รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 37-2 หัวโบราณแล้วนอนกับฉันทำไม / บทที่ 38-1 แค่บอกว่าดี ทั้งตัวก็เหมือนจะละลาย
- Home
- รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
- บทที่ 37-2 หัวโบราณแล้วนอนกับฉันทำไม / บทที่ 38-1 แค่บอกว่าดี ทั้งตัวก็เหมือนจะละลาย
บทที่ 37-2 หัวโบราณแล้วนอนกับฉันทำไม / บทที่ 38-1 แค่บอกว่าดี ทั้งตัวก็เหมือนจะละลาย
Xiaobei
บทที่ 37-2 หัวโบราณแล้วนอนกับฉันทำไม
จากูที่เห็นจีฮวันดีใจ ดิ้นสุดแรง อยากจะมาหาเขา
“ชอบเขาขนาดนั้นเลยเหรอ หืม? ท่าทางจากูจะจำคุณพีบีได้ ดิ้นขอให้กอด เจ้านี่ชอบคนมากเลยน่ะ”
“พ่อ อย่าปล่อยจากูลงมานะคะ คุณพีบีเขาไม่ชอบหมา”
“เอ่อ คือ”
“งั้นเหรอ ไม่ชอบหมางั้นหรือเนี่ย แต่คุณพีบีเขารู้จักกับจากูมาก่อนแล้วนะ แมวที่พ่อเล่าว่าเจอที่อนุสรณ์สถานก็ของคุณพีบีเขานี่แหละ ชื่อจีอง”
“อะไรนะ”
อึนคังส่งเสียงดัง
“แมวที่ข่วนหน้าจากูคือจีองงั้นเหรอ”
อึนคังจ้องจีฮวันเขม็ง จีฮวันสะดุ้ง
“เอ่อ คุณพ่อ อร่อยมากเลยครับ ผมมีธุระนิดหน่อย คงต้องกลับแล้ว คุณนักเขียนก็หายเร็วๆ นะครับ”
จีฮวันรีบลุกขึ้น
“ซุปยังเหลืออีกเยอะเลย ทานอีกหน่อยสิ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกินไปเยอะแล้ว อร่อยมากจริงๆ ครับ”
“งั้นเหรอ งั้นขอบคุณนะครับที่มาเยี่ยม แล้วเจอกันใหม่”
ชางซอกเดินไปส่งจีฮวันที่รีบกลับราวกับจะหนี แล้วกลับมานั่งที่โต๊ะอาหาร รอยยิ้มพอใจปรากฏบนใบหน้า
“อะไร ทำไมยิ้มแบบนั้นล่ะคะ”
“ไม่มีอะไร ไม่ได้เจอคนหนุ่มดีๆ แบบนี้นานแล้ว มีมารยาท เอาใส่ใจเพื่อนบ้านด้วยแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ หรอกนะลูก”
“อะไร ออกจะเป็นตาแก่หัวโบราณ”
อึนคังบ่นเบาๆ
“เขาทำงานอะไรนะ ที่ปรึกษาอะไรนะ”
“ที่ปรึกษาด้านการเงิน เป็นพนักงานธนาคารที่คอยให้คำปรึกษาด้านการลงทุนของพวกคนรวยค่ะ”
“อ๋อ งั้นเหรอ เรียกว่าที่ปรึกษาด้านการเงิน รูปร่างหน้าตาเหมาะกับตำแหน่งดี แมวที่เลี้ยงก็สวยและดูมีชาติตระกูลมาก”
“จีองน่ะเหรอ สวยๆ พันธุ์อะไรน้า แร็กอะไรสักอย่าง สีขาว ขนฟู ตาสีเขียวมรกตเป็นประกาย เป็นแมวที่สวยที่สุดที่เคยเห็นมาเลย”
ชางซอกตาโต
“เคยเจอแล้วเหรอ”
“อื้อ ที่บ้านคุณพีบี หนูเคยเอาอาหารให้ด้วย ไม่ใช่แค่สวยนะ เด็กนั่นยังเรียบร้อยและหยิ่งมากด้วย กินอาหารก็กินแต่พอดี ถึงอาหารจะเหลือเยอะ แต่ตาก็ไม่แลอีก ต่างกับจากูของเราสุดๆ”
“ไปบ้านเขามาแล้วด้วย? เมื่อไหร่”
“ก็เขาอยู่ชั้นล่างนี่เอง หนูทำกาแฟหกใส่สัญญาเลยต้องไปเอาใหม่ เอ๋? คุณโกชางซอก สายตาเปี่ยมความหวังนั่นคืออะไรคะ”
“เปล่า หว้ง หวังอะไรกัน…”
“คุณโกชางซอก คูมพ่อของอึนคัง เลิกฝันเสียแต่เนิ่นๆ นะคะ ลูกสาวคูมพ่อจะไม่แต่งงาน”
“เอ่อ เดี๋ยวนะ ใคร อะไรจะไม่แต่งงาน จะอยู่โดยไม่มีความรักไปตลอดชีวิตน่ะรึ ไม่แต่งงานก็มีความรักได้นี่ หาผู้ชายที่เขาชอบชีวิตโสด ถึงไม่แต่งงาน แต่มีความรักดีๆ มีลูกแล้วไปอยู่ฝรั่งเศสก็ได้!”
“แน่นอนว่าหนูก็อยากมีความรักกับผู้ชายดีๆ สักคน ถ้ามีโอกาสจะรีบคว้าไว้ แต่คุณพีบีไม่ใช่ พวกเราเกี่ยวข้องกันเพราะสัญญาเรื่องงาน เขาเป็นพนักงานธนาคารยอดอัจฉริยะจบจากโซลและฮาร์วาร์ด แถมต่างคนก็ไม่ใช่สเปกกันด้วย แฟนเก่าเขานี่…”
อึนคังหุบปากทันที ไม่อยากเล่าไปถึงแฟนเก่าของจีฮวัน
“รู้ว่าเขาจบม.โซล จบฮาร์วาร์ด คุยกับเรื่องสเปก แล้วยังรู้อีกว่าแฟนเก่าเป็นใคร เจอกันเพราะเรื่องงาน ต้องคุยเรื่องส่วนตัวกันขนาดนั้นเลย?”
“ก็เขาเป็นที่ปรึกษานี่นา เป็นคนที่หนูจ่ายเงินให้ เลยได้ดูประวัติส่วนตัว นิยายเรื่องหน้าของหนูน่ะ พระเอกทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน เลยต้องเก็บข้อมูลเกี่ยวกับงานที่ธนาคาร แล้วก็ถามเรื่องส่วนตัวเอาไว้ใส่ในนิยาย เพิ่งเคยเห็นประวัติส่วนตัวเลิศเลอขนาดนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะคะพ่อ มีใบประกาศที่หนูไม่เคยเห็น ทั้งนักบัญชี, ผู้จัดการทรัพย์สิน อะไรต่อมิอะไรเป็นสิบใบเลยนะคะ ลูกสาวพ่อไม่มีทางได้ผู้ชายแบบนี้แน่ พ่อมีสิทธิ์ที่จะหวัง แต่ภายหลังจะผิดหวังเอานะคะ เลิกฝันแต่เนิ่นๆ ดีกว่า เนอะ?”
“เออๆ รู้แล้ว เข้าใจแล้ว จะเลิกฝัน รีบกินโจ๊กแล้วก็กินยาซะ”
ชางซอกผลักถ้วยโจ๊กไปหน้าอึนคังด้วยท่าทางผิดหวังเบาๆ อึนคังยกถ้วยขึ้นมาและเริ่มลงมือกิน
* * *
สี่ทุ่ม จีฮวันในชุดนอน กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง แล้วโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น อึนคังโทรมา เขากังวลอยู่ครู่นึงก่อนจะรับสาย
“สวัสดีครับ”
[คุณพีบี ถึงบ้านเรียบร้อยดีใช่ไหมคะ]
“ผมกลับถึงบ้านเรียบร้อยมาสามชั่วโมงแล้วครับ ทักเร็วไปนะครับ”
[คิก คิก คิก]
ไม่ใช่เรื่องที่น่าหัวเราะ แต่อึนคังกลับหัวเราะ
“ไม่สบายเป็นยังไงบ้างครับ”
[กินโจ๊กที่คุณพีบีซื้อมาให้ กินยาแล้วก็ล้มตัวลงนอน เพิ่งตื่นได้สักแป๊บนี่แหละค่ะ กำลังจะนอนต่อ เช็คข้อความเจอของคุณพีบีเข้าก็ตกใจ เมื่อกี้ที่รีบเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ คือเสื้อในชั้นใช่ไหมคะ]
“ใช่ครับ ถ้าคุณพ่อคุณนักเขียนเปิดเจอจะทำไง เกือบไปแล้ว”
[โอ๊ย ขำ ฮ่าๆๆ]
“ขำอะไรครับ ไม่รู้ถึงความเครียดของคนอื่นเขาบ้างเลย สดใสขนาดนี้คงจะหายดีแล้วสินะครับ”
[ขอบคุณนะคะ ทั้งเสื้อใน โจ๊ก แล้วก็ยา ฉันซาบซึ้งมาก]
“อะไรนะที่คุณว่า ตาแก่หัวโบราณใช่ไหม กินโจ๊กที่ตาแก่ซื้อให้ คุณนักเขียนอาจกลายเป็นยายแก่ไปด้วยนะครับ”
รู้ว่าเหมือนเด็กที่ไม่ยอมจบ แต่การโดนพูดใส่แบบนั้นจากอึนคังไม่ใช่คนอื่นมันน่าหงุดหงิดมาก
[ขอโทษนะคะที่พูดแรงเกินไปหน่อย คุณพีบีไม่ใช่ตาแก่ ไม่รู้ว่าหัวโบราณไหม แต่ไม่ใช่ตาแก่หรอกค่ะ คุณพีบีเป็นคนดีมาก เพราะฉะนั้น หายเคืองนะคะ]
ความโกรธเคืองค่อยคลายลงอย่างง่ายดาย
“แล้วเมื่อเช้า กลับไปตอนไหนครับ”
[ตีห้า? ตีห้าครึ่ง? ประมาณนี้ค่ะ ตอนกึ่งหลับกึ่งตื่นเหมือนได้ยินเสียงจากูร้องหิวข้าวเลยตกใจตื่น ก็เลยรีบกลับ ไม่ทันได้ลาคุณพีบี]
“หมาเทอาหารไว้ให้กินอิสระไม่ได้เหรอครับ จีองยัง…”
[คุณนี่ช่าง! จริงๆ เลย อวดแมวเสียมารยาทกับหมาอีกแล้วนะคะ!]
“เปล่านะครับ ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
[มีค่ะ พวกหมาที่เทอาหารไว้ให้กินเองได้! แต่จากู…เคยเป็นหมาถูกทิ้ง ก็จะตะกละหน่อย เรื่องกลัวจะโดนทิ้งอีกแก้ได้แล้ว แต่ยังฝึกเรื่องกินไม่ได้ ปล่อยให้กินเอง ก็จะกินจนอ้วก…]
“แล้วจากูเป็นยังไงบ้างครับ”
[ก็แทบแย่ค่ะ ฉี่ไปทั้งบ้านเพราะกังวลว่าฉันจะไม่กลับมา ร้องจะหมดแรงเสียงแหบเสียงแห้ง ถ้ากลับช้ากว่านี้คงจะแย่ หลังจากให้อาหาร กล่อมให้นอนแล้วก็เช็ดฉี่ทั้งบ้านแล้ว ฉันก็ปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวยังกับโดนชกเลยค่ะ]
“แต่ จัดการอะไรเสร็จแล้วก็น่าจะส่งข้อความมาบอกหน่อยว่าถึงเรียบร้อยแล้ว คนอื่นเขาเป็นห่วงไม่ใช่หรือไง”
[เป็นห่วงทำไมคะ ห้องก็ไม่ได้ไกล แล้วก็สร่างเมาแล้ว กลับได้สบายอยู่แล้ว]
“ก็เผื่อ”
แล้วจีฮวันก็หยุดพูดไปเสียอย่างนั้น
[เผื่ออะไร คะ?]
“คุณไปไม่บอก หลังจากที่คุณไปแล้ว ก็ไม่ติดต่อมาทั้งวัน…เผื่อคุณจะโกรธผม เผื่อผมทำอะไรผิด…”
ได้ยินเสียงหัวเราะคิก
“หัวเราะอะไรครับ”
[น่ารักจังค่ะ]
บทที่ 38-1 แค่บอกว่าดี ทั้งตัวก็เหมือนจะละลาย
อะ อะไรนะ จีฮวันตกใจมาก ยันตัวพรวดขึ้นมา
[คุณพีบี แอบมีมุมน่ารักเหมือนกันนะคะ]
อะ อะไรนะ ผู้หญิงคนนี้นี่
“พะ พูดอะไรไร้สาระ น่ารักอะไร อยู่มาเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกในชีวิต”
[จริงเหรอคะ คุณพีบีไม่รู้ตัวเหรอคะว่าตัวเองน่ะน่ารักมาก]
“ตอนเกิดมาใหม่ๆ ก็ไม่เห็นจะเคยได้ยินเลย!”
[ฮ่าๆ แหงสิคะ เพราะจำไม่ได้! คุณพีบีไม่ใช่ยอดมนุษย์ซะหน่อย ต่อให้ความจำจะดีขนาดไหน จะไปจำเรื่องสมัยเป็นทารกได้ยังไงคะ]
“ตอนห้า หกขวบที่จำความได้ก็ไม่เคยได้ยิน สาบานเลยว่าตั้งแต่เกิดไม่เคยได้ยินคำว่าน่ารักเลยสักครั้ง! มีคนบอกว่าตอนแรกเกิดไม่ได้เอาความน่ารักติดมาด้วย ไม่ใช่ใครที่ไหนด้วย แม่ผมที่ตายไปเป็นคนพูดเอง ตั้งแต่เด็กๆ ผมไม่มีมุมที่น่ารักเลยสักอย่าง ขนาดเม่นยังว่าลูกตัวเองน่ารัก แต่นี่น่าเกลียดขนาดไหน ถึงได้บอกว่าลูกในไส้ที่ตัวเองคลอดออกมาไม่น่ารัก ผมเป็นคนแบบนี้แหละครับ! เป็นคนที่ห่างไกลคำว่าน่ารักที่สุดแล้ว”
[ตรงแบบนี้แหละค่ะที่น่ารัก ที่พอได้ยินคำว่าน่ารักแล้วโวยวายไม่ชอบ]
“เฮ้อ จริงๆ…”
จะบ้าตาย
[โอเคค่ะ รู้แล้วๆ คุณพีบีไม่น่ารักเลย เลิกโวยวายได้แล้ว เมื่อเช้าฉันไม่ได้โกรธอะไร ที่ไปไม่ได้บอกก็เพราะจากู เข้าใจแล้วนะคะ ไม่มีสาเหตุอะไรที่ฉันจะโกรธ เพราะ…]
อึนคังกระซิบ
[มันดี…]
หัวใจที่ตื่นเต้นกับคำว่า ‘น่ารัก’ เมื่อกี้เต้นโครมครามพร้อมกับใบหน้าที่ร้อนวาบขึ้นมา
[ตอนแรกเขินแล้วก็ตื่นเต้นมากๆ กลัวด้วยนิดหน่อย แต่พอคุณพีบีลูบเบาๆ ก็ช่วยคลายความตื่นเต้น กลายเป็นความคึกจนโดดตะครุบคุณพีบี ผมยุ่งๆ กับปากที่เผยอน้อยๆ เซ็กซี่มาก เสียจนแทบจะฉีกเสื้อ…]
“คะ คะ คุณนักเขียน!”
จีฮวันตกใจเด้งขึ้นจากเตียงราวกับสปริง
“คะ คุณพ่อไม่อยู่บ้านหรือครับ”
[เข้าไปในห้องทำงานแล้วค่ะ บอกว่าจะพาจากูไปนอน ทำไมคะ จะคุยด้วยเหรอคะ]
“เปล่าครับ!”
บ้าไปแล้ว จีฮวันตอบกลับเสียงดัง
“จะ จะขอสายทำไมครับ จะให้ผมคุยอะไรกับคุณพ่อ! จะให้คุยว่าเราสองคนเจอกันเมื่อไหร่งั้นเหรอครับ”
[พ่อชมคุยพีบีใหญ่เลย]
จีฮวันหูผึ่ง สงสัยเหลือเกินว่าเรื่องอะไรกันแน่
“ชะ ชมงั้นเหรอครับ”