รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 54 น้องสาวติดหนี้ผมก็ไว้ค่อยๆ ชดใช้หนี้คืนแล้วกัน
- Home
- รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า
- บทที่ 54 น้องสาวติดหนี้ผมก็ไว้ค่อยๆ ชดใช้หนี้คืนแล้วกัน
ไพลินก้มศีรษะลงเล็กน้อย พลางกัดฟันไว้แน่น ราวกับต้องการขบเคี้ยวเคี้ยวฟันของตนเองให้แหลกละเอียด
เธอฝืนอดทนอยู่นาน ในที่สุดก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
พลางเงยหน้าเพื่อสบตากับธาวิน และแสดงสีหน้าเห็นด้วย ข้าน้อยไม่กล้าที่จะไม่พอใจ พรุ่งนี้เช้าจะจัดการแบ่งขอบเขตออกมาให้ และส่งให้ถึงมือคุณธิชาทันที
ธาวินพยักหน้า พลางพูดด้วยน้ำเสียงปกติ พอเถอะ เรื่องนี้พอแค่นี้นะ คุณออกไปก่อน
ไพลินนิ่งเฉย พลางลุกขึ้นและเดินออกไป
ธิชาจ้องมองแผ่นหลังของเธอที่เดินลับหายไป มุมปากกระตุกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ธาวินกางแขนขึ้นและดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด พลางบีบใบหน้าของเธอเอาไว้ ที่ผมจัดการแบบนี้ คุณดีใจไหม? พอใจหรือยังล่ะ?
ธิชากลอกตามองบน ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองภาคภูมิใจ ในทางกลับกันยังเอ่ยปากพูดอย่างมีความหมายเป็นนัยน์ ฉันไปบาดหมางกับผู้หญิงขี้หึงคนหนึ่งมา จนเกือบจะทิ้งชีวิตไปแล้วสิ จะเอาตรงไหนมาดีใจกัน? ไพลินให้ความสำคัญกับอำนาจและผลประโยชน์มาโดยตลอด คุณให้เธอแบ่งอำนาจครึ่งหนึ่งมาให้ฉัน เกรงว่าวันหน้าเธอจะคิดว่าฉันเป็นฝุ่นคอยทิ่มตาเธออยู่ จนเกลียดเข้าไส้จนอยากจะยิงฉันทิ้งล่ะ
ธาวินแค่คิดว่าเธอยังไม่พอใจ เลยถึงกับยิ้มออกมา พลางบีบใบหน้าของเธอเอาไว้ พลางกระซิบเสียงทุ้มต่ำ เรื่องนี้ไพลินตกเป็นผู้ต้องสงสัยจริงๆ แต่ว่าไม่มีหลักฐาน ลูกน้องทำผิดทำได้แค่ออกมารับผิดชอบ ไม่สามารถเอาชีวิตของเธอมาชดใช้ได้ อีกทั้งคุณรู้ตัวได้ทันเวลา ถือว่าดวงดีไม่เกิดเรื่องขึ้น ผมไม่สามารถเอาเรื่องที่เธอทำผิดพลาดไปแค่เรื่องเดียวในการเอาชีวิตของเธอได้ มันเป็นการยากมากที่จะโน้มน้าวผู้คนได้
ธิชาได้ยินผู้ชายคนนี้กำลังอธิบายให้เธอฟังแล้ว ความจริงแล้วในใจยังรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
ธาวินเป็นคนเย่อหยิ่งและไม่สนใจใครหน้าไหน แต่กลับพูดอธิบายถือว่าเป็นประวัติการณ์แล้วแหละ
เดิมเธอก็อยากไว้หน้าเขาเล็กน้อย แต่คำพูดกำลังจะหลุดออกจากปาก ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้เปลี่ยนความหมายไปฉิบ
ฉันดวงแข็ง ย่อมไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่การที่คุณทำเช่นนี้ เกรงว่าจะเป็นการทำร้ายจิตใจของไพลิน ผู้หญิงคนหนึ่งถ้าเสียใจถึงที่สุดแล้ว เกรงว่าจะจะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแทน ต่อไปก็ไม่สามารถรักคุณชายที่เธอคอยเพ้อรำพันถึงแล้ว
ธาวินจ้องมองหน้าเธอ จู่ ๆ ก็หัวเราะออกมา
ตอนแรกผมก็นึกว่าคุณโมโห ที่แท้ก็หึงนี่เอง ชิชะ หึงก็พูดมาตรงๆ สิ ทำไมต้องหาเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นไปล่ะ
ธิชาถูกเขาดึงเข้าสู่อ้อมกอด พลางใช้ข้อศอกกระทุ้งเขากลับอย่างเขินอาย ใครหึงคุณกิน หลงตัวเองนี่! ฉันก็แค่เป็นห่วงคุณเท่านั้นเอง ถึงอย่างไรเรื่องที่ไพลินหลงรักคุณถือว่าเป็นความลับที่ทุกคนเขารู้กันหมด แม้ว่าเธอจะขี้อิจฉา จะโง่เล็กน้อย แถมวู่วามอยู่บ้าง แต่ว่าการทำงานนั้นถือว่าได้ผล และมีบางอย่างที่เธอเก่งเฉพาะตัว และเป็นอาวุธที่มีประโยชน์ข้างกายคุณ ผู้หญิงมานอนกับคุณ มักจะคิดว่ารักใคร่กันอย่างลึกซึ้ง และมั่นใจแน่วแน่ว่าคุณจะรักเธอบ้าง ครั้งนี้คุณจัดการได้รุนแรงขนาดนี้ ไพลินต้องเสียใจมากแน่ ๆ ..
ความจริงแล้วในใจของธิชาก็มีคำถามอยู่เล็กน้อย และอยากจะแกล้งถามว่าตกลงแล้วไพลินถือว่าเป็นหนึ่งในบรรดาคนรักของธาวินหรือเปล่า
ทว่าช่างน่าเสียดายที่ธาวินไม่ตกหลุมพรางติดกับดักนี้
เขาบีบปลายคางของเธอเอาไว้ พลางทำกรุ้มกริ่มจะยิ้มก็ยิ้มจะหัวเราะก็ไม่หัวเราะออกมา ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งฉันสามีภรรยา คำพูดนี้มันดีมากเลยนะ ผมกับคุณก็นอนกันมาเป็นร้อยครั้งแล้วนะ ความรู้สึกนี้มันสะสมมาเรื่อยเกรงว่าจะสะสมไปชาติ น้องสาวติดหนี้บุญคุณพี่ไว้ก็ค่อยๆ ชดใช้คืนนะ ชาติหน้า ชาตินู้น ชาติโน้นๆ อีกก็ยอมหลับนอนกับผมอย่างเชื่อฟังก็ไม่เลวนะ
แก้มของธิชาแดงระเรื่อ พลางค้อนขวับใส่เขาทันที
เธอหลงกลธาวินจนไม่อยากจะหลอกถามต่ออีกแล้ว ถึงอย่างไรผู้หญิงที่อยู่ข้างกายของเขาก็จะผลัดเปลี่ยนกันไปเรื่อยอยู่แล้ว ราวกับว่าเมื่อฝนตกเรื่องก็ผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด แม้ว่าไม่มีไพลิน ก็จะมีจำพวกไพแดงไพเขียวไปเรื่อย
…………
ภายในคฤหาสน์สวยหรูขนาดใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบมาก
ทุกคนถูกกดดันจนไม่กล้าเปล่งเสียงออกมา แต่ว่ามีเด็กสาวคนหนึ่งที่ผอมแห้งแรงน้อยและกำลังป่วยหนักกำลังกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งจากการขาดสติ
เพียงวรินทร์ เขวี้ยงสิ่งของทุกอย่างในห้องจนแหลกละเอียด คนรับใช้ทุกคนต่างเกลี้ยกล่อมเธอไม่ได้ อีกทั้งยังตกใจกับเสียงกรีดร้องจนแสบแก้วหู จนทุกคนรู้สึกหวาดกลัวกันขึ้นมาแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงสามารถกล่อมเธอให้หยุดลงได้ และก็ยิ่งกลัวว่าเธอจะทำร้ายตัวเองมากกว่า ถ้าเกิดท่านประวิทย์รู้เรื่องนี้เข้า จะโดนลงโทษแน่
เธอเขวี้ยงของทุกสิ่งทุกอย่างจนเละไม่มีชิ้นดี และไม่มีอะไรที่สามารถเขวี้ยงได้อีกแล้วจริงๆ เธอก็ไปนั่งกอดเข่าขดตัวอยู่ตรงมุมห้อง พร้อมกับพูดเพ้อรำพึงกับตนเองไปเรื่อย การเรียงประโยคผิดเพี้ยนไปหมด ใครก็ฟังไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่
จนตอนที่คุณหมอกับพยาบาลเข้ามา เพื่อเตรียมจะฉีดยากล่อมประสาทให้กับเธอ
เพียงวรินทร์ เบิกตาโตเพื่อจ้องมองหลอดฉีดยาหลอดใหญ่ รูม่านตาก็แสดงอาการหวาดกลัวออกมาอย่างเต็มเปี่ยม
ราวกับว่าเหมือนมีคนมาการกระตุ้นให้เธอเจ็บปวดอีกครั้ง จนกรีดร้องเสียงหลงออกมา
นางพยาบาลเขยิบเข้าหาพลางถองควบคุมเธอเอาไว้ แต่กลับถูกเธอทั้งเตะทั้งต่อยจนกระเด็นออกไป
ไม่คิดเลยว่าน้ำหนักของเธอแค่30กว่ากิโลกรัมเอง ผอมเหมือนไม้เสียบผี แต่โดนที่จู่โจมคนอื่นนั้นจะมีพละกำลังที่โหดเหี้ยมมา
นางพยาบาลไม่สามารถควบคุมเธอเอาไว้ได้ เลยเรียกผู้ชายสองคนเข้ามาช่วย
ในที่สุดเพียงวรินทร์ ก็ถูกจับควบคุมได้อยู่กับที่ ราวกับเจ้าปีศาจน้อยที่บ้าคลั่งที่กำลังจะถูกยัดจับใส่กรง
เธอร้องไห้ออกมา พลางพยายามเปล่งเสียงสุดชีวิต เส้นเสียงเหมือนว่าจะมีอาการเสียหายไปแล้ว ตอนที่ส่งเสียงออกมานั้นมันช่างน่ากลัวมาก แถมยังเศร้าสร้อยบ้าง
จู่ ๆ ประตูก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ อันคุ้นเคยดังขึ้น ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าของนางพยาบาล จากนั้นก็หยิบกระบอกฉีดยาขึ้นมาจากมือของเธอ
เขาให้คนข้างๆ ถอยออก จากนั้นก็ลดตัวนั่งยอง ๆ ตรงด้านหน้าของหญิงสาว
เพียงวรินทร์ กำลังตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด และมีความหวาดกลัวและอาการอดกลั้นอย่างเต็มเปี่ยม
ชัยกรเหมือนจะยิ้มออกมา ไม่อยากฉีดกล่อมประสาทใช่ไหม หือ?
เด็กสาวไม่ตอบคำถาม
เขาพูดเองเออเองต่อ ของพวกนี้ฉีดไปเยอะมันก็ไม่ได้จริงๆนะ ได้ข่าวว่า จะทำให้สมองกลายเป็นคนโง่ไปเลย เพียงครับ คุณอยากจะเปลี่ยนจากคนแกล้งป่วยเป็นป่วยไปจริงๆ ไหมล่ะ เปลี่ยนจากคนมีไอคิวไปเป็นผู้พิการทางสมองเป็นศูนย์ อยากจะลองไหมล่ะ?
น้ำเสียงของชายหนุ่มทั้งอ่อนโยนและมีแรงดึงดูดเป็นอย่างมาก น้ำเสียงแกมข่มขู่ทว่ากลับทำให้รูม่านตาของเธอขยายตัว
ในที่สุดเธอก็เงยหน้าสบตากับเขา จากนั้นก็รีบส่ายหน้าทันที พร้อมทั้งสายตาในการหวาดกลัวปฏิเสธเข็มฉีดยา
ชัยกรยิ้มเล็กน้อย เขานำเข็มฉีดยาวางลงบนพื้น จากนั้นก็จัดการอุ้มหญิงสาวที่ร่างกายผอมแห้งขึ้นมา และวางลงบนเตียง จากนั้นก็จัดหมอที่อยู่บนหัวเตียงอย่างคล่องมือ เพื่อให้เธอได้นอนพิงกับหมอนอันอ่อนนุ่มได้อย่างสบายตัว
พยาบาลผู้ดูแลกับคนรับใช้เห็นว่าเพียงวรินทร์ เหมือนว่าสงบลงแล้ว สงบที่ไม่มีการต่อสู้ใดๆ อีก และไม่ต้องฉีดยากล่อมประสาทด้วย
พวกเขาถึงกับถอนหายใจโล่งอกอย่างอดไม่ได้ ในใจนั้นต่างคิดว่ามีเพียงท่านประวิทย์คนเดียวเท่านั้นที่สามารถเป็นคุณหมอที่รักษาอาการของเธอได้อย่างรวดเร็ว
ชัยกรยื่นมือออกไปลูบคลำเส้นผมของเธอ ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพียงวรินทร์เหมือนกับเปลี่ยนจากปีศาจตัวน้อยอันบ้าคลั่งจนกลายเป็นเจ้าแมวเหมียวที่เชื่อฟังและอ่อนโยน พลางหดไหล่และไม่ยอมขยับเขยื้อนใดๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นการต่อต้านตอนที่เขากำลังสัมผัส แต่ก็ไม่กล้าจะต่อต้านจนเห็นได้ชัด ทำได้แค่ฝืนทนตามน้ำไป
ชัยกรยกถ้วยโจ๊กมาวางอยู่ด้านข้าง พลางตักขึ้นมาหนึ่งช้อน และนำขึ้นมาใกล้ริมฝีปากและจัดการเป่าให้
ระเบิดอารมณ์ออกมาหมดแล้วใช่ไหม ระเบิดเสร็จก็กินข้าวซะนะ มา อ้าปากเร็ว
เพียงวรินทร์ผอมแห้งเกินไป แก้มเล็กๆ บนใบหน้าที่อวบอิ่มตั้งแต่แรกทั้งสองข้างจนตอบลงไปบ้าง ขนาดดวงตาเรียวเล็กยังกลวงโบ๋จนแปลกตาไป
นัยน์ตาของเธอจ้องมองโจ๊กชามนั้นอย่างตั้งแง่ไว้ ราวกับว่ากำลังมองชามยาพิษอยู่เช่นนั้น
ชัยกรเห็นว่าเธอไม่ยอมอ้าปาก ราวกับไม่ได้รู้สึกโมโหเลย และยังใช้ท่วงท่าอดทนอยู่เช่นนั้น พลางยิ้มให้เล็กน้อย
ถ้าไม่ยอมกินดีๆนะ คุณก็จะหิวตาย เพียงคุณอยากตายเหรอ ตายไป ก็จะเหมือนพ่อแม่ของคุณ …. หายไปจากโลกใบนี้ จนกลายเป็นฝุ่นละอองไป