ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 2000 : บลูผู้สิ้นหวัง
เมื่อได้ยินคำพูดของจางลู่ คนอื่นๆก็พากันสลัดความคิดที่จะกลั่นแกล้งบลูทิ้ง
ทุกคนพากันหุบยิ้ม พลังที่ยั้งเอาไว้ได้แผ่ออกมา เปลวไฟเล็กๆกลับกลายเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ มันทำให้มิติของเขตต้นกำเนิดที่เพิ่งซ่อมแซมตัวเองเสร็จได้สั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง
ซิงฮัวและคนอื่นๆพากันกลั้นหายใจ ช่วงเวลาสำคัญได้มาถึงแล้ว
นางไม่คิดเลยว่าทีมคังเฉียงจะหยุดบลูเอาไว้ได้ ตราบใดที่ยื้อบลูเอาไว้ได้และค่อยๆผลาญพลังอีกฝ่าย งั้นแม้ด้วยความแข็งแกร่งของบลูแล้ว นางก็มั่นใจว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้
แม้ว่าบลูจะเป็นแม่ทัพสูงสุดและมีเกราะขั้นสมบูรณ์อยู่กับตัวแต่เมื่อพลังโดนผลาญไป อีกไม่นานเขาก็ไม่อาจจะรับไหว ! เมื่อเห็นท่าทีของจางลู่และคนอื่นๆ บลูก็ได้สติกลับมา สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีแต่ปากก็ยังดูหยิ่งทะนงดังเดิม ทั้งๆที่ไม่มีอาวุธพวกเจ้าก็ยังหลงตัวเองถึงเพียงนี้
ถ้าคนของทีมคังเฉียงมีอาวุธขั้นสมบูรณ์ บลูคงไม่กล้าจะสู้กับพวกนี้ แม้ว่าจะใช้อาวุธขั้นสูงแต่บลูก็ไม่กล้าบอกว่าเขาจะต้านทานได้ แต่ทีมคังเฉียงตอนนี้มีแต่มือเปล่า จึงเป็นธรรมดาที่บลูจะไม่เกรงกลัว
เมื่อไม่มีพลังจากอาวุธคอยช่วยบวกกับการที่เขาสามารถหลบเลี่ยงความเสียหายด้วยความเร็วที่เขามี ดังนั้นบลูก็ไม่คิดว่าทีมคังเฉียงจะเป็นภัยถึงชีวิตได้
แต่ไม่นานบลูก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ
คลื่นพลังของทีมคังเฉียงนั้นพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง !
คลื่นพลังของพวกนี้เพิ่มขึ้นจากแม่ทัพขั้นต้นทัดเทียมกับพวกแม่ทัพเก่าแก่ได้ !
นี่มันอะไรกัน ! สีหน้าของบลูเปลี่ยนไปทันที เขาเริ่มสังหรณ์ใจแย่ๆขึ้นมา
ความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียงนั้นเพียงพอทำให้เขาตะลึงได้แล้ว แต่ตอนนี้คลื่นพลังของพวกนี้กลับเพิ่มขึ้นต่อราวกับไม่มีขีดจำกัด มันจึงทำให้บลูถึงกับอึ้งไป
การเพิ่มขึ้นของคลื่นพลังนี้ทำให้บลูรู้สึกได้ถึงอันตราย
บลูเริ่มอึดอัดใจ ความอึดอัดนี้เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนตั้งแต่ที่ขึ้นมาเป็นแม่ทัพสูงสุด
ในเวลาเดียวกัน ซิงฮัวและคนอื่นๆก็พากันอึ้ง พวกเขาพากันมองไปยังทีมคังเฉียงด้วยความสับสน
พะ…พวกเขา… เหล่าแม่ทัพพูดอะไรไม่ออก
ซิงฮัวชะงักและพูดขึ้นมา คลื่นพลังที่แข็งแกร่งแบบบนี้ ! พวกเขาไม่ใช่แค่แม่ทัพขั้นต้น !
คลื่นพลังของทีมคังเฉียงตอนนี้ทัดเทียมกับพวกแม่ทัพเก่าแก่ได้ แต่ปัญหาคือคลื่นพลังเหล่านี้ยังเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มันไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย ในพริบตาคลื่นพลังเหล่านี้ก็ทัดเทียมกับซิงฮัวได้ คลื่นพลังของแต่ละคนทัดเทียมกับแม่ทัพขั้นสูง !
แต่…มันไม่ได้หยุดแค่นั้น !
คลื่นพลังของทีมคังเฉียงยังเพิ่มขึ้นต่อ !
คลื่นพลังของพวกนี้เพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง !
แม่ทัพสูงสุด !
ขีดจำกัดของจ้าวโกลาหลคือแม่ทัพสูงสุด !
ตูม !
มิติของเขตต้นกำเนิดเหมือนจะไม่อาจจะรับแรงกดดันที่น่ากลัวนี้ได้ไหว มันได้พังลงอย่างรวดเร็วก่อตัวเป็นวังวนมิติขนาดใหญ่ขึ้นมา ในอีกด้านของวังวนนั้นคือมิติภายนอก ด้านนอกวังวนนี้ทีมคังเฉียงราวกับเทพเจ้า พวกเขาพากันกระจายตัวล้อมรอบบลูเอาไว้
แต่ละคนพากันแผ่พลังที่ไม่ด้อยกว่าบลูออกมา !
คลื่นพลังแต่ละอันราวกับไฟสีทองที่ส่องแสงรอบตัวบลู !
แสงสีทองกว่าสามร้อยอันนั้นทับซ้อนกันเกิดเป็นแสงสว่างจ้ากลืนกินบลูเอาไว้
ที่นั่นเงียบสนิท !
บลูเบิกตากว้างจนตาแทบจะถลนออกมา สมองของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
ทั้งเขตต้นกำเนิดราวกับตกอยู่ในโลกที่เงียบงัน
….
ที่ทะเลบรรพกาล
ซื่อเซียว, เย่าหยาง, อู่หมิง, หว่านเก่อและเรนไนต่างก็พากันตัวสั่นพร้อมสีหน้าอึ้ง
แม่ทัพ…สูงสุด ! สักพักซื่อเซียวก็ตัวสั่นและพูดขึ้นมา น้ำเสียงเขาถึงกับสั่นเทา
เย่าหยางเองก็เช่นกัน เป็นไปได้ยังไงกัน ! อู่หมิงพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง แม่ทัพสูงสุดกว่าสามร้อยคน…
พระเจ้า !
ตอนนั้นมุมมองของพวกเขาต้องพลิกผัน ในใจของพวกเขามีแต่ความตะลึง
นี่คือแม่ทัพสูงสุด !
ตลอดทุกยุคที่ผ่านมาทั้งทะเลโกลาหลนั้นมีแม่ทัพสูงสุดไม่เกิน 10 คน !
เท่าที่เรนไนรู้มา แม้แต่ก่อนยุคจักรพรรดิ มันก็มีแม่ทัพสูงสุดแค่ 3-4 คน หลังจากเริ่มยุคจักรพรรดิแล้ว หากนับรวมเขาด้วยก็มีแม่ทัพสูงสุดแค่ 3 คน เมื่อรวมกันแล้วก็มีไม่ถึง 10 คนแต่ตอนนี้….
มันมีแม่ทัพสูงสุดเกือบ 300 คนโผล่มาตรงหน้าพวกเขา !
ต้องรู้ก่อนว่าหากพูดถึงระดับการบ่มเพาะอย่างเดียวแล้ว จักรพรรดิอาจจะทัดเทียมกับแม่ทัพสูงสุดไม่ได้ แม่ทัพนั้นพึ่งพลังจักรพรรดิและพลังจิตจึงมีพลังเหนือกว่าใคร หากไม่นับองค์ประกอบเหล่านี้แล้ว จักรพรรดิอาจจะไม่ใช่คู่มือของแม่ทัพสูงสุดเหล่านี้ เมื่อจำนวนแม่ทัพสูงสุดมากถึงระดับหนึ่ง งั้นแม้แต่จักรพรรดิก็อาจจะไม่กล้าเผชิญหน้าด้วย
ทุกคนต่างพากันตะลึง !
แม้แต่จักรพรรดิก็ยังต้องตัวสั่น !
มันเหมือนไม่จริง !
เมื่อไหร่กันที่แม่ทัพสูงสุดดูไร้ค่าขนาดนี้ ?
ตอนนั้นเรนไนก็เริ่มสงสัยตัวเอง
ต้องรู้ก่อนว่าเขาภูมิใจกับการเป็นแม่ทัพสูงสุดมาโดยตลอด ความมั่นใจที่เขามีนั้นทำให้เขาไม่ยอมก้มหัวให้กับจักรพรรดิ แต่ตอนนี้ความภูมิใจที่มีเหมือนจะพังทลายลงไป เขาจึงเริ่มสงสัยในตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน สุดท้ายเขาก็เข้าใจคำพูดของหยวนเทียนจีที่บอกว่าแม่ทัพสูงสุดไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย
หากเทียบกับจักรพรรดิคนอื่นๆรวมถึงซิงฮัวกับเหล่าแม่ทัพแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบลูนั้นคือคนที่อึ้งที่สุด
มีแค่เขาที่รับรู้ได้ถึงพลังของแม่ทัพสูงสุดกว่าสามร้อยคนใกล้แบบนี้ มีแค่เขาที่รู้ว่าพลังของมันน่ากลัวแค่ไหน
ความมั่นใจที่บลูมีได้พังทลายไปในทันที
เขาไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะต้านทาน ความคิดเดียวที่มีตอนนี้คือเขาต้องหนี !
มันราวกับเผชิญหน้ากับจักรพรรดิ !
มันไม่อาจจะต้านทานได้เลย !
ไม่อาจแม้แต่จะหนีได้ !
การโดนล้อมโดยแม่ทัพสูงสุดกว่า 300 คน เขาจะหนีได้จริงๆรึ ?
บลูยังไม่ทันได้ตั้งตัว จางลู่, เจ้าสำนัก และคนอื่นๆก็พากันสะบัดมือ แสงได้ส่องประกายออกมาจากมือของพวกเขา การโจมตีทุกอันเหมือนไม่ได้มีพลังอะไร แต่เมื่อการโจมตีกว่า 300 อันพุ่งตัดผ่านเขตต้นกำเนิดมา ในพริบตามิติของเขตต้นกำเนิดก็เกิดรูขึ้นมานับไม่ถ้วน มันดูเปราะบางราวกับกระจก
ปัง ปัง ปัง …
การโจมตีพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางปิดทางทุกเส้นทางไม่ให้ บลู หนีไปได้
หากการโจมตีนี้มาจากแม่ทัพทั่วไป บลูก็มั่นใจว่าด้วยความเร็วของเขาแล้ว เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายได้แต่ความเร็วใน
การโจมตีของจางลู่และคนอื่นๆนั้นรวดเร็วอย่างมาก มันมากกว่าความเร็วของบลูเป็นสิบเท่า บลูไม่อาจจะหลบได้เลย !
นี่ไม่ต้องพูดถึงการหลบการโจมตีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีไหนเขาก็ไม่อาจจะหลบได้เลย !
ตอนนั้นในใจบลูมีแต่ความสิ้นหวัง ตาเขาเบิกกว้าง พลังทั้งหมดในตัวได้ปะทุออกมาทั้งหมด เขาใช้พลังนี้ปกป้องตัวเองและใช้พลังของเกราะเต็มกำลัง นี่คือทั้งหมดที่เขาจะทำได้ สำหรับว่าเขาจะต้านได้แค่ไหนนั้น เขาได้แต่ต้องหวังพึ่งโชค
ตูม !
การโจมตีหลายร้อยอันยอัดเข้าตัวบลูราวกับห่าฝน ในพริบตาร่างของบลูก็มีระเบิดขึ้นมาราวกับพลุ การระเบิดนี้ได้ทำลายการป้องกันเขาไปได้อย่างง่ายดายและผ่านชั้นพลังเข้าไปทีละชั้นๆจนสุดท้ายร่างของบลูก็โดนทำลายไปในพริบตา
จิตของบลูเหือดแห้งไปอย่างรวดเร็ว จิตของเขาโดนผลาญด้วยความเร็วที่น่าตกใจ
แม่ทัพสูงสุดที่มีเกราะขั้นสมบูรณ์กลับทนไม่ได้ถึงหนึ่งอึดใจ เขาโดนโจมตีจนจิตเกือบจะโดนทำลายไปด้วย จิตของเขาราวกับไฟที่ริบหรี่ที่โดนลมเบาๆก็ดับได้
ลงสมือหนักไปหน่อย จางลู่เห็นแบบนั้นก็โล่งอกขึ้นมา เกือบฆ่าเขาไปแล้ว
เมื่อได้ยินแบบนั้น หยวนเทียนจีก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เรายั้งมือเอาไว้แล้ว ไม่คิดเลยว่าเขาเกือบจะตาย หากเขาตายไปแล้วเราจะแย่งลูกปัดจิตมาจากใครกัน
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ซิงฮัวและคนอื่นๆรวมถึงคนในทะเลบรรพกาลต่างก็พากันปากกระตุกไปตาม