ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1995 : การผุพัง
เมื่อได้ยินคำพูดของซิงฮัว จางลู่ก็ได้ถามขึ้นมา มีอะไรผิดปกติกับการผุพังกัน ?
ข้าไม่รู้ว่ามันผิดปกติรึไม่ ซิงฮัวส่ายหน้า มันว่าการผุพังครั้งนี้รุนแรงกว่าที่ข้าเคยพบมา มันมากขึ้นกว่าปกติอย่างมาก
จางลู่คิ้วขมวด ข้าจำที่เจ้าบอกได้ว่าความรุนแรงของการผุพังนั้นน่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว มันเป็นกฎที่กำหนดเอาไว้แล้วไม่ใช่รึ ?
ซิงฮัวพยักหน้า ใช่ การผุพังจะเพิ่มมากขึ้น มันมีกฎที่ตั้งเอาไว้ แต่ครั้งนี้ชัดแล้วว่ามันรุนแรงขึ้นกว่ากฎที่ตั้งเอาไว้อย่างมาก
ตามที่ซิงฮัวบอกมา ชีวิตของเขตต้นกำเนิดนั้นอาจจะสั้นลงกว่าเดิมเข้าไปอีก
เดาว่าครั้งนี้จำนวนลูกปัดจิตที่ให้มานั้นจะมากกว่าในอดีต ซิงฮัวไม่ได้กังวลเรื่องอายุขัยของเขตต้นกำเนิด แต่เป็นปัญหาอื่น เขตต้นกำเนิดจะอันตรายกว่าเก่า
อันตราย ? จางลู่อึ้ง
ตอนนี้การผุพังเพิ่งจะเริ่มขึ้น ดังนั้นเจ้าจึงไม่ได้รู้สึกอันตรายอะไรมากแต่ยิ่งเวลาผ่านไปเมื่อเข้าสู่ช่วงกลาง นั่นคือช่วงที่การผุพังรุนแรงที่สุด ทั้งเขตต้นกำเนิดจะอันตรายอย่างมาก พลังจิตนับไม่ถ้วนจะหลุดจากการควบคุม เราต้องระวังตัวหลบผลของพลังจิต ไม่งั้นแล้วแม้แต่แม่ทัพสูงสุดก็อาจจะตายได้ ซิงฮัวพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มันไม่ยากที่จะหลบผลกระทบจากพลังจิตแต่มันยากที่จะเพ่งสมาธิเอาไว้ได้นาน หากเหม่อไป เจ้าอาจจะโดนผลจากพลังจิตนี้ก็ได้…
แม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมา การผุพังนี้ยังอยู่ในช่วงแรก ช่วงหลังจะยิ่งอันตรายกว่านี้
เมื่อได้ยินแบบนั้นสีหน้าของจางลู่ก็เคร่งเครียดขึ้นมา งั้นเราจะระวังตัว
..
ที่เขตข่งจู้ เจ้ารู้จักรึไม่ ? ข่งจู้คิ้วขมวด เสียงของเขาดูหนักใจขึ้นมา
คังเฉียงตู้ได้พูดขึ้นมา ข้ารู้สึกได้ การผุพังนั้นหนักกว่าครั้งที่แล้ว
เมิ่งเหยียนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าหม่น อายุขัยของทะเลโกลาหลก็จะสั้นลงไปอีก !
เกิดอะไรขึ้นกัน ? สีหน้าของหย่วนเหยี่ยนบิดเบี้ยวไป เสียงของเขาแหบแห้ง เราไม่ได้ฆ่ากุยหลิงมานานแล้ว การผุพังมันหนักขึ้นแบบนี้ได้ยังไง…มันผิดปกติ !
แน่นอนว่าต้องมีคนสร้างปัญหา ! คังเฉียงตู้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา หากไม่มีคนทำอะไร เขตต้นกำเนิดคงไม่ผุพังอย่างรุนแรงเช่นนี้ได้..พวกจักรพรรดิมนุษย์ ต้องเป็นพวกมันแน่ๆ !
พวกนั้นบ้าไปแล้วรึ ! พวกมันไม่รู้รึไงว่าเมื่อทะเลโกลาหลโดนทำลาย เราจักรพรรดิก็ล้วนแต่ต้องหายไปด้วย เมิ่งเหยียนพูดขึ้นมาด้วยท่าทีโกรธ แต่พวกเขาไม่พบตัวซื่อเซียวกับคนอื่นๆ แม้ว่าจะส่งสายลับไปแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ข้อมูลใดๆกลับมา การหายตัวไปของพวกนั้น พวกเขาเดาได้คร่าวๆว่าต้องเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิคังเฉียง แต่ไม่ว่าพวกนั้นจะไปที่ไหนก็ไม่อาจจะมีใครรู้ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะโกรธแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะระบายกับใครได้
ในขณะเดียวกันที่ทะเลบรรพกาล
ซื่อเซียวและคนอื่นๆรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเขตต้นกำเนิด
เกิดบ้าอะไรขึ้นกัน ? ซื่อเซียวคิ้วขมวด ตามกฎการผุพังแล้ว การผุพังไม่น่าจะรุนแรงได้ถึงระดับนี้….ระดับการผุพังครั้งนี้มากกว่าที่เราคาดเอาไว้อย่างมาก
รึว่าพวกเผ่าสวรรค์ทำอะไรไป ? เย่าหยางอดไม่ได้ที่จะสงสัย พวกนั้นทำบ้าอะไรกัน ? พวกนั้นไม่กลัวว่าจะทำลายทะเลโกลาหลรึ ?
ต้องรู้ก่อนว่าพวกเขาได้เข้ามาอยู่ในทะเลบรรพกาล แม้ว่าทะเลโกลาหลจะโดนทำลายแต่พวกเขาก็ยังรอดได้แต่จักรพรรดิเผ่าสวรรค์จะโดนทำลายไปพร้อมกับทะเลโกลาหลด้วย
เขตที่พวกเขาสร้างขึ้นมาโดนทำลาย จากนี้พวกเขาก็ไม่อาจจะพึ่งเขตของตัวเองเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง เมื่อไม่มีพลังที่เพิ่มจากเขต ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะลดลงไปอย่างมาก บางทีพวกเขาอาจจะสู้กับเรนไนไม่ได้
นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับพวกเขาเลย
หากเทียบกับทั้งสี่คนแล้ว จางหยูยังดูเยือกเย็นที่สุด แน่นอนว่าเขาไม่อยากให้ทะเลโกลาหลโดนทำลายแต่หากทะเลโกลาหลโดนทำลายไปจริงๆ งั้นมันก็ส่งผลกระทบต่อเขาไม่มาก เขาสงสัยว่าการผุพังของเขตต้นกำเนิดในระดับนี้เป็นฝีมือของจักรพรรดิเผ่าสวรรค์จริงๆรึไม่?
พวกนั้นไม่อยากอยู่ต่อแล้วรึ ?
แม้ว่าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์กับจักรพรรดิมนุษย์จะแค้นเคืองกัน แต่คงไม่คิดฆ่าศัตรูพร้อมกับทำให้ตัวเองตายไปด้วยไม่ใช่รึ ?ในมุมมองของจางหยูแล้ว การที่เขตต้นกำเนิดผุพังรุนแรงแบบนี้น่าจะเป็นเพราะเหตุผลอื่น
จักรพรรดิกุยหลิงรึ ? จางหยูนึกถึงจักรพรรดิกุยหลิง มันเพราะจักรพรรดิกุยหลิงบาดเจ็บรึ ?
แน่นอนว่านั่นเป็นความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง มันมีโอกาสที่จะเป็นเพราะเขตฉิวหวังโดนทำลายไป บางทีอาจจะส่งผลต่อทะเลโกลาหลและทำให้เขตต้นกำเนิดผุพังรุนแรงเช่นนี้
หากคำตอบเป็นอันแรก จางหยูก็ต้องคิดว่าควรจะจัดการกับจักรพรรดิกุยหลิงยังไง รึอาจจะต้องมองข้ามมันในอนาคต ? รึว่าควรจะผูกจิตกับมันเพื่อเลี้ยงมันเป็นสัตว์เลี้ยง ?
ก่อนที่จะได้คำตอบ จางหยูก็ไม่กล้าจะจัดการกับจักรพรรดิกุยหลิงอีก หากเขาไม่อาจจะเอาชนะมันได้ หากเขาทำให้มันบาดเจ็บ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อทะเลโกลาหลและทำให้ทุกชีวิตในทะเลโกลาหลตายตามไปด้วย
เมื่อคิดถึงการผุพังของเขตต้นกำเนิดที่เกิดขึ้นเพราะตัวเขาเอง จางหยูก็ไม่อยากเข้าไปร่วมพูดคุยกับซื่อเซียวและคนอื่นๆ เขารู้สึกสงสาร ยังไงซะสำหรับซื่อเซียวและคนอื่นๆแล้วทะเลโกลาหลก็เป็นบ้านเกิดของพวกนี้ หากรู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของ จางหยู งั้นถึงพวกนี้จะไม่กล้าพูดอะไรออกมาแต่ก็คงด่าจางหยูในใจแน่
บางทีอาจจะเป็นเพราะฉิวหวัง จางหยูโยนความผิดให้กับฉิวหวังทันที เขากลืนกินเขตตัวเองและทำลายคนเผ่าสวรรค์ไปมากมาย
ดังนั้นจางหยูจึงมองดูซื่อเซียวและคนอื่นๆโยนความผิดนี้ให้กับจักรพรรดิเผ่าสวรรค์อย่างใจเย็น
ถูกแล้ว มันเพราะจักรพรรดิเผ่าสวรรค์
ยังไงซะฉิวหวังก็เป็นจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ ความผิดของฉิวหวังนั้น จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต้องรับผิดชอบ
….
ที่นี่แหละ ทางเหนือ ผลึกในมือในมือแม่ทัพได้ส่องแสงออกมา เขาได้ตะโกนออกมาทันที
แม่ทัพในที่อื่นๆพากันบินตามบลูไปทันที แน่นอนว่าหลังจากที่ไปถึงที่หมาย ผลึกในมือพวกเขาก็ส่องแสงออกมา
บลูตบไหล่แม่ทัพและพูดขึ้นมาด้วยความพอใจ ทำได้ดี ผลงานของเจ้าข้าจะจดจำไว้ เมื่อข้ากลับไปข้าจะรายงานเรื่องนี้กับจักรพรรดิ
ขอบคุณ แม่ทัพบลู ! แม่ทัพตอบกลับด้วยท่าทีตื่นเต้น
ไม่นานพวกเขาก็ได้ลูกปัดจิตไปอีกลูก
เมื่อเห็นลูกปัดกว่า 10 ลูกกองกันในแหวนมิติ บลูก็ยิ้มออกมา ลูกปัดจิต 13 ลูกในเวลา 1 เดือน ดูเหมือนว่าครั้งนี้เราอาจจะได้ลูกปัดจิตมากกว่าครั้งที่แล้ว 2-3 เท่า ! การผุพังครั้งที่แล้วกินเวลา 3 ปี ครั้งนี้มันต้องนานกว่าแน่ บลูไม่สงสัยว่าครั้งนี้พวกเขาต้องได้ลูกปัดจิตมาจำนวนมาก ลูกปัดจิตมากแบบนี้ จักรพรรดิต้องพอใจแน่ๆ
สิ่งเดียวที่เขาสงสัยคือนี่ก็ครึ่งเดือนแล้วแต่พวกเขายังไม่พบกับแม่ทัพมนุษย์เลย
ไม่มีเลยสักคน !
แม่ทัพมนุษย์เหมือนจะหายไปโดยสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยแม้แต่น้อย
มันทำให้บลูอึดอัดใจ ยังไงซะในอดีตพวกเขาก็มีเรื่องกับแม่ทัพมนุษย์มาโดยตลอด ในการผุพังทุกครั้ง มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่แม่ทัพทั้งสองเผ่าจะมาปะทะกัน แม้ว่าแม่ทัพมนุษย์จะหลบเลี่ยงการต่อสู้แต่ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ที่จะโดนไล่ล่าโดยแม่ทัพเผ่าสวรรค์
เรนไน เขาไปซ่อนอยู่ไหนกัน ? บลูยังคิดเรื่องการสู้กับเรนไนอยู่แต่ตอนนี้ไม่ต้องนับแม่ทัพที่แกร่งที่สุดเลย แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดก็ยังไม่พบ เขาพร้อมที่จะสู้กับแม่ทัพมนุษย์แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของแม่ทัพมนุษย์ เป็นธรรมดาที่เขาจะเบื่อ
หากเขาไม่ได้มีภารกิจ เขาคงไปที่เขตของมนุษย์เพื่อดูว่าแม่ทัพมนุษย์นั้นทำอะไรกันอยู่
บลูส่ายหน้าเรียกสติกลับมาและพาคนของตัวเองเดินหน้าหาลูกปัดจิตต่อ