รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 14 พี่ แยกขาออก ฉันจะเบาหน่อย
ธิชาหันไปมองเขาอย่างโมโห คำพูดที่ใจกล้ากว่านี้ยังไม่ได้พูดเลย ก็เห็นผู้ชายยกมือขึ้นสูงอีกครั้ง
ร่างครึ่งท่อนของเธอถูกกดไว้บนตักของเขา ไม่มีที่หลบ ตกใจจนหลับตาแน่น
ท่าทางตื่นเต้นของสาวน้อยเหมือนกับแมวน้อยตัวหนึ่งที่ตกใจกลัว ประกายความอ่อนแอขี้ขลาดไปทั่วร่าง
ดนัยกฤตดูเหมือนรู้สึกท่าทางตกใจแบบนี้ของเธอมันสนุกมาก มุมปากอดยิ้มขึ้นเล็กน้อยไปไม่ได้
ความเจ็บที่ธิชาจินตนาการมาไม่ถึงสักที
ตอนที่เธออดสงสัยไม่ไหวลืมตาขึ้นมา ผู้ชายหยิกเนื้อบนสะโพกของเธอดูเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
สาวน้อยเจ็บจนอ้าปากแยกเขี้ยว เขายิ่งหัวเราะอย่างชั่วร้ายกว่าเดิม
สิทธิ์ที่แม่ของคุณอาการป่วยหนักฝากคุณไว้กับผม ถึงแม้ผมจะไม่ใช่สุภาพบุรุษอะไร แต่ก็เข้าใจหลักการที่รับปากคนอื่นก็ต้องทำตามคำพูด
ธิชาใช้ข้อศอกทิ่มเขา คุณเจตนาร้าย…….ต่อฉันชัดๆ แม่ฝากฉันไว้ให้คุณ เลอะเลือนสิ้นดี
เขาปล่อยมือ ใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม พูดอย่างความหมายลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ระหว่างณิชานาฎกับผมคุณไม่มีสิทธิ์มาประเมิน ถ้าหากคุณเชื่อฟังหน่อย ผมก็ต้องดีต่อคุณเป็นธรรมดา รักใคร่เอ็นดูอย่างลูกสาวก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่ถ้าหากคุณยืนยันจะเป็นอริกับผม……
ธิชาเมินเฉยกับการข่มขู่ของเขา สีหน้าเย็นชา เถียงเขาอย่างไม่แยแส ใครจะไปเป็นลูกสาวคุณ คิดว่าตัวเองเป็นพ่อฉันจริงเหรอ
ตอนแรกดนัยกฤตไม่ค่อยพอใจ คราวนี้กลับรู้สึกน่าสนใจบ้างจากคำพูดของเธอ
เขายิ้มขึ้นมา โฉมหน้าอันเซ็กซี่หล่อเหล่าอย่างที่สุด
พ่อแท้ๆเป็นไม่ได้ แต่ทำกันบนเตียงจนคุณเรียกพ่อ ก็ทำได้ง่ายมาก
……. ใบหน้าของธิชาอายจนเป็นลูกพลับชมพู โมโหอย่างมากจึงอ้าปากกัดที่ขาของเขา
กัดครั้งนี้หนักมาก กัดจนธิชารู้สึกเสียวฟันแล้ว ตอนแรกคิดว่าดนัยกฤตจะโมโห
แต่ทว่าเมื่อเธอปล่อยแล้วหันหน้าไปมองเขา บนหน้าอันดุร้ายและหล่อเหลานั้นกลับเห็นเพียงรอยยิ้มอันหยอกล้อ
เธอหดตัว พยายามขัดขืนจะลุกขึ้นนั่ง
ผู้ชายยื่นมือบีบคางของเธอ ริมฝีปากบางพูดอย่างชัดเจน กล้ากัดผม หมายความว่ายังไม่ได้กลัวผมมาก คุณน่าจะไม่กล้าหยาบคายต่อธาวิน ธาวินไม่มีความจริงใจ ถึงจะมี ก็ไม่มีวันให้คุณ ทำไมถึงไม่ยอมติดตามผม ไปจากเขายากมากเหรอ?
ธิชาทนสายตาอันบีบแค้นของเขาไม่ค่อยไหว เหมือนดั่งมีแรงมองทะลุ สามารถมองทะลุใจของเธอ
เธอหลบสายตาเล็กน้อย พูดเคร่งขรึม เรื่องของฉันกับธาวิน คนนอกไม่มีวันเข้าใจ
ดนัยกฤตไม่ได้คัดค้าน แค่ใช้นิ้วดึงแขนเสื้อเธอเบาๆ
บนข้อมือของเธอมีรอยแดงที่จางไปแล้วเป็นวงๆ ถึงแม้จะจางไปพอประมาณแล้ว แต่ดูอย่างละเอียดก็ยังเห็นได้ชัด เป็นรอยที่ถูกธาวินใช้เนกไทมัดไว้แล้วทรมาน
ธิชาดึงมือกลับอย่างหน้าแดง
เขาพูดทีละคำทีละประโยค ถูกรังแกหนักขนาดนี้ยังไม่เคยคิดหนี คุณรักธาวินมาก?
ธิชาเหมือนถูกคนมองทะลุความในใจ ทนรับไม่ได้ ทำได้แค่หันหน้าหนี มองไปนอกหน้าต่าง ไม่ยอมเปิดปาก
…….
ดนัยกฤตส่งเธอถึงปากซอยที่ใกล้ตระกูลธนาภูวนัตถ์ที่สุด เธอลงจากรถ แต่กลับไม่ได้กลับบ้าน
อารมณ์ขึ้นๆลงๆ ด้วยสัญชาตญาณเธอก็อยากหนีไปจากสถานที่แห่งนี้
เธออาศัยอยู่บ้านคนอื่นตั้งแต่เด็ก ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ถึงแม้ว่าพ่อรัณจะดีกับเธอ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะมองลุงที่อายุแก่กว่าแม่เธอสิบกว่าปีคนนี้เป็นพ่อ
เธอขี้ขลาด ปกป้องตัวเองโดยเก็บมุมมองนิสัยที่แท้จริงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
จนเธอเริ่มค่อยๆพึ่งพาอาศัยธาวิน เห็นเขาเป็นพี่ชาย เพื่อน จนกระทั่งเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต
เธอเริ่มชินชีวิตแบบนี้และห่างจากธาวินไม่ได้
เพราะว่าที่นั่นคือบ้านของธาวิน เธอจึงถือว่ามันเป็นบ้านของตัวเองแล้ว
แต่ตอนนี้……. ญาณินกำลังจะกลายเป็นคุณนายของบ้านหลังนั้นแล้ว
…….
ตอนที่ธิชากลับไปสองทุ่มแล้ว ไม่ถือว่าดึกมาก แต่ธาวินหน้าดำเคร่งเครียดมาก
ไปไหนมา?
เธอตอบเสียงต่ำ ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล
ธาวินยิ้มเย็นชา น้ำเสียงเย็นชา ปกติห้าโมงเธอก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ครั้งนี้ต้องอยู่ฟ้ามืด ธิชาเธอกล้าโกหก?
ธิชาทนไม่ไหวที่เขาอยู่ๆก็อารมณ์คุณชายกำเริบ แล้วแต่คุณเชื่อหรือไม่เชื่อ ฉันเหนื่อยแล้ว กลับห้องก่อน
ธาวินไม่ได้เข้าไปลากตัวเธอ เพียงแค่ตอนที่เธอจะก้าวขึ้นบันได พูดอย่างเย็นชา เธอเชื่อไหมฉันมีวิธีทำให้เธอไม่ได้เจอณิชานาฎอีกตลอดชีวิต
ร่างผอมของสาวน้อยตะลึงค้างอยู่ที่บันได
เธอไม่ได้หันกลับไป ผ่านไปสักครู่ถึงพูดอย่างเชื่องช้า ฉันเชื่อแน่นอน เพราะฉะนั้นหนึ่งปีก่อนฉันเคยพูดว่า หากคุณทำร้ายแม่ฉัน ฉันก็จะโดดตึกตายต่อหน้าคุณ ให้คุณลืมสภาพที่ฉันตายอย่างอนาถไม่ได้ตลอดชีวิต
……..
ธิชาเชื่อฟัง แต่เธอก็มีนิสัยดื้อรั้น พออารมณ์ขึ้นมา ต่อเนื่องกันสิบวันครึ่งเดือนยังถือว่าน้อย
หนึ่งอาทิตย์เต็มๆที่เธอไม่ยอมพูดกับธาวิน กลับเข้าห้องก็ล็อกประตู ไม่ให้เขาแตะต้องเธอ
ค่ำคืนวันนี้ธิชารู้สึกว่าตัวเองตัวร้อน ผ้าก็ห่มไม่ไหว เปิดออก ชุดนอนก็เกือบเปียกหมดแล้ว เธอลุกขึ้นดื่มน้ำ พบว่าตัวเองเข่าอ่อนยืนไม่นิ่ง
เธอรู้สึกไม่สบายมาก ผลักประตูออกเรียกเสียงเบา ป้าจัน…….
เรียกไปสักครู่ มีแรงอันแข็งแกร่งบางอย่างผลักเธอเข้าห้อง
ธาวินลูบหน้าอันร้อนแดงก่ำของเธอ ยิ้มอย่างชั่วร้าย
ธิชาไม่สนใจสงครามเย็นอะไรแล้ว กอดเอวของเขาไว้เหมือนดั่งจับผู้ช่วยชีวิต พี่ หนูรู้สึกตัวร้อน ไม่สบายมาก…….
ธาวินสายตาลึกซึ้ง สีหน้าเรียบเฉย แต่ในดวงตานั้นมีแววแห่งความใคร่ ดั่งกระแสน้ำปั่นป่วน
เขาเผยอริมฝีปาก กอดเอวของเธอที่จะร่วงลงไปแล้วด้วยมือข้างเดียว มืออีกข้างหนึ่งล้วงเข้าไปใต้กระโปรงของเธอ
ตามที่คาดการณ์ไว้ ใต้กระโปรงของสาวน้อยเปียกชุ่ม แม้กระทั่งหว่างขาก็เปียกชื้น
ผู้ชายพยุงสะโพกของเธอไว้โยนเธอขึ้นเตียง น้ำเสียงอันโหดเหี้ยมมีแววแห่งความชั่วร้าย ร้อนอย่างที่พูดจริง มา แยกขาออกจากกัน พี่ช่วยเธอตรวจดูหน่อย