รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 42-2 คนที่เกิดมาทำให้ผมคลั่ง
บทที่ 42-2 คนที่เกิดมาทำให้ผมคลั่ง
Xiaobei
สองคนที่ลงไปยังโรงแรมบูทีคแถวยงซาน รีบร้อนจ่ายค่าที่พักเหมือนผู้ร้ายที่หนีการไล่ตามจับของตำรวจ หลังจากคว้าอุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งที่เจ้าของที่พักส่งให้ราวกับปล้นมาแล้ว ก็รีบตรงไปที่ลิฟต์
จีฮวันกดลิฟต์รัวๆ ทั้งที่ยังจับมืออึนคังเอาไว้แน่นโดยไม่คิดจะปล่อย
“ท่าจะเสีย”
“คุณจะทำมันพังนะคะ”
อึนคังหัวเราะคิก ดูจีฮวันทุบลิฟต์ตึงๆ เหมือนเด็ก
ในที่สุดลิฟต์ก็มา จีฮวันรีบดึงอึนคังเข้าไป
ทั้งคู่ต่างจ้องหน้ากันในกระจก ช่างเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดในชีวิต จีฮวันและอึนคังอดทนต่อสิบวินาทีที่แสนน่าเบื่อ มือร้อนราวกับไฟ ชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ไม่รู้ว่าของใคร แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ยอมปล่อยออกจากกัน
ทันทีที่ลิฟต์มาจอดชั้นห้า ก็วิ่งไปตามทางเดินจนถึงห้อง หลังจากเปิดประตูห้องเข้าไป ก็โผเข้ากอด ประกบริมฝีปากเข้าหากัน และใช้หลังดันประตูปิด
จีฮวันจูบริมฝีปากของอึนคังอย่างไร้สติ ถอดแจ็คเก็ตโยนทิ้งอย่างใจร้อน ถ้าเป็นปกติ เขาจะต้องถอดมันแขวนไว้ ระวังไม่ให้ยับ แต่ให้ตายเถอะ จะยับจะไม่เป็นระเบียบก็ช่างมันแล้ว
อึนคังคลายเน็กไทของจีฮวัน ส่วนมือของเขาก็เลิกชายชุดวันพีชของเธอ
“อ้า”
เสียงครางของอึนคังยิ่งเพิ่มแรงให้มือของจีฮวัน แทบแดดิ้นไปกับความรู้สึกร้อนรุ่มที่ถูกมือสัมผัส
“ร้ายใช่เล่น คอยแอบดูหน้าอก ตลอด ตลอด”
“ก็หน้าอกคุณสวยมาก ใหญ่แล้วก็น่ามอง”
“จริงเหรอ”
“อือ ไม่รู้ตัวเหรอว่าหน้าอกคุณเป็นยังไง”
“อาจจะใหญ่ไปนิด แต่ฉันเองก็ไม่ได้ชอบนี่นา ความจริงมันออกจะลำบากมาก เวลาวิ่งก็กระเทือน เวลาใส่เสื้อในก็หนักจนสายเสื้อในกดบ่าเจ็บไปหมด”
“งั้นก็ไม่ต้องใส่”
“อืม เวลาปกติก็เลยไม่ได้ใส่ ใส่เฉพาะตอนออกไปไหนไกลๆ”
อึนคังตอบเสียงใส
“จริงเหรอ แล้วตอนที่เจอผมครั้งแรก?”
“ไม่ได้ใส่ค่ะ”
จีฮวันกอดเอวอึนคัง อึนคังงับหน้าอกของเขาผ่านเสื้อเชิ้ต
“อืมมม…”
จีฮวันเอนตัวพิงผนัง อึนคังกดริมฝีปากลงบนลำคอของเขาแล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต ความรู้สึกที่คิดถึงและคุ้นเคยสัมผัสลงมาบนลำคอ จีฮวันเริ่มค่อยๆ ตาพร่ามัว
“เสื้อเชิ้ตนี่ เมื่อกี้ในห้องรับรองตอนคุณพีบียืนมองออกไปนอกหน้าต่าง มันเซ็กซี่จนฉันแทบอยากโดดตะครุบซะเดี๋ยวนั้น”
“ผม ผมตอนที่อยู่ที่คาเฟ่ พอคุณนั่งลงตรงหน้า”
อึนคังหัวเราะก๊าก เสียงหัวเราะที่ระเบิดออกมาทำเอาจีฮวันจั๊กจี้ไปทั้งตัว
“ที่ค่าเฟ่ตอนนั้นมันตลกจริงๆ นะคะ”
กระดุมถูกปลดออกจนหมด อึนคังถอดเสื้อเชิ้ตของจีฮวันโยนทิ้งไป
“คุณอาจจะถูกจับในฐานะทำเสียบรรยากาศ ถูกไล่ออกจากคอนโด ขายหน้าคนละแวกบ้าน โดนลือไปทั่ว และต้องออกไปจากอิลซาน”
“แค่คิดว่าต้องโดนไล่ออกจากแถวนี้ ก็รู้สึกแย่แล้ว”
มือของจีฮวันที่เลื่อนลงไปยังบั้นท้ายของอึนคังหยุดชะงัก และมองด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
“จริงเหรอ”
“อืม ทุกครั้งเวลาไปที่สวนฉันมักจะคิดว่า อยากจะตายที่นี่ โดยเฉพาะตอนฤดูใบไม้ผลิ สวนริมทะเลสาบมีชื่อเรื่องซากุระ มีต้นซากุระต้นใหญ่ๆ เต็มไปหมด ภาพดอกซากุระร่วงหล่นทั่วทะเลสาบงดงามมาก เคยเห็นไหมคะ”
จีฮวันส่ายหน้า
“ผมเพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เลยยังไม่เคยไปสวนตอนฤดูใบไม้ผลิ”
“ได้เอนตัวนอนลงบนกลีบซากุระที่ปูอยู่บนพื้น ไม่มีอะไรมาขวางกั้น อยากแก้ผ้ารับลมและกลีบซากุระที่พัดมาจากทะเลสาบ…”
จีฮวันทนต่อไปไม่ไหว อุ้มอึนคังขึ้น แค่จินตนาการถึงร่างเปลือยเปล่าของเธอนอนอยู่ริมทะเลสาบ มีกลีบดอกซากุระโปรยลงมา เขาก็แทบบ้าแล้ว
จีฮวันวางอึนคังลงบนเตียง ขาเรียบลื่นภายใต้ถุงน่องสีดำโอบรอบเอวของจีฮวัน อึนคังมองเขาตาปรือ สายตาเคลิ้มไปกับสีชมพูของกลีบซากุระ
แล้วสายตาที่เหมือนสัตว์ป่าก็ทำให้จีฮวันแทบคลั่งอีกครั้ง
“จะบ้าตายจริงๆ”
คราวที่แล้วนึกว่าเป็นแบบนั้นเพราะเมา ตอนคบกับราฮี ไม่เคยเมาเหล้าจนขาดสติ เลยนึกว่าเป็นเพราะเหล้าถึงทำให้โกอึนคังดูเซ็กซี่
แต่ไม่ใช่ นี่ยังกลางวันแสกๆ แม้แต่โคล่าก็ยังไม่ได้ดื่มสักแก้ว มีสติครบถ้วน อึนคังก็ยังน่าหลงใหล
“รีบมาเร็วเข้า”
อึนคังกระซิบพลางกางแขนทั้งสองข้าง คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากอิ่มสีแดงทำไมถึงได้วาบหวิวแบบนี้ ไม่ใช่แค่ตั้งใจทำให้จีฮวันลุ่มหลง แต่ทั้งสีหน้าคำพูด และการกระทำแสดงออกมาโดยธรรมชาติ ทำเอาจีฮวันรู้สึกหวิวๆ แบบนี้สินะที่เรีนกว่า ‘เสน่ห์โดยกำเนิด’
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
จีฮวันเลิกปลายชุดวันพีชขึ้นช้าๆ เสียงครางของอึนคังค่อยๆ ดังขึ้นตามชุดวันพีชที่ถูกเลิกขึ้นทีละน้อยขึ้นมาตามเอว
“อ้า…”
เดิมทีคิดจะค่อยๆ ถอด แต่เมื่อร่างกายร้อนขึ้น การรบเร้าและเว้าวอนก็ทำให้ความตั้งใจหมดไป ตัวเองนี่แหละที่เป็นฝ่ายทนไม่ไหว จีฮวันถอดชุดวันพีชออกไปรวดเดียว
ผิวของอึนคังปรากฏขาวพร่างใต้แสงอาทิตย์แสบตา เปล่งประกายชวนขนลุกเบาๆ
แล้วยังบราเซียร์สีม่วงที่ห่อหุ้มหน้าอกอวบอิ่มของอึนคัง สีและดีไซน์แตกต่างจากตัวที่ถอดที่บ้านวันนั้น แต่ยังคงเป็นสีม่วงเหมือนเดิม
จนถึงตอนนี้ จีฮวันไม่เคยสนใจสีม่วงเลยสักครั้ง สำหรับเขาสีม่วงก็เป็นหนึ่งในเจ็ดสีของรุ้งกินน้ำ เป็นแค่สีที่ใกล้กับรังสีอัลตราไวโอเลตที่สุด
แต่สีม่วงตรงหน้าเขาในตอนนี้ จีฮวันบอกได้อย่างมั่นใจเลยว่า เป็นสีที่เซ็กซี่และหรูหราที่สุด ดึงถุงน่องที่สวมเอวอยู่ลงมา ก็ปรากฏกางเกงชั้นในสีม่วงเข้าคู่กับบรา
ลมหายใจของจีฮวันกระตุก ผ้ามุ้งกับสีม่วง, กางเกงชั้นในสามเหลี่ยมกับสีม่วง ช่างเป็นการผสมผสานที่หาใดเปรียบ
“อ้า ชุดชั้นในสีม่วง…”
“สีม่วงเป็นสีโปรดของฉันค่ะ ปีที่แล้วสะสมถุงเท้าสีม่วง ปีนี้กำลังฮิตสะสมชุดชั้นในสีม่วง”
อึนคังกระซิบพลางเป่าลมใส่เบาๆ หลังงับหูเขาด้วยริมฝีปาก
“มีกางเกงในแบบแหวกเป้าด้วยนะคะ”
แน่นอนแล้ว โกอึนคังเกิดมาเพื่อทำให้จีฮวันคลั่งไม่ผิดแน่
จีฮวันถอดชั้นในตัวโปรดของอึนคังอย่างไม่เกรงใจ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ไม่มีความกลัวสำหรับอึนคังที่รู้แล้วว่าจีฮวันเป็นผู้ชายแบบไหน รีบลงมือเร็วๆ เถิด
อึนคังถอดเข็มขัดของจีฮวันอย่างหิวกระหาย โดยที่จีฮวันล้มลงไปนอนบนตัวเธออย่างพ่ายแพ้
* * *
ผมเผ้ายุ่งเหยิง แก้มช้ำ ริมฝีปากบวมเจ่อ อึนคังหน้าเบ้ขณะส่องหน้าตัวเองในกระจกรถ
“ฮือ หน้าที่แต่งไว้หมดเลย”
จีฮวันอดทนไว้ไม่ถามกลับว่านั่นแต่งหน้าแล้วหรือ
“เอาเครื่องสำอางติดมาหรือเปล่าครับ”
อึนคังมองตอบจีฮวันด้วยใบหน้า ‘ฉันดูเป็นคนที่พกของแบบนั้นไปมาหรือไง’ จีฮวันส่ายหน้า
“นั่นสินะ ขนาดกระเป๋าตังค์ยังไม่พก นับประสาอะไรกับเครื่องสำอาง”
“หน้าฉันแย่มากไหมคะ”
ก็ไม่ต่างจากปกติ จะแต่งหรือไม่แต่งก็เหมือนกัน จีฮวันคิดหาหนทางแก้อื่น
“ยังมีเวลา…”
จีฮวันจอดรถหน้าย่านศูนย์การค้า
“จอดทำไมคะ ยังไม่ถึงธนาคารเลย”
“ลงมาก่อนเถอะครับ”
สถานที่ที่จีฮวันจอดรถคือหน้าร้านเครื่องสำอาง อึนคังเดินตามจีฮวันที่เดินเข้าไปในร้านอย่างไม่ลังเล
“เชิญเลยค่ะ”
“ขอใช้เทสเตอร์หน่อยได้ไหมครับ”
พนักงานยิ้มตอบจีฮวันที่ถามอย่างสุภาพ
“เชิญเลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
จีฮวันเดินไปมา เลือกดูคอนซีลเลอร์, แป้ง, อายแชโดว์, ลิปกลอส, บลัชออนด้วยตาของเหยี่ยว
“จะแต่งหน้าใหม่ที่นี่เหรอคะ หัวดีมากเลย ว้าว ฉันไม่ได้เข้าร้านเครื่องสำอางมานานแล้วนะคะเนี่ย”
อึนคังสติหลุดเล็กน้อยเบื้องหน้าเครื่องสำอางละลานตา หยิบลิปตัวอย่างมาจะทาลงบนริมฝีปาก จีฮวันแย่งลิปสติกไปเก็บไว้ที่เดิม
“ทำไมคะ แค่ทาเทสเตอร์ไม่ได้เหรอคะ”
“อยู่เฉยๆ ก่อนครับ”
“อะไรกัน ชอบบอกให้อยู่เฉยๆ อยู่เรื่อยเลย”
จีฮวันเริ่มเลือกเครื่องสำอางอย่างคาดไม่ถึง
“ดูอะไรอยู่คะ”
จีฮวันเลือกพัฟสำหรับใช้กับแป้งและฟองน้ำอย่างสบายใจ
“เลือกสีที่ถูกใจ แต่อย่าเพิ่งทาเทสเตอร์นะครับ!”
แล้วจีฮวันก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์
“อะไรของเค้า มาซื้อของตัวเองหรือไง”
อึนคังล่ะไม่อยากจะเชื่อ หันกลับไปยังชั้นวางเครื่องสำอาง ดูสีนู้นสีนี้อย่างเพลิดเพลิน จนจีฮวันเข้ามาใกล้
“มายืนตรงนี้หน่อยครับ”
อึนคังไปยืนตรงหน้าจีฮวันด้วยสีหน้างงๆ
“หลับตา”
อึนคังหลับตาลง จีฮวันพ่นสเปรย์ลงบนหน้าของอึนคัง
“อ๊าย! เย็น!”
“อย่าถูนะครับ เงยหน้าเล็กหน้า แล้วคอยแป๊บนึง”
ท่าทางเงยหน้าไปข้างหลังของอึนคังตลกมากจนจีฮวันอดขำไม่ได้
“ปวดคอแล้ว ต้องคอยไปถึงเมื่อไหร่คะ”
“ทีนีก็ใช้ฝ่ามือตบๆ ให้มันซึมลงผิวนะครับ”
“แบบนี้เหรอคะ”
อึนคังตบแก้มตัวเองเสียงดัง
“อย่าตบแรงแบบนั้นสิครับ เบาๆ”
แปะ แปะ
“รู้สึกชุ่มชื้นขึ้นไหมครับ”
จีฮวันป้ายเทสเตอร์คอนซีลเลอร์ลงตามส่วนต่างๆ ที่เห็นรอยชัดๆ ก่อนเริ่มตบด้วยฟองน้ำที่ซื้อมาเบาๆ
“เอ๋? ไปซื้อนี่มาเหรอคะ”
“ใครต่อใครมาใช้เทสเตอร์กันเยอะแยะ เพื่อสุขอนามัยครับ”
“อ๋อ อนามัยจัด”
แล้วอึนคังก็รีบหุบปาก หลบสายตาจีฮวันที่ส่งสายตาพิฆาตมาพลางบ่นพึมพำ
“ฉันไม่ได้ว่าว่าคุณพีบีคลั่งความสะอาดนะคะ…”
จีฮวันยื่นหน้าไปกระซิบอึนคังที่ทำปากยื่น
“ถ้าผมอนามัยจัด คงถอดเสื้อผ้าโดดขึ้นเตียงโมเต็ลที่ไม่รู้มีใครนอนเกลือกกลิ้งมาบ้างไม่ได้หรอกนะครับ”