแน่วแน่ของซูจิง ซุนเหยียนก็ไม่ได้ค้าน งั้นก็เดินทางปลอดภัย
ซูจิงกลัวว่าซุนเหยียน, ซุนเมิ่งและเสี่ยวเสียจะพูดอะไรอีก เขารีบเดินทางออกไปทันทีราวกับว่าโดนหมาป่าไล่ล่า
ข้าจะกลับไปบ่มเพาะก่อน เมื่อเห็นซูจิงกลับไปแล้ว ซุนเมิ่งก็ได้พูดขึ้น
ซุนเหยียนตบหัวเสี่ยวเสียแล้วพูดขึ้น เจ้าเสี่ยวเสีย ยังไงซะนี่ก็เป็นน้าของข้า เจ้าควรไว้หน้าเขาบ้าง
เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เสี่ยวเสียหัวเราะออกมา แน่นอนว่ามันไม่มีทางยอมรับว่ารังแกซูจิง
ซุนเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร เสี่ยวเสียก็พูดขึ้น ข้าไปก่อน จากนั้นมันก็หนีไปทันที
…
ที่ทะเลโกลาหล
ซูจิงยังคิดถึงสำนักคังเฉียงที่ได้เจอมา เขายังรู้สึกราวกับฝัน เจ้าสำนักนั้นเป็นจักรพรรดิ !
คนที่อ่อนแอที่สุดในสำนักคังเฉียงเป็นผู้บัญชาการใหญ่ระดับสูง !
ซุนกวนเหลือร่างแยกเอาไว้ !
ลูกหลานของพี่สาวและพี่เขยก็แข็งแกร่งระดับแม่ทัพ !
แต่สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดสำหรับเขาก็คือ การโดนหมาเอาชนะไปได้ และเกือบจะตายด้วยการตะปบเพียงครั้งเดียว !
ประสบการณ์ในวันนี้บอกได้ว่าพลิกมุมมองของเขาราวกับเป็นความฝัน
นี่คือทีมคังเฉียงของจริง นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของทีมคังเฉียง !
โลกนี้ดูถูกทีมคังเฉียงเกินไป !
ไม่แปลกเลยที่จักรพรรดิถึงให้ความสำคัญกับทีมคังเฉียง… สุดท้ายซูจิงก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ข้าเกรงว่าจักรพรรดิคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วว่าเจ้าสำนักเป็นจักรพรรดิ มีแค่จักรพรรดิเท่านั้นที่จะทำให้จักรพรรดิคนอื่นให้ความสำคัญแบบนี้ได้
ซูจิงไม่ได้สติอยู่นานและยังเดินทางต่อไปเรื่อยๆ ก่อนจะกลับไปยังเขตซื่อเซียว
…
ที่สำนักคังเฉียง
ร่างแยกของจางหยูและคนอื่นๆได้ดูดซับลูกปัดจนหมด ความแข็งแกร่งของพวกนั้นเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก หลังจากที่ปรึกษากันแล้ว พวกเขาก็ได้ออกมาจากทะเลบรรพกาลและมุ่งหน้าไปที่เขตซื่อเซียว
หมื่นปีก่อนความแข็งแกร่งของพวกเขาด้อยกว่าเก่อเย่ ด้วยการร่วมมือกันเท่านั้นที่จะเอาชนะเก่อเย่ได้ หมื่นปีต่อมาความแข็งแกร่งของพวกเขาก้าวหน้าขึ้นมาอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ได้ใช้อาวุธรึชุดเกราะแต่ก็เดาว่าทุกคนสามารถเอาชนะเก่อเย่ได้ หากเก่อเย่ใช้อาวุธรึเกราะ พวกเขาสองคนต้องร่วมมือกันถึงจะเอาชนะได้ ยังไงซะ เก่อเย่ก็มีอาวุธระดับสมบูรณ์และเกราะระดับสูง ชัดแล้วว่าทนรับพลังของแม่ทัพได้
ก่อนที่จะเข้าไปยังเขตซื่อเซียว จางลู่ก็ได้พูดขึ้นมา จำไว้ว่าครั้งนี้นอกจากหาลูกปัดแล้ว เราต้องหาโอกาสฆ่าเก่อเย่ และตรวจสอบว่าทำไม เก่อเย่ถึงได้หมายหัวซุนเหลียงเฉิง
ร่างแยกที่เหลือต่างพยักหน้าตอบรับ
นอกจากนี้แล้วเราต้องระวังตัวจากซื่อเซียวด้วย จางลู่พูดขึ้นต่อ นี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุด
หากซื่อเซียวคิดทำร้ายพวกเขา งั้นพวกเขาก็ต้องกลับไปยังทะเลบรรพกาลก่อน ไม่งั้นแล้วพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย
หลังจากที่ตกลงกันแล้วพวกเขาก็ได้มุ่งหน้าเข้าไปยังเขตซื่อเซียว
นี่เป็นครั้งแรกของเก่อเย่ซื่อเซียวที่มีแม่ทัพเกือบสามสิบคนมาเยือน !