ระบบเติมเงินข้ามภพ - บทที่ 77 หลิวเทียนเซียง
บทที่ 77
หลิวเทียนเซียง
ภัตตาคารสายลมเหมันต์ที่พวกเขานัดมาเจรจานั้นไม่ได้ใหญ่โต หรือวิเศษวิโสอะไร แต่เพราะมันตั้งอยู่ในที่แห่งไกลจึงเหมาะแก่การพูดคุยกันอย่างลับๆ
เมื่อเย่เย่ตามชายลึกลับในชุดคลุมสีดำไปถึงห้องอาหารส่วนตัวแล้ว ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสง่างามดูมีฐานะก็ได้เข้ามาทักทายเขา
“ท่านเย่แห่งหอการค้าหยูเย่อันเลื่องชื่อ! ข้าได้ยินเรื่องเกี่ยวกับท่านมามากมายเลยล่ะ! ข้าแซ่หลิวมีนามว่าเทียนเซียง ก่อนอื่นข้าขอขอบคุณที่ท่านให้เกียรติมาตามคำเชิญชวนของข้า ข้าคาดว่าคนฉลาดมีไหวพริบเยี่ยงท่านคงเดาได้แล้วว่าข้าเชิญท่านมาเรื่องใด”
ชายวัยกลางคนพูดโดยมีรอยยิ้มอยู่บนหน้าดูอ่อนโยน แต่น้ำเสียงของเขาก็เปี่ยมไปด้วยพลัง
เย่เย่ที่มาในต่างถิ่นก็นั่งลงบนโต๊ะอาหารโดยวางตัวอย่างสบายๆ เขาได้ยกหูกาน้ำชาแล้วรินลงไปที่แก้วชาของเขาอย่างช้าๆ พลางเหลือบไปมองหลิวเทียนเซียงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา ก่อนที่จะถามขึ้นมาว่า
“ท่านเป็นคนเชิญแขกอย่างข้ามาแท้ๆนะ ทำไมไม่ให้เกียรติข้าเป็นฝ่ายพูดข้อเสนอก่อนล่ะ?”
ระหว่างที่กำลังตั้งคำถามกับชายวัยกลางคนอยู่นั้น ชายชุดดำก็ได้เดินไปปิดประตูห้องอาหารแล้วเดินกลับมายืนข้างๆหลิวเทียนเซียงผู้เป็นนายด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม ดูเหมือนว่าชายลึกลับนี้จะเป็นลูกน้องของหลิวเทียนเซียง เย่เย่ได้ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบเบาๆ พลางมองไปที่ชายลึกลับและชายผู้เป็นนายของเขา เย่เย่ได้เริ่มวิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเขา ถ้านี่เป็นกับดักล่ะก็ถือว่าเป็นกับดักที่ถูกเตรียมการมาเป็นอย่างดี หากเจรจาไม่ลงตัวละก็ตัวเขาเองต้องถูกรุมทึ้งจากชายทั้งสองนี้เป็นแน่
“ฮ่า ฮ่า เถ้าแก่เย่ท่านไม่จำเป็นต้องระวังตัวถึงเพียงนั้นก็ได้นะ อย่าได้กังวลไปเลย พวกเราไม่ใช่ศัตรูของท่านหรอกนะ”
หลิวเทียนเซียงนั้นจับสังเกตได้ว่าถึงแม้เย่เย่จะวางตัวสบายๆ แต่สายตาของเขานั้นบ่งบอกว่าเขาระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
“มีอะไรก็รีบๆพูดมา ข้าไม่ได้มีเวลามากพอที่จะมาทำเรื่องไร้สาระกับเจ้าหรอกนะ!”
แม้ว่าเย่เย่จะรู้สึกได้ว่าหลิวเทียนเซียงผู้นี้ไม่ใช่ทั้งจ้าววรยุทธ์ หรือเทพยุทธ์ แต่เป็นถึงเทพอสูรไร้เงาที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง เขาก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่เขายังถือยาที่จะทำให้เขาบรรลุขั้นเทพอสูรไร้เงาอยู่ในมือ เขาก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อให้หลิวเทียนเซียง
“ท่านเย่ ท่านควรจะรู้ไว้ว่าเราต่างมีศัตรูคนเดียวกันนั่นก็คือปราการหลิงหยวน แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าทำไมโจวซงถึงไม่ยอมลงมาจัดการกับท่านด้วยตัวของเขาเอง? นั่นก็เพราะเขาต้องรับมือกับพวกข้ายังไงล่ะ! บางทีท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมพวกข้าถึงเป็นศัตรูกับขั้วอำนาจที่มีอิทธิพลทั้งปราการหลิงหยวน และหอการค้าตันเซียง ตาแก่เฉินอี้ตันคงยังไม่ได้ปริปากบอกท่านบ้างเลยสินะ?”
เย่เย่เมื่อได้ยินว่าหลิวเทียนเซียงล่วงรู้เรื่องที่เขาเคยคุยกับเฉินอี้ตันก็ยิ่งระวังตัวยิ่งขึ้นไปอีก เขาที่ไม่เคยระมัดระวังตัวเรื่องข่าวกรองมาก่อนจึงเริ่มคิดหามาตรการป้องกันภายในหอการค้าหยูเย่ให้เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต แต่ดูเหมือนว่าข่าวหลุดในครั้งนี้จะมาจากคนภายในหอการค้าตันเซียงซะเอง
บุรุษวัยกลางคนเมื่อเห็นเย่เย่เงียบไปก็เริ่มอธิบายต่อ
“หนึ่งร้อยปีก่อน โจวชวนผู้นำคนแรกของปราการ หลิงหยวนได้ดิบได้ดีจากการใส่ร้ายว่าเจียงหวูจิ้นซึ่งเป็นผู้ปกครองเมืองหลิงเฉิง ณ ขณะนั้นว่าเป็นวิญญาณกลับชาติมาเกิด ไม่เพียงเท่านั้นเขายังลักลอบขโมยจี้หยกเจิ้งฮุน หยกชิ้นสำคัญของเจียงหวูจิ้นอีกด้วย การกระทำนั้นของเขาทำให้ทัณฑ์สวรรค์ฆ่าล้างโคตรตระกูลเจียง และทุกๆตระกูลที่สนับสนุนพวกเขา หลังจากนั้นโจวชวนก็ได้สถาปนาตนขึ้นเป็นผู้ปกครองแทน”
น้ำเสียงของชายวัยกลางคนจริงจังมากกว่าครั้งไหนๆ เขาไม่สามารถระงับอารมณ์โกรธที่แสดงออกมาทางสีหน้าของเขาไว้ได้มิด สาเหตุหนึ่งเพราะตระกูลของเขาก็ตกเป็นจำเลยในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยเช่นกัน พวกเขาเกลียดตระกูลโจว และทัณฑ์สวรรค์เข้ากระดูกดำถึงขั้นที่ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้อีก
ทัณฑ์สวรรค์นั้นทรงอิทธิพล และแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แม้แต่เจียงหวูจิ้นผู้ได้ขนานนามว่าเป็นผู้ไร้เทียมทานยังถูกทัณฑ์สวรรค์จัดการลงได้อย่างง่ายดาย
หลิวเทียนเซียง และพรรคพวกของเขานั้นต้องการชำระแค้นให้กับบรรพบุรุษของตน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก พวกเขาทำได้แต่ปกปิดตัวตนและอาศัยอยู่บนโลกนี้อย่างเงียบๆ
“พวกข้ารู้ดีว่าลำพังด้วยพลังของพวกข้าเองไม่สามารถกำราบทัณฑ์สวรรค์ได้ แต่อย่างน้อยข้าต้องลบปราการหลิงหยวนออกจากหน้าประวัติศาสตร์ของแผ่นดินฉางหลางให้ได้! นี่เป็นทางเดียวที่ทำให้บรรพบุรุษของพวกข้าตายตาหลับ นี่คงเป็นสาเหตุที่ตาเฒ่าเฉินอี้ตันไม่ได้เล่าให้ท่านฟัง เพราะหากท่านรับรู้ถึงการมีตัวตนของพวกข้าอาจทำให้เขาและปราการหลิงหยวนตกในที่นั่งลำบาก”
ถึงแม้จะพูดอ้อมค้อมไปบ้างแต่เจตจำนงที่เทพอสูรหลิวนั้นต้องการให้เย่เย่ร่วมมือกับเขาเพื่อจัดการกับปราการ หลิงหยวนนั้นชัดเจนอย่างมาก
หลิวเทียนเซียง และพรรคพวกของเขานั้นไม่ได้ต้องการเพียงแค่หัวของโจวซงเท่านั้น แต่เขายังต้องการทวงคืน จี้หยกเจิ้งฮุนที่โจวชวนขโมยมาอีกด้วย
เย่เย่ที่เห็นความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของ หลิวเทียนเซียงก็ครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาตอบปฏิเสธคำเชิญชวนจากคนแปลกหน้า
“ข้าคงทำให้ท่านผิดหวังเสียแล้ว! ถึงแม้เราจะมีศัตรูคนเดียวกัน แต่ข้าไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการล้างแค้นของพวกท่าน อีกอย่างข้าไม่อยากยุ่งกับเรื่องจักรๆวงศ์ๆที่ไม่เกี่ยวกับข้า ขอให้พวกท่านโปรดเข้าใจด้วย!” เย่เย่ตอบปฏิเสธอย่างเรียบง่ายเช่นเคย
“ข้าไม่นึกเลยว่าตำนานบทใหม่ของหลิงเฉิงอย่างท่าน จะขี้ขลาดตาขาวถึงเพียงนี้!? ข้าแค่ขอให้ท่านร่วมมือในการจัดการปราการหลิงหยวนเท่านั้น ไม่เคยคิดจะยืมมือท่านกำจัดทัณฑ์สวรรค์สักหน่อย ท่านกลัวตายนักหรือไง?”
“ท่านจะเรียกข้าว่าไอ้ขี้ขลาดก็ตามสบายเลย แต่ถึงยังไงข้าก็ไม่ร่วมมือกับท่าน อีกอย่างข้าก็มีวิธีของข้าในการจัดการปราการหลิงหยวนอยู่แล้ว ท่านเลิกคิดไปได้เลย” เย่เย่ส่ายหน้าพร้อมปฏิเสธเทพอสูรหลิวอีกครั้ง สาเหตุที่เขาปฏิเสธข้อเสนอนี้เพียงเพราะเขาเกรงกลัวพลังอำนาจของทัณฑ์สวรรค์ เพียงแค่ปราการหลิงหยวนก็ทำให้เขาปวดหัวมามากพอแล้ว ความเสี่ยงมันมากเกินไปที่เขาจะรับได้ในขณะนี้
หลิวเทียนเซียงที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของเย่เย่มากนักก็เริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาทางน้ำเสียง
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะเอาชนะปราการหลิงหยวนด้วยตัวคนเดียวอย่างงั้นเรอะ!? อย่าพูดให้ขำหน่อยเลยน่า เพียงแค่เจ้าฟลุ๊คเอาชนะเฉินเทียนหนานลูกกระจ๊อกปลายแถว เจ้าถึงกับได้ใจขนาดนี้เลยเรอะ ตลกสิ้นดี! พวกข้าน่ะประมือกับโจวซงมาตั้งหลายครั้งหลายครา ข้ายังเอาเขาไม่ลงเลย ทำไมเจ้าถึงดื้อด้านไม่ยอมร่วมมือกับพวกข้ากันนะ?”
“ท่านเอาเวลาอันมีค่าของท่านคิดเรื่องของตัวเองเถอะ! ข้ามีปัญญาจัดการกับปัญหาของข้า ลาล่ะ!”
เย่เย่ที่ไม่อยากพูดอะไรให้มากความ เขาก็ได้ปฏิเสธคำเชิญชวนออกไปเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะเดินไปที่ประตูทางออก
ทันใดนั้นเองชายลึกลับชุดดำก็มาขวางทางเขาไว้ เขามองไปที่หลิวเทียนเซียงราวกับรอคำสั่งอะไรบางอย่างอยู่
“เจ้าคิดว่า เจ้าจะฟังเรื่องของพวกเราแล้วจะได้กลับไปอย่างง่ายๆอย่างงั้นเหรอ!? การทำธุรกิจน่ะเจ้าต้องรู้จักรับข้อเสนอของคนอื่นเสียบ้าง! ขอแค่เจ้ามาร่วมมือกับข้า ข้าสัญญาว่าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม แต่ถ้าเจ้ายังปฏิเสธอีก ข้าก็ไม่ขอรับประกันชีวิตของเจ้าล่ะนะ”
เทพอสูรไร้เงายื่นข้อเสนอให้กับเย่เย่เป็นครั้งสุดท้าย จิตสังหารของเขาปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณภัตตาคาร หลิวเซียงเทียนผู้นี้ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เขามั่นใจว่าปราการหลิงหยวนจะสลายกลายเป็นผุยผง แม้ว่าวิธีนั้นจะสกปรกถึงเพียงใดก็ตาม…