รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 99 ธาวินให้ฉันครั้งละห้าพันเท่านั้นเอง
ธิชาเปิดปากออกมาโดยไม่รู้ตัว เดิมทีอยากจะอธิบายอะไรออกไป แต่ก็รู้สึกว่าไม่รู้จะพูดออกไปยังไงดี
เรื่องระหว่างเธอกับธาวิน……ไม่เคยคิดว่าจะถูกแม่รู้เข้า
นอกจากนี้วิดีโอที่ธาวินใช้ข่มขู่เธอพวกนั้น ก็เอ่ยปากอธิบายออกไปไม่ได้ แล้วจะให้เธอพูดอะไรดี
เธอเลยพยักหน้า พูดยอมรับ: อือ
ณิชานาฎเหลือบมองเธอ สายตาค่อนข้างเย็นชา เหมือนว่ายังมีความรังเกียจอยู่บ้าง
น้ำเสียงของเธอไม่ค่อยดี ธิชา คุณใกล้ที่จะเป็นวัยยี่สิบแล้ว สมองก็ไม่โง่แล้วเหมือนกัน ควรจะรู้ได้แล้วว่าดนัยกฤตนั้นคิดกับคุณยังไง เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณนั้นมีโอกาสที่จะติดตามเขา โอกาสดีแบบนี้คุณกลับไม่คว้าเอาไว้ ดันเลือกกลับมาทางเดิมให้คนอื่นหัวเราะเยาะอีก! ธาวินไม่มีวันให้สถานะกับคุณ และยิ่งไม่มีทางปฏิบัติต่อคุณด้วยความจริงใจ ตอนนี้ที่เขาทำดีกับคุณบางทีก็คงจะมีความรักอยู่บ้าง แต่ความรักของผู้ชายนั้นรักษาคุณค่าไม่ได้……
คุณตอนนี้ยังอ่อนวัยอยู่ รอจนคุณอายุยี่สิบห้าปี บางทีคงจะพยายามรักษารูปโฉมสวยงามอย่างสุดความสามารถ รอจนคุณอายุยี่สิบแปดปี สามสิบปีละ ข้างกายของธาวินคงจะไม่ขาดสาวน้อยอ่อนวัย พอถึงเวลานั้นคุณที่อายุยี่สิบแปดปี จะเอาอะไรไปสู้กับสาวน้อยวัยสิบเจ็ดสิบแปดปีได้?!
ธิชาไม่ชอบที่จะโต้เถียงกับแม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ว่าเธอนั้นทนฟังไม่ไหวแล้วจริงๆ
เธอจับจ้องด้วยสายตาที่หนักอึ้งไปที่ณิชานาฎ พูดเน้นทีละคำทีละประโยค: คุณช่วยอย่าเอาประสบการณ์ทั้งหมดพวกนั้นที่สรุปมาจากผู้ชายรอบกายคุณมาสั่งสอนฉันได้หรือเปล่า? เรื่องระหว่างฉันกับธาวิน……เพียงแค่ตัวฉันเองที่เข้าใจก็พอแล้ว ฉันไม่เคยคิดที่อยากจะต่อสู้อะไร และยิ่งไม่ได้หวังว่าธาวินจะให้อะไรฉันด้วย ช่วยอย่าเอาความสัมพันธ์ของพวกเรามาบรรยายจนรับไม่ได้ขนาดนั้นได้ไหม?!
ณิชานาฎหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา รับไม่ได้? คุณเองก็รู้จักเสียหน้าเหมือนกันเหรอ?
ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะป่วยหนัก แต่เธอยังรักษาหน้าตาและอากัปกิริยาที่แสนมีเสน่ห์ของสาวงามดังเช่นเมื่อก่อนเอาไว้ได้
เธอเหน็บแนมลูกสาวตัวเองอย่างไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย: คุณคิดว่าการที่คุณไม่ต่อสู้ไม่แย่งชิงมันจะทำให้เป็นคนใสสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ? ในสายตาของโลกใบนี้ คุณก็เป็นเพียงลูกคนที่สามอยู่วันยังค่ำ ขนาดนายหญิงยังเทียบกับผู้หญิงร่านบ้าเซ็กไม่ได้เลย! ธิชา คุณทำไมมันโง่ได้ถึงขนาดนี้ คุณรู้อยู่แล้วว่าธาวินนั้นเซ้าซี้มาก อาศัยเพียงแค่ความสามารถของตัวคุณเองบางทีก็คงสลัดเขาออกไปไม่ได้ง่ายๆ แต่ดนัยกฤตที่อยู่ตรงหน้าคุณนี้ เขาเหมือนกับขอนไม้ลอยน้ำที่จะมาช่วยชีวิตคุณได้ คุณทำไมถึงไม่จับเขาเอาไว้?!
ธิชารู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มีคำพูดใดจะมาโต้แย้ง เธอเลยถอนหายใจออกมา อย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ คุณเองก็มีชีวิตของคุณ เดิมทีคุณจะเลือกทำอะไรก็ไม่เคยคิดจะปรึกษาลูกสาวคนนี้อย่างฉันอยู่แล้ว ขนาดตอนนี้ลงมาถึงจุดนี้แล้ว ฉันเองก็ไม่เคยจะพูดจาเหน็บแนมคุณเลยแม้แต่ประโยคเดียว ฉันเองก็มีโชคชะตาของฉันเองเหมือนกัน คุณเองก็ให้ฉันมีชีวิตของตัวเองเถอะ
สีหน้าของณิชานาฎนั้นไม่ค่อยดี น่าจะเป็นเพราะว่าโมโหและมีอาการหอบ
หายใจหอบสักพักใหญ่ถึงจะค่อยๆผ่อนคลายลง ช่างเถอะ คุณอย่างจะทำยังไงก็แล้วแต่ละกัน ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว วันนี้ที่ฉันให้คุณมา ความจริงแล้วมีเรื่องอยากจะให้คุณช่วยฉันสักหน่อย
ธิชาถาม: เรื่องอะไรคะ?
สายตาของณิชานาฎมองออกไปนอกหน้าต่าง ความเย็นชาและโอหังอวดดีเล็ดลอดออกมาทางสายตา
อยู่ที่เมืองJเถอะ โรคของฉันจนตายก็คงรักษาไม่หาย ธาวินไม่ยอมให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขแน่ ในเมื่อคุณยังอยู่ข้างกายของธาวิน ก็น่าจะพอพูดอะไรได้บ้าง คุณไปขอร้องธาวินให้หน่อยสิ ให้เขามอบเงินให้ฉันซักก้อน ส่งฉันไปรักษาตัวที่อเมริกา
ธิชาพอฟังแล้วสมองหนักอึ้งชาไปหมด คุณพูดอะไรนะ…..คุณอยากจะไปรักษาตัวที่อเมริกา?
น้ำเสียงของณิชานาฎไม่มีคลื่นอารมณ์เลยแม้แต่น้อย: คุณโตแล้ว อีกอย่างก็ไม่ได้ชอบฟังฉันอยู่แล้ว ฉันไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องอยู่ที่เมืองJ ถือว่าช่วยแม่ในฐานะลูกสาวครั้งสุดท้ายละกัน
ความโศกเศร้าและขมขื่นภายในใจของธิชานั้นไม่รู้ว่าจะระบายออกมาทางไหน
เธอถามอย่างตื่นตระหนกงงงวย คุณต้องการซักเท่าไหร่?
ห้าล้านดอลลาร์สหรัฐ คุณไปหาธาวิน เงินนี้สำหรับเขาแล้วไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไร
สีหน้าของธิชาเปลี่ยนเป็นซีดขาวทันใด……
เธอทำจมูกฟุดฟิดด้วยความงงงวย ถามออกไปอย่างทำตัวอะไรไม่ถูก คุณจะให้ฉันไปหาธาวินว่ต้องการเงินห้าล้านดอลลาร์สหรัฐ แม่ค่ะ……คุณจะส่งฉันไปตายอย่างงั้นเหรอค่ะ?
ธาวินแค้นณิชานาฎเป็นอย่างมาก ธิชาไม่ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องนี้
ณิชานาฎเองก็ไม่มีทางที่จะไม่รู้
เธอไม่เข้าใจว่าณิชานาฎนั้นคิดอะไรอยู่กันแน่ เธอคิดยังไงกับลูกสาวคนนี้ของเธอกันแน่
ธิชาเม้มริมฝีปาก เธอมองณิชานาฎด้วยใบหน้าเย็นชาและสงบนิ่ง ในใจก่อเกิดความรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้าอยู่หลายส่วน
ไม่ใช่เธอไม่รู้จักความกตัญญู แต่สิบกว่าปีที่ผ่านมานั้น ณิชานาฎไม่เคยให้อะไรกับเธอเลย
ชีวิตของณิชานาฎก่อนอายุสามสิบห้าปีนั้นเหมือนดอกไม้งามก็ไม่ปาน ถูกผู้หญิงอิจฉา ได้รับการยื้อแย่งจากผู้ชาย เหมือนดาวล้อมเดือน
นอกจากรูปลักษณ์หน้าตาของเธอแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีความสามารถ กิจการภายใต้ชื่อตระกูลธนาภูวนัตถ์นั้น ระหว่างที่เธอดำเนินกิจการก็พัฒนาไปในทิศทางที่ดีมาก
แต่ว่าหลังจากอายุสามสิบห้า ผู้สนับสนุนของเธอล้ม ตัวเธอเองก็ป่วยหนัก เหลือเพียงลูกสาวที่เพิ่งจะบรรลุนิติภาวะดูแลเธอ
ในความทรงจำของธิชา ระยะเวลาหนึ่งปีที่เธอป่วยหนักนี้ เวลาอยู่ร่วมกันของสองคนแม่ลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ณิชานาฎพูดด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์: ธาวินเก็บคุณไว้อยู่ข้างกาย เขาก็คงมีความรู้สึกกับคุณเป็นพิเศษอยู่บ้าง ความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาวก็ช่าง ความต้องการแบบชายหญิงก็ช่าง ร้ายดียังไงคุณก็นอนกับเขามานานแล้ว เงินก้อนนี้คุณก็สมควรจะได้รับมัน
ร่างกายของธิชาอ่อนยวบ ตัวแข็งค้างจิตใจเลื่อนลอยอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วย
ถ้าไม่ได้ยินกับหูตัวเอง คงยากที่เธอจะจินตนาการออกมาได้ว่าคำพูดเหล่านี้นั้นออกมาจากปากของแม่ตัวเอง
เธอจับจ้องมองเธอด้วยสายตาซับซ้อน น้ำเสียงค่อนข้างสั่นเครือ คุณคงจะมองลูกสาวของตัวเองสูงเกินไปหน่อย ฉันนั้นไม่ได้มีค่าคู่ควรกับเงินมากมายขนาดนั้น ธาวินคงไม่ยอมให้ฉันหรอก
สีหน้าเย็นชาของณิชานาฎนั้นค่อยๆปรากฏว่าอดทนไม่ไหวอยู่หลายส่วน คุณเองยังไม่ทันจะลองเลยจะไปรู้ได้ยังไงว่าเขาจะไม่ให้แน่นอน ก็แค่ห้าล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นเอง ยังไม่เท่ากับผลประกอบการหนึ่งปีของบริษัทเล็กๆที่อยู่ภายใต้ชื่อของตระกูลธนาภูวนัตถ์เลยด้วยซ้ำ ฉันไม่ได้โลภมากอะไรเลย ก็แค่อยากจะใช้เงินก้อนนี้รักษาเยียวยาตัวเองจนถึงที่สุดก็เท่านั้นเอง
ในลำคอของธิชารู้สึกขมไปหมด
เธอพูดคัดค้านคำพูดของณิชานาฎไม่ออก
ถึงอย่างไรถ้าพูดถึงสถานะของณิชานาฎ ดีร้ายยังไงก็เป็นภรรยาห้องหอที่ถูกต้องของชรัณ และยังป่วยหนักอีก คิดอยากจะได้ค่าเลี้ยงดูห้าล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามความเป็นจริงก็ไม่ได้ถือว่าราคาแพงอะไร
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ธิชารู้สึกลำบากใจนั้น เหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เพียงปัญหาเรื่องเงิน……
เธอสูดหายใจเข้าไปลึกๆ เล็บจิกแน่นเข้าไปในเนื้ออย่างไม่ทันรู้ตัว
แม่ คุณเองก็รู้ว่าธาวินให้ราคาตัวฉันเท่าไหร่ ครั้งละห้าพัน ห้าพันเท่านั้นเอง……ถึงฉันจะนอนกับเขาสิบปี ก็คงไม่ได้เงินอะไรมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเงินสะสมของฉันทั้งหมดหนึ่งปีนี้ ก็เอามาจ่ายให้กับโรงพยาบาลหมดแล้ว คุณอยู่ที่เมืองJถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สภาพที่เหมาะสมที่สุด แต่ว่าอย่างน้อยก็ปลอดภัย ฉันเองก็มาเยี่ยมคุณได้บ่อยๆด้วย……
ธิชาไม่ได้อยากโต้เถียงจนหน้าหน้าแดงกับเธอ ถึงอย่างไรนอกเหนือจากธาวินแล้ว ณิชานาฎก็เป็นแม่คนเดียวที่เธอมี
เธอก็แค่อยากจะเกลี้ยกล่อมเธอให้อยู่ต่อ
เพียงเท่านั้นเอง
แต่ว่าณิชานาฎกลับโกรธด้วยความอับอายและขุ่นเคือง เธอนั่งตัวตรง เขวี้ยงจานแอปเปิลใบเล็กที่ถืออยู่ในมือแตกอยู่ข้างโต๊ะ ปลอดภัย? แกเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าธาวินเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกขนาดนั้น เขาแทบอยากจะกลืนฉันเข้าไปในคอ จะได้ไม่มีใครมาทำอันตรายตำแหน่งของเขาได้อีก ไม่มีใครจะไปแย่งสมบัติของตระกูลธนาภูวนัตถ์กับเขา พูดตามหลักการแล้วทรัพย์สมบัติของตระกูลธนาภูวนัตถ์นั้นฉันสมควรที่จะได้ครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ ธิชาแกมันยังมีสมองอยู่หรือเปล่า ครั้งละห้าพัน แกยังสู้อีตัวในไนต์คลับยังไม่ได้เลย!
ธิชาตัวแข็งทื่อ ทันใดนั้นสีหน้าสลับเปลี่ยนเป็นถมึงทึง
เธอพูดข้อตกลงระหว่างเธอกับธาวินออกมา เพียงแค่อยากจะโน้มน้าวเธอ เกลี้ยกล่อมให้เธอล้มเลิกความคิดเหล่านี้ซะ……
คิดไม่ถึงว่าจะถูกณิชานาฎทำให้อับอายได้ขนาดนี้
สมองของธิชาบวมอึดอัดจนเหม่อลอยอยู่เนิ่นนาน สุดท้ายก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นขึ้นมาทันทีทันใด
ในตอนนี้เองที่รู้สึกว่าความอับอายที่ได้รับจากธาวินก็ไม่ถือว่าเกินไป ขนาดแม่บังเกิดเกล้าของเธอยังย่ำยีเธอได้ขนาดนี้เลย
เธอค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ ก้าวย่างด้วยขาทั้งสองข้างที่แข็งแรงแต่แกล้งบอบบางเดินตรงไปที่ประตูห้องผู้ป่วย
อยู่ดีๆณิชานาฎก็ร้องไห้ออกมา เสียงร้องไห้นั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เหมือนเธอนั้นระบายความรู้สึกน้อยใจไม่เป็นธรรมตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาออกมาทั้งหมด
คุณไม่สนใจความเป็นความตายของแม่คุณอย่างนั้นเหรอ? ธิชา แม่ทนมาหนึ่งปีกว่าแล้วนะ ตั้งแต่ลุงรัณเส้นเลือดในสมองแตก ฉันก็ถูกธาวินกักขังไว้ในห้องผู้ป่วยไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ตอนนี้เรื่องราวก็ผ่านมานานมากแล้ว ตำแหน่งของธาวินในตระกูลธนาภูวนัตถ์นั้นก็ไม่มีใครทำอันตรายเขาได้มาตั้งนานแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเอ่ยปาก……ถ้าตอนนี้ไม่ไป บางทีฉันคงจะต้องตายอยู่ในห้องผู้ป่วยจริงๆแล้ว ธิชาคุณช่วยแม่หน่อยเถอะนะ คุณจะไม่สนใจแม่ไม่ได้นะ……
ธิชาหันกลับมามองเธอด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในสายตานั้นมีม่านหมอกบางๆ
เธอนั้นจำไม่ได้แล้วว่ากี่ปีมาแล้วที่ไม่ได้เห็นณิชานาฎร้องไห้เลย……
ณิชานาฎในสายตาของเธอนั้นเหมือนผีเสื้อที่มีสีสันงดงามฉูดฉาด
ครั้งสุดท้ายที่เห็นเธอร้องไห้ น่าจะเป็นช่วงตอนอายุห้าขวบ
มีลุงอัยการที่ทั้งสูงทั้งหน้าตาดีทิ้งเธอไปและจ่ายค่าทำขวัญสำหรับการเลิกราให้ไม่เท่าไหร่
ณิชานาฎขังตัวเองอยู่ในห้องร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา……จนมาถึงวันนั้นที่ลุงรัณกลายมาเป็นผักนอนติดเตียง
ธิชาไม่เคยเห็นเธอร้องไห้มาก่อน
เธอเปิดปาก พูดอย่างทำตัวไม่ถูก: ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกน้อยใจ ฉันจะลองกลับไปคุยกับธาวินดูละกัน ฉันจะพยายามช่วยคุณเอามาให้ได้ แต่ว่า……ฉันคิดว่าไม่ได้มีความหวังมากมายนัก แต่ฉันจะช่วยคุณอย่างสุดความสามารถละกัน
ธิชาพูดประโยคนี้จบก็รีบเร่งฝีเท้าออกจากห้องผู้ป่วยทันที
ขณะที่อยู่ในลิฟต์เธอก็คิดมาตลอดทาง
ห้าล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นเยอะมากเลยนะ……
เธอจะเอ่ยปากออกไปอย่างไรดี เธอนั้นไม่เคยจะเรียกร้องขอเงินมากมายขนาดนั้นกับธาวินมก่อนเลย……
ขนาดห้าหมื่นหยวนยังไม่เคยขอมาก่อน
ธิชาออกจากประตูหลักของโรงพยาบาล ขับรถมุ่งหน้าตรงไปอาคารตระกูลธนาภูวนัตถ์อย่างไม่หยุดพัก