รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 123 ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นโรคจิต นอกจากฉัน
ธิชาพยายามอ้าปาก แต่ก็พูดอะไรไม่ออก
เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น แค่ตกใจจนไม่สามารถพูดได้ต่างหาก
เธอไม่มีทางที่จะไม่เชื่อเพียงวรินทร์
แต่ก็ไม่สามารถเชื่ออย่างเต็มที่……
เธอไม่สามารถเอาคุณหนูที่เอาแต่ใจกับสาวน้อยผู้น่าสงสารที่ถูกขังและทารุณกรรมมาเป็นเวลาสามปีมาเชื่อมโยงเข้าหากันได้หรอก
เพียงวรินทร์นิสัยเสียขนาดนั้น……เธอเป็นเด็กสาวเอาแต่ใจที่ถูกเอาใจจนเสียคน
แล้วเธอจะไปทนกับ……
ถ้าทุกอย่างที่เธอเล่ามาเป็นความจริงแล้วเธอจะไปทนไหวได้ยังไง……
แถมยังอดทนจนรอดมาได้ถึงทุกวันนี้
ผ่านไปพักใหญ่ธิชาถึงได้พูดออกมาเบาๆ ว่า ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อเธอ ฉันแค่ต้องการเวลาในการยอมรับมันเท่านั้น……เพียง นี่เธอ……
เธอเริ่มสะอื้นแล้ว
แต่เพียงวรินทร์กลับยังยิ้มอยู่ ห้ามร้องไห้นะ ถ้าบอดี้การ์ดพวกนั้นเห็นเธอร้องไห้ พวกเขาต้องเอามันไปบอกประวิทย์แน่ และประวิทย์ก็น่าจะเดาได้ว่าฉันพูดเรื่องอะไรกับเธอ ถ้าเป็นแบบนั้น ต่อไปฉันก็จะไม่มีโอกาสได้เจอเธออีก
ธิชาช็อกกับคำพูดที่ใจเย็นของเธอ
เธอรีบบีบต้นขาของตัวเองทันที และได้เก็บความรู้สึกที่แทบจะพังทลายของตัวเองลงไป
ธิชาตั้งสติอยู่หลายวิ จากนั้นก็ยิ้มออกมาทันที จงใจแสดงให้เห็นว่าทั้งสองมีการคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน
แต่บทสนทนานั้นกลับหนักหนาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เพียงวรินทร์บอกว่า การที่เธอจะสงสัยว่าฉันป่วยเป็นโรคหลงผิดนั้นก็ไม่แปลก เธอรู้มั้ย ตอนที่ฉันหนีออกมา ก็เคยลองแจ้งตำรวจแล้ว ฉันเล่าความจริงให้ตำรวจฟัง แต่พวกเขากลับบอกว่าฉันป่วยเป็นโรคหลงผิด เลยอยากส่งฉันโรงพยาบาลจิตเวช ไม่ว่าจะในประเทศหรือที่อังกฤษ ประวิทย์ก็ได้เข้าไปสิงห์อยู่ในวงการผู้ดีแล้ว เบื้องหน้าเขาคือนักการเงินหัวกะทิคนหนึ่ง เป็นสุภาพบุรุษที่มีมารยาท ดูดีมีการศึกษา ถึงแม้จะมีหลายคนที่สงสัยว่าเขาจะทำธุรกิจมืดที่ได้เงินอย่างมหาศาลก็ตาม……แต่ก็ไม่มีใครเคยสงสัยในความเป็นสุภาพบุรุษของเขาเลย
ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นโรคจิต มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้ และไม่มีใครที่คิดจะเชื่อฉัน
ธิชาส่ายหน้า ฉันเชื่อ
ถึงแม้ตอนที่เธอได้รู้จักกับประวิทย์ และประวิทย์ก็ปฏิบัติกับเธออย่างสุภาพมากก็ตาม แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อเพื่อนของเธอ
เพียงวรินทร์บอกว่า ประวิทย์อยู่ในประเทศไม่นาน อำนาจของเขาในประเทศยังไม่กว้างขวางขนาดนั้น ส่วนเธอก็ป่วยหนักมานาน ประวิทย์จึงไม่ได้เข้มงวดกับเธอขนาดนั้นแล้ว
การหนีตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุด และอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วก็ได้
เพียงวรินทร์ขอร้องให้เธอช่วยพาหนี เธอได้วางแผนไว้อย่างรอบคอบแล้ว หนีไปยังเมืองSที่ห่างไกล และไม่กลับมาอีก
หลังจากที่ธิชาได้ฟังแผนของเธอ ก็คิดว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ
แผนการทุกอย่างรอบคอบเกินกว่าที่เธอคิดไว้มาก พูดได้คำเดียวว่า มันช่างเหมือนกับนิทานสยองขวัญจริงๆ ทุกอย่างมันถูกเชื่อมโยงกันหมด
ไม่ว่าความเป็นไปได้ไหนที่จะถูกประวิทย์หาเจอหรือจับได้ เธอก็ได้คิดหาวิธีรับมือและแก้ไปหมดแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น หลังจากที่ไปถึงเมืองS สิ่งแรกที่เธอจะทำก็คือการศัลยกรรม
รวมถึงเรื่องรอยนิ้วมือ เธอจำเป็นต้องหาทางเปลี่ยนมันให้ได้
ธิชารับปากว่าจะช่วยเธอ แต่แผนการจะเริ่มในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า
เธอเพิ่งถูกปล่อยตัวออกมา ด้วยสภาพจิตใจของคนอย่างประวิทย์จะต้องมีช่วงเฝ้าระวังกับเธอพักหนึ่ง
หลังจากที่มั่นใจว่าเธอจะเรียนอยู่ในมหาลัยอย่างมั่นคงแล้ว เขาจึงจะค่อยๆ ระวังตัวน้อยลง
ถ้าไม่ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไป เธอก็จะหนีออกไปได้ยากมาก
แต่ก็จะรอนานไม่ได้ เป็นคนที่อารมณ์แปรปรวน บางทีอยู่ๆ วันหนึ่งเขาอาจจะไม่อนุญาตให้เธอออกมาเรียนอีก แล้วเอาเธอไปขังไว้ดังเดิม ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้หมด จะรอนานเกินไปไม่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องร้ายๆ ที่อาจเกิดขึ้นหากเวลาผ่านไปเรื่อยๆ
……
ธิชาเพียงคนเดียวไม่มีทางช่วยเธอให้หนีรอดไปได้แน่ ทางเดียวที่ทำได้คือต้องขอร้องให้ธาวินช่วย
แต่ด้วยความเข้าใจที่เธอมีต่อธาวินนั้น ธาวินไม่ใช่คนที่มีใจเมตตาหรือมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเลย
บางทีเขาอาจจะไม่ใช่แค่ไม่ให้การช่วยเหลือ แต่ยังอาจจะห้ามไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นก็ได้
ยังไงประวิทย์ก็เป็นคนที่มีหน้ามีตา ต่อให้อยู่ในระดับเดียวกับดนัยกฤตก็ตาม ก็ใช่ว่าจะยอมไปผิดใจกับเขาเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวหรอก
หลังจากที่ธิชาคิดไตร่ตรองเป็นที่เรียบร้อย เธอก็ตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากพงศ์พนาผู้ช่วยพิเศษของธาวิน
พงศ์พนาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ธิชาไม่ได้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเพียงวรินทร์กับประวิทย์ชัดเจนนัก แต่เล่าให้เขาฟังคร่าวๆ ว่า อยากให้เขาช่วยเพื่อนรักของเธอคนหนึ่งไปจากเมืองJ
พงศ์พนายังคงเหมือนเดิมเสมอ คือไม่อยากขัดใจเธอ ดังนั้นเขาจึงรับปากไปอย่างรวดเร็ว
ธิชาขอร้องเขาว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกธาวิน เพื่อเรื่องจะได้ไม่ใหญ่โตขึ้นมา
พงศ์พนาเองก็ตอบตกลง
แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไปตามแผน
ครึ่งเดือนหลังจากนั้น ตอนที่ธิชาเตรียมจะออกไปมหาลัยนั้น เธอก็รู้สึกกระวนกระวายใจมาก
ธาวินได้เข้ามาดึงคอเสื้อของเธอจากทางด้านหลัง สีหน้าของเธอดูไม่ดีเลย ไม่สบายรึเปล่า?
ธิชากลัวเขาจะทำให้เสียเรื่อง จึงส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ค่ะ ฉันจะไปเรียนแล้ว แต่ธาวินยังไม่ยอมปล่อยมือ แถมยังใช้แววตาที่สงสัยสังเกตสีหน้าของเธอด้วย
นี่ยัยโง่ นี่เธอมีเรื่องปิดบังฉันอยู่เหรอ เธอไปทำเรื่องไม่ดีอะไรไว้ สารภาพมา หืม?
เธอขมวดคิ้วแล้วอธิบายไปว่า ไม่มีจริงๆ คุณอย่าทำตัวขี้สงสัยขนาดนั้นจะได้มั้ย ฉันก็แค่ไปเรียน จะไปทำเรื่องไม่ดีอะไรได้ล่ะคะ?
เห็นได้ชัดว่าธาวินไม่ได้คิดอะไรไปไกล เขาแค่หรี่ตาแล้วพูดไปว่า ถ้าเธอกล้าไปหาผู้ชายที่ไม่ควรหาลับหลังฉันละก็……ฉันจะถือว่าเธออยากให้ฉันเอาจนตายนะ!