ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 2002 : รอยยิ้มที่จางหายไป
ที่ช่องทางสู่เขตข่งจู้
ด้วยแสงที่กะพริบขึ้นมา ร่างของบลูก็ได้ปราฏขึ้นต่อหน้าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่
ตอนที่ลำแสงตรงหน้าสั่นไหว จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต่างก็พากันแสดงสายตากังวลออกมา
เป็นยังไงบ้างบลู เจ้าได้ลูกปัดจิตมาเท่าไหร่กัน ? ข่งจู้ถามขึ้นมาด้วยท่าทีร้อนใจ
คนที่เหลือเองก็แสดงสีหน้าคาดหวังออกมา
เมื่อเห็นสายตาของเหล่าจักรพรรดิ สายตาที่หม่นของบลูก็เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
ปากของเขากระตุกแต่ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ เขารู้ว่าจะตอบยังไง และไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับจักรพรรดิยังไง
ต้องรู้ก่อนว่าก่อนจะเดินทางออกไป เขา
ตอนที่ 2002 : รอยยิ้มที่จางหายไป
ที่ช่องทางสู่เขตข่งจู้
ด้วยแสงที่กะพริบขึ้นมา ร่างของบลูก็ได้ปราฏขึ้นต่อหน้าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่
ตอนที่ลำแสงตรงหน้าสั่นไหว จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต่างก็พากันแสดงสายตากังวลออกมา
เป็นยังไงบ้างบลู เจ้าได้ลูกปัดจิตมาเท่าไหร่กัน ? ข่งจู้ถามขึ้นมาด้วยท่าทีร้อนใจ
คนที่เหลือเองก็แสดงสีหน้าคาดหวังออกมา
เมื่อเห็นสายตาของเหล่าจักรพรรดิ สายตาที่หม่นของบลูก็เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
ปากของเขากระตุกแต่ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ เขารู้ว่าจะตอบยังไง และไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับจักรพรรดิยังไง
ต้องรู้ก่อนว่าก่อนจะเดินทางออกไป เขาได้รับปากกับจักรพรรดิว่าเขาจะเอาลูกปัดจิตกลับมาให้ได้มากที่สุด
แต่มันผิดจากที่เขาหวัง ครั้งนี้คือการเสียหน้าครั้งใหญ่ของเขา
เมื่อเห็นท่าทีราวกับคนตายของบลู ที่ราวกับว่าวิญญาณออกจากร่าง เหล่าจักรพรรดิก็พากันอึ้งและเริ่มสังหรณ์ใจแย่ๆขึ้นมา
บลูรีบตอบมา ข่งจู้เริ่มลนลานในใจและอดไม่ได้ที่จะเร่งเร้า
หลังจากที่เงียบไปได้สักพัก บลูก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วก้มหน้าก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ข้าขอโทษด้วย ข้าล้มเหลว..
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเหล่าจักรพรรดิก็เปลี่ยนไป พวกเขาเหลือเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินอย่างมาก
แม้ว่าครั้งนี้จะไม่มีแม่ทัพของเขตฉิวหวังไปด้วย แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของเผ่าสวรรค์ถึงจะได้รับผลกระทบแต่ก็คงไม่อาจจะล้มเหลวได้ไม่ใช่รึ ?
ต้องรู้ก่อนว่าในด้านจำนวนแม่ทัพแล้ว เผ่าสวรรค์มีมากกว่ามนุษย์ ความแข็งแกร่งที่พวกเขามีทำให้ได้เปรียบอย่างมาก
พวกเขาคิดไม่ออกว่าทำไมถึงล้มเหลวทั้งๆที่ได้เปรียบขนาดนี้ !
หมายความว่ายังไงกันที่ว่าล้มเหลว ? หย่วนเหยี่ยนเห็นว่าบลูเงียบไปก็เริ่มรู้สึกแย่ เจ้าได้ลูกปัดจิตมาเท่าไหร่กัน ?
พูดโดยทั่วไปแล้วการล้มเหลวที่ว่านั้นไม่ใช่ว่าต้องสิ้นหวัง จำนวนลูกปัดจิตที่ได้มาอาจจะน้อยกว่ามนุษย์แต่ความล้มเหลวที่บลูพูดถึงนั้นเหมือนจะมากกว่านั้นเพราะตนถึงตอนนี้ บลูก็ยังไม่ได้ส่งลูกปัดจิตให้กับพวกเขา
สายตาของเหล่าจักรพรรดิมองไปที่บลู ทำให้บลูนั้นรู้สึกราวกับโดนภูเขากดทับ เขาเริ่มลนลานขึ้นมาทันที
ก่อนที่บลูจะได้พูดอะไรออกมา ร่างของเขากลับทรุดลงไปราวกับไม่อาจจะทนแรงกดดันนี้ไหว เขาร่วงลงไปกับพื้น สีหน้าของเขาต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง จิตของเขาพร่ามัวไปอีกครั้ง
ข่งจู้ตกใจและรีบดึงคลื่นพลังกลับมา จากนั้นเขาก็ได้สะบัดมือก่อนจะมีน้ำจิตที่ลอยเข้าไปในตัวบลู
หลังจากนั้นสักพักจิตของบลูก็ฟื้นฟูขึ้นมา ร่างของเขาเองก็ฟื้นฟูกลับมาบางส่วน
สำหรับพวกที่ต่ำกว่าจักรพรรดิ ผลของน้ำจิตจะส่งผลในทันที
นอกซะจากว่าจิตจะพังไป งั้นอาการบาดเจ็บก็สามารถฟื้นฟูขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าคือน้ำจิตต้องเพียงพอ
บลูที่เพิ่งฟื้นฟูกลับมาลุกขึ้นยืนด้วยตัวที่สั่น เขาราวเทียนที่จะดับลงตอนไหนก็ได้
เจ้าบาดเจ็บหนักแบบนี้ได้ยังไง ? ข่งจู้คิ้วขมวด เจ้าโดนเรนไนซุ่มโจมตีรึ ?
ตอนนั้นหย่วนเหยี่ยนก็ได้ขัดขึ้นมา ลืมเรื่องอาการบาดเจ็บของเขาไปก่อน เรื่องลูกปัดจิตล่ะ ? เร็วเข้า รีบเอาออกมา เขาไม่สนเรื่องอาการบาดเจ็บของบลู เขาแค่อยากรู้ว่าบลูได้ลูกปัดจิตมากแค่ไหนกัน
ข่งจู้มองไปที่หย่วนเหยี่ยน เขาพยักหน้าและมองไปที่บลู เจ้าได้ยินที่ หย่วนเหยี่ยนพูดรึไม่ ? เอาลูกปัดจิตออกมา
แต่บลูกลับเงียบไป เขาไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
บลู ข่งจู้สีหน้าหม่นลง ข้าไม่อยากพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง
เมื่อได้ยินแบบนั้น บลูก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วก้มหน้าก่อนจะพูดขึ้นมา ไม่มี
เขารู้ว่าต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการจะตอบแบบนี้ออกมาแต่เขาไม่อาจจะหลีกเลี่ยงคำถามนี้ได้เลย
แน่นอนเหมือนที่บลูคิดเอาไว้ หลังจากที่เหล่าจักรพรรดิได้ยินคำตอบนั้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป อารมณ์ของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขาถึงกับไม่อาจจะควบคุมคลื่นพลังของตัวเองได้ บรรยากาศรอบตัวแข็งทื่อไป แรงกดดันอันน่ากลัวทำให้บลูแทบจะหายใจไม่ออก
สีหน้าของเหล่าจักรพรรดิหม่นลง
ข่งจู้มองไปที่บลูด้วยสายตาเย็นชา เจ้าว่ายังไงนะ ?
แม้ว่าบลูจะลนลานแต่ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนความจริงที่โหดร้ายนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา ไม่มี
ไม่มีก็คือไม่มี เขาไม่อาจจะเสกลูกปัดจิตขึ้นมาได้
ข่งจู้สีหน้าเฉยเมยขึ้นมา ข้าต้องการคำอธิบาย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้จริงจังกับบลูนักเขาถึงกับคอยให้ท้ายบลูอยู่บ้างแต่ความอดทนที่เขามีก็จำกัด
เขามองข้ามบลูทุกเรื่องได้ยกเว้นแค่เรื่องลูกปัดจิตเขาอาจจะปล่อยให้บลูผิดพลาดในเรื่องนี้ได้
ยิ่งกว่านั้นถึงเขาจะมองข้ามได้แต่ก็กลัวว่าจักรพรรดิคนอื่นๆคงไม่อาจจะมองข้ามได้แน่
ตอนนั้นหย่วนเหยี่ยน, เทียนตู้ และเมิ่งเหยียนต่างก็มองไปที่บลูด้วยสายตาเย็นชา พวกเขาให้การสนับสนุนบลูและล็อคเป็นอย่างดีเพื่อที่ทุกคนจะได้ร่วมมือกัน แต่หากบลูและล็อคไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกลับมางั้นบลูกับล็อคก็ต้องชดใช้
แม้ว่าจะเดาออกว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้แต่บลูก็ยังรู้สึกหวั่นใจ
ต้องรู้ก่อนว่าผลงานในอดีตของเขานั้นมีมากมาย การผุพังทุกครั้งเขาเก็บลูกปัดจิตมาได้มากมาย เขาร่วมมือกับล็อค เพื่อเอาชนะมนุษย์มาได้แต่ล้มเหลวแค่ครั้งเดียวเหล่าจักรพรรดิกลับเปลี่ยนท่าที
มันเป็นครั้งแรกที่บลูได้เห็นด้านนี้ของจักรพรรดิ ! แม้ว่าจะไม่พอใจ แต่บลูก็ไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมา เขาก้มหน้าและพูดขึ้นมาช้าๆ หลังจากที่เข้าไปในเขตต้นกำเนิด กองทัพของเขตข่งจู้ ได้ไปพบกับกองทัพเขตเทียนตู้ ข้าได้นำทัพเก็บลูกปัดจิตในส่วนเหนือ ตั้งแต่การผุพังเริ่มจนถึงตอนจบ ทุกอย่างราบรื่น เราไม่ได้พบกับแม่ทัพมนุษย์ ลูกปัดจิตทั้งหมดตกเป็นของเรา จำนวนลูกปัดจิตมีมากถึง 163 ลูก
เหล่าจักรพรรดิฟังอยู่เงียบๆ สีหน้าพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย จนกระทั่งบลูพูดถึงจำนวนลูกปัดจิต จึงทำให้ทุกคนต่างก็สายตาเปลี่ยนไป ชัดแล้วว่าพวกเขาทั้งอึ้งและตื่นเต้น
หลังจากที่ค้นหาทั่วทั้งส่วนเหนือแล้ว ข้าก็กังวลว่าจะพลาดลูกปัดไป ข้าจึงแยกตัวจากกองทัพและให้พวกนั้นเดินทางมายังช่องทางสู่เขตข่งจู้ ก่อน ข้าได้ออกค้นหาอีกครั้ง สุดท้ายก็ได้กลับมายังช่องทาง
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหล่าจักรพรรดิก็พยักหน้า การตัดสินใจของ บลูนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร แม้ว่าลูกปัดจิต 163 ลูกจะเพียงพอแล้วแต่หากได้เพิ่มขึ้นมาอีกสักนิดก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
เหล่าจักรพรรดิยังไม่ทันได้ถาม บลูก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ตอนที่ข้าค้นหาส่วนเหนือเสร็จและตรงมาที่ทางออกเพื่อรวมตัวกับกองทัพ ตอนนั้น..
เมื่อคิดถึงกองกำลังที่น่าเหลือเชื่อของทีมคังเฉียง บลูก็อดไม่ได้ที่จะปากกระตุกไปตาม สายตาเขาแสดงความลนลานออกมา
ที่ช่องทางสู่เขตข่งจู้
ด้วยแสงที่กะพริบขึ้นมา ร่างของบลูก็ได้ปราฏขึ้นต่อหน้าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่
ตอนที่ลำแสงตรงหน้าสั่นไหว จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต่างก็พากันแสดงสายตากังวลออกมา
เป็นยังไงบ้างบลู เจ้าได้ลูกปัดจิตมาเท่าไหร่กัน ? ข่งจู้ถามขึ้นมาด้วยท่าทีร้อนใจ
คนที่เหลือเองก็แสดงสีหน้าคาดหวังออกมา
เมื่อเห็นสายตาของเหล่าจักรพรรดิ สายตาที่หม่นของบลูก็เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
ปากของเขากระตุกแต่ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ เขารู้ว่าจะตอบยังไง และไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับจักรพรรดิยังไง
ต้องรู้ก่อนว่าก่อนจะเดินทางออกไป เขา
ตอนที่ 2002 : รอยยิ้มที่จางหายไป
ที่ช่องทางสู่เขตข่งจู้
ด้วยแสงที่กะพริบขึ้นมา ร่างของบลูก็ได้ปราฏขึ้นต่อหน้าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่
ตอนที่ลำแสงตรงหน้าสั่นไหว จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต่างก็พากันแสดงสายตากังวลออกมา
เป็นยังไงบ้างบลู เจ้าได้ลูกปัดจิตมาเท่าไหร่กัน ? ข่งจู้ถามขึ้นมาด้วยท่าทีร้อนใจ
คนที่เหลือเองก็แสดงสีหน้าคาดหวังออกมา
เมื่อเห็นสายตาของเหล่าจักรพรรดิ สายตาที่หม่นของบลูก็เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
ปากของเขากระตุกแต่ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ เขารู้ว่าจะตอบยังไง และไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับจักรพรรดิยังไง
ต้องรู้ก่อนว่าก่อนจะเดินทางออกไป เขาได้รับปากกับจักรพรรดิว่าเขาจะเอาลูกปัดจิตกลับมาให้ได้มากที่สุด
แต่มันผิดจากที่เขาหวัง ครั้งนี้คือการเสียหน้าครั้งใหญ่ของเขา
เมื่อเห็นท่าทีราวกับคนตายของบลู ที่ราวกับว่าวิญญาณออกจากร่าง เหล่าจักรพรรดิก็พากันอึ้งและเริ่มสังหรณ์ใจแย่ๆขึ้นมา
บลูรีบตอบมา ข่งจู้เริ่มลนลานในใจและอดไม่ได้ที่จะเร่งเร้า
หลังจากที่เงียบไปได้สักพัก บลูก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วก้มหน้าก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ข้าขอโทษด้วย ข้าล้มเหลว..
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเหล่าจักรพรรดิก็เปลี่ยนไป พวกเขาเหลือเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินอย่างมาก
แม้ว่าครั้งนี้จะไม่มีแม่ทัพของเขตฉิวหวังไปด้วย แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของเผ่าสวรรค์ถึงจะได้รับผลกระทบแต่ก็คงไม่อาจจะล้มเหลวได้ไม่ใช่รึ ?
ต้องรู้ก่อนว่าในด้านจำนวนแม่ทัพแล้ว เผ่าสวรรค์มีมากกว่ามนุษย์ ความแข็งแกร่งที่พวกเขามีทำให้ได้เปรียบอย่างมาก
พวกเขาคิดไม่ออกว่าทำไมถึงล้มเหลวทั้งๆที่ได้เปรียบขนาดนี้ !
หมายความว่ายังไงกันที่ว่าล้มเหลว ? หย่วนเหยี่ยนเห็นว่าบลูเงียบไปก็เริ่มรู้สึกแย่ เจ้าได้ลูกปัดจิตมาเท่าไหร่กัน ?
พูดโดยทั่วไปแล้วการล้มเหลวที่ว่านั้นไม่ใช่ว่าต้องสิ้นหวัง จำนวนลูกปัดจิตที่ได้มาอาจจะน้อยกว่ามนุษย์แต่ความล้มเหลวที่บลูพูดถึงนั้นเหมือนจะมากกว่านั้นเพราะตนถึงตอนนี้ บลูก็ยังไม่ได้ส่งลูกปัดจิตให้กับพวกเขา
สายตาของเหล่าจักรพรรดิมองไปที่บลู ทำให้บลูนั้นรู้สึกราวกับโดนภูเขากดทับ เขาเริ่มลนลานขึ้นมาทันที
ก่อนที่บลูจะได้พูดอะไรออกมา ร่างของเขากลับทรุดลงไปราวกับไม่อาจจะทนแรงกดดันนี้ไหว เขาร่วงลงไปกับพื้น สีหน้าของเขาต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง จิตของเขาพร่ามัวไปอีกครั้ง
ข่งจู้ตกใจและรีบดึงคลื่นพลังกลับมา จากนั้นเขาก็ได้สะบัดมือก่อนจะมีน้ำจิตที่ลอยเข้าไปในตัวบลู
หลังจากนั้นสักพักจิตของบลูก็ฟื้นฟูขึ้นมา ร่างของเขาเองก็ฟื้นฟูกลับมาบางส่วน
สำหรับพวกที่ต่ำกว่าจักรพรรดิ ผลของน้ำจิตจะส่งผลในทันที
นอกซะจากว่าจิตจะพังไป งั้นอาการบาดเจ็บก็สามารถฟื้นฟูขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าคือน้ำจิตต้องเพียงพอ
บลูที่เพิ่งฟื้นฟูกลับมาลุกขึ้นยืนด้วยตัวที่สั่น เขาราวเทียนที่จะดับลงตอนไหนก็ได้
เจ้าบาดเจ็บหนักแบบนี้ได้ยังไง ? ข่งจู้คิ้วขมวด เจ้าโดนเรนไนซุ่มโจมตีรึ ?
ตอนนั้นหย่วนเหยี่ยนก็ได้ขัดขึ้นมา ลืมเรื่องอาการบาดเจ็บของเขาไปก่อน เรื่องลูกปัดจิตล่ะ ? เร็วเข้า รีบเอาออกมา เขาไม่สนเรื่องอาการบาดเจ็บของบลู เขาแค่อยากรู้ว่าบลูได้ลูกปัดจิตมากแค่ไหนกัน
ข่งจู้มองไปที่หย่วนเหยี่ยน เขาพยักหน้าและมองไปที่บลู เจ้าได้ยินที่ หย่วนเหยี่ยนพูดรึไม่ ? เอาลูกปัดจิตออกมา
แต่บลูกลับเงียบไป เขาไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
บลู ข่งจู้สีหน้าหม่นลง ข้าไม่อยากพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง
เมื่อได้ยินแบบนั้น บลูก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วก้มหน้าก่อนจะพูดขึ้นมา ไม่มี
เขารู้ว่าต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการจะตอบแบบนี้ออกมาแต่เขาไม่อาจจะหลีกเลี่ยงคำถามนี้ได้เลย
แน่นอนเหมือนที่บลูคิดเอาไว้ หลังจากที่เหล่าจักรพรรดิได้ยินคำตอบนั้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป อารมณ์ของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขาถึงกับไม่อาจจะควบคุมคลื่นพลังของตัวเองได้ บรรยากาศรอบตัวแข็งทื่อไป แรงกดดันอันน่ากลัวทำให้บลูแทบจะหายใจไม่ออก
สีหน้าของเหล่าจักรพรรดิหม่นลง
ข่งจู้มองไปที่บลูด้วยสายตาเย็นชา เจ้าว่ายังไงนะ ?
แม้ว่าบลูจะลนลานแต่ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนความจริงที่โหดร้ายนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา ไม่มี
ไม่มีก็คือไม่มี เขาไม่อาจจะเสกลูกปัดจิตขึ้นมาได้
ข่งจู้สีหน้าเฉยเมยขึ้นมา ข้าต้องการคำอธิบาย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้จริงจังกับบลูนักเขาถึงกับคอยให้ท้ายบลูอยู่บ้างแต่ความอดทนที่เขามีก็จำกัด
เขามองข้ามบลูทุกเรื่องได้ยกเว้นแค่เรื่องลูกปัดจิตเขาอาจจะปล่อยให้บลูผิดพลาดในเรื่องนี้ได้
ยิ่งกว่านั้นถึงเขาจะมองข้ามได้แต่ก็กลัวว่าจักรพรรดิคนอื่นๆคงไม่อาจจะมองข้ามได้แน่
ตอนนั้นหย่วนเหยี่ยน, เทียนตู้ และเมิ่งเหยียนต่างก็มองไปที่บลูด้วยสายตาเย็นชา พวกเขาให้การสนับสนุนบลูและล็อคเป็นอย่างดีเพื่อที่ทุกคนจะได้ร่วมมือกัน แต่หากบลูและล็อคไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกลับมางั้นบลูกับล็อคก็ต้องชดใช้
แม้ว่าจะเดาออกว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้แต่บลูก็ยังรู้สึกหวั่นใจ
ต้องรู้ก่อนว่าผลงานในอดีตของเขานั้นมีมากมาย การผุพังทุกครั้งเขาเก็บลูกปัดจิตมาได้มากมาย เขาร่วมมือกับล็อค เพื่อเอาชนะมนุษย์มาได้แต่ล้มเหลวแค่ครั้งเดียวเหล่าจักรพรรดิกลับเปลี่ยนท่าที
มันเป็นครั้งแรกที่บลูได้เห็นด้านนี้ของจักรพรรดิ ! แม้ว่าจะไม่พอใจ แต่บลูก็ไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมา เขาก้มหน้าและพูดขึ้นมาช้าๆ หลังจากที่เข้าไปในเขตต้นกำเนิด กองทัพของเขตข่งจู้ ได้ไปพบกับกองทัพเขตเทียนตู้ ข้าได้นำทัพเก็บลูกปัดจิตในส่วนเหนือ ตั้งแต่การผุพังเริ่มจนถึงตอนจบ ทุกอย่างราบรื่น เราไม่ได้พบกับแม่ทัพมนุษย์ ลูกปัดจิตทั้งหมดตกเป็นของเรา จำนวนลูกปัดจิตมีมากถึง 163 ลูก
เหล่าจักรพรรดิฟังอยู่เงียบๆ สีหน้าพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย จนกระทั่งบลูพูดถึงจำนวนลูกปัดจิต จึงทำให้ทุกคนต่างก็สายตาเปลี่ยนไป ชัดแล้วว่าพวกเขาทั้งอึ้งและตื่นเต้น
หลังจากที่ค้นหาทั่วทั้งส่วนเหนือแล้ว ข้าก็กังวลว่าจะพลาดลูกปัดไป ข้าจึงแยกตัวจากกองทัพและให้พวกนั้นเดินทางมายังช่องทางสู่เขตข่งจู้ ก่อน ข้าได้ออกค้นหาอีกครั้ง สุดท้ายก็ได้กลับมายังช่องทาง
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหล่าจักรพรรดิก็พยักหน้า การตัดสินใจของ บลูนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร แม้ว่าลูกปัดจิต 163 ลูกจะเพียงพอแล้วแต่หากได้เพิ่มขึ้นมาอีกสักนิดก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
เหล่าจักรพรรดิยังไม่ทันได้ถาม บลูก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ตอนที่ข้าค้นหาส่วนเหนือเสร็จและตรงมาที่ทางออกเพื่อรวมตัวกับกองทัพ ตอนนั้น..
เมื่อคิดถึงกองกำลังที่น่าเหลือเชื่อของทีมคังเฉียง บลูก็อดไม่ได้ที่จะปากกระตุกไปตาม สายตาเขาแสดงความลนลานออกมา