ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1941 : กล่องกระบี่ทำงาน
ซื่อเซียวมองดูฉิวหวังด้วยสีหน้าสับสน
เขารู้จักฉิวหวังมานาน แต่เขาก็ไม่เคยเห็นฉิวหวังอยู่ในสภาพนี้มาก่อน
นี่เป็นผลงานของจักรพรรดิคังเฉียง รึ ? ซื่อเซียวหัวเราะออกมา คำพูดของจักรพรรดิไร้ค่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?
ฉิวหวังสีหน้าหม่นลงและพูดขึ้น ข้าแค่เลื่อนเวลาไป ข้าผิดคำพูดตรงไหนกัน ?
งั้นรึ ? ซื่อเซียวฮึดฮัดออกมา เจ้าบอกว่าจะคืนลูกปัดจิตให้ข้า 5 ลูกแต่ตอนนี้กลับไม่ให้คืน เจ้าจะอธิบายยังไง ?
ข้าบอกแล้วว่าไม่ใช่ข้าจะไม่คืน แต่แค่ต้องเลื่อนเวลาออกไป ฉิวหวังกดความโมโหในใจเอาไว้และพูดขึ้นมา
เขาจะต้องทนต่อการดูถูกจากซื่อเซียว ได้ยังไงหากไม่ใช่เพราะเขาต้องการความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายอยู่ เขาเกรงว่าหากพูดอะไรผิดไป ซื่อเซียวอาจจะร่วมมือกับจักรพรรดิคังเฉียงแทน
เลื่อนเวลารึ ? ซื่อเซียวไม่เชื่อคำพูดของฉิวหวังแม้แต่น้อย นั่นถือว่าเป็นข้อแก้ตัวที่ดี ! งั้นเจ้าบอกมาว่าจะเลื่อนไปกี่ปี ล้านปีรึร้อยล้านปี ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวันคืนรึ ?
ฉิวหวังอดทนต่อคำถากถางและพูดขึ้นมา สบายใจได้ มันไม่นานเกินไป อย่างมากก็แค่หมื่นปีข้าจะคืนให้เจ้าอย่างแน่นอน
หมื่นปี ?
หมื่นปีจากนี้เขาอาจจะขึ้นเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหลไปแล้ว ในตอนนั้นเขาสามารถจัดการกับซื่อเซียวได้อย่างงง่ายดาย แล้วทำไมต้องสนใจเรื่องการคืนลูกปัดจิต ?
แต่ซื่อเซียวไม่รู้ความคิดของฉิวหวัง เมื่อได้ยินว่าฉิวหวังจะคืนลูกปัดให้ในหมื่นปี เขาก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เจ้ามั่นใจรึว่าหมื่นปี ? สำหรับจักรพรรดิแล้วหมื่นปีก็แค่อึดใจเดียวเท่านั้น
หากได้ลูกปัดจิต 5 ลูกในหมื่นปีจริงๆ งั้นเขาก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้
ยังไงซะหมื่นปีก็แค่พริบตาเดียว
เมื่อกำหนดเป็นหมื่นปี อีกหมื่นปีเจ้าจะได้คืน หากเจ้าไม่เชื่อ เจ้าบันทึกภาพไว้ก็ได้ หากข้าไม่คืนให้กับเจ้า เจ้าเผยแพร่ภาพนี้ออกไปเลยก็ได้ …
เจ้าไม่บอกข้าก็บันทึกภาพไว้แล้ว ซื่อเซียวมองไปที่ฉิวหวัง ครั้งนี้ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้าแต่ครั้งหน้าข้าหวังว่าเจ้าจะหาลูกปัดจิต 5 ลูกมาได้ ไม่งั้นแล้วชื่อเสียงของเจ้าในฐานะจักรพรรดิเผ่าสวรรค์คงต้องเน่าเหม็นแน่ๆ.. ฉิวหวังฮึดฮัดออกมาแต่ได้พูดอะไร จากนั้นเขาก็หายตัวไปในความมืดมิด
ผิดข้อตกลงรึ จะมีเหตุผลอะไรมาอ้างอีก ? คงไม่ได้เอาจักรพรรดิคังเฉียงมาอ้างอีกหรอกนะ ซื่อเซียวฮึดฮัดออกมาเขาส่ายหน้าก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปช้าๆ ที่ยอดเขามืดมิดแห่งหนึ่ง ฉิวหวังยืนอยู่บนยอดเขาและมองดูซื่อเซียวที่หายตัวไป ปากของเขายังพึมพำออกมา หมื่นปี…ถึงตอนนั้นข้าจะให้สิ่งที่เจ้ากลัวที่สุด..
….
ที่เขตซื่อเซียว
ร่างหลักของซื่อเซียวได้ลืมตาขึ้น หมื่นปีรึ ? หมื่นปีจะทำอะไรได้ ? ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะทำอะไรได้บ้างในตอนนั้น…
เขาพอจะสร้างลูกปัดจิตขึ้นมาได้แต่เขาไม่คิดที่จะทิ้งของที่เขามีอยู่แล้วไปเปล่าๆ
มันใช้เวลากว่าร้อยล้านปีกว่าจะสร้างลูกปัดจิตขึ้นมาได้ เขาไม่ยอมให้ใครปล้นมันไปจากเขาง่ายดายแบบนี้เป็นแน่
เมื่อคิดแบบนั้น ซื่อเซียวก็แสดงท่าทีเสียดายออกมา เขาน่าจะดูดซับลูกปัดจิตเหล่านั้น เขาไม่น่าจะยกมันให้กับฉิวหวังเลย
เย่าหยางกับคนอื่นๆจะเอาลูกปัดจิตมาให้ข้า 3 ลูก มันก็พอชดเชยส่วนที่หายไปได้อยู่บ้าง ซื่อเซียวถอนหายใจออกมา สำหรับลูกปัดจิต 5 ลูกนั้น ข้ากลัวกว่าฉิวหวังคงไม่มีทางคืนข้า…
สุดท้ายสายตาของซื่อเซียวก็สะท้อนความเย็นชาออกมา
…
ที่ทะเลบรรพกาล
จางหยูเล่นกับกล่องกระบี่ในมือ เขาไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรพิเศษเลย
นอกจากความแข็ง, คลื่นพลังที่หนาและรูปแบบที่แปลกประหลาดแล้ว กล่องกระบี่นี่ก็ดูไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับจ้าวแห่งทะเลโกลาหลเลย
ของชิ้นนี้ทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ได้จริงๆรึ ? จางหยูอดไม่ได้ที่จะสงสัย
หลังจากที่ทำการตรวจสอบได้สักพัก จางหยูก็ไม่ได้เห็นอะไรพิเศษจากกล่องกระบี่เลย หากบอกว่ามันมีอะไรพิเศษ งั้นคงบอกได้ว่ามันมีความสามารถในการป้องกันที่น่าทึ่งแม้แต่จิตไร้เทียมทานของจางหยูก็ไม่อาจจะทะลุตัวกล่องกระบี่เพื่อตรวจสอบด้านในได้
เห็นได้ว่ากล่องกระบี่นี้ปกปิดความลับไว้จริงๆ
บางทีนั่นอาจจะเกี่ยวข้องกับจ้าวแห่งทะเลโกลาหลก็ได้
จางหยูลองพึ่งทะเลบรรพกาลของตนใช้พลังกดดันกล่องกระบี่เพื่อเปิดกล่องออก แต่หลังจากที่พยายามอยู่หลายครั้ง จางหยูก็ต้องยอมแพ้ไป
การใช้กำลังอย่างเดียวไม่ได้ผล จางหยูยอมรับว่าคนที่สร้างกล่องกระบี่ขึ้นมานั้นไม่ธรรมดา อีกฝ่ายอาจจะเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหลจริงๆ
ความแข็งแกร่งของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าจิตไร้เทียมทานของจางหยูในทะเลบรรพกาลเลย
นี่เป็นครั้งแรกในโลกตันเถียนที่จางหยูพบกับสิ่งที่ทัดเทียมกับตัวตนของเขาได้ ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายอาจจะมากกว่าจางหยูในโลกตันเถียนก็ได้
แล้วข้าจะปลดล็อคมันยังไง ? จางหยูคิด
เก่อเย่ได้กล่องกระบี่นี่มาหลายปี เดาว่าคงใช้ทุกวิถีทางแล้ว ด้วยความฉลาดของเก่อเย่วิธีทั่วไปคงไม่อาจจะเปิดกล่องกระบี่นี่ได้ ไม่งั้นเก่อเย่คงเปิดมันได้นานแล้ว ดังนั้นจางหยูจึงตัดวิธีการทั่วไปทิ้ง
หลังจากที่คิดได้สักพัก จางหยูก็คิดหาวิธีไม่ออก เขาได้เรียกซุนหยาน, ซุนเหมิง และซุนวูเข้ามาพบแทน
เจ้าสำนัก !
อาจารย์ !
ทั้งสามคนได้ปรากฏตัวขึ้นในทะเลบรรพกาล
จางหยูพยักหน้าตอบรับและชี้ไปที่กล่องกระบี่แล้วพูดขึ้น กล่องกระบี่นี่เป็นของที่ซุนเหลียนเชิงใช้ทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ มันเป็นเหตุผลที่เก่อเย่ได้ฆ่าภรรยาของเขา กล่องกระบี่นี่ซ่อนความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลไว้ การไขความลับนี้อาจจะมีหวังขึ้นเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้
เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งสามก็หายใจถี่ขึ้นและมองไปที่กล่องกระบี่
นี่คือสมบัติของบรรพชนรึ ? มันมีความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลอยู่ ? ซุนเหมิงถามด้วยสีหน้าตะลึง
พวกเขาไม่รู้ว่าจางหยูได้ใช้ทักษะหลอกลวงกับคนเผ่าสวรรค์เพื่อที่จะรู้เรื่องกล่องกระบี่นี่
ซุนหยานแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา เพราะมัน เก่อเย่จึงต้องฆ่าท่านแม่รึ ?
ซุนวูไม่กล้าเข้าใกล้กล่องกระบี่และพูดขึ้น เจ้าสำนัก ข้าสัมผัสมันได้รึไม่ ?
จางหยูพยักหน้าและควบคุมกล่องกระบี่ให้ลอยไปหาทั้งสามคน
ซุนวูเป็นคนแรกที่แตะกล่องกระบี่ ตอนที่เขาแตะมันนั้นกล่องที่ดูธรรมดากลับส่องแสงออกมาราวกับเปิดการทำงาน มันมีพลังลึกลับโคจรไปทั่ว…นี่คือพลังจิต !
พลังจิต !
กล่องกระบี่กลับมีพลังจิตอยู่ !
จางหยูมองไปที่ซุนวูด้วยความแปลกใจ ต้องมีสายเลือดตระกูลซุนถึงจะเปิดการทำงานของมันได้งั้นรึ ?
แข็งแกร่งจริงๆ ! ซุนวูกลืนน้ำลายและพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ ข้ารู้สึกได้ว่ากล่องกระบี่นี่มีพลังที่น่าเหลือเชื่อ ! พลังไม่รู้จบที่ไม่อาจจะอธิบายได้ มันราวกับพลังที่ทำลายทุกอย่างในโลกได้ แต่แค่ว่าข้าไม่อาจจะควบคุมพลังนี้ได้ก็เท่านั้น…
หากเขาควบคุมพลังของกล่องกระบี่ได้ เขาอาจจะทัดเทียมกับจักรพรรดิไปแล้ว
บรรพชน ท่านพี่ พวกท่านเองก็ลองดู ซุนวูส่งกล่องกระบี่ให้กับซุนหยาน
ซุนหยานรับกล่องกระบี่มา กล่องยังคงส่องแสงออกมาราวกับเทพที่ตื่นจากการหลับใหล พลังจิตอันน่ากลัวมากกว่าพลังจิตของจักรพรรดิเป็นพันเท่ารึหมื่นเท่าได้แผ่ออกมา
พลังนี่น่ากลัวจริงๆ ! ซุนหยานอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง สีหน้าของเขาแสดงความตื่นเต้นออกมา
น่าเสียดายตรงที่ที่พวกเขาใช้เปิดพลังของมันได้ แต่ไม่อาจจะควบคุมมันได้
ดูเหมือนว่าต้องมีสายเลือดรึจิตของตระกูลซุนถึงจะเปิดการทำงานของกล่องกระบี่ได้ จางหยูพูดขึ้น ข้าได้ศึกษามันมากกว่าครึ่งวันแต่กล่องกระบี่นี่ไม่ตอบสนองอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้แค่พวกเจ้าแตะก็ทำงานแล้ว…
แต่แค่พลังจิตในกล่องกระบี่ทำงานนั้น จางหยูยังไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้ เขาอยากจะไขความลับของมัน เขาอยากเห็นว่ามีอะไรซ่อนอยู่ด้านในนั้นมากกว่า
ซุนเหมิง เจ้าลองดู จางหยูมองไปที่ซุนเหมิง