รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 125 ใจกล้าขนาดนี้ ยังรู้จักกลัวตายอยู่เหรอ
ดวงตาของธิชานั้นแดงก่ำ สองมือกำแน่น ร่างกายสั่นไปทั้งตัว
เธอควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
การช่วยเพียงวรินทร์ให้หนีไปเป็นแผนที่เธอว่ามาตั้งครึ่งเดือน
ทั้งๆ ที่ทุกอย่างถูกวางไว้อย่างรอบคอบแล้ว ขอแค่พาเธอไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัว เพียงวรินทร์ก็จะได้มีชีวิตใหม่นี้แล้วแท้ๆ
ถึงธิชาจะไม่เคยประสบกับทุกอย่างที่เพียงวรินทร์เจอ แต่เธอก็เคยเจอเพียงวรินทร์ในสภาพหนังหุ้มกระดูกมาแล้ว ราวกับการมีชีวิตต่อไปจะเป็นเรื่องที่ทรมานมากๆ
เธอรู้สึกเหมือนโดนด้วยตนเอง ที่สำคัญในช่วงหลังมานี้ เธอเองก็รู้สึกเจ็บปวดและกังวลไปกับเพียงด้วยเลย
การที่เธอสติแตกไม่ใช่แค่เพราะแผนที่วางไว้ล้มเหลว
แต่เพราะคนที่ทำให้แผนที่พวกเธอวางไว้ล้มเหลว……จนทำให้เพียงวรินทร์ต้องกลับไปตกนรกอีกครั้งกลับเป็นคนที่เธอไว้ใจมาตลอดนั่นเอง
เธอยังจำค่ำคืนนั้นได้ ดนัยกฤตเลี้ยงหม้อไฟเธอ จากนั้นก็พาเธอเข้าไปในสิ่งก่อสร้างที่เหมือนกับปราสาทของประวิทย์……และคืนนั้นแหละที่เธอได้พบกับเพียงอีกครั้ง
สิ่งแรกที่ดนัยกฤตขอให้เธอช่วยกลับเป็นการช่วยรักษาให้เพื่อนที่เคยเกือบจะหายของเธอ
ตอนนั้นภาพลักษณ์ของดนัยกฤตในใจเธอนั้น……ยิ่งใหญ่แต่ทำไมตอนนี้ธิชารู้สึกว่ามันทั้งเจ็บใจทั้งน่าขัน
ธิชาตินนี้ทั้งรู้สึกเจ็บใจทั้งน่าขัน
เธอมันก็เหมือนตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ถูกเอามาเล่นถูกเอามาควบคุมเท่านั้น
……
เธอร้องไห้โวยวายออกมาอย่างสติแตก แต่ชายคนนี้กลับทำหน้าเรียบเฉย ไม่สนอกสนใจ
เขาสตาร์ทรถ ขับรถออกไป แล้วออกจากบริเวณมหาลัยอย่างรวดเร็ว ขับไปยังสถานที่ๆไม่คนมีคนมากนัก
ความรุนแรงอย่างเย็นชาของเขาบังคับให้เธอต้องสงบลง
แต่การที่เธอสงบก็ไม่ได้หมายความว่าในใจของเธอจะสงบไปด้วย เธอแค่ถูกบังคับให้ต้องอยู่ในสภาพนี้เท่านั้น
ธิชาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือที่แฝงไปด้วยความแน่วแน่ว่า นี่คุณจะพาฉันไปไหน ให้ฉันลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะ
สายตาของเธอมองตรงไปข้างหน้า ในเวลาสั้นๆ เพียงสิบนาที รถก็ถูกขับออกไปไกลแล้ว ตอนนี้กำลังจะขึ้นไปบนทางยกระดับแล้ว และเห็นว่ากำลังจะวิ่งต่อไปยังสถานที่ๆเธอไม่คุ้นเคย
ชายคนนี้ยังคงขับรถต่อไปอย่างเคร่งขรึม โดยไม่มีการตอบสนองใดๆ เลย
สีหน้าของธิชาซีดลงเรื่อยๆ เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงได้ยื่นมือไปควบคุมพวงมาลัย
มือใหญ่ๆ ของชายคนนี้ตบลงไปที่หลังมือของเธอจนเกิดเสียงดัง ป้าบ ผิวหนังที่ขาวนวลของหญิงสาวนั้นแดงขึ้นมาทันที
สายตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกของเขาทำให้เธอทั้งจนใจทั้งไม่เข้าใจ
เธอเม้มปากแล้วพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า นี่คุณคิดจะทำอะไร ปล่อยฉันลงไป เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้ เพียงอาจจะตายก็ได้ ……ทั้งๆ ที่คุณก็รู้ว่าประวิทย์เป็นไอ้โรคจิตที่ไม่หลงเหลือความเป็นคน การที่คุณทำแบบนี้มันก็ถือเป็นการสมรู้ร่วมคิดชัดๆ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ คุณก็จะกลายเป็นฆาตกร! ปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้ ดนัยกฤตคุณไม่มีสิทธิมาบงการชีวิตของฉันนะ!
ตอนนี้ในหัวของธิชามีแต่เรื่องที่จะช่วยเธอให้ได้เท่านั้น
เพราะเธอรู้ดีว่านอกจากเธอแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นที่จะไปช่วยเพียงอีกแล้ว
ถ้าเพียงมีทางเลือกที่ดีกว่านี้……เพียงก็ไม่มีทางดึงเธอเข้ามาพัวพันด้วยหรอก
มันเป็นเพราะเธอถูกขังอยู่ที่อังกฤษมานานกว่าสามปี ทำให้เธอต้องตัดขาดกับเพื่อนและญาติที่อยู่ในมืองJจนหมด
จึงไม่มีใครที่จะช่วยเธอ ……
พอธิชานึกถึงเรื่องที่เธอถูกประวิทย์เอาตัวกลับไป มันจึงมีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย ธิชาจึงไม่สามารถใจเย็นแม้แต่วิเดียว
ถึงขั้นอยากจะฆ่าดนัยกฤตให้ตายแล้วชิงรถหนีไป
……
แต่ไม่ว่าเธอจะก่นด่ายังไง แต่ดนัยกฤตก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน ราวกับเสียงร้องโวยวายของเธอเป็นแค่มลพิษทางเสียงทั่วไป และไม่มีการตอบสนองอะไรเลย
ธิชาด่าจนเหนื่อยแล้ว และเสียงของเธอก็แหบแล้ว
ชายคนนี้เพียงแค่เหลือบมองเธอแวบเดียว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกและเยาะเย้ยว่า ช่วยเธออย่างนั้นเหรอ? แค่คุณเนี่ยนะ ถ้าเพียงวรินทร์ต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้ ครึ่งหนึ่งมันก็เป็นความผิดของคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เพียงวรินทร์ก็ไม่มีทางหนีได้ การที่เรื่องมันมาถึงขั้นนี้ มันก็เป็นคุณนั่นแหละที่เป็นคนทำร้ายเธอ
ธิชาโกรธจนเบิกตาโต จ้องมองไปยังด้านข้างของเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย เธอรับตรรกะในการมองถูกเป็นผิดอย่างหน้าด้านๆ ของผู้ชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ
ถ้าเขาไม่เข้ามาขวางไว้กลางคัน ตอนนี้เพียงก็คงถูกพงศ์พนาพาไปที่เครื่องบินส่วนตัวแล้ว โอเค๊!
ริมฝีปากของเขามีอาการสั่นเล็กน้อย แล้วพูดพร้อมกับกัดฟันว่า คุณมีสิทธิ์อะไรมาโทษว่าฉันเป็นคนทำร้ายเพียง อาจเป็นเพราะฉันมันไม่มีมุมมองอะไรที่มันตรงกับพวกคุณที่ไม่มีความเป็นคนเลือดเย็นอย่างกับสัตว์ละมั้ง ฉันขอร้องล่ะอย่ามายุ่งเรื่องของฉันจะได้มั้ย ปล่อยฉันลงไป ถ้ายังมัวเสียเวลาต่อไปฉันกลัวมันจะสายเกินไปจริงๆ!
ตอนนี้รถถูกขับเข้าไปในโรงจอดใต้ดินแห่งหนึ่ง ในโรงจอดรถนั้นว่างเปล่า มองไปแทบไม่เห็นรถจอดเลย
ดนัยกฤตขับรถไปหาที่จอดอย่างไม่ใส่ใจ พอรถจอดสนิทเขาก็ดับไฟ จากนั้นก็ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจทีหนึ่ง
ภายในโรงรถมันค่อนข้างมืด ธิชาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจ
เธอหันไปมองชายคนนี้ที่กำลังหันข้างอย่างหวาดระแวง
เขายิ้มออกมาอย่างไม่ชอบใจพร้อมกับบีบแก้มของเธอเอาไว้ นิ้วที่เรียวยาวของเขาออกแรงกดทับลงไป——
สัตว์เลือดเย็นอย่างนั้นเหรอ คุณกำลังด่าใครมิทราบ
เมื่อกี้ธิชายังอยู่ในอารมณ์ที่ค่อนข้างโมโหอยู่เลย พอได้มาอยู่ในโรงรถที่อึมครึมและกว้างขวาง……เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียวสันหลัง และไม่กล้าพูดจายุยงเขาอีก
เธอกลืนน้ำลายไปทีหนึ่ง แล้วถามไปเบาๆ ว่า ที่นี่มันคือที่ไหน……นี่คุณพาฉันมาที่ไหนกันแน่……
เขาเม้มปาก ในรูม่านตาปรากฏความเยือกเย็นที่อันตรายออกมา
ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าผมไม่ใช่คนดีอะไร แต่กลับเอาแต่ด่าผมไม่หยุด……นี่ธิชา คุณใจกล้าขนาดนี้ ยังจะกลัวตายอีกเหรอ